ณรงค์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
“ผม….ผมชนะแล้วงั้นหรือ?”
ณรงค์พูดออกมาโดยไม่อยากจะเชื่อ
รพีพงษ์ก็ลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วมายืนตรงหน้าณรงค์ พร้อมยิ้มพูดว่า “คมดาบของคุณทำร้ายผมจนบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ผมก็คงจะไม่ล้มลงพื้น การประลองครั้งนี้ คุณชนะแล้ว ผมยอมแพ้จากใจ”
“แต่ว่าผม……..”
“อย่าพูดให้มากไป ผมสนองความต้องการของคุณและคนรักของคุณ มันไม่ใช่เรื่องดีหรือไง?”
รพีพงษ์เข้ามาพูดเบาๆ ตรงหน้าณรงค์ แล้วก็มองไปรอบๆ เวที
ภาณินก็หน้าเขียว ผลลัพธ์แบบนี้เขาคาดไม่ถึงเลย แต่วรันธรก็กลับเบาใจลง
ในเมื่อรพีพงษ์ไม่ได้ทำผิดต่อกติกาที่ตั้งไว้ ตนเองก็จะต้องทำตามข้อตกลงที่จะให้ผลทิพย์แก่รพีพงษ์
รพีพงษ์ที่ยืนอยู่บนเวลทีประลอง ก็มองไปยังภาณิน แล้วพูดเสียงดังออกมาว่า “เจ้าสำนักภาณิน การประลองได้จบลงแล้ว ดูเหมือนว่าคุณจะสั่งการทหารของคุณได้ดี ผมได้สู้สุดฝีมือแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สามารถต่อกรได้”
ภาณินมุมปากกระตุกเล็กน้อย แล้วพูดเสียงต่ำว่า “รพีพงษ์ คุณได้สู้สุดฝีมือแล้วจริงหรือ? หรือว่าจะแกล้งล้มมวย? คิดว่าผมดูไม่ออกหรือไง ผมเป็นคนที่หลอกง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง?”
รพีพงษ์ก็ยิ้มเบาๆ “นี่มันเป็นเรื่องจริง ในเมื่อณรงค์ชนะเป็นอันดับหนึ่ง งั้นรางวัลการประลองในครั้งนี้ก็ควรเป็นของณรงค์ คุณวาว คุณเห็นด้วยไหมครับ?”
วรันธรก็หน้าแดง แล้วก้มหน้าพูดว่า “ฉัน…..ไม่มีความเห็นอะไร”
ภาณินก็ขมวดคิ้ว “วาว แกเป็นอะไรไป? แกคงจะไม่อยากแต่งงานกับณรงค์จริงๆ หรอกใช่ไหม เขาเป็นแค่ทหารธรรมดาๆ เท่านั้นนะ”
“พ่อคะ พ่อเป็นคนตั้งกติกาเอง ว่าให้ประลองฝีมือเลือกคู่ หนูก็แค่ทำตามคำสั่งของพ่อเท่านั้น” วรันธรกล่าว
“เหลวไหล!”
ภาณินโมโหหนัก “เรื่องนี้ ไว้ค่อยว่ากัน!”
พูดจบ เขาก็เตรียมจะเดินออกไปอย่างโมโหโกรธา
รพีพงษ์ก็พูดอย่างข้างหลังว่า “ภาณิน คุณก็เป็นถึงเจ้าสำนัก จะพูดกลับไปกลับมาแบบนี้ ไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะเอาหรือไงกัน?”
พอภาณินได้ยินดังนั้น สีหน้าก็แย่กว่าเดิม “รพีพงษ์ คุณกล้าพูดกับผมแบบนี้งั้นหรือ!”
“ทำไมจะไม่กล้าล่ะ!” รพีพงษ์มีสายตาไม่เกรงกลัว
“คุณคิดว่าผมจะให้ใครมาหัวเราะเยาะได้หรือ?” ภาณินยืดตัวพูด แล้วมองไปรอบๆ “ที่นี่ก็มีแต่คนของผม คุณไปถามดูสิ ว่าใครมันจะกล้ามาหัวเราะเยาะผม!”
พอพูดออกไป ทหารทุกคนก็ก้มหน้าลงไปตามกัน
ที่นี่นั้น ภาณินมีศักดิ์มีศรีสูงที่สุด
“เจ้าสำนักภาณิน คุณไม่รู้หรือว่า ผู้ชายที่ลูกสาวของคุณชอบจริงๆ ก็คือณรงค์ หัวหน้ากองทหาร” รพีพงษ์พูดอีกครั้ง
“คุณพูดเหลวไหล! ลูกสาวของผมจะไปชอบลูกน้องของตนเองได้อย่างไรกัน!” ภาณินตวาดออกมา
“ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามเธอดูสิครับ!”
รพีพงษ์พูดเสียงดังว่า “เป็นถึงพ่อคน แม้แต่จิตใจของลูกสาวคิดอย่างไรก็ไม่รู้ เสียแรงที่เป็นพ่อคนจริงๆ เลย!”
“นี่คุณ!”
ภาณินมองขวางรพีพงษ์ จากนั้นก็รีบพูดกับวรันธรว่า “วาว ที่เขาพูดมามันเป็นเรื่องจริงใช่มั้ย แกคงจะไม่ไปชอบไอ้ณรงค์นั่นจริงๆ ใช่ไหม!”
“พ่อคะ หนู…….”
วรันธรเม้มปากตนเองแน่น เธอเคยไว้ว่าพ่อตนเองจะต้องไม่เห็นด้วยแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าภาณินจะตอบสนองรุนแรงแบบนี้
เธอก็มองไปด้านล่างเวที ในตอนนี้ สีหน้าของณรงค์ก็ยังคงนิ่ง ไม่เห็นอารมณ์ใดๆ แต่ก็สามารถเดาได้ว่า ตอนนี้ในใจของเขาคงจะร้อนลุ่มไม่เบาเลยทีเดียว
“คุณวาว คุณลืมคำพูดที่ผมบอกกับคุณไว้เมื่อคืนแล้วหรือ? ความสุขของตนเอง จะต้องพยายามคว้ามันมาด้วยตนเอง!” รพีพงษ์พูดเสียงดัง
วรันธรก็กำมือแน่น แล้วพูดเสียงเบาว่า “พ่อคะ ตั้งแต่เด็กจนโต หลังจากที่แม่เสียไป หนูก็ไม่เคยขัดคำสั่งของพ่อเลยแม้แต่ครั้งเดียว พ่อให้หนูเป็นอย่างไร หนูก็เป็นอย่างนั้น ตอนนั้นหนูคิดว่าชีวิตของหนูอยู่ต่อไปก็เพื่อพ่อ และมันก็ควรเป็นแบบนั้น แต่ครั้งนี้ เรื่องงานแต่งของหนู หนูอยากตัดสินใจด้วยตัวของหนูเองค่ะ!”
“แกตัดสินใจเองงั้นหรือ? ได้สิ ตอนนี้แกโตแล้วนี่ ปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่นะ!”
ภาณินพูดเสียงดังว่า “แกไม่รู้หรือว่า ที่พ่อทำทุกอย่าง ก็เพื่อแกทั้งนั้น”
วรันธรน้ำตาคลอเบ้า “พ่อคะ หนูขอร้องล่ะค่ะ ครั้งนี้ให้หนูตัดสินใจเองเถอะค่ะ ต่อให้ต้องโขกหัวจนเลือดออก หนูก็ไม่เสียค่ะ”
“นี่แก!”
ภาณินยกมือขึ้น ทำท่าจะตบปากวรันธร
“ฝ่ายหญิงเธอก็กล้าพูดออกมาแบบนี้แล้ว คุณนี่นะ สู้ผู้หญิงไม่ได้เลยหรือไงกัน?” รพีพงษ์พูดอยู่ข้างๆ ณรงค์
ใบหน้านิ่งๆ ของณรงค์ ในที่สุดก็มีสีหน้าขึ้นมา
เขากล้าก้าวขาออกไปพูดเสียงดังว่า “เจ้าสำนักครับ กระผมขอร้องล่ะ อย่าไปโมโหใส่คุณหนูน้อยเลย ถ้าจะลงโทษก็ลงโทษผมเองเถอะครับ!”
“นี่เอ็ง พวกเอ็ง!พวกเอ็งจะกบฏกันใช่ไหมห้ะ!” ภาณินพูดเสียงดังออกมา
“กระผมมิกล้าครับ กระผมจริงใจกับคุณหนูน้อยจริงๆ ในเมื่อเจ้าสำนักไม่ยอมให้คุณหนูน้อยแต่งงานกับผมล่ะก็ ผมก็ขอยอมติดตามคุณหนูน้อยไปทั้งชีวิต ขอเพียงแค่ผมได้เห็นเธอทุกวันผมก็สุขใจแล้ว” ณรงค์กล่าว
“พ่อคะ ถ้าพ่อไม่ยอมให้หนูแต่งกับณรงค์ หนูก็จะไม่ขอแต่งงานเลยทั้งชีวิต!” วรันธรก็พูดออกมาเหมือนกัน
ภาณินสองมือกำแน่น ตอนนี้ในใจของเขาดั่งไฟสุมทรวง
หลายปีมานี้ ในแดนลับแห่งนี้ เขาก็คือผู้นำ ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้มาก่อน!
แต่ทุกอย่างนี้มันเป็นเพราะว่าการมาถึงของรพีพงษ์ ที่ทำให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป!
ที่สามารถบุกสระน้ำมังกรได้ ก็เพียงที่จะแสดงว่ารพีพงษ์มีฝีมือไม่น้อย ไม่อย่างนั้นล่ะก็ แดนลับแห่งนี้ก็คงยังไม่มีใครเข้ามาได้หลายปีแล้ว
แต่เมื่อเทียบกับพชรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝีมือและสมอง รพีพงษ์ก็เก่งกว่ามาก คนฝีมือโดดเด่นแบบนี้ ภาณินก็อยากจะมีไว้รับใช้เป็นธรรมดา
แต่ไม่คิดเลยว่า ทุกอย่างมันจะไม่ทันการเปลี่ยนแปลง ไม่คิดเลยว่า คนที่ลูกสาวตนเองชอบนั้น จะเป็นลูกน้องของตนเอง
“ถ้าแกคิดอย่างนั้นจริงๆล่ะก็ งั้นแกก็เป็นโสดไปทั้งชีวิตแล้วกัน!”
ภาณินพูดเสียงเย็น แล้วก็เดินโมโหออกไป
วรันธรก็น้ำตาคลอ ตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ในแดนลับแห่งนี้ การดำรงชีวิตทุกอย่าง มันแทบไม่ต่างอะไรกับในสมัยโบราณของประเทศจีนเลย ภาณินเป็นใหญ่ที่สุดของที่นี่ แม้แต่งานแต่งของลูกสาวตนเอง ก็จะควบคุม
“พูดไปตั้งมากมาย สุดท้ายแล้ว ก็ยังไม่ได้ผลทิพย์มาครอบครอง”
พชรที่รักษาตัวอยู่ข้างๆ ก็พูดประชดขึ้นมา
รพีพงษ์ก็จ้องมองเขา พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันที่ต้องกลับออกไปแล้ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ก็จะต้องอยู่ที่นี่ไป10กว่าปี
“รพีพงษ์ ขอบคุณมาก แต่ในเมื่อเจ้าสำนักก็ได้พูดออกมาขนาดนี้แล้ว ผมเองก็คงต้องตัดใจเสีย บางทีผมกับคุณหนูอาจจะไม่มีวาสนาต่อกันก็ได้” ณรงค์กล่าว
รพีพงษ์ก็มองณรงค์ที่มีใบหน้าสงบนิ่งมาโดยตลอด แล้วก็พูดเสียงขรึมว่า “ความสุขนั้นจะต้องคว้ามันมาไว้เอง ต้องอยู่ที่คุณแล้วล่ะ ว่าจะกล้าก้าวออกมาคว้ามันไว้ไหม”
“เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว มันไม่มีทางแล้วล่ะ ด้วยนิสัยของเจ้าสำนัก วันนี้ไม่ได้ลงโทษผมต่อหน้าทุก ก็ถือว่าใจกว้างมากแล้วล่ะ ส่วนเรื่องอื่น ผมก็คงไม่กล้าคิดแล้วล่ะครับ”
รพีพงษ์มองณรงค์ ถึงแม้เขาจะพูดออกมาแบบนี้ แต่รพีพงษ์ก็ยังสามารถรับรู้ได้ว่า นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ
ในตอนนี้ วรันธรก็เดินลงมาจากเวที
เธอและณรงค์ก็มองตากัน ณรงค์เห็นคนสวยร้องไห้ ในใจก็เศร้าสร้อย ตอนนี้เขาอยากจะเข้าไปกอดหญิงผู้เป็นที่รักเสียจริงๆ แต่ทว่า ด้วยระบบลูกน้องทำให้เขาไม่กล้าทำแบบนั้น กลับกัน เขาก็ได้เดินออกไปอย่างเป็นระเบียบ พร้อมกับทหารคนอื่นๆ
สายตาของวรันแอปเปิลก็มองตามตัวณรงค์ไป จนเงาของลับตาไป จึงหันกลับมา
“รพีพงษ์ ฉันทำให้คุณผิดหวังแล้วล่ะ พ่อฉันก็นิสัยแบบนี้แหละ ฉันทำเต็มที่แล้ว” วรันธรกล่าว
รพีพงษ์ก็ไม่ได้พูดอะไร เขายังไม่มีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่หล่อหลอมมาหลายปีของคนที่นี่ได้
“คุณรพี เชิญ….คุณตามฉันมาหน่อย” วรันธรกล่าว
รพีพงษ์ก็เอะใจ “คุณจะทำอะไรครับ?”
“ถึงแม้วันนี้จะไม่สำเร็จดั่งหวัง แต่คุณก็ยังทำตามในสิ่งที่เราตกลงกันไว้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็ควรจะทำตามข้อตกลงที่ฉันเคยบอกไว้ เชิญคุณตามฉันมาเลย” วรันธรพูด แล้วก็หันหลังเดินออกไป
รพีพงษ์ก็ตามไป ดูเหมือนว่า วรันธรคิดจะให้ผลทิพย์แก่เขาแล้ว
ในตอนนี้ พชรและนรียาก็อยู่ข้างๆ พอเห็นพวกรพีพงษ์เดินออกไป พชรก็เอ่ยขึ้นมา “น้องพี่ พี่สงสัยไอ้สองคนนี้มันแปลกๆ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับผลทิพย์ ตอนนี้พี่บาดเจ็บหนัก น้องไปดูหน่อยแล้วกัน”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูพยุงพี่ไปพักผ่อนในห้องก่อนแล้วกัน”
“ไม่ต้องๆ รีบตามไปเลย อย่าให้คลาดสายตา” พชรพูดอย่างร้อนรน ตอนนี้ แผนการที่จะสู่ขอวรันธรก็ล้มเหลว อย่างนั้น การได้ผลทิพย์มาครอบครองคือสิ่งที่เขาสนใจ ต่อให้มีหวังเล็กๆ เขาก็อยากจะลองดูสักตั้ง