พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1258 สิ่งที่ต้องปกปักรักษา

บทที่ 1258 สิ่งที่ต้องปกปักรักษา

เมื่อพวกเขามาถึงห้องพักของรพีพงษ์ ทั้งสองก็นั่งตรงข้ามกัน

“เจ้าจิรภัทร ผมมีเรื่องจะบอกคุณเกี่ยวกับป่าหมอก” รพีพงษ์กล่าว

จิรภัทรชงชาให้รพีพงษ์ “เมื่อสักครู่ตอนที่อยู่ห้องโถง รู้สึกว่าคุณยังมีเรื่องอะไรปกปิดลูกศิษย์เหล่านั้น ผมคิดว่าเรื่องมันไม่ง่ายอย่างที่คุณพูดแน่นอน”

“คุณพูดถูก”

รพีพงษ์ กล่าวอย่างราบเรียบ “แต่ว่าเมื่อสักครู่ผมก็ไม่ได้พูดพล่อย ๆ คราวนี้ที่ผมสามารถเดินออกมาจากป่าหมอกได้อย่างปลอดภัย โดยอาศัยกระบี่สยบเซียนของผมจริง!”

จิรภัทรขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้ว่าที่รพีพงษ์เรียกเขามาที่นี่ จะต้องมีเรื่องอื่นบอกตนเองอย่างแน่นอน

“หรือว่าคุณพบสิ่งแปลก ๆ ในป่าหมอก?” จิรภัทรถาม

รพีพงษ์พยักหน้า “ถูกต้อง ตั้งแต่วันแรกที่ผมก้าวเข้าไปในป่าหมอก ผมก็รู้สึกว่าที่นั่นมีพลังทิพย์มากกว่าสำนักเทพยาเซียนหลายสิบเท่า ยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ พลังทิพย์ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”

“นี่เป็นเรื่องธรรมชาติ พวกเราเชื่อกันมาช้านานแล้วว่า ต้นกำเนิดของพลังทิพย์ที่สำนักเทพยาเซียนน่าจะมาจากป่าหมอก ดูเหมือนว่าการคาดคะเนของพวกเราไม่ผิด” จิรภัทรตอบ

รพีพงษ์พยักหน้า “เจ้าจิรภัทร คุณจำได้ไหมว่าผมเคยถามคำถามหนึ่งกับคุณก่อนไป?”

จิรภัทรมองรพีพงษ์ “คุณหมายความว่า ทำไมหลายร้อยปีแล้วที่สัตว์เซียนเหล่านี้ไม่เคยออกจากป่าหมอก และไม่เคยมาที่สำนักเทพยาเซียนของพวกเราใช่ไหม?”

“ถูกต้อง” รพีพงษ์พยักหน้าเบา ๆ และกล่าวอย่างจริงจังว่า “ตอนนี้ผมพบคำตอบ สำหรับคำถามนี้แล้ว!”

“พบคำตอบแล้ว?” จิรภัทรรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก “ถ้าอย่างนั้น………..คำตอบคืออะไร คุณช่วยบอกผมได้ไหม!”

“โอเค ที่ผมมาคราวนี้ก็เพื่อจะบอกเรื่องนี้กับคุณ”

ดวงตาของรพีพงษ์เคร่งขรึม เริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่ตนเองเดินทางเข้าสู่หุบเขาหลิงซี หลังจากเห็นแรดโบราณและเรื่องราวการต่อสู้ทั้งหมดให้จิรภัทรฟัง

วันนั้น……

รพีพงษ์ใช้กระบี่สยบเซียน และใช้กำลังสุดท้ายของตนเองแทงไปที่แรดโบราณ

สายตาของแรดโบราณแสดงความประหลาด แล้วก็ตะโกนว่า “กระบี่เล่มนี้ ทำไมถึงไปอยู่ในมือของคุณได้! ”

ดวงตาของรพีพงษ์มีพลังที่น่ากลัว “เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับคุณ!”

อาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณเล่มนี้สามารถฆ่าภูตผีปีศาจได้ทั้งหมด ได้โจมตีไปที่ฝ่ายตรงข้ามทันที

รพีพงษ์เชื่อว่า อาวุธของจอมมารชูร่าเล่มนี้ จะสามารถปราบแรดโบราณขนาดใหญ่นี้ได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ตอนที่แรดโบราณเห็นกระบี่สยบเซียน เหมือนว่าเขาจะหยุดที่จะต่อสู้แล้ว

บางทีนี่อาจเป็นการปราบปรามตามธรรมชาติ

ขณะที่รพีพงษ์จ้องมองไปที่ด้านหน้า ทันใดนั้น เขาก็เห็นว่ากระบี่สยบเซียนที่ลอยอยู่ในอากาศ กำลังสั่นอย่างรุนแรง

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

รพีพงษ์ไม่รู้ แต่เขาผู้ซึ่งได้ประสานจิตวิญญาณเทพกับกระบี่สยบเซียนเข้าด้วยกันแล้ว ทำให้เขาสามารถรู้สึกได้ชัดเจนว่ากระบี่ศักดิ์สิทธิ์โบราณเล่มนี้ แสดงถึงความสุขในขณะนี้

ขณะที่กระบี่กำลังจะแทงแรดโบราณ แต่แล้วกระบี่ก็พุ่งขึ้นไปข้างบนทันที ข้ามผ่านแรดโบราณ จากนั้นตบเบาๆ ไปที่ตัวของแรดโบราณ แล้วบินกลับมาอยู่ในมือของรพีพงษ์

“นี่……..นี่คือ?” รพีพงษ์มองกระบี่สยบเซียนที่อยู่ในมือของตนเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ

คราวที่แล้วตอนที่เห็นมันเป็นเช่นนี้ ก็คือตอนอยู่ที่ก้นทะเลสาบจงซิน

วันนั้น กระบี่สยบเซียนได้พบกับเจ้าของเดิมอีกครั้ง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากระบี่มีความสนิทสนมกับจอมมารชูร่า

วันนี้ ภาพในอดีตปรากฏได้เกิดขึ้นอีกครั้ง สามารถอธิบายได้ว่า กระบี่เล่มนี้และแรดโบราณเคยรู้จักกันมาก่อน!

“คุณ…..คุณรู้จักกระบี่สยบเซียนเล่มนี้หรือไม่” รพีพงษ์ถาม

เสียงของแรดโบราณสั่น “เป็นเวลากว่าสองร้อยปีแล้ว ไม่คิดว่าหลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น ผมยังสามารถพบกับกระบี่ที่เจ้านายของผมเคยใช้”

“เจ้านาย?” รพีพงษ์มองอีกฝ่ายด้วยความมึนงง “คุณกำลังพูดว่า จอมมารชูร่า เป็นเจ้านายของคุณหรือ?”

แรดโบราณโน้มตัวลง และเข้ามาใกล้รพีพงษ์ “ถูกต้อง ผมเป็นสัตว์ขี่ของเจ้านาย! ผมรู้จักกระบี่สยบเซียนเล่มนี้เป็นอย่างดี”

“คุณคือ สัตว์ขี่ของจอมมารชูร่าเหรอ?” รพีพงษ์รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่ก็แอบชื่นชมเช่นกัน

คิดอยู่ในใจ เมื่อก่อนจอมมารชูร่าถือกระบี่สยบเซียน ขี่แรดโบราณยักษ์ที่ไปถึงระดับแดนเทพ เป็นวีรบุรุษกล้าหาญที่ต่อสู้กับทวีปโอชวินเพียงลำพัง!

“ถูกต้อง”

แรดโบราณพยักหน้า “ในเมื่อคุณรู้ชื่อเจ้านายของผมแล้ว ผมขอถามว่าคุณเคยเห็นเขาไหม?”

รพีพงษ์กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ผมเคยเห็นเขาที่ก้นทะเลสาบจงซิน ตอนนั้นเขาอยู่ในสภาพลวงตา และหลังจากนั้น เขาก็…….. เลือนหายไป!”

“คุณบอกว่าลมหายใจของเจ้านายเลือนหายไป?” แรดโบราณมองรพีพงษ์ด้วยความประหลาดใจ “อาจารย์เคยสาบานไว้ว่า หากเขาไม่พบคนที่สามารถเป็นทายาทสืบทอดของตนเองได้ เขาจะรักษาจิตวิญญาณของตนเองไว้ตลอดไป งั้นก็หมายความว่า คุณ…….”

“ถูกต้อง”

รพีพงษ์กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ผมได้เป็นทายาทสืบทอดทั้งหมดของจอมมารชูร่า มิเช่นนั้น ทำไมกระบี่สยบเซียนถึงได้อยู่ในมือของผมได้”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ กระบี่ในมือของเขาแกว่งไปมา ราวกับว่ามันพยักหน้าเห็นด้วย

“ไม่คิดว่า ไม่คิดว่าคนที่สามารถบุกเข้ามาในหุบเขาหลิงซีได้ จะเป็นทายาทของเจ้านาย!”

แรดโบราณตื่นเต้นเป็นอย่างมาก มองไปที่รพีพงษ์อีกครั้ง “แน่นอน ไม่ต้องสงสัยในสายตาของเจ้านาย คุณอายุยังน้อย และมีทักษะฝีมือเช่นนี้ อนาคตต้องไร้ขีดจำกัดแน่นอน!”

“ขอบคุณสำหรับคำชม แต่คราวนี้ที่ผมมาที่นี่ เพื่อเอายาผงหลิงซีเท่านั้น ไม่ได้หวังว่าจะต่อสู้กับคุณ ผมต้องขอโทษจริง ๆ” รพีพงษ์กล่าวพร้อมกับยกมือแสดงการขอโทษ

“คนที่ควรกล่าวขอโทษควรจะเป็นผม” แรดโบราณกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ในเมื่อเจ้านายได้มอบทุกสิ่งให้กับคุณแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะเป็นเจ้านายคนใหม่ของผม แค่ยาผงหลิงซี ผมให้คุณได้อยู่แล้ว”

ขณะที่พูด แรดโบราณคุกเข่าทั้งสองข้างเพื่อแสดงการยอมจำนน

นอแรดแหลมคมขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้ารพีพงษ์

“งั้นขอล่วงเกินแล้ว ผมขอแค่นิดหน่อย”

รพีพงษ์กล่าว จากนั้นก็หยิบกระบี่สยบเซียนออกมา แล้วขูดบนนอแรดเบาๆ แล้วก็เอายาผงหลิงซีใส่ลงในถุงผ้าที่รพีพงษ์เตรียมไว้ก่อนแล้ว

“ขอบคุณมาก” รพีพงษ์กล่าว

“ไม่ต้องเกรงใจ เพราะคุณเป็นเจ้านายคนใหม่ของผม ผมมีคำถามอีกข้อหนึ่งที่จะถามคุณ ไม่รู้ว่าคุณเคยเจอชยนต์กับตมิสาสองคนนั้นไหม?” แรดโบราณถาม

“ตอนนี้ทั้งสองคนเป็นหุ่นเชิดของผม และตอนนี้ผมให้พวกเขาไปอยู่ที่เกียวโต” รพีพงษ์กล่าวตามความจริง

“ดี ดีมาก ตอนนั้นสองคนนี้ชอบพูดล้อเล่นกับผมเสมอ ผมหวังว่าสักวันจะได้เจอพวกเขา” แรดโบราณกล่าวอย่างตื่นเต้น

“เมื่อผมกลั่นยาเสร็จ แล้วออกไปจากสำนักเทพยาเซียน ผมสามารถพาคุณไปได้” รพีพงษ์กล่าว

“ไม่ล่ะ” แรดโบราณส่ายศีรษะ“หลายร้อยปีแล้ว ผมไม่เคยออกจากที่นี่แม้แต่ครึ่งก้าว ผมจะไม่ออกไปไหนทั้งนั้น”

“ทำไม?”

รพีพงษ์ถามด้วยความสงสัย “ผมรู้ว่ามีพลังทิพย์ที่แข็งแกร่งอยู่ที่นี่ แต่ก่อนที่ผมจะมาก็เคยได้ยินผู้คนในสำนักเทพยาเซียนพูดกันว่า พวกคุณไม่เคยออกไปจากที่นี่เลย”

“เพราะที่นี่มีสิ่งที่พวกเราต้องปกปักรักษา!”

แรดโบราณกล่าวเสียงเข้ม

“สิ่งที่ต้องปกปักรักษา?” รพีพงษ์รู้สึกมึนงง

แรดโบราณพยักหน้าช้า ๆ “ในเมื่อเป็นความประสงค์ของสวรรค์ที่ให้คุณเป็นทายาทของจอมมารชูร่า และให้คุณมาพบกับผม งั้นคุณก็ตามผมมา ผมจะบอกเรื่องทุกอย่างให้คุณรู้!”

“โอเค” รพีพงษ์พยักหน้า

“ขึ้นมาบนหลังของผม ผมจะพาคุณไป” แรดโบราณกล่าวพร้อมกับย่อตัวลง

“งั้น……ก็ล่วงเกินล่ะ!”

รพีพงษ์กระโดดขึ้นและนั่งบนหลังของแรดโบราณ โดยถือกระบี่สยบเซียนอยู่ในมือ

รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีต ทำให้แรดโบราณรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และเสียงคำรามของเขาดังก้องไปทั่วป่า

เขาพารพีพงษ์ พุ่งออกมาจากน้ำตกตรงปากถ้ำทันที

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท