พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1349 ความผิดปกติของช่องทางเดิน

บทที่ 1349 ความผิดปกติของช่องทางเดิน

รพีพงษ์และคนอื่น ๆ รีบขึ้นไปบนยอดเขาอีกลูกหนึ่งที่อยู่บนเทือกเขาคุนหลุน

ที่นี่ มีคลื่นระลอกอยู่อากาศเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับช่องทางเดินที่รพีพงษ์และธีรพัฒน์ปกปักรักษานั้น ช่องทางเดินนี้มีขนาดเล็กกว่ามาก

หากไม่ใช่ในช่วงหลายวันมานี้ รพีพงษ์กำชับว่าให้กลุ่มสิงโตจับตาดูช่องทางเดินนี้ พวกเขาคงละเลยช่องทางเดินเล็ก ๆ นี้

เมื่อรพีพงษ์และคนอื่น ๆ มาถึงที่นี่ พวกเขาสัมผัสได้ถึงรัศมีอันทรงพลังที่เข้าใกล้ตนเองได้อย่างชัดเจน

“ท่านผู้อาวุโส ทำไมผนึกบนช่องทางเดินนี้ถึงใช้ไม่ได้ผล?” รพีพงษ์ขมวดคิ้วและถาม

ธีรพัฒน์ขมวดคิ้วและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เทือกเขาคุนหลุน มีเพียงแปดช่องทางเล็กใหญ่ที่เชื่อมต่อกับทวีปโอชวิน แต่ว่า สองร้อยกว่าปีมานี้ ทำไมทวีปโอชวินถึงไม่อยากเปิดช่องทางเดินของตนเองขึ้นมาล่ะ?”

“อะไรนะ? คุณหมายความว่า ช่องทางเดินเล็ก ๆ นี้พวกเขาเป็นคนเปิดด้วยตนเองเหรอ?” รพีพงษ์กล่าวด้วยความประหลาดใจ

ธีรพัฒน์พยักหน้า “เพียงแต่ การเปิดช่องทางเดินนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย การที่จะเปิดช่องทางเดินเล็ก ๆช่องนี้ อาจต้องใช้เวลาเกือบสองร้อยปี”

รพีพงษ์แสดงท่าทางเข้าใจ ซึ่งอธิบายได้ว่าผู้คนในทวีปโอชวินไม่ได้สร้างช่องขนาดใหญ่ด้วยตนเอง นี่คือเหตุผลที่พวกเขาโจมตีผนึกบนช่องขนาดใหญ่นั้น

อย่างไรเสีย ช่องทางเดินเล็ก ๆ นี้ก็ใช้เวลาสองร้อยปี และหากเป็นเหมือนช่องทางเดินใหญ่ในวันนั้น เกรงว่าจะเสร็จก็ต้องใช้เวลาเป็นพันปี

จากการคำนวณนี้ การใช้เวลาเช่นนี้ทำให้ทวีปโอชวินรู้สึกไม่คุ้มค่า

“พูดอีกอย่างก็คือ ตอนนี้ไม่มีผนึกอยู่บนช่องทางเดินนี้แล้ว?” รพีพงษ์กล่าว

“ถูกต้อง นี่ก็คือเหตุผลที่พวกเขาสามารถมาหาพวกเราโดยผ่านช่องทางเดินช่องนี้ อันที่จริง นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ารู้ว่ามีช่องทางเดินช่องนี้อยู่ เรื่องที่ผู้คนในทวีปโอชวิน ทำนั้นมิดชิดไม่มีช่องโหว่และไม่สามารถคาดเดาได้จริง ๆ!”

ธีรพัฒน์มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

“อาจารย์”

ธัชธรรมก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า “งั้นพวกเราสองคนรวมพลัง ปิดผนึกช่องทางเดินนี้ดีไหม!”

“ผมขอร่วมด้วย”

รพีพงษ์เดินมาอยู่ตรงหน้าช่องทางเดิน จากนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างเย็นชา

ตอนนี้แน่นอนแล้วว่า มีคนของทวีปโอชวินกำลังเข้ามาโดยผ่านช่องทางเดินช่องนี้

“ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว” ธีรพัฒน์ถอนหายใจ “เมื่อช่องทางเดินเปิดแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะผนึกมันได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยพลังอันทรงพลังเช่นนี้ ผมสามารถบอกได้ว่า อีกฝ่ายจะต้องอยู่ในระดับแดนเทพแน่นอน!

“ให้ตายเถอะ ที่แท้คนภายนอกบุกรุกมายังโลกโดยใช้ช่องทางเดินช่องนี้นี่เอง”

ขณะนี้เอง ไม่รู้ว่าพวกธมกรมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด และมีหลายสิบคนที่มีรายชื่ออยู่รางวัลนำจับตามหลังเขามาด้วย

“พี่น้อง พวกเราจับพวกมัน แล้วใช้อาวุธฆ่าพวกมันตายให้หมด!”

ขณะที่กล่าว ในบรรดาผู้คนนับสิบคน คนที่อยู่ในระดับแดนเทพก็เสกอาวุธของตนเอง พวกที่อยู่ในระดับแดนปรมาจารย์ก็ดึงอาวุธออกมาเช่นกัน

รพีพงษ์อดไม่ได้ที่จะมองดูอาวุธที่อยู่ในมือของคนทั้ง 13 คน

คนพวกนี้มีอาวุธทุกอย่างในมือ เช่น มีด ปืน ท่อนไม้ ขวาน ตะขอ และส้อม คาดว่าบางคนลืมเอาอาวุธมาด้วย ก็เลยเอาไม้พายที่ใช้ทำอาหารในครัวมาด้วย

แต่ต้องบอกเลยว่า พลังการต่อสู้ของกลุ่มนี้ยังคงแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยวันก่อนพวกเขาแสดงให้เห็นว่าไม่สะทกสะท้านและไม่กลัวอะไร ซึ่งทำให้รพีพงษ์รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

“พวกคุณถอยไป!”

ธีรพัฒน์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “อีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับแดนเทพ หรือพวกคุณคิดว่า อาศัยคนอย่างพวกคุณ ก็เป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้หรือ?”

“อะไรน่ะ? ระดับแดนเทพ?”

ธมกรกลอกตา และกล่าวอย่างเก้อเขิน “ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ช่างมันเถอะ ประมุขรพี แต่พวกเราก็ไม่ควรวิ่งหนีไปทันที เมื่อพวกเขามาใช่ไหมล่ะ?”

“วิ่งหนี? ” รพีพงษ์มองธมกรด้วยสายตาที่ดุร้าย ธมกรก้มศีรษะลงทันทีและไม่กล้าพูดอะไรอีก

“ผมบอกหรือว่าพวกเราจะหนี?” รพีพงษ์กล่าวอย่างเย็นชา มองไปที่ช่องทางเดินนั้น

พลังกำลังเข้าใกล้ตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆ และรพีพงษ์ก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังความแรงของอีกฝ่าย

“คิดว่าช่องทางเดินช่องนี้น่าจะผ่านเข้ามาพร้อมกันได้ครั้งละสองสามคน และที่นี่ได้รวมนักฝึกวิชาชั้นนำของโลกไว้ ถ้าการมาของคนสองสามคนนั้นทำให้พวกเราตกใจกลัว แล้วพวกเราจะปกป้องโลกได้อย่างไร!”

ประโยคนี้เต็มไปด้วยพลัง ผู้คนในกลุ่มสิงโตต่างมองมาที่รพีพงษ์ และพวกเขาไม่มีความหวาดกลัวใด ๆ

ถูกต้อง ถ้าการมาของสองสามคนนี้ทำให้พวกเราล่าถอย แล้วพวกเราจะต่อสู้กับทวีปโอชวินได้อย่างไร และเฝ้าอยู่ในเทือกเขาคุนหลุนไปเพื่ออะไร!

“ถ้าคุณสู้ ผมก็จะสู้!”

รพีพงษ์ยืนอยู่บนยอดเขา และกล่าวเสียงดังว่า “คราวนี้พวกเราจะให้คนของทวีปโอชวินเห็นว่าโลกใบนี้ ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเขาสามารถเหยียบย่ำได้ตามต้องการ!”

“ผู้ใต้บังคับบัญชาจะปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าสำนัก!”

กลุ่มสิงโตทั้งหมดกล่าวพร้อมเพรียงกัน

ธัชธรรมถึงกับน้ำตาซึม เขาไม่เคยคิดว่า วันนั้นที่ตนเองช่วยเขา แล้วก็ได้วีรบุรุษคนนี้มา ตอนนี้วีรบุรุษผู้เก่งกาจคนนี้จะพาตนเองและผู้คนในกลุ่มสิงโตทั้งหมดต่อต้านทวีปโอชวิน!

“รพีพงษ์พูดถูก ครั้งสุดท้ายที่ข้าฆ่าผู้คนในทวีปโอชวินก็ผ่านไปร้อยกว่าปีแล้ว และในที่สุดก็มีโอกาสอีกครั้ง พวกทวีปโอชวินมาเลย!”

ท่าทางของธีรพัฒน์ห้าวหาญ และกล่าวด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง แม้แต่ช่องทางเดินนี้ก็สะท้านไปชั่วขณะ

รพีพงษ์ ธีรพัฒน์และธัชธรรมพวกเขาสามคนมองหน้ากันและยิ้ม มียอดฝีมือระดับแดนเทพสามคนต่อสู้พร้อมกัน เรื่องทำให้ทั้งสามคนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

“ทุกคนถอยไปหาที่กำบัง ที่นี่มอบให้พวกเราสามคนจัดการ!” รพีพงษ์กล่าวเสียงดัง

กลุ่มสิงโตและคนอื่น ๆ รู้ว่า การต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะเป็นการต่อสู้ระหว่างยอมฝีมือระดับแดนเทพ พวกเขามีใจแต่ไม่มีความสามารถพอ และถ้าพวกเขาบุ่มบ่ามบุกไป เกรงว่าพวกเขาจะเป็นตัวรับกระสุน

หลังจากเห็นทุกคนหาที่กำบังเรียบร้อยแล้ว ดวงตาของรพีพงษ์ก็ค่อย ๆ ดุร้าย เขากำหมัดไว้แน่น และรวบรวมพลังในร่างกายไว้ แค่รอช่วงเวลาที่ผู้คนจากทวีปโอชวินมาถึง ก็จะโจมตีด้วยกำลังทั้งหมด!

ธีรพัฒน์และธัชธรรมก็เหมือนกัน ความคิดของพวกเขาเหมือนกับรพีพงษ์ เมื่ออีกฝ่ายก้าวเข้ามาในโลกนี้ จะกวาดล้างพวกเขาทั้งหมดให้สิ้นซาก!

ทั้งสามคนเตรียมพร้อมแล้ว เพียงแค่รอจังหวะที่จะโจมตีเท่านั้น ขณะนี้ ราวกับว่าทุกอย่างหยุดอยู่กับที่ จนทำให้รพีพงษ์ได้ยินเสียงหัวใจของตนเองเต้นอย่างชัดเจน

ขณะนี้เอง พวกนีย์สามคนที่อยู่ในช่องทางเดินนั้นยังไม่รู้ตัว

ช่องทางเดินนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างลับๆโดยทวีปโอชวิน ซึ่งใช้เวลาสร้างเกือบสองร้อยปี

ครั้งก่อนที่นีย์ที่โลกใบนี้ เขาก็ผ่านช่องทางเดินช่องนี้ ต่อมาจิรพนธ์และคนอื่น ๆ ก็ใช้ช่องทางเดินนี้เหมือนกัน และไม่เคยเกิดอะไรผิดปกติ

ดังนั้น พวกเขาไม่คิดว่า คนบนโลกจะรับรู้การดำรงอยู่ของช่องทางเดินนี้

ชาคริตและเมฆมีดวงตาที่ลึกล้ำ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเดินทางมายังโลก พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับพืชพันธุ์ที่เขียวชอุ่มและทิวทัศน์ที่สวยงามบนดินมานานแล้ว ตอนนี้พวกเขาตั้งตารอที่จะได้เห็นโลกใบนี้

ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้แผ่นดินมากขึ้นเรื่อย ๆ สายตาชาคริตและเมฆต่างก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง มองย้อนกลับไปที่นีย์ ท่าทางของเธอดูเศร้าโศก

“ทวีปโอชวิน จากนั้นครั้งนี้ จากกันตลอดไป……… ”

ประตูช่องทางเดินเปิดออก นีย์และสองคนนั้นมาถึงแล้ว

ท่าหลิงอิ๋น!

ฝ่ามือละลายหิมะ!

ฝ่ามืออรหันต์สายนภา!

ทันทีที่ทั้งสามลงถึงพื้น รัศมีอันทรงพลังทั้งสามก็โจมตีพวกเขาทั้งสามทันที!

นีย์รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก มีลูกบอลไฟลุกโชนในปากของมังกรทองขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้า

นีย์อ้าปากกว้าง ตรงหน้าเธอ มีร่างสูงใหญ่กำยำกำลังรอตนเองอยู่

“รพีพงษ์!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท