ในห้องรับแขกขนาดใหญ่ จิรภัทรอยู่ที่ตำแหน่งกึ่งกลางของห้อง
หลังจากที่ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาดูการต่อสู้เรียบร้อยแล้วนั้น จิรภัทรก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่า เพื่อมายังสำนักเทพยาเซียนของพวกเรา ถ้ามีส่วนไหนที่ดูแลไม่ทั่วถึง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ”
“แหะๆ เจ้าจิรภัทร ผมเห็นว่าลูกศิษย์ผู้หญิงของพวกคุณล้วนหน้าตาสะสวยกันทั้งนั้น จะให้พวกเธอมาช่วยนวดขาให้พวกเราหน่อยได้ไหม พอดีว่าขาของผมมันปวด”
ชายใส่แหวนวงใหญ่พูดขึ้นมาอย่างหน้าไม่อาย สายตาก็จ้องมองจิลลาด้วยสายตาลามก
เห็นได้ชัดว่า เขามองสำนักเทพยาเซียนว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด
จิลลาก็อดไม่ได้ ยังไม่ทันรอให้จิรภัทรปฏิเสธ ก็แกล้งพูดเล่นขึ้นมาเองว่า “ได้เลยค่ะ ให้ฉันช่วยดูแลปรนนิบัติเองนะคะ”
“จริงหรือ? งั้นก็ดีเลย ผมอดใจรอไม่ได้แล้ว”
พอนึกถึงความรู้สึกที่มีมืออ่อนช้อยขาวนวลของจิลลา มานวดที่ขาของตนเอง ก็ยิ่งทำให้จินตนาการคิดไกลคิดลึกไปอีก
จิลลาเดินเข้าไป ท่าทางนวยนาดอ่อนช้อยชวนหลงใหล
พวกเถ้าแก่ที่เห็นผู้หญิงสวยแบบนี้ในเมืองจนชินตาแล้ว พอพวกเขาได้เห็นหญิงสาวที่สวยแปลกตาแบบนี้ สายตาก็จับจ้องไปตามกัน
มีเพียงพวกลูกศิษย์ทั้งหลายของสำนักเทพยาเซียน ที่รู้นิสัยอันแท้จริงของจิลลา แต่ละคนก็รอคอยดูเรื่องสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้น รอดูเศรษฐีพวกนั้นโดนหักหน้า
เดินมาตรงหน้าชายเศรษฐีไม่กี่ก้าว จิลลาก็พูดจาอ่อนหวาน “ไม่ทราบคุณชายท่านนี้ปวดขาข้างไหนหรือคะ?”
“ปวดทั้งสองข้างเลย โดยเฉพาะบริเวณต้นขา ยิ่งนวดสูงขึ้น ก็ยิ่งปวด”
ชายเศรษฐีก็เป็นงานอย่างดี จังหวะที่จะเอาเปรียบได้ ก็ไม่ปล่อยไปเด็ดขาด
“ได้เลย เดี๋ยวฉันจะช่วยนวดให้เอง”
พูดไปดังนั้น จิลลาก็ค่อยๆ วางมือลงไปบนขาของเขา ชายเศรษฐีก็กำลังจะเคลิ้ม ทันใดนั้น จิลลาก็สีหน้าเปลี่ยน
“ไอ้คนหน้าไม่อาย บังอาจกล้ามาวางอำนาจในสำนักเทพยาเซียนของพวกเรา เดี๋ยวแม่จะจัดการแก คอยดู!”
พูดจบ สองมือก็ออกแรงมากขึ้น จนแทบจะบีบจนกระดูกแหลกเลยทีเดียว
เศรษฐีคนนั้นก็ร้องขึ้นมา หน้าเขียวปากแห้งขึ้นมาเลยทันที
“เรียกฉันว่า คุณย่า 3ครั้ง แล้วฉันจะปล่อย!” จิลลาขมวดคิ้วพูด มือก็ออกแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“เจ็บ เจ็บจะตายอยู่แล้ว…….” เศรษฐีคนนั้นมีสีหน้าเจ็บปวด ทีนี้ก็ได้รับรู้ถึงพลังของยอดฝีมือเน่ยจิ้ง เขาจะทนไหวได้อย่างไรกัน
“พอแล้ว จิลลา เลิกเล่นได้แล้ว”
จิรภัทรส่งเสียงพูดออกมา สีหน้าก็นิ่งๆ
“เชอะ”
จิลลาปล่อยมือ แล้วก็มองบนใส่พวกคนของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ ที่ยืนอยู่หลังเศรษฐีคนนี้ พร้อมพูดว่า “ดูเหมือนว่า สมาคมการเล่นแร่แปรธาตุของพวกคุณ จะคบค้าสมาคมแต่กับพวกเศษสวะหื่นกามแบบนี้สินะ”
พูดจบ ก็หันหลังมายืนกับพวกลูกศิษย์สำนักเทพยาเซียน
พวกชุติเดชก็ยกนิ้วโป้งให้ บอกเป็นนัยว่า ยอดไปเลย
ชนุตร์ก็เดินออกมา แล้วพูดเสียงขรึมว่า “ศิษย์พี่ นี่เป็นการต้อนรับแขกของสำนักเทพยาเซียนอย่างนั้นหรือ? เถ้าแก่หมากท่านนี้ เป็นถึงแขกผู้มีเกียรติ ลูกศิษย์ของสำนักเทพยาเซียนของพวกคุณทำเป็นเรื่องเล่น ไม่ควรลงโทษหน่อยหรือ? หรือว่า พวกเด็กๆ ไม่ร้องเรื่อง คนเป็นอาวุโสก็เลอะเลือนไปด้วยเสียแล้ว?”
จิรภัทรก็พูดขรึมๆ ว่า “เมื่อครู่ทุกคนก็เห็นชัดเจนแล้วว่า เถ้าแก่หมากท่านนี้ตั้งใจกลั่นแกล้งก่อน หรือว่าคุณคิดจะย้อนผิดเป็นถูกต่อหน้าทุกคนอย่างนั้นหรือ?”
“เหอะ ถ้าศิษย์ผู้หญิงคนนี้ไม่คิด ก็คงไม่ต้องมาทำร้ายเถ้าแก่หมากหรอก จะว่าไปแล้ว ไม่ใช่เพราะการสั่งสอนไม่ดีหรอก แต่เป็นเพราะคุณคอยให้ท้าย ก็เลยไม่รู้จักเกรงกลัวใครแบบนี้”
ในตอนนี้ ชายแก่ผมแห้งที่ยืนอยู่ข้างชนุตร์ก็ก้าวออกมา
เขาก็คือบุณยผล เป็นผู้อาวุโสรองของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ!
จิรภัทรก็ผงะ แล้วก็เดินไปตรงหน้าบุณยผล “หรือว่าสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุของพวกคุณ และแขกผู้มีเกียรติที่เรียกมา วันนี้จะมาทะเลาะกันอย่างเดียวหรือ? หรือว่าที่พวกคุณมาครั้งนี้ ไม่ใช่มาเพื่อแข่งขันกลั่นยาหรือ?”
“เหอะ ต่อให้มาเพื่อแข่งกลั่นยา คุณก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเราหรอก” บุณยผลพูดอย่างไม่เกรงใจ
คำพูดนี้มันเสียดแทงไปยังหน้าอกของจิรภัทร เขาก็รีบตอบกลับไปว่า “ในเมื่อกล่าวแบบนี้ อย่างนั้นการแข่งขันคู่แรก ก็ให้พวกเราสองคนเป็นคนเริ่มแข่งขันกันก่อนเลยเถอะ”
“แข่งก็แข่ง ผมกลัวคุณที่ไหนล่ะ!”
สายตาของบุณยผลเผยความชั่วร้าย พร้อมรีบตอบกลับไป
ชนุตร์ที่อยู่ข้างๆ ก็ขยับมุมปาก
แต่รพีพงษ์กลับมีสายตายิ้มๆ
ถ้าจะบอกว่าจิรภัทรไม่สามารถจะเอาชนะชนุตร์ได้ อย่างนั้น เมื่อแข่งกับบุณยผลแล้ว เกรงว่าคงจะมีโอกาสอยู่บ้าง
แพ้แล้วแพ้อีก ดูเหมือนว่าจิรภัทรคงจะบอกเป็นนัยนี้ออกมา
ในเมื่อกำหนดออกมาแล้ว ชนุตร์ก็พูดอะไรอีกไม่ได้
เขาพูดเสียงต่ำว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ให้ผู้อาวุโสรองของพวกเราเข้าแข่งขันก่อน แต่ว่ากติกาในครั้งนี้ คงจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรนิดหน่อย ไม่ทราบว่าเจ้าจิรภัทรมีความเห็นอย่างไร?”
“จะเปลี่ยนอย่างไร?”
จิรภัทรถาม
ชนุตร์ยิ้มเย็นๆ แล้วมองไปที่ทุกคน “การแข่งขันกลั่นยาในครั้งนี้ ในเมื่อเชิญแขกผู้มีเกียรติมามากมาย ทั้งยังมีโคบายาชิซังของประเทศญี่ปุ่นมาด้วย เช่นนั้น ถ้าจะแข่งแค่2ครั้ง คงจะทำให้พวกเราผิดหวังไม่น้อย ผมขอเสนอ ถ้าเสมอกัน2ครั้ง สมาคมการเล่นแร่แปรธาตุและสำนักเทพยาเซียนสามารถส่งอีกคนหนึ่งออกมา เพื่อแข่งขันรอบตัดสินความเป็นความตาย แต่คนนั้น จะต้องเป็นคนที่ไม่เคยเข้าแข่งขันเลยก่อนหน้านี้”
เป็นข้อเสนอที่ร้ายกาจมาก!
จิรภัทรก็คิดในใจ ไอ้หมอนี่ตั้งกติกาแบบนี้ งั้นรพีพงษ์ก็จะถูกจัดให้แข่งในรอบที่2ไม่ได้เสียแล้ว ถ้าเกิดว่าเสมอกันขึ้นมา รอบที่3ก็ยังมีโอกาสชนะ
“อะไรคือรอบตัดสินความเป็นความตาย?” จิรภัทรถาม
ชนุตร์ยิ้มมุมปาก “พอถึงตอนนั้น พวกคุณก็จะรู้เอง เพียงแต่ พวกคุณจะอยู่ถึงรอบที่3หรือเปล่านั้น ก็ยังไม่แน่”
“ได้ ดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกคุณจะตัดสินแพ้ชนะให้ได้เลยสินะ”
จิรภัทรพูดเสียงขรึม
“ถูกต้อง พวกเรามาไกลถึงที่นี่ ก็เพื่อมาเอาชนะ ส่วนเดิมพันนั้น ก็เหมือนเดิมแล้วกัน นอกจากจะให้พวกเราเลือกยาสมุนไพรในสำนักได้ตามใจชอบแล้ว ยังต้องอนุญาตให้พวกเราอยู่ในสำนักได้อีก3วัน” ชนุตร์พูดเสียงขรึม
จิรภัทรขมวดคิ้ว ไอ้ชนุตร์คนนี้ความคิดชั่วไม่ยอมลดละ ใจก็คิดแต่เรื่องของที่สำนักเก็บรักษาไว้
“แล้วถ้าพวกคุณแพ้ล่ะ?” ปยุตเดินออกมาพูด
“พวกเราจะแพ้ได้อย่างไรกัน?” ชนุตร์พูดหัวเราะเยาะ
“แต่มันก็ไม่แน่นะ” ปยุตตอบกลับไป
พวกของชนุตร์ก็มองไปยังรพีพงษ์ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอด ในใจเขาก็รู้ดี ว่าคนที่สามารถข่มขู่ฝั่งตนเองได้ มีเพียงรพีพงษ์คนเดียว
“เอาเถอะ ถ้าสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุของพวกเราพ่ายแพ้ล่ะก็ ศิษย์พี่ เดี๋ยวผมจะให้สูตรยา2สูตรแก่พี่เอง” ชนุตร์มองตาพูดกับจิรภัทร
รพีพงษ์ก็จับจ้องได้ว่า หลังจากที่จิรภัทรได้ยินคำนั้น เห็นได้ชัดว่าครึกครื้นขึ้นมานิดหน่อย
“คุณจะบอกว่า…….สูตรยาที่อาจารย์ให้พวกเราไว้ทั้ง2สูตรนั่นน่ะหรือ?”
“ถูกต้อง”
ชนุตร์ก็ส่งสายตาให้คนของตนเองด้านหลัง แล้วลูกศิษย์ของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุคนหนึ่ง ก็ค่อยเปิดกล่องไม้ออกอย่างระวัง
“สูตรยาทั้ง2แผ่นอยู่ด้านใน ถ้าเอาชนะได้ ก็เป็นของคุณ” ชนุตร์พูดนิ่งๆ
“ได้!”
จิรภัทรก็ตอบรับชนุตร์ไป โดยไม่ลังเล
ชนุตร์สหน้านิ่งๆ “ในเมื่อตกลงกันแล้ว งั้นพวกเราก็เริ่มการแข่งขันกันเลย”
ระหว่างที่พูด จิรภัทรและบุณยผลก็ก้าวออกมาตรงกลางห้องโถง
“ในเมื่อคุณและผมล้วนเป็นผู้อาวุโส งั้นการแข่งขันรอบแรก งั้นต่างก็กลั่นยาชั้นเลิศออกมากันคนละเม็ดแล้วกัน ดูสิว่าคุณภาพของใครจะสูงที่สุด ใช่เวลากลั่นน้อยที่สุด คุณว่าดีไหม?” บุณยผลถาม
“ไม่มีปัญหา”
จิรภัทรกล่าว
สำนักเทพยาเซียนมียาสมุนไพรที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่นาน ยาสมุนไพรที่ทั้งคู่ต้องการ ก็จัดเตรียมเรียบร้อย
“เชิญ!”
จิรภัทรผายมือออกแล้วพูด ส่วนในตอนนี้ บุณยผลก็ได้หลับตาลง พลังจิตวิญญาณเทพก็ถูกปล่อยออกมา
จิรภัทรก็ไม่รอช้า ฝั่งตรงข้ามเป็นถึงผู้อาวุโสรองของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ จะดูถูกคู่แข่งไม่ได้
ไม่นาน ในห้องโถงก็เงียบสงัด เหล่าลูกศิษย์ทั้งหลายของสำนักเทพยาเซียนก็ตื่นเต้นไปตามกัน
ผ่านไปหลายปีแล้ว ปีนี้อาจจะเป็นปีที่สำนักเทพยาเซียนชนะสักปีหนึ่ง
ส่วนรพีพงษ์ในตอนนี้ ก็กำลังสนใจกับสูตรยา2แผ่นที่ชนุตร์พูดถึง
สูตรยาที่ทำให้จิรภัทรรีบตอบรับข้อเสนออันไม่เป็นธรรม มันจะเป็นอย่างไรกันแน่?