พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1324 ทุกคนต้องตาย

บทที่ 1324 ทุกคนต้องตาย

หลังจากที่พชรรู้พลังที่แท้จริงของชายตรงหน้าแล้วนั้น ก็ไม่ได้อวดเก่งอะไรขึ้นมาอีก

ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน หรือว่าพลังฝีมือ รพีพงษ์ก็มีมากกว่าเขาหลายขุม ยิ่งกว่านั้น ต่อให้เป็นแดนลับ ที่ไม่สามารถใช้พลังบำเพ็ญได้ แต่ขอเพียงรพีพงษ์ยินยอม ก็สามารถฆ่าฝั่งตรงข้ามได้ง่ายๆ

“พี่คะ ไม่ต้องสนใจฉัน พี่รีบหนีไป!”

นรียาตะโกนเสียงดังพูดกับพชร

“พี่…….ไม่ไปไหนทั้งนั้น” พชรกล่าว แล้วก็มองไปยังรพีพงษ์ “ประมุกรพี ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ปล่อยน้องสาวผมเถอะ มีอะไรพวกเราก็มาคุยกันดีๆ”

“พูดกันดีๆๆ งั้นหรือ?” รพีพงษ์ยิ้มเย็น “เมื่อครู่นี้น้องสาวของคุณมาลอบโจมตีผม พอไม่สำเร็จก็มาจับคุณวาวไว้เป็นตัวประกัน คุณคิดว่า เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันงั้นหรือ?”

พชรมองนรียาด้วยสายตาสับสน “น้องพี่ พี่บอกแล้วไง ให้ตามประมุกรพีไปอย่างเดียว แล้วพูดกับประมุกรพีดีๆ ถ้าเขาไม่ยอมให้ผลทิพย์ เธอก็ไม่เห็นจะต้องทำร้ายประมุกรพีเลยนี่!”

นรียาก็ทำหน้าฉงน ตอนที่ตนเองเดินออกมานั้น พี่ชายตนไม่ได้บอกแบบนี้กับตนเลยนะ

“ประมุกรพีเป็นใครรู้ไหม เขาเป็นถึงยอดคนแห่งประเทศจีน เป็นคนที่เธอกับฉันจะต่อกรได้ด้วยไหวหรือ? เธอนี่นะ ทำเรื่องอะไรก็ไม่ใช่หัวคิดเสียหน่อยเลย”

เกลียดตัวกินไข่ พชรหันมามองรพีพงษ์ “ประมุกรพี คุณเอาน้องสาวไม่เอาคนนี้มาให้ผมเถอะ เดี๋ยวผมจะสั่งสอนเธอแทนคุณเอง!”

นรียาก็เลยเข้าใจความหมายพชรที่ทำลงไป ที่เขาพูดแบบนั้น ก็เพื่อช่วยตนเองออกมาจากเงื้อมมือของรพีพงษ์

ที่นี้ เธอก็ยิ่งเชื่อใจพชรมากกว่าเดิม

รพีพงษ์ไม่เฟยสีหน้า แต่พูดเบาๆ ว่า “พชร คุณก็แสดงละครเก่งไม่เบาเลยนะ ให้ผมคืนน้องสาวให้คุณ คุณคิดว่ามันเป็นไปได้หรือ?”

“เอ่อ……..”

พชรมองนรียาอย่างทำอะไรไม่ถูก

เนื้อตัวของตนเองก็ยังบาดเจ็บ ต่อให้แข็งแรงเป็นปกติทุกอย่าง ตนเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของรพีพงษ์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้เลย

“น้องพี่ พี่ทำเต็มที่แล้วนะ อย่าโทษพี่ก็แล้วกัน” พชรพูดออกมา

นรียาน้ำตาคลอ แล้วพยักหน้าพูดว่า “ฉันรู้ค่ะพี่ ชีวิตนี้พี่ทำดีกับฉันที่สุด พี่รีบหนีออกไปจากที่นี่เถอะ”

พชรพยักหน้า แล้วกันตัวไปโดยไม่ลังเล

“รอเดี๋ยว!”

รพีพงษ์พูดเสียงเย็นอยู่ด้านหลังเขา

พชรหันหน้ากลับมา แล้วเห็นใบหน้าที่ยิ้มไม่เหมือนยิ้มของรพีพงษ์พอดี

“จะไปง่ายๆ แบบนี้เลยหรือ หรือว่าคุณจะไม่ยอมช่วยน้องสาวคุณหน่อยหรือ?” รพีพงษ์ถาม

“ช่างเถอะ รพีพงษ์ คุณไม่คิดจะปล่อยฉันไปอยู่แล้ว งั้นก็ปล่อยพี่ชายฉันไปเถอะ จะฆ่าก็ฆ่า จะพูดมากไปทำไมกัน!” นรียากล่าว

พชรกัดฟัน สายตาก็มองไปยังฝั่งของรพีพงษ์

ในเมื่อรพีพงษ์ไม่ให้ตนเองไป งั้นต่อให้ตนเองหนี ก็คงจะทำไม่ได้แน่

รพีพงษ์มีสีหน้านิ่ง แล้วมองพชรพูดว่า “วันนี้ พวกคุณสองคน ใครก็อย่าหวังว่าจะหนีไปได้!”

พอได้ยินดังนั้น พชรก็เผยสีหน้าหวาดกลัวออกมาทันที เขารีบปัดมือพูดว่า “ประมุกรพี คุณหมายความว่าอย่างไร แต่เรื่องทั้งหมดมันไม่เกี่ยวกับผมเลยนะ ทำไมถึงรวมผมเข้าไปด้วยล่ะ”

“พี่คะ อย่าไปกลัวมัน แค่ก็ตาย วันนี้ได้ตกอยู่ในเงื้อมมือของรพีพงษ์ ก็ถือว่าพวกเราดวงซวย ชาตินี้ไม่มีวาสนาได้อยู่ด้วยกัน งั้นพวกเราก็มาตายด้วยกันเถอะ!” นรียาพูดด้วยท่าทางจริงจัง

พอพชรได้ยิน ก็พูดเสียงดังออกมา “ยัยผู้หญิงโง่ อยากตายก็ไปตายคนเดียวสิ กูเป็นถึงนายน้อยของโฮมสเตย์คัมแบคในอนาคต จะไปตายกับแกทำไมล่ะ!”

“พี่คะ นี่พี่…….” นรียามีสายตาที่ตกใจ “ทำไมพี่พูดออกมาแบบนี้ล่ะ? ก่อนหน้านี้พี่บอกเองไม่ใช่หรือว่า ต่อไปนี้เราจะตายไปด้วยกัน? หรือว่า พี่ลืมที่ตัวเองพูดไว้แล้ว”

“พี่พูดออกไปตั้งมากมาย จำได้ที่ไหนกัน!” พชรกล่าว “เธอก็เป็นแค่ญาติพี่น้องจนๆ จากแดนไกลเท่านั้น คงไม่คิดว่าพี่จะสู่ขอเธอแต่งงานจริงๆ หรอกนะ?”

“พี่คะ!” นรียาน้ำตานองอาบสองแก้ม “ถึงแม้ฉันจะเป็นญาติห่างๆ แต่ตั้งแต่เด็กก็เข้ามาอยู่ในโฮมสเตย์คัมแบคแล้ว พวกเราสองคนก็ไปไหนมาไหนด้วยกันทั้งวัน ไม่ระแวงอะไรกัน ความสัมพันธ์มันก็พัฒนามาเรื่อยๆ หรือว่า ทุกอย่างมันการเสแสร้งหรือคะ?”

“พูดมาก!”

พชรสะบัดมืออย่างแรง แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ ว่าบ้านของเธอมีแผนชั่วอะไร มาอยู่บ้านพีตั้งแต่เด็ก ก็แค่อยากได้วิชาการต่อสู้ของบ้านพี่มากกว่า”

“นี่…..ทำไมพี่พูดแบบนี้” นรียากล่าว

พชรยิ้มเย็น “จิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างเธอน่ะ ตั้งแต่วันที่มาถึงบ้านพี่ ก็มีแผนในใจแล้ว อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไร ก็แค่อยากจะได้โฮมสเตย์คัมแบคของพวกเราล่ะสิ!”

“พชร!”

นรียาตะโกนอย่างโมโห “ฉันจริงใจกับพี่ แต่พี่มาพูดกับฉันแบบนี้ ฉัน ฉันเกลียดพี่!”

“เกลียดก็เกลียดไปเถอะ”

พชรพูดเสียงขรึม “ประมุกรพี ผู้หญิงคนนี้ก็ให้คุณจัดการก็แล้วกัน จะฆ่าจะแกงก็ตามใจเลย ส่วนผลทิพย์ ผมก็ไม่คิดจะอยากได้มันอีกแล้วล่ะ ขอเพียงวันพรุ่งนี้พวกเราสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย หลังจากนี้ โฮมสเตย์คัมแบคของพวกเราจะรับฟังคำสั่งของตระกูลลัดดาวัลย์”

“จะเป็นลูกน้องของตระกูลลัดดาวัลย์ โฮมสเตย์คัมแบคของพวกคุณยังไม่คู่ควร” รพีพงษ์ตอบไปอย่างเย็นชา

พชรก็พูดไม่ออก

ความยิ่งใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ทรัพย์สินที่มากมาย ทั้งประเทศจีนก็ไม่มีใครกล้าเปรียบ

เมื่อเทียบกับตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกเขาแล้ว โฮมสเตย์คัมแบคจะเป็นแค่ตัวอะไรกัน

พชรก็สามารถรับรู้ได้ถึงความแตกต่างนี้ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันบังคับ และรพีพงษ์ก็เพิ่งบอกไปว่าจะไม่ปล่อยตนเองไป เขาก็เลยจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางให้รพีพงษ์ดีใจ

ส่วนทางฝั่งนี้ นรียาก็เศร้าสร้อย ไม่คิดเลยว่า พชรจะพูดออกมาแบบนี้

“ประมุกรพี ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร คุณถึงจะยอมปล่อยผมไปจากที่นี่ อาการบาดเจ็บบนตัวผมต้องการพักฟื้น” พชรพูดกับรพีพงษ์อย่างน่าสงสาร

รพีพงษ์ก็ไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับผู้ชายตรงหน้า

“ถ้าพวกคุณอยากมีชีวิตรอด จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีนะ” รพีพงษ์กล่าว “แต่ว่า มันต้องอาศัยการตัดสินใจของพวกคุณด้วย”

พอได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนั้น พชรก็รู้ว่าทุกอย่างมันยังมีทางรอด เขาก็เลยรีบพูดว่า “ประมุกรพี คุณรีบบอกมาเลย ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟผมก็ยอม ขอเพียงวันนี้คุณยอมปล่อยผมไปก็พอ”

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไร ก็แค่หมาตัวหนึ่งที่กระดิกหางเท่านั้น ตนเองไม่ต้องไปสนใจอะไร

ทางนี้ รพีพงษ์ก็ยื่นมือไปทางหน้าอกของนรียา

“คุณจะทำอะไรน่ะ!” นรียาจะปกป้องหน้าอกตนเองโดยสัญชาตญาณ แต่ทว่า อาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ทำให้เธอยกมือได้แค่ข้างเดียว มืออีกข้างขยับไม่ได้เลย

“นี่พี่ เอามือลงเดี๋ยวนี้!”

พชรพูดอยู่ข้างๆ เขาเห็นรพีพงษ์ทำท่าทางแบบนี้ออกมา ก็เลยนึกว่ารพีพงษ์สนใจในตัวของนรียา แล้วมาลองใจกับตนเองเท่านั้น

ก็แค่เสียสละนรียาไปเท่านั้น พชรไม่สนอะไรอยู่แล้ว

ขอเพียงได้ออกไปจากแดนลับนี้ ด้วยความสามารถและชาติตระกูลของตนเองนั้น จะหาผู้หญิงแบบไหนก็ได้

พอเห็นว่าพี่ชายตนเองไม่สนใจว่าตนเองจะถูก “รังแก” แต่กลับให้ตนเองเอามือลงห้ามตอบโต้ นรียาก็ยิ่งเศร้าใจมากกว่าเดิม

“ตอนนี้ เห็นรึยังว่าพี่ชายของเธอนั้นเป็นคนแบบไหน” รพีพงษ์พูดเสียงต่ำกับนรียา

นรียาก็มองรพีพงษ์นิ่งๆ “ตอนนี้คุณก็เหมือนกับเขาไม่ใช่หรือไงล่ะ หน้าไม่อาย!”

รพีพงษ์ยิ้มเย็นที่มุมปาก “คุณคิดมากไปแล้วล่ะ ผมเคยบอกไว้ ว่าผมไม่สนใจในตัวคุณ”

พูดไป รพีพงษ์ก็ขยับอย่างรวดเร็ว พุ่งไปยังกระเป๋าเสื้อของเธอ

จริงด้วย ยาพิษเม็ดเมื่อคืนที่จะเอาวางยาให้ตนเองนั้น ตอนนี้มันก็ได้มาอยู่ในมือของรพีพงษ์

พอมองๆ ไป รพีพงษ์ก็ตัดสินได้ว่า ยาพิษเม็ดนี้เป็นเพียงยาระดับต่ำเท่านั้น

ส่วนตนเองได้เป็นถึงกายซูร่า ยาพิษระดับนี้ ไม่เกิดผลอะไรกับตนเองหรอก

“ยาพิษเม็ดนี้ คุณคุ้นๆ มันไหม?” รพีพงษ์หยิบมันไว้ แล้วพูดกับพชร

พชรก็หน้าเสีย แล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไร

รพีพงษ์โยนยาพิษในมือเล่นไปมา แล้วมองทั้งสองคนอย่างสนุก “พิษของยาเม็ดนี้ คาดว่าทั้งสองท่านคงจะรู้ดี วันนี้พวกคุณทั้งสองคน จะรอดไปได้แค่คนเดียว จะเป็นหรือตาย พวกคุณตัดสินเอาเองแล้วกัน”

พูดไป เขาก็เอายายื่นใส่มือของนรียา “คุณกินมันเอง หรือว่าคุณจะให้เขากินแทน คุณตัดสินใจแล้วกัน”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท