พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1312 เจ้าสำนักภาณิน

บทที่ 1312 เจ้าสำนักภาณิน

ไอ้หมอนี้สมควรตาย!

นรียาและพชรจ้องไปที่รพีพงษ์อย่างเย็นชา เมื่อสักครู่ตอนที่ตนเองลงมือกับทหารสองคนนั้น รพีพงษ์ไม่ได้ยื่นมือเข้ามายุ่ง แต่ตอนนี้อีกฝ่ายบอกอะไร ไอ้หมอนี้ก็เห็นด้วย

ช่างเป็นผู้ชายที่ขี้ขลาดสิ้นดี!

นรียาให้ป้ายกำกับรพีพงษ์ว่าเป็นคนขี้ขลาดแล้ว

ทหารหลายสิบคนที่ท่าทางเคร่งขรึมเดินไปข้างหน้า ไม่พูดอะไรสักคำ แล้วมีดยาวหลายเล่มก็จ่อไปที่หลังของพวกเขาทั้งสามคน

“ไป!”

ทั้งสามถูกพาตัวไป และเดินมุ่งตรงไปข้างหน้า

รพีพงษ์ไม่แยแส ก็แค่มีดยาว เพียงแค่ตนเองต้องการ ก็สามารถยึดมีดและฆ่าพวกเขาเสร็จภายในไม่กี่วินาที เพียงแต่รพีพงษ์รู้สึกว่าสถานที่นี้แตกต่างจากบ่อน้ำมังกร ที่นี่ปิดผนึกพลังเทพของตนเองไว้ ทำให้ไม่สามารถใช้ผลการฝึกตนได้

นี่คือเหตุผลว่าทำไมสองคนนั้นจึงไม่สามารถเสกอาวุธออกมาได้

นอกจากนี้ เมื่อผลเทพมีความสำคัญมากเช่นนี้ ทางที่ฉลาดที่สุดคือ ถามเจ้านายของที่นี่

ไม่คิดว่า การเข้ามาที่แดนลับคราวนี้จะน่าอัศจรรย์ขนาดนี้ ถ้าบ่อน้ำมังกรคือแดนลับแห่งแรก เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ตอนนี้สถานที่ที่เปรียบเสมือนสรวงสวรรค์แห่งนี้ จะเป็นแดนลับที่สอง

แดนลับในแดนลับ!

รพีพงษ์ยากที่จะจินตนาการว่า ใครเป็นผู้สร้างแดนลับเช่นนี้ขึ้นมา

ทหารที่ร่างสูงใหญ่กำยำสองคนพานรียา พชรและรพีพงษ์เดินไป หลังจากเดินไปประมาณสิบนาที พวกเขาก็มาถึงที่ที่คล้ายกับปราสาท

รพีพงษ์มองขึ้นไป เห็นปราสาทสูงตระหง่าน และกำแพงที่สูงจนเหมือนราวกับว่าแม้แต่นกอินทรีก็ไม่สามารถบินข้ามได้

ด้านนอกปราสาทมีแม่น้ำ ถึงแม้ว่าแม่น้ำจะไม่กว้างมาก แต่ก็สามารถขัดขวางการรุกของศัตรูได้

หลังจากสื่อสารกับทหารยามของกำแพงเมืองแล้ว ตะแกรงไม้ขนาดใหญ่ก็ถูกลดระดับลงอย่างช้า ๆ

“ไป!”

ทหารสวมเกราะสีดำพูดกับทั้งสามคน

พชรดูหงุดหงิดมาก ส่วนนรียายังคงเย็นชา เธอไม่สนใจเลยว่าตนเองจะถูกมีดจ่ออยู่ที่คอ

รพีพงษ์เดินเข้าไปในปราสาท

เขามองไปรอบ ๆ เป็นอันดับแรก โดยหวังว่าจะพบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับผลเทพ

แต่ว่า แดนลับนี้วิเศษเกินไป ทำให้ตนเองไม่สามารถใช้พลังจิตวิญญาณได้ ดังนั้นรพีพงษ์จึงไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากนัก

เมื่อเข้าไปในปราสาทแล้ว เห็นทุ่งหญ้าเขียวขจี และทางเดินที่มีหินกรวดทอดยาวไปถึงใจกลางวังอันงดงามที่อยู่ข้างหน้า

ทุกสองเมตรจะมีทหารถือปืนประจำอยู่ยืนอยู่ทั้งสองด้านตลอดเส้นทาง พวกเขามองทั้งสามคนด้วยสายตาที่เฝ้าระวัง

เห็นได้ชัดว่า สำหรับพวกเขาแล้วรพีพงษ์ พชร และนรียาถูกมองว่าเป็นผู้บุกรุก

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสามคนก็มาถึงประตูวัง ทหารสองสามคนเดินไปข้างหน้า ควบคุมตัวทั้งสามคนไว้ ขณะที่ทหารที่สวมชุดเกราะสีดำผลักประตู และเดินเข้าไปในวัง

สักพัก ก็มีเสียงผู้ชายดังมาจากข้างใน

“นำผู้บุกรุกทั้งสามคนนั้นเข้ามา!”

รพีพงษ์และชายหญิงคู่นั้น เดินเข้าไปในวังพร้อมกัน

มองไปรอบ ๆ ในฐานะคนของตระกูลลัดดาวัลย์ เขาสามารถมองออกว่า แจกันลายครามที่วางอยู่ในวังนี้ น่าจะมีประวัติยาวนานถึงห้าร้อยปี

ทุกชิ้นที่ตั้งโชว์ไว้ หากนำทั้งหมดออกไปสู่โลกภายนอก สามารถเรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่า

แม้แต่รพีพงษ์ก็ยังแอบชื่นชมว่า ในวังนี้มีโบราณวัตถุมากกว่าตระกูลลัดดาวัลย์อีก

พชรในฐานะที่อยู่ในตระกูลใหญ่อย่างหอกวยหลาย สายตาของเขาก็ย่อมไม่ธรรมดาเช่นกัน

เมื่อเห็นสมบัติล้ำค่ามากมาย เขาก็เกิดความคิดว่าถ้าเสร็จงานแล้วเขาจะปล้นสมบัตินี้ไปทั้งหมด

หลังจากเดินไปอีกหลายสิบก้าว รพีพงษ์มองด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม บนบัลลังก์ของราชาที่อยู่ตรงหน้า มีชายชราผมหงอกและสวมชุดจีนกำลังนั่งอยู่บนนั้น

ไม่มีความรู้สึกใดอยู่บนใบหน้าของชายชรา แต่รพีพงษ์ยังคงรู้สึกได้ว่า สำหรับสามคนรวมตนเองแล้ว ชายชราดูไม่สบอารมณ์มากที่สุด

“คุกเข่าลง!”

ทหารที่อยู่ทั้งสองฝั่งโห่ร้องพร้อมกัน ทำให้มีเสียงดังก้องในห้องโถง

“มีสิทธิ์อะไร ให้ฉันคุกเข่า!”

นรียากล่าวอย่างไม่พอใจ

“คุกเข่าลง!”

ทหารทั้งสองฝั่งโห่ร้องอีกครั้ง

“ฉันจะไม่คุกเข่าลง ไอ้ตาเฒ่า ฉันเดินอยู่บนทะเลทรายมาหลายวันแล้ว เมื่อสักครู่ก็เกือบถูกมังกรยักษ์กิน ไม่ง่ายเลยที่จะหาที่นี่จนพบ คุณนั่งอยู่บนเก้าอี้ แล้วจะให้ฉันคุกเข่าลง? ฝันไปเถอะ!” นรียากล่าวอย่างเย่อหยิ่ง

ซึ่งแน่นอนว่าพชรนั้นสนับสนุนน้องสาว ในฐานะลูกชายของเจ้าของหอกวยหลาย ปกติเขาเป็นคนที่ออกคำสั่งให้คนอื่นปฏิบัติตาม แล้วเขาจะคุกเข่าให้ชายชราในแดนลับนี้ได้อย่างไร?

บนบัลลังก์ เจ้าของวังมองดูทั้งสามคน ขณะนี้เอง ทหารที่สวมชุดเกราะสีดำเดินไปข้างหน้านรียา

“คุณกำลังจะทำอะไร ยังไม่รีบไปเอาเก้าอี้มาให้พวกเรานั่ง!” นรียาไม่ได้ตระหนักถึงเจตนาฆ่าที่ฉายแววอยู่ในดวงตาของอีกฝ่าย

ดวงตาของชายสวมชุดเกราะดำสงบลง แต่ทันใดนั้น มีดยาวในมือของเขาก็ฟันตรงไปที่ขาของนรียาทันที

“น้อง ระวังตัวด้วย!”

พชรตะโกนเสียงดัง แต่ปฏิกิริยาของเขาช้าเกินกว่าที่จะผลักนรียาออกไป

ในเวลานี้เอง รพีพงษ์ซึ่งยืนอยู่ข้างนรียา ที่สนใจกับทุกการเคลื่อนไหวของชายสวมชุดเกราะสีดำตั้งแต่เดินเข้ามาที่นี่แล้ว

ตอนนี้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสะบัดมีดและกำลังจะฟัน เขามีปฏิกิริยาตอบสนองเป็นคนแรก โดยยื่นมือออกไปดึงนรียาทันที

เพียงแต่ เนื่องจากสถานการณ์กะทันหัน รพีพงษ์ใช้แรงมากเกินไป

นรียาของน้ำหนักที่ไม่ถึงร้อยปอนด์ เมื่อถูกรพีพงษ์ใช้แรงดึง เธอจึงเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของรพีพงษ์ทันที

พชรที่อยู่ด้านข้างเห็นน้องสาวของตนเองถูกรพีพงษ์กอด ดวงตาฉายแววโกรธแค้น

โชคดีที่นรียาตระหนักได้ เธอดิ้นรนแล้วหลุดจากอ้อมแขนของรพีพงษ์ทันที

เธอเหลือบมองรพีพงษ์แวบหนึ่ง คิดถึงเรื่องก่อนหน้านั้นที่อยู่บ่อน้ำมังกร ชายที่อยู่ตรงหน้าได้ช่วยตนเองไว้สองครั้ง และตอนนี้ก็ช่วยตัวเองให้รอดจากการถูกมีดยาวฟันอีกครั้ง

เธอเริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าไอ้หมอนี้ คงชอบตนเองแน่นอน!

รพีพงษ์ไม่รู้ความคิดของอีกฝ่าย ดวงตาของเขาสงบ เหตุผลที่เขาช่วยนรียา เป็นเพราะเขารู้สึกว่าคนที่ยอมตายดีกว่าคุกเข่า ถือว่ามีความหยิ่งในศักดิ์ศรีอยู่ไม่น้อย แต่เรื่องนี้ไม่สามารถลดความรังเกียจของรพีพงษ์ที่มีต่อผู้หญิงที่หยิ่งผยองคนนี้ได้

ทหารที่สวมชุดเกราะสีดำพลาดการโจมตี จากนั้นก็มองไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาที่เย็นชา

รพีพงษ์ก็ไม่ลดละ แม้ว่าจิตวิญญาณเทพและพลังเทพของตนเองจะไม่สามารถใช้ได้ แต่อย่าลืมว่าตนเองเป็นคนที่ได้รับพลังเน่ยจิ้งและพลังวิเศษเสน ด้วยพลังเหล่านี้ รพีพงษ์มีความมั่นใจว่า คนที่อยู่ที่นี่ไม่มีใครสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของตนเองได้

ด้วยสถานการณ์ตึงเครียด รพีพงษ์ได้เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้กับอีกฝ่ายแล้ว

ขณะนี้เอง ชายชราที่นั่งอยู่บนแท่นสูงกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ณรงค์ คุณถอยไป”

หลังจากได้ยินดังนั้น ทหารสวมชุดเกราะสีดำก็ไม่พูดอะไร เดินไปยืนอยู่ด้านข้าง

สถานการณ์ที่ตึงเครียดผ่อนคลายลงด้วยคำพูดของชายชราคนนั้น

พชรรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย แต่นรียารู้สึกว่าอีกฝ่ายทำเช่นนั้นเพราะกลัวตนเอง ดังนั้นเธอจึงหยิ่งผยองมากยิ่งขึ้น

มีเพียงแต่รพีพงษ์เท่านั้นที่พบว่า ทหารผู้ใต้บังคับบัญชาเชื่อฟังคำสั่งของชายชราอย่างเด็ดขาด ทำให้เขารู้สึกชื่นชมเป็นยิ่งนัก

ชายชรากล่าวอย่างช้า ๆว่า “ผมชื่อภาณิน เป็นเจ้าของวังแห่งนี้ พวกคุณสามคนนี้สามารถผ่านการทดสอบของบ่อน้ำมังกรจนมาถึงที่นี่ พวกคุณจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งในโลกภายนอกแน่นอน หลายร้อยปีมาแล้ว พวกคุณเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถมายืนอยู่ในวังแห่งนี้ได้ ช่างน่าชื่นชมจริง ๆ”

“ในเมื่อคุณรู้ว่าพวกเราเก่ง งั้นก็รีบเอาผลเทพออกมา” นรียากล่าว

ภาณินยิ้มเล็กน้อย และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “สาวน้อย ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะมาตัดสินใจได้

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท