พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1269 ชายในหน้ากาก

บทที่ 1269 ชายในหน้ากาก

“อย่าปลุกเขา!”

จิรภัทรหยุดปยุตที่กำลังจะปลุกรพีพงษ์และพูดเบาๆ ว่า “ตอนนี้เขาต้องการพักผ่อน”

ปยุตพยักหน้าและเดินถอยหลังไปสองเก้า

เมื่อเห็นยาเม็ดวิญญาณชี่หลายสิบเม็ดนี้ ปยุตก็อดถอนหายใจไม่ได้ “พรสวรรค์แบบนี้พวกเราได้เห็นกับตาในชาตินี้ก็ถือว่าเป็นบุญแล้วล่ะ”

จิรภัทรมองไปที่รพีพงษ์ที่กำลังหลับสนิทอยู่และพยักหน้าเบาๆ

หลังจากที่รพีพงษ์คุยเรื่องทวีปโอชวินกับเขาในครั้งก่อน จิรภัทรรู้สึกกังวลใจมาตลอด แต่เมื่อเห็นรพีพงษ์ที่พัฒนาฝีมืออย่างก้าวกระโดดในวันนี้ จิรภัทรก็รู้สึกเชื่อมั่นในตัวของรพีพงษ์ว่าจะต่อกรกับทวีปโอชวินได้อย่างแน่นอน

“ไปกันเถอะ ให้เขานอนต่อดีกว่า เย็นๆ เราค่อยมาหาเขาอีกที”

จากนั้นทั้งสองก็ออกจากห้องและปิดประตูเบาๆ

……

ณ เมืองเล็กๆ ไม่ไกลจากสำนักเทพยาเซียน

มีพื้นที่สีเขียวส่วนตัวขนาดใหญ่ในชานเมืองเล็กๆ แห่งนี้

พื้นที่สีเขียวทั้งหมดถูกล้อมด้วยรั้วเหล็ก ภายในพื้นที่มีกลิ่นหอมของยาล้นหลามไปทั่ว และมีวัสดุยาอันล้ำค่าถูกปลูกอยู่เต็มทั่วพื้นที่

ในใจกลางของพื้นที่สีเขียวนี้มีอาคารขนาดใหญ่ซึ่งเป็นอาคารสถาปัตยกรรมและด้านในอาคารก็ถูกตกแต่งอย่างหรูหรามาก

ในโรงรถของอาคารแห่งนี้มีรถหรูหราใหม่เอี่ยมสิบกว่าคันจอดเรียงแถวกันอยู่ และทางเข้าหน้าประตูก็มีน้ำพุดนตรีที่เทียบได้กับห้องโถงโกลเดนฮอลล์ของอาคารมิวสิคเวอไลน์

ซึ่งไม่มีใครคิดว่าสถานที่ห่างไกลแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ

เนื่องจากสถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับสำนักเทพยาเซียน ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะสร้างสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุไว้ที่นี่ ไม่เช่นนั้นด้วยทรัพยากรทางการเงินของพวกเขา พวกเขาสามารถซื้อบ้านที่หรูหราที่ไหนก็ได้ในโลกใบนี้

ซึ่งในวันนี้ ทุกคนที่อยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ต่างก็มารวมตัวกันในห้องโถงและทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก

ณ ขณะนี้ ตรงกลางของห้องโถง จั๋วเยว่ที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นก็ยืนถือไม้เท้าอยู่อย่างลำบาก

เมื่อเทียบกับเสื้อผ้าที่งดงามของเขาที่อยู่ในสำนักเทพยาเซียนแล้ว ตอนนี้เขาก็อยู่ในสภาพที่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเหมือนคนเก็บขยะคนหนึ่ง

และด้านซ้ายของห้องโถงนั้นมีเด็กสาวนั่งอยู่คนหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็คือนีย์

ด้านหลังของนีย์คือชายสวมหน้ากากที่ยืนอยู่ด้วยออร่าของความอันตรายที่เปล่งออกมาจากตัวเขา

ทุกคนในห้องต่างก็รู้ดี ถ้าพวกเขาไม่ให้เกียรติหญิงสาวที่ชื่อนีย์คนนี้ ชายสวมหน้ากากที่ยืนอยู่หลังเธอจะเด็ดชีวิตของพวกเขาได้ทุกเมื่อ

“ท่านอาจารย์ครับ ผมได้พบท่านจนได้นะครับ”

จั๋วเยว่พูดกับชายชราที่อยู่กลางเวทีด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนคนกำลังร้องไห้

ชายชราคนนี้ชื่อชนุตร์ เขาคือผู้อาวุโสที่ใหญ่ที่สุดของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุและเป็นอาจารย์ของจั๋วเยว่

เมื่อชนุตร์เห็นลูกศิษย์ที่รักของเขาอยู่ในสภาพนี้ ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น

“ไอ้พวกสารเลวสำนักเทพยาเซียน ไม่เห็นสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุของเราอยู่ในสายตาเลย!”

ชนุตร์ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“เพราะรพีพงษ์คนเดียวเลยครับ!” จั๋วเยว่พูด “ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะมัน ตอนนี้ผมคงได้ตำแหน่งของสมบัติเหล่านั้นแล้ว!”

“ไอ้รพีพงษ์อีกแล้วเหรอ!”

“คนอื่นต่างก็กลัวมันหมด เพราะฝีมือกับความแข็งแกร่งของมัน แต่ข้าไม่ได้กลัวมันหรอก และสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุของเราจะไม่ให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ แบบนี้!”

“ครับท่านอาจารย์ ท่านต้องล้างแค้นให้ผมนะครับ ผมต้องการเห็นรพีพงษ์ตายต่อหน้าผม” จั๋วเยว่พูดด้วยความโกรธ

“เอาล่ะ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแข่งขันกลั่นยาแล้ว ถึงเวลาข้าจะสั่งสอนพวกสำนักเทพยาเซียนเอง! นายรีบกลับไปพักผ่อน รีบไปให้หมอต่อขาของนายก่อน”

ซึ่งนักกลั่นยาจะให้การช่วยเหลือของพลังภายในเท่านั้น สำหรับกระดูกหักนั้นถือว่าเป็นบาดแผลภายนอก และพวกเขายังต้องไปปรึกษาหมอที่เชี่ยวชาญเรื่องกระดูก

“ครับ”

เมื่อนึกถึงขาที่หักของเขา จั๋วเยว่ก็อดกลั้นน้ำตาแห่งความอัปยศอดสูไม่ได้อีกครั้ง

จากนั้น ศิษย์น้องของจั๋วเยว่ก็พาตัวเขาออกจากห้องโถง

“คุณนีย์ครับ ลำบากคุณแล้วนะครับ”

ชนุตร์ลุกขึ้นแล้วประสานมือทั้งสองข้างและพูดด้วยความขอบคุณ “เพียงแต่ เราไม่คิดว่าการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของรพีพงษ์จะทำให้แผนการทั้งหมดของเราหยุดชะงักไป”

“ท่านผู้อาวุโสคะ นี่เป็นแค่เรื่องเล็กเท่านั้น สำหรับคนอย่างรพีพงษ์ ฉันต้องจัดการมันอย่างแน่นอน” นีย์ยิ้มอย่างเย็นชา

“แต่ว่า ถ้าตามที่คุณเล่ามา รพีพงษ์มันมีฝีมือที่น่ากลัว อีกอย่างมันพัฒนาฝีมือไปถึงแดนเทพครึ่งก้าวแล้ว! ถ้าอย่างนั้น……”

ชนุตร์ไม่ได้พูดต่อ แต่ความหมายของเขานั้นชัดเจนมาก

ฝีมือที่แข็งแกร่งขนาดนี้ มีไม่กี่คนในโลกที่จะต่อกรกับเขาได้

“แดนเทพครึ่งก้าวแล้วยังไงคะ!”

นีย์ลุกขึ้นยืนแล้วพูดด้วยสายตาที่ข่มขู่ “ท่านผู้อาวุโส ท่านคงไม่ได้คิดสงสัยฝีมือของฉันอยู่ใช่ไหม”

“เปล่า เปล่าครับ ผมแค่กังวลว่าคุณนีย์จะได้รับบาดเจ็บอีกครับ” ชนุตร์พูดด้วยความกังวลใจ

นีย์ยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นส่งสายตาให้กับชายสวมหน้ากากที่ยืนอยู่ข้างเธอ

และพลังของชายสวมหน้ากากก็แสดงให้เห็นในทันที

เขายังไม่ทันได้ขยับตัว แต่พลังทิพย์ก็เปล่งออกมาจากตัวเขาโดยที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

หลังจากนั้นพลังทิพย์สีดำก็พุ่งออกไปที่นอกประตูทันที

ด้านนอกประตูนั้นมีต้นไพน์อายุนับร้อยปีอยู่ต้นหนึ่ง ซึ่งต้องใช้คนหลายๆ คนถึงจะขยับมันได้

แต่ไม่ทันไร ต้นไพน์นับร้อยปีต้นนี้ก็ถูกห่อหุ้มด้วยพลังทิพย์สีดำ จากนั้นมันก็เหมือนถูกขับเคลื่อนด้วยสิ่งของบางอย่างและขยับออกไปเป็นหลายสิบเมตร!

“นี่มัน แดนเทพ?”

ชนุตร์พูดด้วยความประหลาดใจ

“ใช่ ลูกน้องของฉันก็อยู่ในแดนเทพแล้วเหมือนกัน” นีย์พูดอย่างภาคภูมิใจ “คนที่อยู่ในแดนเทพสามารถขยับภูเขาได้เป็นลูก เมื่อกี้นี้เราแค่แสดงให้เห็นเป็นขวัญตาเท่านั้น ไม่อย่างนั้นฉันเกรงว่าท่านผู้อาวุโสคงต้องสร้างคฤหาสน์หลังนี้ใหม่แล้วล่ะ”

“หึหึ คุณนีย์ใจเย็นๆ ก่อนครับ”

ชนุตร์ฝืนยิ้มพูดต่อ “ในเมื่อคุณมีลูกมือที่แข็งแกร่งเช่นนี้แล้ว ผมก็โล่งใจได้แล้วล่ะครับ”

นีย์พยักหน้า “แต่ว่า ฉันมีเรื่องต้องการให้คุณช่วยทำหน่อย”

“เรื่องอะไรครับ? ถ้าเป็นเรื่องที่ผมทำได้ ผมยินดีครับ” ชนุตร์พูด

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเห็นนีย์ เขาก็รู้แล้วว่านีย์ต้องไม่ใช่คนทั่วไปอย่างแน่นอน

ซึ่งในวันนี้ เขาเห็นยอดฝีมือของแดนเทพที่คอยติดตามนีย์ด้วยความเต็มใจแบบนี้ เขาก็ยิ่งมั่นใจในสิ่งที่เขาคิด

สมาคมการเล่นแร่แปรธาตุที่สามารถพัฒนาได้มาถึงทุกวันนี้ หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่ชนุตร์ทำก็คือการเข้าหาครอบครัวยักษ์ใหญ่ของโลก

ดังนั้น โอกาสดีๆ แบบนี้เขาต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน

“สิ่งที่ฉันจะให้คุณทำนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก วันสองวันนี้ฉันจะพักรักษาตัวที่นี่ รอจนกว่าวันแข่งขันกลั่นยาฉันจะขึ้นเขากับพวกคุณไปด้วย แต่ว่า ฉันต้องการให้คุณช่วยฉันเรื่องหนึ่ง ฉันต้องการให้คุณรั้งตัวของรพีพงษ์ไว้” นีย์พูด

“คุณหมายถึงจับรพีพงษ์?”

ชนุตร์ขมวดคิ้ว “คุณผู้หญิงน่าจะยังไม่รู้ว่าการแข่งขันกลั่นยาของเรานั้นมักจะแข่งกันเป็นรุ่นต่อรุ่น และผมจะเป็นรุ่นเดียวกับจิรภัทร สำหรับรพีพงษ์แล้ว เขายังเด็กเกินไปครับ ต่อให้ผมชนะเขาได้ มันก็จะไม่ใช่การแข่งขันที่สมเหตุสมผลอยู่ดี”

“เหอะๆ ท่านผู้อาวุโส สำนักเทพยาเซียนในตอนนี้ คุณคิดว่ายังมีใครที่เก่งการปรุงยามากกว่ารพีพงษ์เหรอ?”

นีย์ยิ้มพูดอย่างเย็นชา “เม็ดยาที่สมบูรณ์แบบและยังมีชี่ยาด้วย ฉันถามจริง สมาคมการเล่นแร่แปรธาตุของคุณจะมีสักกี่คนที่ทำได้?”

“ว่าไงนะ เม็ดยาสมบูรณ์แบบที่มีชี่ยาด้วย?”

ชนุตร์ถึงกับผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้าเบาๆ “ถ้าอย่างนั้น ไอ้หมอนี่มันก็เก่งขึ้นมากเลยสินะ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมมั่นใจว่าจะเอาชนะมันได้ เพียงแต่ว่า คุณจะให้ผมจับตัวรพีพงษ์ไว้ทำไมครับ”

นีย์พูดอย่างเคร่งขรึม “นั่นมันเรื่องของฉัน คุณไม่ต้องยุ่ง คุณก็แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ แต่แน่นอนว่าถ้าคุณทำสำเร็จ ฉันจะให้ผลประโยชน์ที่ดีกับคุณ”

“ผลประโยชน์อะไรครับ” ชนุตร์รีบถาม

นีย์มองไปที่ชนุตร์ด้วยสายตาที่มีเลศนัยแล้วพูดต่อ “ได้ข่าวว่าคุณอยากได้สำนักเทพยาเซียนมานานแล้ว ถ้าอย่างนั้น ฉันยกมันให้คุณก็ได้นะ”

“จริง……จริงเหรอครับ? ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอขอบพระคุณคุณหนูนีย์มากเลยนะครับ!”

ชนุตร์อดตื่นเต้นไม่ได้

เพราะนี่เป็นเรื่องที่เขาคิดมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อนแล้ว เพียงแต่ว่าจิรภัทรกับปยุตนั้นแข็งแกร่งเกินไป ส่วนครอบครัวยักษ์ใหญ่ระดับโลกก็มีแต่เงิน ซึ่งไม่ค่อยมีใครฝึกฝนวิชาในขั้นสูง

แต่ในวันนี้ หลังจากที่เห็นฝีมือของชายสวมหน้ากากคนนี้ ชนุตร์ก็มั่นใจว่าคนอย่างรพีพงษ์จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาอีก!

เมื่อถึงเวลานั้นสำนักเทพยาเซียนและวัสดุยาอันล้ำค่าในนั้นก็จะเป็นของเขาหมด และถ้ายาที่สมบูรณ์ในนั้นถูกขายออกไป มันก็จะกลายเป็นแหล่งทรัพยากรขุมทรัพย์ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดสำหรับเขา!

“ในเมื่อคุณตกลงแล้วคุณก็ทำตามนี้เลยนะ ตอนนี้มันก็เริ่มดึกแล้ว ฉันต้องกลับไปพักก่อน”

จากนั้นนีย์หันเดินจากไปโดยที่ไม่สนใจผู้อาวุโสคนนี้เลย

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท