พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1267 การจัดฉาก

บทที่ 1267 การจัดฉาก

ที่ผ่านมารพีพงษ์อาจจะเปิดเผยสถานะของเขาต่อผู้อื่นโดยที่ไม่ได้ปิดบังอะไร แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ทำเป็นเช่นนั้นแล้ว

ซึ่งคำพูดสั้นๆ ของเขาก็ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง

หลังจากที่รพีพงษ์ได้รับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวตระกูลลัดดาวัลย์ ชื่อเสียงของเขาก็ดังก้องไปทั่วประเทศจีน!

และในฐานะนักธุรกิจอย่างโคบายาชิจุนอิจิ เขาต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของรพีพงษ์อย่างแน่นอน

ถ้าต้องการขยายกิจการของตระกูลโคบายาชิให้ถึงประเทศจีนนั้น สำหรับโคบายาชิจุนอิจิแล้วต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวตระกูลลัดดาวัลย์เท่านั้น

แต่ดูเหมือนว่าเจอกันครั้งแรกก็พังไปแล้ว

“ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าเพื่อนของสุดาจะเป็นคุณรพีครับ เมื่อกี้นี้ต้องขออภัยจริงๆ ด้วยนะครับ”

โคบายาชิจุนอิจิโค้งคำนับด้วยความรู้สึกผิด

รพีพงษ์สีหน้านิ่งเฉย เขาพอรู้จักวัฒนธรรมในการโค้งคำนับของชาวญี่ปุ่นอยู่บ้าง

ซึ่งวัฒนธรรมนี้ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้หลังจากการโค้งคำนับและยอมรับผิด ในอดีตเป็นเช่นไร ปัจจุบันก็เป็นเช่นนั้น

“ไม่เป็นไรครับ มันก็แค่เรื่องบังเอิญ ไหน ๆ เราก็จะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้ว” รพีพงษ์พูดอย่างเฉยเมย

“ทำไมล่ะครับ คุณรพี ที่ผมมาประเทศจีนครั้งนี้ผมตั้งใจมาหาสุดา และผมก็ยังตั้งใจมาลงทุนกิจการร้านอาหารด้วยนะครับ ผมยังคิดไว้ว่าจะหาเวลาเข้าไปขอพบคุณด้วย ไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันที่นี่ก่อนครับ”

โคบายาชิจุนอิจิยิ้มพูดและมองไปที่ฝนสุดา “เรียกได้ว่าสุดาเป็นคนพาพวกเรามาเจอกันก็ได้นะครับ”

รพีพงษ์ถึงกับขนลุก “ช่างมันเถอะ คุณอยู่ญี่ปุ่น ผมอยู่ประเทศจีน เรามาจากคนละที่กัน อีกอย่างครอบครัวตระกูลลัดดาวัลย์ของเราก็มีกิจการร้านอาหารที่นี่ด้วย”

“นั่นสิครับ ผมอยู่ประเทศเล็กๆ อย่างญี่ปุ่น ส่วนประเทศจีนของคุณเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการตลาดหรือทรัพยากร ประเทศเล็กๆ อย่างเราก็เทียบกับพวกคุณไม่ได้ ฉะนั้นถ้าหากว่า……” โคบายาชิจุนอิจิพูดด้วยความปรารถนา

แต่รพีพงษ์ขัดจังหวะของเขาทันที “ประเทศจีนมีเนื้อที่และทรัพยากรมากมาย ดังนั้นคุณจึงอยากเข้ามาแบ่งตลาดกับเราสินะ? ขออภัยด้วย ถ้าหลายสิบปีก่อน คุณอาจจะทำเช่นนั้นได้ แต่ปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้ว!”

“คุณรพีครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับ!”

เมื่อเห็นว่าน้ำเสียงของรพีพงษ์เริ่มไม่ดี โคบายาชิจุนอิจิก็รีบอธิบายทันที

แต่รพีพงษ์ไม่ได้สนใจเขาเลย “ขอโทษนะครับ ผมยังมีธุระต่อ ต้องขอตัวก่อนครับ”

จากนั้นรพีพงษ์ก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องทันที

ฝนสุดากับอุเอสึงิ ฮารุก็รีบตามเขาไปโดยที่ไม่สนใจชายทั้งสามที่ยังอยู่ในห้องอาหารนั้น

สำหรับท่าทีของรพีพงษ์และการจากไปของผู้หญิงที่โคบายาชิจุนอิจิชอบนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นความโกรธทันที

ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนไหน ถ้าต้องเจอกับเรื่องอับอายขายหน้าแบบนี้ เขาจะต้องโกรธอย่างแน่นอน แล้วนับประสาอะไรกับโคบายาชิจุนอิจิที่เป็นเจ้าของกิจการยักษ์ใหญ่ของวงการอาหารในประเทศญี่ปุ่นของเขา

นอกเหนือจากนี้ ต่อให้เป็นคนสติไม่ดีก็สามารถดูออกได้ว่าท่าทีของฝนสุดาที่มีต่อรพีพงษ์นั้นมันตรงกันข้ามกับตัวเขาอย่างสิ้นเชิง

“ไอ้สารเลวรพีพงษ์”

โคบายาชิจุนอิจิทุบโต๊ะกระจกจนแตก

ในฐานะลูกชายคนเดียวของตระกูลโคบายาชิ โคบายาชิจุนอิจิก็ได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จากครูที่โด่งดังมาตั้งแต่เด็ก และความสามารถของเขาตอนนี้ก็เทียบเท่ากับอาจารย์แล้ว

สหายทั้งสองของเขารีบก้าวไปข้างหน้า

“โคบายาชิซัง ใจเย็นๆ ก่อนครับ เท่าที่ผมรู้ ครอบครัวตระกูลลัดดาวัลย์ยังมีคุณนายด้วยนะครับ” ชายสวมแว่นพูด

“คุณนาย? คุณหมายถึงภรรยาของมัน?” โคบายาชิจุนอิจิถามด้วยความประหลาดใจ “แสดงว่าสุดา……”

“คุณไม่ต้องห่วงครับ ทุกคนในประเทศจีนรู้ดีว่ารพีพงษ์รักภรรยาของเขามาก ดังนั้นถึงอย่างไรคุณสุดาก็จะเป็นของคุณอยู่ดีครับ” ชายสวมแว่นพูด

เมื่อได้ยินเช่นนี้ โคบายาชิจุนอิจิก็ยิ่งโกรธมากขึ้น “สุดายอมไล่ตามชายที่มีภรรยาแล้วแต่กลับไม่ยอมอยู่กับคนอย่างผม มันช่างน่าเจ็บใจจริงๆ”

“โคบายาชิซังครับ มีคำพูดคำหนึ่ง ผมไม่ทราบว่ามันสมควรพูดหรือไม่นะครับ” ชายสวมแว่นยิ้มพูดต่อ “คุณสุดาเป็นคนเพอร์เฟคขนาดนี้ และยังมีคนตามจีบเธอตั้งมากมาย แต่ทำไมเธอกลับชอบรพีพงษ์แค่คนเดียวล่ะครับ?”

“หืม?” โคบายาชิจุนอิจิขมวดคิ้ว เรื่องนี้เขาก็ไม่เคยคิดเหมือนกัน

“แต่ผมคิดว่าการที่คุณสุดาชอบรพีพงษ์นั้น เป็นเพราะเขาไม่สนใจเธอมากกว่านะครับ คุณเคยได้ยินไหมครับ คนเรามักจะโหยหาในสิ่งที่เราไม่มีครับ?” ชายสวมแว่นพูดเบาๆ

โคบายาชิจุนอิจิพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณพูดมีเหตุผลเหมือนกัน ก็เหมือนสุดาที่ปฏิเสธผมมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งต้องการเธอมาเท่านั้น!”

“ความจริงแล้ว มันไม่ยากเลยครับถ้าคุณต้องการเธอจริงๆ เพียงแต่ว่า……”

จากนั้นชายสวมแว่นก็กระซิบพูดข้างหูโคบายาชิจุนอิจิ

……

เมื่อเดินออกไปถึงหน้าร้านอาหาร รพีพงษ์ก็หันกลับมาพูดว่า “คนสวยทั้งสอง ผมต้องกลับก่อนแล้วนะครับ”

“จะไปเลยเหรอคะ?” ฮารุถาม

“ใช่ครับ ผมต้องรีบกลับไปฝึกการปรุงยาต่อ”

รพีพงษ์พูดอย่างเคร่งขรึม เพราะเขาต้องรีบหาวิธีรักษาอารียาโดยเร็วที่สุด

“ปรุงยา? ตอนนี้คุณทำยาเองแล้วเหรอ”

อุเอสึงิ ฮารุรู้สึกอิจฉาและฝนสุดาก็ประหลาดใจเช่นกัน

ในโลกนี้ยังมีอะไรที่รพีพงษ์ทำไม่ได้อีกไหม?

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ พวกคุณก็รีบกลับไปโรงแรมเถอะครับ” รพีพงษ์โบกมือลาและหันไปพูดกับฝนสุดาอีกครั้ง “โคบายาชิจุนอิจิเป็นคนมีกลอุบายเยอะ ไม่น่าเชื่อถือด้วย ในฐานะเพื่อน ผมคิดว่าคุณควรระวังตัวเขาด้วยนะครับ”

“คุณจะสนใจทำไม!”

แม้ฝนสุดาจะปากแข็ง แต่ในใจของเธอรู้สึกดีมาก

เพราะไม่ว่าจะยังไง อย่างน้อยรพีพงษ์ก็ยังเป็นห่วงเธออยู่!

จากนั้นรพีพงษ์ก็หันเดินกลับไปในทิศทางของสำนักเทพยาเซียนอีกครั้ง

“ไปกันเถอะ พี่สุดา คุณชายรพีพงษ์กลับไปแล้ว”

อุเอสึงิ ฮารุพูดกับฝนสุดาที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ

ฝนสุดายังคงยิ้มกับตัวเอง แม้ภาพตรงหน้าของเธอคือภูเขาที่สูงใหญ่และรพีพงษ์ก็เดินหายไปจากการมองเห็นของเธอแล้ว

“พี่สุดา บางทีหนูก็รู้สึกเสียดายแทนพี่เหมือนกันนะ หนูรู้ว่าคุณชายรพีพงษ์เป็นคนดี แต่ว่า ถ้าพี่เป็นแบบนี้มันจะคุ้มค่าไหม อีกอย่างเขาก็ดูเหมือนรักภรรยาของเขาคนเดียวด้วย” ฮารุด้วย

สาวสวยทั้งสองอยู่ด้วยกันมานานจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทต้องคุยกันทุกเรื่อง และอุเอสึงิ ฮารุก็เข้าใจความรู้สึกของฝนสุดาดี

“ฮารุ เธออายุยังน้อย ไม่เข้าใจหรอก ครั้งแรกที่ฉันเห็นรพีพงษ์ ฉันก็รู้ว่าเขาไม่เหมือนกับผู้ชายทั่วไป แม้ฉันจะเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ แต่สำหรับฉันแล้ว แค่เห็นเขามีความสุขฉันก็พอใจแล้วล่ะ”

จากนั้นฝนสุดาก็หันเดินจากไป

อุเอสึงิ ฮารุส่ายหัวแล้วยิ้มพูด “ยังว่าหนูเป็นเด็กอีกเหรอ อายุพี่ก็ไม่ได้ต่างกับหนูเท่าไหร่หรอก”

ในขณะที่ทั้งสองนั่งอยู่ในรถและกำลังจะกลับไปโรงแรมไม้คู่ ทันใดนั้นก็มีชายสามคนเดินเข้ามา

ซึ่งดูจากภายนอกแล้วชายทั้งสามต้องไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ทั้งสามถือดาบยาวอยู่ในมือแล้ววิ่งเข้ามาที่หน้ารถของฝนสุดา

“พวกคุณจะทำอะไรน่ะ!” ฝนสุดาที่ถูกบังคับให้หยุดรถก็ตะโกนออกไป

“อย่าพูดมาก รีบลงจากรถซะ!”

ชายอ้วนหัวโล้นผิวดำที่เป็นหัวหน้าแก๊งของทั้งสามตะโกนด้วยความดุเดือด

มีดยาวของเขาก็ชี้ไปข้างหน้า

“พวกคุณสามคนคิดจะปล้นในกลางวันแสกๆ แบบนี้ ไม่กลัวถูกจับรึไง?” อุเอสึงิ ฮารุพูดด้วยความโกรธ

“แหม พี่ใหญ่ครับ สาวสวยด้วยนะครับ ดูเหมือนว่าวันนี้โชคเข้าข้างพวกเราแล้วสินะ เดี๋ยวให้ผมลงมือเองก็ได้นะครับ”

ชายร่างผอมสูงผมสีทองที่ยืนอยู่ด้านหลังชายอ้วนพูดขึ้นด้วยสีหน้าหิวโหย

“จะบอกพวกคุณไว้นะครับ ที่นี่ห่างไกลความเจริญมาก ต่อให้คนอื่นเห็นว่าพวกเราทำอะไร เราก็แค่หนีไปกบดานอยู่ในป่าสักสองสามวันก็สิ้นเรื่องแล้ว” ชายอ้วนพูดกับฝนสุดาต่อ “เพราะฉะนั้น เอาเงินทั้งหมดที่มีอยู่ออกมาให้เรา แต่ผมดูแล้วคนที่ขับรถแบบนี้ได้ต้องเป็นคนรวยอยู่แล้ว เอางี้ดีกว่า เอาเงินให้พวกเราสักแปดเก้าแสนหรือล้านหนึ่ง เราจะปล่อยพวกคุณไป แต่ถ้าไม่ให้ล่ะก็……”

“ถ้าไม่ให้แล้วทำไม” ฝนสุดาพูดด้วยความโกรธ

ก่อนที่จะรู้จักรพีพงษ์เธอเป็นคนลงโทษคนอื่นอยู่เสมอ ซึ่งไม่มีใครหน้าไหนกล้ายุ่งกับเธอเลย!

“คุณผู้หญิงครับ สวยๆ แบบนี้ ถ้าใบหน้าได้แผลเป็น หรือว่าแขนขาขาดไปข้างหนึ่งมันจะไม่ดีนะครับ” ชายอ้วนขยับเข้ามาและพูดข่มขู่

ผัวะ!

ฝนสุดาที่นั่งอยู่ในรถชกหน้าชายอ้วน

และชายอ้วนตะโกนร้องแล้วตาซ้ายก็บวมขึ้นมาทันที

“นังตัวดี จับมันซะ!”

ชายอ้วนตะโกนและเพื่อนของเขาก็วิ่งเข้าไปทันที

ในสายตาพวกเขา สาวสวยทั้งสองเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ เท่านั้น ขอแค่พูดจาข่มขู่พวกเธอก็จะยอมจำนนทันที

“พวกอันธพาลกระจอก คอยดูว่าฉันจะจัดการกับพวกนายยังไง!”

จากนั้นฝนสุดาก็เตรียมลงจากรถ

แต่ไม่คิดว่าอุเอสึงิ ฮารุที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้ห้ามเธอเอาไว้

ฮารุยิ้มจางๆ “พี่คะ แค่อันธพาลกระจอกพวกนี้พี่ยังต้องลงมือเองเหรอ? ให้หนูไปจัดการดีกว่า”

ฝนสุดายิ้มตอบ “ก็ได้ แต่เธอต้องระวังตัวด้วย อย่าเอาพวกมันถึงตายนะ เพราะที่นี่คือประเทศจีน”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ”

ฮารุยิ้มตอบและเปิดประตูลงจากรถ

“คนสวย ไม่คิดจะกลัวเลยเหรอ!” ชายอ้วนพูดด้วยความโกรธ

ฮารุที่ลงจากรถอย่างกะทันหันแบบนี้ทำให้ชายทั้งสามรู้สึกประหลาดใจมาก

“พวกแกสามคนเข้ามาด้วยกันเลย”

ฮารุพูดด้วยรอยยิ้ม

สามสิบวินาทีต่อมา ชายร่างใหญ่ทั้งสามก็ล้มลงนอนอยู่กับพื้นและร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด

จากนั้นฝนสุดากับอุเอสึงิ ฮารุก็ขับรถจากไป

หลังจากฝึกฝนมาอย่างหนัก ฝีมือของสาวสวยทั้งของก็อยู่ที่ระดับกลางของแดนปรมาจารย์แล้ว ดังนั้นจึงจัดการกับอันธพาลสามคนนี้ได้อย่างง่ายดาย

ในมุมที่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ โคบายาชิจุนอิจิกับชายสวมแว่นได้เฝ้าดูสถานการณ์อย่างไม่คลาดสายตา

“เพื่อนของคุณสุดาเก่งขนาดนี้เลยเหรอ” ชายสวมแว่นพูดอย่างเหลือเชื่อ

ดวงตาของโคบายาชิจุนอิจิประกายความชั่วร้ายออกมา ซึ่งดูเหมือนว่าแผนการของวันนี้ล้มเหลวอย่างน่าผิดหวัง

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท