พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1299 มาทันเวลา

บทที่ 1299 มาทันเวลา

ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจและจับตามองอย่างใจจดใจจ่อ ปลายแหลมดาบของนฤชัยก็แทงไปที่หน้าอกของศัตรู

ระยะประชิดขนาดนี้ ต่อให้หุ่นเชิดมีความเร็วมากแค่ไหนก็ยากที่จะหลบการโจมตีนี้ได้

ซึบ!

ดาบทะลุผ่านหน้าอกของหุ่นเชิด นฤชัยคาดหวังในใจมาก

“ศิษย์พี่สุดยอดมาก!”

บาวันพูดอย่างตื่นเต้น แต่เธอยังไม่ทันได้ดีใจ

ฝ่ามืออันกว้างของหุ่นเชิดก็ยื่นมาบีบคอนฤชัย ตามด้วยนฤชัยถูกยกขึ้นด้วยมือข้างเดียวของเขา

นฤชัยเริ่มหายใจไม่ออกและรู้สึกทรมานมาก สองขาของเขาพยายามดิ้นให้หลุด แต่กำลังของศัตรูนั้นแข็งแกร่งเกินไป เขาทำอะไรไม่ได้จริงๆ

“ไอ้สารเลว อายุน้อยๆ แต่เจ้าเล่ห์จริงๆ เลยนะ!”

ดวงตาของหุ่นเชิดเย็นชาสุดขีด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของเขาไม่มีสีเลือดเลยแม้แต่นิด

บาวันกับนิศมาและคนอื่นๆ รู้สึกกลัวมา ดาบของนฤชัยแทงทะลุเขาไปแล้วชัดๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่เป็นอะไรเลย และยังมีพลังเหลือเฟือขนาดนี้

ทันใดนั้น สิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น

หุ่นเชิดเหวี่ยงนฤชัยออกไปด้วยมือข้างเดียวของเขา

เอื๊อก! นฤชัยกระอักเลือดออกมาทันที เขาถูกฟาดลงกับพื้นและหมดแรงที่จะขยับตัวได้อีก

หลังจากที่หุ่นเชิดทำเช่นนี้แล้ว เขาได้ก้มลงและชักดาบที่ปักอยู่กลางอกซ้ายของเขาออกมาต่อหน้าทุกๆ คน

“ถ้าดาบเล่มนี้ถูกปักอยู่กลางอกของนักฝึกวิชาทั่วไป เกรงว่าคงต้องสิ้นชีพอย่างแน่นอน แต่ข้าเป็นหุ่นเชิด เป็นหุ่นเท่านั้น นายคิดว่าหุ่นเชิดมีหัวใจงั้นหรือ? ช่างไร้เดียงสาจริงๆ”

จากนั้นเขาขว้างดาบออกไปกระแทกกับกำแพงและดาบก็หายไปในพริบตา

หุ่นเชิดสีหน้าเคร่งเครียดแล้วค่อยๆ เดินเข้าไปหาเหล่าสาวกของสำนักสยบเซียน

เหล่าสาวกขยับเข้าไปนั่งใกล้กันแล้วมองเขาด้วยความกลัว

“พวกเจ้าทำให้ข้าโกรธอย่างสุดขีดแล้ว นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป หนึ่งในพวกเจ้าจะต้องตายในทุกๆ สิบนาที เริ่มตั้งแต่เธอคนนี้ก่อนเลย!”

จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่นิศมา

“ศิษย์พี่นิศมา!”

บาวันตะโกนอย่างเสียงดัง และพรยศเห็นว่าผู้หญิงที่เขาชอบถูกหุ่นเชิดเลือกเป็นคนแรก เขาที่นอนเจ็บอยู่บนพื้นก็พยายามจะลุกขึ้นมาช่วยแต่ทำไม่ได้

หุ่นเชิดลากนิศมาขึ้นมาจากพื้นแล้วกระชากเส้นผมของเธอ

เมื่อเห็นใบหน้าอันงดงามของนิศมา หุ่นเชิดก็พูดอย่างเย็นชาว่า “สาวสวยขนาดนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นข้าที่ยังมีเนื้อหนังอยู่ ข้าจะลิ้มรสเธอให้อิ่มหนำอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่มีโอกาสนั้นแล้วสินะ”

นิศมาไม่ได้พูดอะไรเลย เพียงแต่จ้องมองศัตรูด้วยสายตาที่เกลียดชัง

สาวกทุกคนได้แต่เงยหน้าขึ้นมองอย่างเศร้าใจ โดยเฉพาะเหล่าสาวกชาย เพราะนิศมาเปรียบเสมือนเทพธิดาในใจของพวกเขา

ตอนนี้นิศมาตกอยู่ในอันตรายแล้ว ในใจทุกคนต้องการหยุดผู้ร้ายคนนี้ให้ได้ แต่ก็จนปัญญาจริงๆ

“ศิษย์พี่นิศมา……” บาวันร่ำไห้ออกมา ซึ่งนิศมาเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขาบนเกาะนี้แล้ว

“พวกเจ้าไม่ต้องกังวลหรอกนะ ยังจำชายหญิงคู่นั้นได้ไหม? พวกเขาบอกว่าจะขอให้รพีพงษ์มาช่วยพวกเรา ฉะนั้นพวกเจ้าต้องอดทนให้ถึงที่สุด ต้องรอให้รพีพงษ์มาถึงก่อน เขาจะต้องเอาชนะมันได้อย่างแน่นอน!”

นิศมาพูดอย่างแน่วแน่ “พวกเจ้าต้องจำไว้ ต่อให้เรามีแค่คนเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิตไปได้ สำนักสยบเซียนของเราก็จะคงอยู่ต่อไป! วันนี้เราเป็นพี่น้องกัน ต่อให้ตายไปเราก็จะยังเป็นพี่น้องกัน!”

“ศิษย์พี่พูดถูก!”

“ใช่ครับ ไอ้หมอนี่มันต้องการให้เราพูด แต่เราจะไม่ยอมแพ้มัน ต่อให้ตายเราก็จะไม่ยอมแพ้!” หลายๆ คนเริ่มแสดงความคิดเห็น

ท่ามกลางความกดดันที่หนักหน่วงนี้ เหล่าพี่น้องของรพีพงษ์ไม่คิดจะยอมแพ้แม้จุดจบคือความตาย

บาวันสายตาล่องลอยออกไปและมองไปยังปากทางเข้าอุโมงค์อย่างไม่หยุด

รพีพงษ์เขา……จะมาจริงๆ ใช่ไหม?

หุ่นเชิดสีหน้าเย็นชา จากนั้นลากนิศมาด้วยมือข้างเดียวแล้วเดินเข้ามาใกล้เหล่าสาวกที่นั่งอยู่บนพื้น

“เด็กผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าหาญจริงๆ เลยนะ พวกเจ้าทุกคนเก่งจริงๆ นะ แต่ข้าจะคอยดูว่าหลังจากผู้หญิงคนนี้ตายต่อหน้าแล้วพวกเจ้ายังจะเก่งอีกไหม!”

จากนั้นลมหายใจของเขาก็ค่อยๆ เย็นลง

“โอกาสสุดท้าย ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้ายังไม่พูด หัวของเธอคนนี้จะร่วงลงพื้น!”

“หนึ่ง สอง……”

ทุกคนทำได้เพียงกัดริมฝีปากไว้แน่นๆ และมีหลายๆ คนต้องหันหน้าหนีเพราะทนเห็นนิศมาถูกฆ่าต่อหน้าไม่ได้

“สาม!”

หุ่นเชิดตะโกนอย่างเสียงดัง จากนั้นขวานดำที่คมกริบก็ปรากฏขึ้นมาและตัดไปที่คอของนิศมาอย่างไร้ความปรานี

นิศมาหลับตาลง และหยดน้ำตาก็ร่วงหล่นลงมาจากหางตาของเธอ ในขณะนี้ ภาพที่ปรากฏในความคิดของเธอคือฉากที่เธอกับรพีพงษ์ได้พบกันในครั้งแรก

รพีพงษ์ บางทีคุณอาจจะมาก็ได้ แต่ ฉันคงรอคุณไม่ได้แล้ว……

“ศิษย์พี่!”

บาวันตะโกนอย่างเสียงดังและกำลังจะสลบไป

แต่ก่อนที่จะหมดสติ ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นอย่างคลุมเครือคือชายร่างสูงในชุดสูทสีดำกำลังวิ่งเข้ามาจากปากทางอุโมงค์อย่างรวดเร็ว……

แสงวาบปรากฏขึ้นและพุ่งตรงเข้าหาหุ่นเชิดตนนี้

หุ่นเชิดหันกลับมามอง เขาเห็นเพียงหินก้อนหนึ่งที่พุ่งตรงเข้ามาหาเขาด้วยกำลังมหาศาล

ตูม!

ขวานดำที่คมกริบถูกชนด้วยก้อนหิน แม้จะเป็นหินก้อนเล็กแต่พลังมหาศาลมาก

หุ่นเชิดเชิดชาไปชั่วขณะ และขวานดำของเขาก็ถูกกระแทกจนร่วงลงพื้น

“ใคร!”

ในชั่วพริบตา ร่างสีดำก็ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าของเหล่าสาวกของสำนักสยบเซียน ด้วยสายตาที่เลือดเย็นของเขามองไปที่หุ่นเชิดที่อยู่ตรงหน้าอย่างเย็นชา

“ต้องขอโทษทีนะที่ทำให้ทุกคนต้องลำบาก ที่เหลือฝากให้เป็นหน้าที่ผมก็แล้วกัน”

เหล่าสาวกมองไปที่ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาด้วยความตื่นเต้น

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้นิศมาก็ลืมตาขึ้น และร่างสูงใหญ่ของรพีพงษ์ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ

“คุณมาแล้ว!” นิศมาพูดทั้งน้ำตา ดูเหมือนว่าชายหญิงเมื่อสองวันก่อนไม่ได้โกหกพวกเธอ ในที่สุดรพีพงษ์ก็มาทันเวลาจนได้

รพีพงษ์พยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ในขณะนี้ สถานการณ์ยังคงวิกฤต นิศมาอยู่ในมือของศัตรู คนของสำนักสยบเซียนทุกคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บ และอาการบาดเจ็บของนฤชัยนั้นรุนแรงที่สุด

“ปล่อยเธอไป แล้วเรามาสู้กัน!” รพีพงษ์พูดอย่างเย็นชา

“เหอะ ๆ เจ้าหนูอย่าอวดเก่งนัก ข้านภวัตอยู่บนโลกนี้มาหลายร้อยปีแล้ว ยังไม่เคยเจอคนแบบไหนอีก? ข้าขอจบชีวิตผู้หญิงคนนี้ก่อน แล้วนายเจอดีแน่!”

จากนั้นเขายกมือขึ้นเพื่อจะสังหารนิศมาอีกครั้ง

แต่รพีพงษ์เดาทางของคู่ต่อสู้ได้แล้ว ในขณะนี้ จิตวิญญาณเทพของเขาถูกปล่อยออกมาและเข้าควบคุมศัตรูเรียบร้อยแล้ว

พลังจิตวิญญาณเทพนั้นมีไว้เพื่อจัดการกับจิตวิญญาณเทพโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้นนภวัตที่ถูกจิตวิญญาณเทพของรพีพงษ์เข้าควบคุมไว้นั้นก็ไม่สามารถขับตัวได้อีก

รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้าเพื่อดึงนิศมากลับมาให้ปลอดภัยก่อน

“รพีพงษ์……”

“คุณไปรอข้างหลังก่อน”

รพีพงษ์พูดอย่างเย็นชา เพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลามาหวนนึกถึงอดีต

แม้ว่าพลังจิตวิญญาณเทพของเขาจะทำการควบคุมนภวัตได้ในทันที แต่เนื่องจากการฝึกฝนวิชาดูดพลังทิพย์ก่อนหน้านี้ จึงทำให้พลังทิพย์ในร่างกายของเขาต้องการส่วนหนึ่งของพลังจิตวิญญาณเทพเพื่อควบคุมมันไว้

ไม่เช่นนั้นถ้าหากพลังทิพย์ในร่างกายของเขาไร้การควบคุมจากพลังจิตวิญญาณเทพ รพีพงษ์ก็จะทนรับไม่ไหวอย่างแน่นอน

แม้หลายวันที่ผ่านมานี้รพีพงษ์จะรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว และพลังทิพย์ในร่างกายก็สงบลงมาก แต่เขาไม่กล้าที่จะละเลยมัน

ดังนั้น ครั้งนี้รพีพงษ์ใช้พลังจิตวิญญาณเทพเพื่อจัดการกับนภวัตเพียงแค่หนึ่งในห้าเท่านั้น จากนั้นเขาก็เก็บพลังกลับคืนไป

หลังจากพลังจิตวิญญาณถูกถอนออกไป นภวัตจึงค่อยๆ ฟื้นขึ้น

เขาขึ้นไปที่รพีพงษ์และถามว่า “นายเป็นใคร!”

“เขาคือหัวหน้าสำนักสยบเซียนของเรา รพีพงษ์!”

ศิษย์น้องคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังเขาตะโกนตอบอย่างภาคภูมิใจ

“นายก็คือรพีพงษ์ที่คิดว่าตัวเองโดดเด่นกว่าคนอื่นสินะ?”

นภวัตถามอย่างมีนัย

ไม่แปลกใจที่รพีพงษ์มีชื่อเสียงขนาดนี้ เพราะในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขาแล้ว

“ผมคือรพีพงษ์ และวันนี้ ผมมาจากเกียวโตที่ห่างจากที่นี่หลายพันไมล์ เป้าหมายเดียวก็คือมาฆ่าคุณ!”

“ฮ่า ๆ เจ้าหนู ข้ารู้ว่านายชอบอวดเก่ง แต่ไม่รู้ว่านายจะกล้าอวดเก่งได้ขนาดนี้ คิดจะฆ่าคนอย่างข้าน่ะเหรอ มันไม่ง่ายหรอก!”

จากนั้นนภวัตก็หยิบยาออกมาเม็ดหนึ่ง ซึ่งเป็นเม็ดยาสีดำเช่นเดียวกับยาที่ชยนต์กับแม่นางทอผ้าเคยเล่าให้เขาฟังอย่างไม่ผิด

รพีพงษ์ที่ชำนาญเกี่ยวกับเรื่องยาเม็ดอยู่แล้วก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้น เพราะเขาไม่ได้กลิ่นยาจากยาเม็ดสีดำนี้เลย ตรงกันข้าม เขากลับได้กลิ่นเลือดที่แรงมาก

หลังจากกินยาเข้าไป เสียงข้อต่อของนภวัตดังขึ้น ตามด้วยพลังของร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

รพีพงษ์ได้สังเกตตั้งแต่เริ่มแรกแล้วว่าคู่ต่อสู้อยู่ในระดับแดนดั่งเทพ

แต่หลังจากที่นภวัตกินยาเม็ดนี้ลงไปเขาก็ยกระดับไปถึงแดนเทพในทันที!

“เป็นไปได้ไง? ยาเม็ดสีดำนี้มันคืออะไรกันแน่!”

นภวัตสายตาคมดั่งปลายมีด “นายไม่เคยได้ยินนักหลอมโอสถวิญญาณหรือ?”

“นักหลอมโอสถวิญญาณ?”

นภวัตพูดอย่างดูถูก “นักหลอมโอสถวิญญาณจะหลอมยาที่เป็นประโยชน์ต่อหุ่นเชิดอย่างพวกเราเท่านั้น และมันจะเพิ่มพลังให้เราได้ในทันที”

รพีพงษ์ยืนอยู่กับที่ด้วยความงุนงง เขาไม่ได้เคยได้ยินชื่อของคนกลุ่มนี้เลย บางทีแม้แต่จิรภัทรก็อาจไม่รู้จักด้วยซ้ำ

“เอาล่ะ ข้าจะให้นายเห็นถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอง!”

เมื่อพูดจบนภวัตก็ชกหมัดที่มีพลังมหาศาลออกมา ซึ่งดูเหมือนเป็นพลังที่สามารถตัดผ่านอากาศได้

“รพีพงษ์!”

นิศมาและคนอื่นๆ เฝ้ามองดูอย่างกังวล สำหรับพลังหมัดของศัตรูนั้น พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อนเลย

แต่รพีพงษ์ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ และในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามออกหมัด เขาก็ได้สวนกลับด้วยกำปั้นของเขาเช่นกัน

“ดิ้นหาที่ตายชัดๆ!”

นภวัตพูดอย่างเย่อหยิงและรู้สึกมั่นใจมาก!

ตูม!

หมัดพุ่งชนกันกลางอากาศ รอบด้านของทั้งสองฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว!

สาวกทุกคนดูกังวลและมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความกลัว

แต่หลังจากฝุ่นค่อยๆ จางลง รพีพงษ์กับนภวัตยังยืนอยู่กับที่ เพียงแต่สีหน้าของนภวัตดูเปลี่ยนไป

“นาย……นายเป็นแดนเทพด้วย?”

รพีพงษ์ไม่ได้ตอบกลับ และไม่ได้ปฏิเสธฝ่ายตรงข้าม

แต่ศิษย์พี่ศิษย์น้องสำนักสยบเซียนของเขากลับรู้สึกก็ตกใจจนอ้าปากค้างกันหมด

คนที่ถูกชัชพิสิฐเลือกนั้นล้วนมีฝีมือที่อยู่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าต้องเทียบกับรพีพงษ์แล้ว ฝีมือของพวกเขาช่างอ่อนแอเหลือเกิน!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท