พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1346 กลุ่มคนร้าย

บทที่ 1346 กลุ่มคนร้าย

หงส์ค่อย ๆ เดินไปที่ด้านข้างของรพีพงษ์ ดวงตาของเธอดูเคร่งขรึมเล็กน้อย

รพีพงษ์เป็นคนที่ไม่สามารถคาดเดาไม่ได้จริง ๆ ตนเองยิ่งเข้าใกล้เขามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขามีพลังมากขึ้นเท่านั้น

การโจมตีเมื่อสักครู่ หงส์ใช้พลังเกือบทั้งหมด แต่สำหรับรพีพงษ์ดูเหมือนไม่สะทกสะท้านแม้สักนิดเลย

ธีรพัฒน์และธัชธรรมยิ้ม และเดินมาหาพวกเขาทั้งสองคน

“หงส์ ไม่เลวนี่? ถ้าใช้กระบวนท่านี้ เกรงว่าทุกคนที่อยู่ในระดับแดนดั่งเทพก็รับมือหนักเอาการน่ะ” ธัชธรรมกล่าว

หงส์ไม่ได้กล่าวอะไร ตอนนี้เธออายุ 30 ปี ผลการฝึกตนของเธอทิ้งห่างคนอายุรุ่นเดียวกัน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับรพีพงษ์ที่อายุน้อยกว่าเธอ ความแข็งแกร่างของเธอห่างกับเขาค่อนข้างมาก

“ท่านธัชธรรม ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ ต่อไปฉันจะฝึกอย่างหนักแน่นอน และพยายามพัฒนาระดับผลการฝึกตน” หงส์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

ปรากฏความพึงพอใจอยู่ในสายตาของรพีพงษ์ ไม่เพียงแต่พอใจทัศนคติของหงส์ แต่ยังรวมไปถึงคาถาคำสิบที่จอมมารชูร่าเทพสืบทอดไว้ด้วย

“เจ้าสำนัก มังกรและคนอื่น ๆ กลับมาถึงแล้ว พวกเขากำลังรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่” หงส์กล่าว

ท่าทางของรพีพงษ์นิ่งสงบ “เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ”

ในห้องโถงใหญ่ ทุกคนรออยู่สักครู่ใหญ่แล้ว

หลังจากที่พวกรพีพงษ์ทั้งสามคนเดินเข้าไปในห้องโถง ทุกคนรู้สึกได้ว่าบรรยากาศในห้องโถงดูเปลี่ยนไป

พวกเขาเหล่านี้คือยอดฝีมือสามอันดับแรกของจีนในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ได้รวมตัวกันอยู่ในกลุ่มสิงโต

รพีพงษ์นั่งบนที่นั่งหลัก มองลงมาข้างล่าง

“เจ้าสำนัก พวกเราเดินทางไปทั่วประเทศจีนในช่วงสิบวันที่ผ่านมา และพวกเราได้จับคนที่มีรายชื่ออยู่ในอันดับรางวัลนำจับมา 13 คน กำลังรออยู่ข้างนอก”

มังกรก้าวไปข้างหน้าและกล่าว

รพีพงษ์ไม่ได้กล่าวอะไร แต่เขารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

ประเทศจีนมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ และ13 คนที่มีรายชื่ออยู่ในอันดับรางวัลนำจับกระจัดกระจายไปทุกที่ สำหรับคนธรรมดา ใช้เวลาสิบวันอาจไม่สามารถเดินไปทั่วประเทศจีนได้ นับประสาอะไรกับการเดินไปในแต่ละที่เพื่อจับคนเหล่านี้มา

นี่เป็นเพราะความสามารถที่โดดเด่นของพวกมังกรและเครือข่ายข้อมูลอันทรงพลังของกลุ่มสิงโต

เครือข่ายข้อมูลดังกล่าวสามารถค้นหาบุคคลเหล่านี้ที่มีรายชื่ออยู่ในอันดับรางวัลนำจับได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อไม่ให้พวกมังกรล้มเหลวกลับมา

“ทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?” รพีพงษ์ถาม นี่เป็นความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของเขาในขณะนี้

การต่อสู้กับทวีปโอชวินกำลังใกล้เข้ามาแล้ว ดังนั้นตนเองจะไม่ทำให้คนน้อยลงไปอีกหรือได้รับบาดเจ็บอีก

“เจ้าสำนักไม่ต้องเป็นห่วง ด้วยวิชาแอสโตรแลบที่คุณถ่ายทอดให้พวกเรา ทำให้คนเหล่านี้ไม่สามารถต้านทานพวกเราได้นาน” มังกรกล่าว

“ดีมาก”

รพีพงษ์จึงรู้สึกวางใจ และใช้สายตาส่งสัญญาณ

มังกรเข้าใจความคิดของเขา จากนั้นก็ตะโกนว่า “นำคนเข้ามา!”

จากนั้น กลุ่มสิงโตที่เหลือจึงพาคนที่มีรายชื่ออยู่ในอันดับรางวัลนำจับ13 คน เข้ามาในห้องโถง

รพีพงษ์กวาดสายตาไป และรัศมีอันทรงพลังก็ปราบปรามผู้ร้ายทั้ง 13 คนทันที

พวกเขาทุกคนก้มหน้าลง และพวกเขาไม่กล้าที่จะสบตารพีพงษ์เลย

แน่นอน คนเหล่านี้ส่วนใหญ่รู้จักรพีพงษ์ นายน้อยตระกูลลัดดาวัลย์ แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกค่อนข้างแปลกใจก็คือ ทำไมรพีพงษ์ถึงได้ปรากฏตัวอยู่ในกลุ่มสิงโต และสิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือรพีพงษ์นั่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุด

“ปลดโซ่”

รพีพงษ์กล่าว

ตอนที่คนเหล่านี้ถูกพามาที่นี่ พวกเขาทั้งหมดถูกกลุ่มสิงโตมัดด้วยโซ่สเตนเลส

มังกรและคนอื่น ๆ ไม่ลังเล เพราะมียอดฝีมือสามอันดับแรกอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรเหิมเกริม

เมื่อโซ่ถูกปลดล็อก คนเหล่านี้ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก

“ผมถามพวกคุณ คุณรู้ไหมว่าทำไมถึงได้พาพวกคุณมาที่นี่” รพีพงษ์กล่าวถาม

ชายคนหนึ่งที่ตาเหมือนหนูกล่าวว่า “มันน่าจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นผมฆ่าคนธรรมดาไปหลายคน มิเช่นนั้น คนของกลุ่มสิงโตคงจะไม่จับผม”

รพีพงษ์ไม่ได้กล่าวอะไร คนเหล่านี้มีรายชื่ออยู่ในอันดับรางวัลนำจับได้ จะต้องเป็นคนที่ชั่วร้าย

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้จำเป็นต้องใช้คน รพีพงษ์ฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ทันที

“พูดตามตรง อีกไม่นาน จะมีคนที่แข็งแกร่งบุกโจมตีโลก และจุดแรกที่พวกเขาจะโจมตีคือที่นี่ ดังนั้นผมจึงต้องการใช้พวกคุณ………”

ไม่รอให้รพีพงษ์พูดจบ คนที่อยู่ข้างล่างก็กล่าวว่า “ประมุขรพีโปรดวางใจได้ เพียงแค่คุณไม่ฆ่าผม จะให้ผมทำอะไรก็ได้!”

รพีพงษ์ยิ้มอย่างเย็นชา เป็นธรรมดาที่จะไม่ไว้ใจกับสิ่งที่พวกเขาพูด

ประสบการณ์หลายปีสอนรพีพงษ์ว่า คนสิบสามคนเหล่านี้ เปลี่ยนอารมณ์เร็วกว่าเปลี่ยนพลิกหนังสือเสียอีก ดังนั้นคำพูดของพวกเขาเป็นสิ่งที่ไว้ใจไม่ได้มากที่สุด

แน่นอน ไม่นานก็มีหลายคนพูดแบบเดียวกัน เช่น จะบุกน้ำลุยไฟโดยไม่ลังเล

รพีพงษ์ทำเหมือนฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา หลังจากนั้น เขากล่าวอย่างเย็นชา “พวกคุณ พูดจบหรือยัง?”

ประโยคนี้ ทำให้ห้องโถงเงียบลงทันที

รพีพงษ์ยืนขึ้นแล้วมองทั้งสิบสามคน “พูดตามตรง ผมไม่มั่นใจในสิ่งที่พวกคุณพูด แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่กลุ่มสิงโตของพวกเราต้องการใช้กำลังคน และอีกอย่างพวกคุณเป็นนักฝึกวิชาด้วย ดังนั้นพวกคุณยังมีประโยชน์ แต่เพื่อแสดงความจริงใจของพวกคุณ ผมมีบางสิ่งที่ต้องการให้พวกคุณทำ”

“เรื่องอะไร?”

หนึ่งในนั้นถาม

รพีพงษ์ขยิบตา หงส์ที่ด้านข้างหันไปหยิบถาดไม้ซึ่งวางเม็ดยาสีดำไว้สิบสามเม็ด

“มันคือ…….” คนเหล่านี้งุนงง

“นี่คือยาเม็ด?”

“จริงเหรอ? ได้ยินมาว่ายาเม็ดสามารถช่วยผู้คนพัฒนาผลการฝึกตน ยาที่สมาคมการเล่นแร่แปรธาตุขายมีราคาแพงมาก ผมเพิ่งซื้อมาหนึ่งเม็ดในราคาที่สูงมาก”

“ประมุขรพีก็คือประมุขรพี สามารถนำออกมาทีเดียวสิบสามเม็ดได้ ช่างรวยจริง ๆ!”

“ใช่ ด้วยยาเม็ดนี้ ไม่ว่าใครจะบุกมา ก็ฆ่าพวกมันให้หมดได้!”

……

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อยและมองไปที่ฝูงชนและกล่าวว่า “พวกคุณคิดผิดแล้ว นี่คือยาที่มีพิษ”

“อะไรนะ? ยาพิษ?”

หลังจากได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ตกใจและแสดงสีหน้าหวาดกลัว

หลายคนถึงกับคิดที่จะหลบหนี แต่ทันทีที่พวกเขาหันไปมอง พวกเขาก็เห็นว่าประตูของห้องโถงใหญ่ถูกปิดแล้ว

และที่นี่ ในบรรดาผู้คนหลายสิบคนในกลุ่มสิงโต ผู้ที่ระดับต่ำที่สุดก็อยู่ในระดับแดนปรมาจารย์แล้ว และผู้ที่ระดับสูงสุดก็อยู่ที่ระดับแดนเทพแล้ว! .

พวกเขาไม่มีทางหนีรอดได้

“วางใจได้ หลังจากกินยาพิษนี้เข้าไปแล้วจะไม่ตายทันที ในทางกลับกัน แค่พวกคุณทำงานให้กลุ่มสิงโตด้วยความจริงใจ หลังจากต่อต้านศัตรูที่มาจากต่างแดนสิ้นสุดลงแล้ว ผมจะช่วยพวกคุณถอนพิษ และผมสัญญากับพวกคุณว่า เมื่อถึงเวลานั้น ผมยินดีที่จะให้ยาเม็ดจริง ๆให้พวกคุณคนละเม็ด และมันก็เป็นยาชั้นเลิศ!” รพีพงษ์กล่าว

“ยาชั้นเลิศ?”

หลังจากที่คนเหล่านี้ฟังแล้ว พวกเขาก็ความกระตือรือร้นเอาจริงเอาจัง

พวกเขาอยู่ในโลกนี้มานานแล้ว และพวกเขาก็รู้ดีว่ายาชั้นเลิศหมายถึงอะไร

สิ่งที่ทำให้พวกเขามั่นใจยิ่งขึ้นก็คือ ประโยคนี้ถูกพูดโดยตระกูลใหญ่ของชาวจีน นายน้อยตระกูลลัดดาวัลย์เป็นคนพูดออกมา และมันจะเป็นเรื่องจริงที่เชื่อถือได้

“เอาล่ะ อย่างไรเสียก็ต้องตาย ผมจะกินก่อน”

ชายที่รูปร่างสูงใหญ่เทอะทะก้าวไปข้างหน้าสองก้าว หยิบยาแล้วกลืนลงทันทีโดยไม่คิดไตร่ตรอง

ทุกคนมองไปที่ชายผู้นั้น ขณะเดียวกัน ชายร่างใหญ่คนนี้ก็รู้สึกประหม่าเช่นกัน

แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เขาไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใด ๆ เป็นตามที่รพีพงษ์กล่าวไว้ พิษนี้จะไม่ทำให้เสียชีวิตในทันที

“จะกินยาพิษหรือจะถูกฆ่าตายทันที พวกคุณก็เลือกเอาเอง” รพีพงษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

ทุกคนขมวดคิ้ว คนที่ตาเหมือนหนูเป็นผู้นำแล้วกล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย พวกเราฟังตามคำสั่งของประมุขรพีกันเถอะ เมื่อถูกคนในกลุ่มสิงโตจับได้ เดิมก็ได้เตรียมใจไว้ว่าต้องตายแน่นอน ตอนนี้พวกเขาให้ทางรอดแก่พวกเรา ทำไมพวกเราจะไม่เอาล่ะ”

เมื่อทุกคนลองคิดไตร่ตรอง สิ่งที่เขาพูดก็สมเหตุสมผล จากนั้นพวกเขาก้าวไปข้างหน้า และกลืนยาพิษเข้าไปทีล่ะคน

“ประมุขรพี คุณได้สัญญาไว้แล้วน่ะ เมื่อเรื่องจบลงแล้ว อย่าลืมให้ยาชั้นเลิศแก่พวกเราด้วย” คนหนึ่งพูดกับรพีพงษ์

รพีพงษ์พยักหน้า “วางใจได้ ผมพูดคำไหนคำนั้น”

คนเหล่านี้รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่รพีพงษ์และคนรอบข้างรู้อยู่ดีว่า หลังจากการต่อสู้กับทวีปโอชวิน จะมีสักกี่คนที่สามารถมีชีวิตรอดได้

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท