พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1297 เกิดเรื่องขึ้นที่เกาะ

บทที่ 1297 เกิดเรื่องขึ้นที่เกาะ

“แคลร์ คุณคุยกับชุติเทพพวกเขาไปก่อนนะ เดี๋ยวผมมา”

อารียาเห็นรพีพงษ์สีหน้าเริ่มเคร่งเครียด แม้เธอจะรู้สึกกังวล แต่เธอก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร

รพีพงษ์หันเดินออกจากคลินิกทันที

“ออกมา”

รพีพงษ์พูดอย่างเย็นชา

แม่นางทอผ้ากับชยนต์ที่เป็นหุ่นเชิดทั้งสองก็ปรากฏตัวออกมาต่อหน้ารพีพงษ์

หุ่นเชิดเป็นวิญญาณที่สามารถขยับตัวอย่างอิสระ และความเร็วของมันก็ไม่มีใครในโลกนี้เทียบได้

รพีพงษ์กำลังจะโกรธหลังจากที่เห็นเขาทั้งสอง แต่ในทันใดนั้น เขาก็สัมผัสถึงลมหายใจที่อ่อนแอของทั้งสอง และดูเหมือนว่าทั้งสองกำลังบาดเจ็บอยู่

“เกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณ? ผมให้พวกคุณไปที่เกาะต่างประเทศ ทำไมถึงกลับมาเร็วขนาดนี้” รพีพงษ์ถาม

“นายท่านคะ แม่นางทอผ้าเกือบจะไม่มีโอกาสกลับมาหานายท่านแล้วค่ะ” แม่นางทอผ้าพูด แม้เธอจะร้องไห้ไม่ได้ แต่สามารถมองเห็นความเศร้าโศกของเธอได้อย่างชัดเจน

“ชยนต์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

รพีพงษ์ถามชยนต์

ชยนต์พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “นายครับ เกาะที่นายท่านพูดถึง เกิดเรื่องแล้วครับ!”

“เกิดเรื่อง?”

รพีพงษ์รู้สึกตกใจมาก

บนเกาะนั้นมีเพียงศิษย์พี่กับศิษย์น้องของเขา คนเหล่านั้นล้วนมีพรสวรรค์ทั้งนั้น และทุกคนในนั้นยังเป็นคนที่ชัชพิสิฐเป็นคนเลือกมาเองด้วย ซึ่งในตอนที่รพีพงษ์อยู่ คนเหล่านี้ก็ได้บรรลุไปถึงแดนปรมาจารย์แล้ว

และหลังจากที่ชัชพิสิฐล้มเหลวครั้งล่าสุดนี้ รพีพงษ์กับพี่น้องของเขาได้ค้นพบยาชั้นเลิศมากมายที่สุสานกษัตริย์ฉิน นอกจากนี้ยังมีหนังสือโบราณอีกหลายๆ เล่มอีกด้วย

ซึ่งของทั้งหมดนั้นรพีพงษ์ไม่ได้เก็บมันไว้เอง แต่ทิ้งไว้ที่นั่นหมด

รพีพงษ์เชื่อในความสามารถของพวกเขา เขาเชื่อว่าการที่พวกเขาจะพัฒนาไปถึงแดนดั่งเทพนั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

แต่แล้วกลุ่มคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะเกิดเรื่องกับพวกเขาได้ยังไง?

“ชยนต์ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผมฟังที สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นที่เกาะ ทำไมพวกคุณสองคนถึงกลับมาในสภาพแบบนี้ได้!”

รพีพงษ์ถาม

“ผมกับแม่นางทอผ้าเพิ่งเจอเกาะเมื่อบ่ายวานนี้ครับ เราเดินอยู่บนเกาะประมาณสิบนาทีแล้ว แต่ก็ไม่เห็นใครเลยครับ”

“เป็นไปไม่ได้!” รพีพงษ์พูด “เกาะไม่ได้ใหญ่อยู่แล้ว ทำไมเดินอยู่บนเกาะตั้งสิบนาทีแต่ยังไม่เห็นใครเลยล่ะ? หรือว่าพวกเขาออกจากเกาะกันหมดแล้ว?”

ชยนต์ส่ายหัว จากนั้นแม่นางทอผ้าที่เป็นคนใจร้อนก็พูดแทรกขึ้นมา “พูดจาติดๆ ขัดๆ ซื่อบื้อจริง ๆ ฉันเล่าเอง”

หลังจากเงียบไปสักพักแม่นางทอผ้าก็พูดต่อ “หลังจากนั้นเราก็สำรวจไปทั่วเกาะ แต่น่าเสียดายที่ไม่เจอศิษย์พี่ศิษย์น้องของนายท่านเลยค่ะ แล้วในระหว่างที่เราตัดสินใจจะกลับมา เราก็พบสุสานโบราณแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากเรา”

รพีพงษ์พยักหน้าเบาๆ เรื่องสุสานโบราณคงไม่ต้องพูดอะไรมาก มันต้องเป็นสุสานที่เขาเป็นคนสร้างให้กับกษัตริย์ฉินอย่างแน่นอน

“หนูกับชยนต์คิดว่าสุสานโบราณนี้ค่อนข้างแปลก จากนั้นเราทั้งสองจึงเข้าไปข้างใน และทันทีที่เข้าไปเราก็ได้กลิ่นแปลกๆ จากด้านในนั้น”

“กลิ่นอะไร!” รพีพงษ์ถาม

“มันเป็นกลิ่นเลือดที่ค่อนข้างแรงเลยค่ะ!” แม่นางทอผ้าตอบ

“กลิ่น……กลิ่นเลือด?”

รพีพงษ์รู้สึกตกใจมาก จากนั้นรีบถามต่อ “แล้วพี่น้องของผมล่ะ พวกเขาเป็นยังไงบ้าง!”

แม้รพีพงษ์จะยังไม่อยากเชื่อ แต่ในใจเขาก็รู้สึกสังหรณ์ที่ไม่ดี

“เจ้านายคะ เจ้านายใจเย็นๆ ก่อนนะคะ หลังจากที่หนูกับชยนต์เข้าไปในถ้ำอุโมงค์สุสานนั้นแล้ว เราได้เจอใครบางคนที่คล้ายกับพวกเราด้วย!”

“คล้าย……กับพวกคุณ? หมายถึงเขาเป็นหุ่นเชิดด้วยเหรอ?” รพีพงษ์ถาม

ชยนต์กับแม่นางทอผ้าพยักหน้า “นายท่านคะ ศิษย์พี่ศิษย์น้องของนายท่านถูกเขาขังไว้ในหลุมฝังศพนั้น ส่วนเลือดบนพื้นก็เป็นเลือดจากบาดแผลของพวกเขานะคะ”

“เป็นไปไม่ได้!” รพีพงษ์กำหมัดไว้แน่นๆ ถ้าศิษย์พี่ศิษย์น้องของเขารวมตัวกันเพื่อสู้กับใครสักคน เกรงว่ายอดฝีมือก็ไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่งของพวกเขาได้

“แต่ฝีมือของเขาคนนั้นอยู่เหนือกว่าหนูกับชยนต์เลยนะคะ!”

แม่นางทอผ้าพูด และชยนต์ก็เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ

“บาดแผลของพวกเราสองคนก็เป็นฝีมือจากเขาด้วยค่ะ”

รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้าแล้วใช้พลังจิตวิญญาณอย่างลับๆ และเขาก็สัมผัสถึงความรุนแรงของการบาดเจ็บของชยนต์กับแม่นางทอผ้า

คนคนเดียวสามารถจัดการกับหุ่นเชิดที่อยู่ในแดนดั่งเทพชั้นยอดถึงสองคน หรือว่าหุ่นเชิดที่อยู่ในหลุมฝังศพนั้นอยู่ในแดนเทพแล้ว?

“ต้องโทษคนซื่อบื้อคนนี้เลยค่ะ ความจริงแล้วฝีมือของไอ้หมอนั่นได้แค่เทียบเท่ากับพวกเราสองคน แต่ไม่รู้ทำไม จู่ ๆ เขาก็หยิบเม็ดยาขึ้นมากิน และหลังจากนั้นเขาก็จัดการกับพวกเราได้เลย”

แม่นางทอผ้าขยับเข้าไปพิงรพีพงษ์ “นายท่านคะ มีคนรังแกข้าน้อยแล้ว นายท่านต้องช่วยข้าน้อยเอาคืนนะคะ”

“เธอมีคู่ครองแล้วนะ ระวังภาพลักษณ์ด้วย”

รพีพงษ์พูดอย่างเย็นชาแล้วมองไปที่ชยนต์ “เท่าที่ผมรู้ยาเม็ดไม่มีผลต่อหุ่นเชิดอย่างพวกคุณนะ ไม่อย่างนั้น ผมก็ทำยาเสริมกำลังให้พวกคุณกินได้แล้วสิ แต่พวกคุณกลับบอกว่าเห็นเขากินยาเม็ดเข้าไป หรือว่าพวกคุณกำลังโกหกผมอยู่?”

“ข้าน้อยไม่กล้าค่ะ”

ชยนต์กับแม่นางทอผ้าได้แต่ก้มหน้าตอบ

“นายท่านครับ ไอ้หมอนั่นกินยาเข้าไปจริงๆ นะครับ ผมเห็นกับตาเลย อีกอย่างผมเห็นยาเม็ดนั้นเป็นสีดำด้วยครับ หลังจากเขากินมันเข้าไป พลังของเขาก็เพิ่มมากขึ้น จนผมกับแม่นางทอผ้าต้านไม่อยู่เลยครับ”

ชยนต์พูดตามความเป็นจริง

และรพีพงษ์ก็รู้ว่าเขาทั้งสองไม่มีทางมาหลอกเขาอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่า เรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

เมื่อนึกถึงพี่น้องที่กำลังลำบาก รพีพงษ์ก็ยิ่งกังวลมากขึ้น

“รพีพงษ์”

อารียาเดินออกมาเรียกรพีพงษ์

รพีพงษ์เฝ้ามองอารียาที่เดินเข้ามาหาเขา

“แคลร์ ผมมีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ผมต้องรีบไปจัดการและจะรอช้าอีกไม่ได้แล้ว”

“ไปตอนนี้เลยเหรอ?”

อารียาถามกลับด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง

รพีพงษ์พยักหน้าตอบ “ตอนนี้ศิษย์พี่ศิษย์ของผมกำลังเจอปัญหาอยู่ พวกเขาต้องการให้ผมไปช่วย”

“งั้นคุณก็รีบไปสิ ระวังความปลอดภัยด้วยนะ”

“ครับ ช่วยอธิบายให้หนูลินด้วยนะ”

รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น หลังจากที่เพิ่งกลับมาบ้านเพียงแค่สองวัน และยังไม่ได้ใช้เวลาแห่งความสุขกับภรรยาและลูกสาวให้มากพอ ในตอนนี้เขาจำเป็นต้องออกจากบ้านไปที่เกาะเพื่อจัดการปัญหาอีกครั้ง

ชาติไก่ชนขนหัวไม่ต้องการ

“ชยนต์ แม่นางทอผ้า!”

รพีพงษ์หันกลับมาแล้วมองไปที่ทั้งสอง “พวกคุณช่วยดูแลภรรยากับลูกผมที่เกียวโตต่อนะ จะได้พักฟื้นตัวไปด้วย แล้วห้ามมีข้อผิดพลาดเด็ดขาดเลยนะ!”

“รับทราบ!”

ทั้งสองพูดพร้อมกัน

รพีพงษ์หันไปกอดอารียาอีกครั้ง และออกเดินทางไปยังเกาะต่างประเทศ เมื่อเห็นรพีพงษ์ทิ้งไว้แค่แผ่นหลังที่ค่อยๆ เดินจากไป อารียาก็ได้แต่น้ำตาซึม

“พี่สาวคะ”

เจสสิก้าที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เข้ามาจับมืออารียาไว้แล้วพูดเบาๆ “พี่อย่าเศร้าไปเลยนะ พี่รพีพงษ์เป็นคนที่ถูกเลือกแล้ว หนูว่าหลายๆ สิ่งที่เขาทำนั้นพวกเราได้แค่มองจริงๆ ฉะนั้นเราแค่ยืนอยู่เคียงข้างเขาแล้วคอยเป็นกำลังใจให้เขาก็เพียงพอแล้ว”

อารียาได้แต่พยักหน้าตอบ เธอไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเจสสิก้าจะให้กำลังใจเธอได้ขนาดนี้

การที่ได้เป็นผู้หญิงของคนอย่างรพีพงษ์นั้น ถือเป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ในประเทศจีนต่างก็ใฝ่ฝันกัน ที่มากกว่านั้นคือรพีพงษ์ยังมีความสามารถที่มากกว่าใครๆ และยังเป็นคนที่รักภรรยากับลูกมากด้วย

รพีพงษ์ คุณบินให้สุดเลย ส่วนฉันกับหนูลิน คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ……

อารียาน้ำตาไหนริน จนกระทั่งรพีพงษ์เดินหายไปจากปลายถนน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท