พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1354 การสร้างร่างกายขึ้นใหม่

บทที่ 1354 การสร้างร่างกายขึ้นใหม่

นักฆ่าวิญญาณผีทั้งห้าคนนี้ที่อยู่ตรงข้ามไม่ได้พูดอะไรมากมาย ในโลกของพวกเขา ฉันท์ชนกเป็นเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

อย่าว่าแต่ฆ่าองค์หญิงน้อยนีย์เลยนะ แม้ว่าให้พวกเขาฆ่าตัวตาย คิ้วของพวกเขาก็ไม่แม้แต่จะกระดิกสักเส้นเดียวเหมือนกัน

และนักฆ่าวิญญาณผีแบบนี้ ฉันท์ชนกปลูกฝังมาทั้งหมด 10 คนแล้ว ห้าคนของวันนี้เป็นเพียงแค่พละกำลังครึ่งหนึ่งเท่านั้น

เหตุผลที่ฝึกฝนกันอย่างลับๆขนาดนี้ ฉันท์ชนกมีการเตรียมการเป็นของเธอเอง

ส่วนที่ว่าทำไมจะต้องฆ่าเมฆกับชาคริตด้วยนั้น นั่นก็เป็นเพราะว่า ก่อนหน้านี้ เมฆและคริตช่วยพูดแทนนีย์ ยิ่งไปกว่านั้นในคืนนั้นเมื่อสิบกว่าวันก่อน ทำลายความต้องการที่ฉันท์ชนกอยากจะฆ่านีย์ให้ตาย ดังนั้น ฉันท์ชนกก็มีความแค้นในใจกับพวกเขาสองคน

และฉันท์ชนกก็รู้ว่า ถ้าหากให้พวกขาสามคนตายในโลกนั้น ในทวีปโอชวินก็จะไม่มีใครหน้าไหนพูดอะไรทั้งนั้น ขอเพียงแค่ไม่มีใครรู้ใครเห็น จิรกิตติ์พวกเขาจึงทำได้เพียงเอาความโกรธไปลงที่โลกนี้ และไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเองทั้งสิ้น

หลังจากนั้นสามวัน ในช่วงเวลากลางคืน ช่องทางผ่านได้ถูกเปิดออกอีกครั้ง วิญญาณผีชุดดำนิรนามมุ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทาง

และทางฝั่งกลุ่มสิงโต รพีพงษ์กำลังพิจารณาถึงปัญหาหนึ่ง

ตามที่นีย์พูดมาทั้งหมด เรื่องที่เจ้าของกระบี่สยบเซียนเป็นตัวเองนี้เขากลับว่าไม่ได้ให้คนของทวีปโอชวินได้รู้

ดังนั้น คำคาดการณ์ของรพีพงษ์ อาศัยชื่อเสียงและศักด์ศรีของจอมมารชูร่า สามารถทำให้ทวีปโอชวินสะเทือนเลือนลั่นได้ระยะหนึ่ง

ในช่วงเวลานี้ ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะยกระดับการบำเพ็ญตน

รพีพงษ์และธีรพัฒน์วางแผนที่จะปิดกั้นการติดต่อกับโลกภายนอกอีกครั้ง

หลังจากที่บำเพ็ญตนถึงพลังวิเศษเสนชั้นยอดเมื่อครั้งก่อน ธีรพัฒน์ก็คิดอยากจะเริ่มบำเพ็ญตนของพลังวิเศษเสนอีกครึ่งหลังให้เร็วที่สุด

แต่รพีพงษ์กลับว่าปฏิเสธเขาแล้ว

“ทำไมล่ะ?”

ภายในภูเขา ธีรพัฒน์เอ่ยถามอย่างประหลาดใจ แม้แต่ธัชธรรมก็เกิดความสงสัยเช่นกัน

“การบำเพ็ญตนของพลังวิเศษเสนครึ่งล่างนี้ไม่ต้องรีบร้อนไป ท่านผู้อาวุโส วิชาลับของการสร้างร่างกายขึ้นใหม่ของทวีปโอชวิน ฉันก็ทำเป็นแล้ว”

รพีพงษ์เอ่ยพูดอย่างมั่นใจ

“อะไรนะ?เมื่อพูดขนาดนี้ ผู้หญิงคนนั้นบอกคุณหมดแล้วเหรอ?” ธีรพัฒน์มองรพีพงษ์อย่างชื่นชมยินดี

ธัชธรรมเผยรอยยิ่มเบาๆ ในการรับมือกับผู้หญิง ความสามารถของรพีพงษ์สูงส่งกว่าคนทั่วไปอย่างมาก

วิชาลับของการสร้างร่างกายขึ้นใหม่ นั่นเป็นวิชาลับที่ไม่เผยแพร่ของทวีปโอชวิน และจู่ๆนีย์ก็บอกกับรพีพงษ์ผู้ซึ่งเป็นศัตรูกับทวีปโอชวิน นี่มันไม่ใช่เรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างมาก แต่ว่า เรื่องนี้ก็ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว

รพีพงษ์พยักหน้า : “การสร้างร่างกายขึ้นใหม่ ต้องการเวลา10 วัน และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือการใช้พลังทิพย์หล่อเลี้ยง ท่านผู้อาวุโส ก่อนหน้านี้คุณได้กินยาเม็ดที่กลั่นโดยปรมาจารย์ยาเม็ดวิญญาณถึงสองเม็ด ดังนั้น ขั้นตอนนี้สามารถลดทอนได้ ลำดับต่อไป เพียงแค่ต้องการพลังทิพย์หล่อเลี้ยงร่างกายก็ได้แล้ว ”

“แต่ว่า พูดน่ะมันก็ดูง่ายมาก พลังทิพย์สิ่งนี้สามารถพบเจอได้ แต่ไม่สามารถเรียกร้องมันมาได้ แม้ว่าจะเป็นสองร้อยปีก่อน ตอนที่โลกมีพลังทิพย์เฟื่องฟู ก็ไม่มีวิธีที่จะดูดซับพลังทิพย์ในจำนวนมหาศาลได้ เพื่อมาใช้ให้แก่ตัวเอง” ธีรพัฒน์พูดกล่าว

“เรื่องนี้คุณวางใจได้ มีผมอยู่ทั้งคน”

รพีพงษ์นั่งลงบนแท่นหิน ยิ้มเบาๆพร้อมพูดว่า : “ท่านผู้อาวุโส ไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินวิชาดูพลังทิพย์มาบ้างไหม?”

ธีรพัฒน์ส่ายหน้า : “นี่……ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยจริงๆ”

รพีพงษ์แสดงการสาธิต พลังทิพย์ในร่างกายก็ค่อยๆแพร่กระจายออกมาบ้างแล้ว

ชายชราที่มีอายุราวหนึ่งถึงสองร้อยปีทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้ากลับว่าเหมือนเด็กยังไงอย่างนั้น มีสีหน้าท่าทางที่ยินดีปรีดาอย่างมาก

“นี่……ช่างน่าอัศจรรย์อย่างมาก รพีพงษ์ คุณเรียนรู้ได้ยังไงกัน?” ธัชธรรมพวกเขาพูดกล่าว ตอนนี้ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าบนตัวของรพีพงษ์เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องที่น่าทึ่งมากมายขึ้นเรื่อยๆ

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรมากมาย คาดว่าตอนที่ธีรพัฒน์ได้ทำความรู้จักกับจอมมารชูรา จอมมารชูราน่าจะยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของโลกใบนี้แล้ว และการดูดซับวิญญาณคือศิลปะการต่อสู้ที่เขาสร้างขึ้นก่อนที่เขาจะกลายเป็นเทพเจ้า คาดว่าแม้แต่ตัวของเขาเองก็น่าจะลืมไปหมดแล้ว ไม่อย่างนั้น ในการสืบทอดต่อทั้งหมดของรพีพงษ์ ก็จะต้องมีวิชาดูพลังทิพย์อย่างแน่นอน

“ต่อไป ฉันสามารถสอนคุณได้” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ: “ตอนนี้ เรามาเริ่มกันเถอะ ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ คุณทำตัวสบายๆ”

ธีรพัฒน์พยักหน้า หลับตาและนั่งลงบนหินที่แบนราบและลื่น

การรอคอยกว่าสองร้อยปี ตอนนี้ในที่สุดก็สามารถสร้างร่างกายใหม่ขึ้นได้แล้ว นี่ทำให้ธีรพัฒน์ตื่นเต้นอย่างมาก

ผ่านไปนานมาก อารมณ์ของเขาค่อยๆสงบลงแล้ว

“รพีพงษ์ คุณเริ่มได้แล้ว” ธีรพัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

รพีพงษ์เห็นอีกฝ่ายทำการเตรียมตัวอย่างดีแล้ว ภายใต้การรับรู้ของจิตวิญญาณเทพ พลังจิตวิญญาณที่ผสมผสานกับพลังทิพย์ในร่างกายค่อยๆแผ่ซ่านออกมาแล้ว

จิตวิญญาณเทพของเขาตื่นตัวตั้งนานแล้ว เพราะงั้น ก็ยิ่งจะสามารถปกคลุมร่างของอีกฝ่ายได้อย่างดี

อย่างรวดเร็ว กลุ่มหมอกสีขาวก็ห่อหุ้มทั่วทั้งร่างกายของธีรพัฒน์แล้ว

“รพีพงษ์ ทำแบบนี้ก็ได้แล้ว?”

ธัชธรรมพูดอย่างตื่นเต้น เพราะความตื่นเต้นของเขาในเวลานี้ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าธีรพัฒน์เลย

ในฐานะที่เป็นศิษย์ของธีรพัฒน์ ธัชธรรมก็รอคอยอย่างมากที่จะเห็นท่านอาจารย์กลับสู่ช่วงที่สูงสุดอีกครั้งว่ามันเป็นลักษณะแบบไหนกันแน่!

รพีพงษ์ในเวลานี้ก็มองไปยังธีรพัฒน์ที่อยู่สภาวะกลั้นลมหายใจ เขาสามารถรับรู้ได้เป็นอย่างดีผ่านทางจิตวิญญาณเทพ ว่าร่างกายของอีกฝ่ายค่อยๆเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว

“น่าเสียดายที่พลังทิพย์ในร่างกายของฉันมีไม่มากพอ ไม่สามารถประคองอยู่ถึงสิบวันได้ในครั้งเดียว ทำได้แค่รอหลังจากห้าวันผ่านไปแล้ว ค่อยลงมือทำอีกรอบถึงจะได้” รพีพงษ์พูดกล่าว ในขณะเดียวกันในใจก็คิดว่า ดูเหมือนว่า หากมีโอกาสล่ะก็จะต้องเข้าไปในป่าหมอกอีกสักครั้งแล้ว

พลังทิพย์ที่ตัวเองดูดซับมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็เกือบจะใช้หมดแล้ว

“รพีพงษ์ คุณนี่ใช้ได้เลยจริงๆนะ ผมมองคุณไม่ผิดเลยจริงๆ” ธัชธรรมพูดอย่างซาบซึ้งใจ เพราะว่ารพีพงษ์ ท่านอาจารย์จึงสามารถสร้างร่างกายใหม่ได้ และตัวเองก็ได้ก้าวเข้าสู่ห้วงภวังค์ที่ปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง

“ท่านธัชธรรม เราก็มาหลับตาเริ่มบำเพ็ญตนกันเถอะ”

“อื้ม ส่วนครึ่งบนของกังฟูเสนเพิ่งจะฝึกฝนถึงขั้นกลางแล้ว ผมก็ต้องรีบตามพวกคุณให้ทัน”

ธัชธรรมพูดอย่างตื่นเต้น และก็ตั้งแต่ช่วงเวลานี้เป็นต้นไป เขาก็เหมือนกับว่าหาช่วงเวลาในตอนนั้นที่ตัวเองเป็นวัยรุ่นเจอแล้ว รู้สึกกระตือรือร้นต่อการเรียนรู้และฝึกฝนอย่างมาก

รพีพงษ์หลับตาลง สิบวันนี้ เป้าหมายของเขาง่ายดายมาก เมื่อพูดตามส่วนครึ่งล่างของกังฟูเสนแล้ว ได้ทำการเปิดเส้นทางไหลเวียนของชี่และเลือดทั้งหมดแล้ว

ภายในภูเขาเริ่มกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง เงียบสงบจนกระทั่งสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองได้แล้ว

และโลกภายนอก ในบ้านไร่ที่มีสนามหญ้าตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ชาคริตและเมฆทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงนอน

เป็นเวลาสามวันแล้ว อยู่ภายใต้การดูแลของนีย์ บาดแผลบนตัวของพวกเขาทั้งสองคนก็เกือบจะหายดีกันหมดแล้ว

“ขอบคุณองค์หญิงน้อยมาก ข้าน้อยมีอะไรดี ถึงได้ทำให้คุณมาดูแล้วพวกเราได้” เมฆพูดอย่างซาบซึ้งใจ ชาคริตก็เช่นกัน

นีย์ยิ้มเบาๆ : “ที่พวกคุณทั้งสองได้รับบาดเจ็บก็เป็นเพราะฉันถึงได้บาดเจ็บ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันท์ชนกให้พวกคุณทั้งสองมาที่นี่พร้อมกันกับฉัน เดิมทีไม่ควรที่จะต้องมาบาดเจ็บด้วยซ้ำ เพราะงั้น สามสี่วันนี้ที่ฉันดูแลพวกคุณก็เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว พวกคุณทั้งสองไม่ต้องเป็นกังวลไป”

“ขอบคุณองค์หญิงน้อยมาก”

เมฆพูดอย่างซาบซึ้งว่า : “ถ้าหากเปลี่ยนเป็นองค์หญิงใหญ่ เธอไม่มีทางทำแบบนี้กับลูกน้องอย่างแน่นอน”

เมื่อพูดถึงฉันท์ชนก สายตาของนีย์ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที : “ที่พวกคุณพูดก็ถูกนะ เธอเป็นพี่สาวของฉัน แต่กลับว่าไม่มีความรู้สึกรักและผูกพันฉันท์พี่น้องกับฉันแต่อย่างใดเลย ในทางตรงกันข้าม เธออยากจะฆ่าฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

“ทำร้ายคุณ?”

เมฆชาคริตพูดถามพร้อมมองไปยังนีย์อย่างเป็นกังวลมาก

นีย์พยักหน้าแล้ว : “วันนั้น ถ้าหากพวกคุณมาช้ากว่านี้อีกหน่อย เกรงว่าสิ่งที่ได้เห็นน่าจะเป็นศพแล้ว พูดขึ้นมาแล้ว ฉันก็ต้องขอบคุณทั้งสองท่านด้วยนะ ขอบคุณมาก”

“นี่ นี่มันเป็นเพราะอะไร องค์หญิงใหญ่เธอ ทำไมต้องฆ่าคุณด้วย” ชาคริตถามอย่างไม่เข้าใจ

นีย์ที่มีรูปงามขมวดคิ้วเล็กน้อย ฝืนยิ้มพร้อมพูดว่า : “เรื่องเหล่านี้ พวกคุณทั้งสองไม่ต้องรู้น่าจะดีกว่านะ สรุปว่า ในชีวิตนี้ ฉันจะไม่กลับไปยังทวีปโอชวินอีกแล้ว ลุง ลุงคริต อาการบาดเจ็บของพวกคุณทั้งสองก็ใกล้จะหายดีแล้ว ในนี้พอมีเงินอยู่บ้าง เพียงพอที่จะให้พวกคุณทั้งสองคนอยู่บนโลกใบนี้ได้เป็นเวลานาน ตอนนี้ ฉันจะทิ้งเงินนี้ไว้ให้คุณนะ.

พูดแล้ว นีย์ก็หยิบบัตรธนาคารสากลที่สามารถใช้ได้ทั่วโลก มอบไปยังมือของเมฆแล้ว

“ในโลกใบนี้มีสิ่งที่สวยงามและก็มีความอัปลักษณ์มากมาย พูดขึ้นมาแล้ว มีความอุดมสมบูรณ์และมีความแตกต่างที่หลากหลายมากกว่าทวีปโอชวินของเราซะอีก พวกคุณทั้งสองคนสามารถเพลิดเพลินกับมันได้อย่างเต็มที่” นีย์พูดกล่าวพร้อมยิ้ม ท่าทางสบายๆ

“รอเดี๋ยว องค์หญิงน้อย ข้าน้อยมีเรื่องหนึ่ง หากคิดอย่างละเอียดแล้วก็รู้สึกกลัวอย่างมาก จำเป็นต้องพูดกับคุณให้ชัดเจน”

ชาคริตและพวกแสดงท่าทางจริงจัง พูดกล่าวกับองค์หญิงน้อยนีย์

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท