พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1237 จิตวิญญาณเทพเพิ่มระดับขั้น

บทที่ 1237 จิตวิญญาณเทพเพิ่มระดับขั้น

สะท้อนกลับงั้นหรือ?”

รพีพงษ์พูดออกมา เขาไม่เคยคิดเลยว่า การกลั่นยาชั้นเลิศ จะต้องเสี่ยงกับอันตรายแบบนี้

“ถูกต้อง”

ปยุตมองรพีพงษ์นิ่งๆ อัจฉริยะแบบนี้ ถ้าหากว่าระดับขั้นของตนเองต้องลดลงเพราะถูกพลังของยาสะท้อนกลับใส่ตนเอง หรือถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต ตนเองก็คงไม่ยอมบอกวิธีกลั่นยาชั้นเลิศหรอก

“ดังนั้น การตัดสินใจอยู่ที่ตัวคุณเอง ด้วยความสามารถของคุณในตอนนี้ ยาเม็ดระดับสูงก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แถมยาที่คุณกลั่นออกมา ยังเป็นยาอย่างดีเสียด้วย ในวงการการกลั่นยาก็ถือว่าระดับสูงแล้ว”

ปยุตพูดต่อ “ถ้าจะล้มเลิกตอนนี้ ก็ยังทันนะ”

รพีพงษ์ได้ยินดังนั้น ก็ไม่มีอะไรต้องลังเล

ล้มเลิกงั้นหรือ? ในพจนานุกรมชีวิตของรพีพงษ์ไม่มีคำว่า ล้มเลิก

แต่งงานเข้าตระกูลฝ่ายหญิงมา3ปี รพีพงษ์ซ่อนตัวอยู่เฉยๆ ฝึกจิตใจฝึกวิชา เขารอวันเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อค้นหาความจริง ดึงเอาแม่ตนเองลงมาจากตำแหน่งนั้นให้ได้ ให้ตระกูลลัดดาวัลย์ได้ใช้นามสกุลนี้ต่อไป!

ถ้าหากว่า รพีพงษ์เป็นคนที่ยอมแพ้ง่ายๆล่ะก็ งั้นโลกนี้ก็จะมีคนที่ไม่เอาไหนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน

และรพีพงษ์ในตอนนี้ ก็เป็นความหวังที่โลกนี้จะต่อสู้กับทวีปโอชวิน!

ผมอยากจะเก่งขึ้นกว่าเดิม!

ยิ่งไปกว่านั้น พิษในตัวของอารียา จะต้องใช้ยาชั้นเลิศเท่านั้น ถึงจะสามารถถอนพิษได้

จุดมุ่งหมายของผมก็คือระดับเทพเซียน ถ้าเกิดว่าเห็นยาชั้นเลิศอยู่ตรงหน้า แล้วยังไม่เอื้อมมือคว้าไว้ ก็จะถูกพวกชั่วช้าของทวีปโอชวินดูถูกเอาได้เปล่าๆ !

รพีพงษ์เดนมาตรงหน้าปยุตช้าๆ แล้วพูดเสียงขรึมว่า “ผมเตรียมตัวพร้อมแล้วครับ รบกวนคุณเริ่มเลยครับ”

“รพีพงษ์ นี่คือการตัดสินใจของคุณเองนะ คุณจะเสียใจภายหลังไหม?” ปยุตถามอีกครั้ง

รพีพงษ์ยิ้มมุมปาก แล้วส่ายหัว “ผมจะเสียใจมากกว่าที่ไม่ได้เรียนการกลั่นยาเร็วกว่านี้!”

สายตาของปยุตมีความดีใจและชื่นชมอยู่ตลอด

สมกับที่เป็นคุณชาย ความกล้านี้ มองไม่ออกเลยเขาเป็นเพียงชายหนุ่มอายุเพียง20กว่าปีเท่านั้น!

“ได้ ผมเชื่อใจคุณ”

ปยุตกล่าว “ต่อจากนี้ ก็เตรียมรับมือกับการฝึกพิเศษของผมแล้วกัน!”

การฝึกพิเศษงั้นหรือ?

ปยุตยิ้มเบาๆ แล้วลากรพีพงษ์ไปตรงหน้าผา

รพีพงษ์ยื่นหน้าออกไปดู หน้าผาสูงลิ่ว มีหมอกปกคลุม มองไม่เห็นพื้นด้านล่าง

“คุณคงจะไม่ให้ผมกระโดดลงไปเลยหรอกนะ” รพีพงษ์แกล้งพูดเล่น

“ใช่ที่ไหนกัน แต่ว่านะ ที่คุณต้องทำต่อจากนี้ น่าจะตื่นเต้นกว่าการกระโดดลงไปอีกด้วยซ้ำ”

“อ๋า?” รพีพงษ์เริ่มลุ้น “งั้นคุณลองว่ามา ว่าจะให้ผมทำอะไร”

“ลุกขึ้น!แล้วหันหลังให้หน้าผา!”

ปยุตสั่ง

รพีพงษ์พยักหน้า หันหลังให้หน้าผา แล้วค่อยๆ ถอยหลัง

“ถอยไปอีกหน่อย ถอยไปอีก……..”

ปยุตยืนอยู่ข้างๆ แล้วสั่งให้รพีพงษ์ถอยหลังไป

หินที่อยู่ใกล้ๆ หน้าผาก็ร่วงหล่นลงไป สมาธิของรพีพงษ์ก็ตั้งรวบรวมมากขึ้นกว่าเดิม

ในที่สุด สองเท้าของเขาก็ยืนอยู่ริมหน้าผา และครึ่งฝ่าเท้าของเขาได้เลยออกไปนอกหน้าผาแล้ว

ขอเพียงถอยพลาดไปเพียงเล็กน้อย ก็จะพลาดตกลงไปยังเหวลึก!

“นี่ก็คือการฝึกพิเศษที่คุณจะให้ผมฝึกงั้นหรือ?” รพีพงษ์จ้องมองปยุตแล้วพูดถาม

“ถูกต้อง”

ปยุตก็ยอมรับว่า “ตนเราต้องอยู่ภายใต้อันตรายขีดสุดเท่านั้น จึงจะสามารถเผยพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวออกมาได้”

“ตอนนี้ คุณก็อยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ถ้าไม่ระวัง ก็จะประสบเคราะห์ร้ายอย่างช่วยอะไรไม่ได้เลย ดังนั้น คุณจะต้องรวบรวมสมาธิอย่างมากเพื่อไปรับมือ”

“ผมทราบแล้ว”

รพีพงษ์พยักหน้า การกลั่นยาชั้นเลิศ จะต้องใช้พลังจิตสมาธิที่มากกว่าการกลั่นยาสองเม็ดก่อนหน้านี้อย่างมาก

ถ้าไม่ระวัง ก็จะถูกพลังของยาสะท้อนกลับใส่ตนเอง

ตอนนี้มาฝึกแบบนี้ ถึงแม้จะอันตราย แต่เป็นการฝึกรวบรวมสมาธิที่ดีที่สุด

“รพีพงษ์ ถ้าไม่ไหวก็รีบบอกผม ผมจะรอคุณอยู่ข้างๆ” ปยุตกล่าว

“ได้ เดี๋ยวผมลองดู”

พูดไป รพีพงษ์ก็หลับตา แล้วก็ค่อยๆ ปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณเทพออกมา

ในตอนนี้ เขาก็เหมือนเข้าอยู่ในภวังค์ เหมือนกับก้อนหินที่ตั้งตระหง่านอยู่บนหน้าผา ไม่ขยับตัว ราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมไปแล้ว

เขารับรู้เพียงเสียงของสายลมรอบกาย และเสียงนกร้องอยู่ไกลๆ ส่วนเรื่องอื่นล้วนไม่อยู่ในประสาทสัมผัสของรพีพงษ์เลย

สายตาของปยุตก็มีรอยยิ้ม สามารถเข้าฌานสมาธิได้เร็วแบบนี้ แสดงว่ารพีพงษ์มีจิตใจที่แน่วแน่มาก

ในขณะเดียวกัน ปยุตก็ไม่วางใจง่ายๆ ถ้ารพีพงษ์เป็นอะไรขึ้นมา ตนเองก็จะกลายเป็นคนทำผิดใหญ่หลวงบนโลกนี้

เวลาผ่านไป รพีพงษ์ที่เข้าสมาธิอยู่ รู้สึกว่าร่างกายของตนเองมีการเปลี่ยนแปลง

เขารู้สึกว่า ร่างกายของตนเองเบากว่าเมื่อก่อนมาก ถึงขนาด ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของร่างกายตนเอง เอาชีวิตของตนเองให้จิตวิญญาณเทพจัดการเองทั้งหมด

มีจิตวิญญาณเทพแต่กำเนิด รพีพงษ์มีจิตใจที่แน่วแน่มาก

อีกอย่าง รพีพงษ์ก็พบว่าการฝึกแบบนี้มีผลดีอีกอย่าง

ภายใต้การควบคุมจิตวิญญาณเทพเป็นเวลานาน รพีพงษ์พบว่าพลังของตนเองนั้นบริสุทธิ์ขึ้นกว่าก่อนมากเลย

“หรือว่า นี่จะเป็นการเลื่อนขั้น?”

รพีพงษ์ก็ฉงนใจ แต่ไม่นาน เขาก็ปฏิเสธความคิดของตนเอง

มันไม่เหมือนกับการเลื่อนขั้นของตนเองในครั้งก่อน รพีพงษ์สัมผัสไม่ได้ว่าพลังในตัวตนเองแข็งแกร่งขึ้น

ดูเหมือนว่าตนเองจะคิดมากไป จะเลื่อนขั้นง่ายๆ แบบนี้ได้อย่างไรกัน!

รพีพงษ์ก็ยิ้มในใจ แต่ทันใดนั้น เรื่องที่น่าแปลกมากกว่าเดิมก็ผุดขึ้นมาในหัวเขา

มนุษย์ตัวเล็กสีทองที่เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณเทพของเขานั้น ก็ผุดขึ้นมาในหัว ดวงตาของเขาปิดสนิท เหมือนกับกำลังหลับลึกลงไป

รอบๆ ของมนุษย์ตัวเล็กสีทอง มีพลังปกคลุมอยู่ และพลังนั้นมันก็ค่อยๆ ขยายกว้างขึ้น ราวกับมันได้แพร่ออกมาจากร่างกายของมนุษย์ตัวเล็กสีทอง

“นี่มัน…….”

สำหรับการเปลี่ยนแปลงในร่างกายตนเองนั้น ในหัวของรพีพงษ์ก็ผุดความคิดที่บ้าบอขึ้นมา

มนุษย์ตัวเล็กสีทองที่เป็นตัวแทนจิตวิญญาณเทพนี้ ได้อาศัยโอกาสนี้ ที่จะเลื่อนขั้นอย่างนั้นหรือ?

……

“ผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว ไอ้หมอนี่ยังทนอยู่ได้อีกงั้นหรือ?”

ช่วงสายของวันที่2 ปยุตพูดขึ้นมา

รพีพงษ์อยู่ข้างหน้าผาไม่ขยับตัว ลมหายใจคงที่ ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไร

แต่ปยุตทางนี้ก็อาการแย่มาก

เนื่องจากกลัวรพีพงษ์จะพลาดตกลงไป เขาไม่ได้นอนเลยทั้งคืน

“ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป มันไม่ตาย แต่ตัวกูเองตายก่อนแน่ๆ !”

ปยุตพูดไป แล้วก็เดินไปตรงหน้ารพีพงษ์

คนปกติให้ยืนอยู่ที่พื้นเรียบๆนิ่งๆ ไม่ขยับ อย่างมากก็เดินยืนได้ไม่กี่ชั่วโมง

ต่อให้เป็นพวกทหารมังกรทั้งหลาย ถ้าให้มายืนข้างหน้าผาแบบรพีพงษ์ทั้งวันทั้งคืนล่ะก็ คงทนไม่ไหวแน่ๆ

อีกอย่าง ดูไปแล้ว รพีพงษ์ไม่ได้อยากจะจบสิ้นการฝึกนี้เลย

เดินไป2ก้าว ปยุตเข้าใกล้รพีพงษ์เรื่อยๆ

ทันใดนั้น ก็มีพลังอันยิ่งใหญ่ปิดกั้นเขาและผลักออกมา

ปยุตก็ถอยหลังล้มไป

“ไอหย๋า!นี่มันอะไรกันเนี่ย!”

ปยุตลุกขึ้นจากพื้น แล้วก็มองไปทางรพีพงษ์อย่างสงสัย

ไอ้หมอนี่ เห็นอยู่ว่าไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย แต่ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?

ปยุตคิดในใจ

โดยไม่รู้เลยว่า จิตวิญญาณเทพของรพีพงษ์ได้แยกตัวเขาเองออกจากโลกภายนอกไปเรียบร้อยแล้ว

แค่อยากจะทำลายพลังที่กั้นอยู่นี้ออกไป ถ้าไม่มีพลังแดนดั่งเทพ ก็ไม่อาจทำได้

“ให้ตายเถอะ จะตะโกนก็ไม่ได้ผล สัมผัสตัวก็ไม่ได้ จะทำอย่างไรดีเนี่ย หรือว่า จะต้องรอแบบนี้ต่อไป?”

ปยุตก็นั่งที่พื้น ท่าทางเศร้าสร้อย

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท