พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1440 ละครดีๆฉากหนึ่ง

บทที่ 1440 ละครดีๆฉากหนึ่ง

“งั้นดูแล้ว ที่วันนี้คุณมาถึงที่นี่ ก็เพียงเพื่อต้องการเปิดดินแดนลับใช่ไหม?” รพีพงษ์ถาม

ญาณิดาพยักหน้า: “คุณพูดไม่ผิดพระพุทธรูปองค์นี้สามารถเปิดดินแดนลับได้จริงๆ เพียงแต่ฉันอยากจะถามคุณหน่อย ในเมื่อคุณฉลาดขนาดนี้ เช่นนั้นคุณสามารถเดาออกไหมว่ากุญแจที่เปิดดินแดนลับคืออะไร?”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ภายในวัดได้ถูกปิดไปทั่วสารทิศ เดิมก็ไม่เหมือนกับตอนนั้นที่อยู่ทะเลทรายตะวันตก ที่มีแสงอาทิตย์สีแดงสะท้อนอยู่ระหว่างคิ้วของพระพุทธรูป

เขาได้มองไปรอบด้าน ก็ไม่ได้พบว่ามีอะไรแปลก

ทันใดนั้น สายตาของเขาก็ได้มองไปทางหินลั่วหงสีแดงก้อนนี้ในมือ ความคิดที่กล้าหาญก็ได้ปรากฏขึ้นอยู่ในหัวของเขา

เขาได้มองญาณิดาด้วยความหวาดกลัว: “หรือว่ากุญแจที่จะเปิดดินแดนลับได้จะเป็น……หินลั่วหงเม็ดนี้?”

เมื่อได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ นีย์ก็ตกใจมาก

รพีพงษ์ด้านหนึ่งได้มองหินลั่วหงไว้ อีกด้านหนึ่งก็ได้ลืมตามองไปยังพระพุทธรูปตรงหน้าไว้

เห็นได้ชัดว่าระหว่างคิ้วของพระพุทธรูปมีส่วนที่เว้าลึกลงส่วนหนึ่ง และส่วนเว้านี้ก็พอเหมาะพอดีกับหินลั่วหงเม็ดนี้!

“คุณชายรพีพงษ์ คุณก็ยังคงฉลาดมากจริงๆนะ คุณพูดไม่ผิด หินลั่วหงก็คือกุญแจ ฉันเฝ้ารออยู่ที่นี่มานับพันปี ก็เพื่อรอคอยวันนี้!” ญาณิดาพูด ในเวลาเดียวกันก็ได้หันไปทางรพีพงษ์พร้อมยื่นมือออกมา: “นำหินลั่วหงมอบให้ฉัน แล้วฉันจะปล่อยพวกคุณไป!”

รพีพงษ์รีบถอยไปด้านหลังทันที: “ไม่ คุณจะต้องบอกผม เดิมทีทวีปโอชวินก็เป็นดินแดนลับ และในดินแดนลับแห่งนี้ได้ซ่อนอะไรไว้กันแน่!”

“ฮ่าๆ รพีพงษ์ คุณก็ยังคงไร้เดียงสาจริงๆ คุณพูดว่าทวีปโอชวินคือดินแดนลับ?” ญาณิดาเบิกตามองรพีพงษ์พร้อมทั้งหัวเราะ

“หรือว่าไม่ใช่งั้นเหรอ?” รพีพงษ์ขมวดคิ้วแน่น ถ้าว่ากันตามเหตุผลแล้วการคาดเดาของตัวเองก็ไม่น่าจะผิด

“แน่นอนว่าไม่ใช่ หรือจะพูดได้ว่าดินแดนลับในประเทศจีนของพวกคุณก็ไม่นับว่าเป็นดินแดนลับ เพราะว่า……”

สายตาของญาณิดามีความคิด อีกทั้งได้มองทั้งคู่ที่กำลังงุนงงเอาไว้และพูด: “สิ่งที่เรียกว่าดินแดนลับพวกนี้ เป็นแค่เพียงสิ่งที่สร้างขึ้นตามความอำเภอใจในโลกของฉันก็เท่านั้น!”

“อะไร?”

รพีพงษ์กับนีย์ทั้งคู่รู้สึกตกใจจนหน้าถอดสี!

“คุณจะบอกว่า ดินแดนลับที่แปลกประหลาดพวกนั้นบนโลก ล้วนเป็นคุณที่สร้างมันออกมา?” รพีพงษ์มองญาณิดาด้วยความตื่นตกใจ

ญาณิดายิ้มเล็กน้อย: “ที่คุณพูดก็ไม่ผิด เพียงแต่ฉันไม่มีความสามารถขนาดนั้น”

รพีพงษ์กับนีย์มองญาณิดาที่มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเอาไว้ ในเวลาเดียวกันในใจของพวกเขาได้เกิดเสียงๆหนึ่ง: ผู้หญิงคนนี้ ในโลกนั้นยังมีคนของเธอ แท้จริงคืออะไรกันแน่?

ดินแดนลับทุกที่บนโลก ต่างก็มีด้านของความมหัศจรรย์ในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำมังกรก่อนหน้านี้ หรือทวีปโอชวินแห่งนี้ ที่นี่ไม่เพียงจะมีอยู่จริงๆ แต่ด้านในยังมีสมบัติมากมายที่ตามหาไม่ได้บนโลกซ่อนอยู่!

“เอาล่ะ ฉันไม่พูดมากกับพวกคุณแล้ว ฉันรอด้วยความทรมานมาพันปี ก็เพื่อรอคอยวันนี้ คุณชายรพีพงษ์ คุณมอบหินลั่วหงให้ฉัน ฉันจะให้พวกคุณจากไป” ญาณิดายื่นมือออกไปทางรพีพงษ์

ดวงตาของรพีพงษ์เคร่งขรึม เขาชัดเจนมาก การเปิดดินแดนลับจะต้องมีเวลาจำกัด ทางทะลุของดินแดนลับเขตตะวันตกเฉียงเหนือต้องใช้เวลาสิบปีจึงจะเปิดได้สักครั้ง และทางทะลุของทวีปโอชวินต่อผลการฝึกตนบนโลกก็น่าจะต้องใช้เวลาหลายร้อยปี และทุกสิ่งที่ญาณิดาพูด หากว่าต้องการเปิดโลกใหม่ที่ได้ซ่อนอยู่ด้านหลังพระพุทธรูปแล้วล่ะก็ ก็ต้องใช้เวลาพันปี!

“ผมขอถามคุณหน่อย ในเมื่อทวีปโอชวินก็เป็นดินแดนลับ งั้นทำไมมันไม่เหมือนดินแดนลับที่อื่นแบบนั้น แต่กลับยินยอมให้คนของทวีปโอชวินเดินทางทะลุผ่านมาถึงโลกของพวกเราได้!” รพีพงษ์ถาม

เพราะก่อนหน้านี้ในดินแดนลับสระน้ำมังกร หากว่าพวกวรันธรต้องการที่จะออกจากดินแดนลับ ก็ต้องรอถึงสิบปี แต่ทางด้านทวีปโอชวินนี้ ดูเหมือนว่าคิดออกจากทวีปโอชวินตอนไหนก็ทำได้

“ที่นี่ก็เป็นเพียงแค่ห้องหนังสือของพวกเราก็เท่านั้น”

“ห้องหนังสือ?”

นีย์ได้มองญาณิดาอย่างประหลาดใจ

ญาณิดาพยักหน้า: “ใช่สิ ทำไม หรือว่ามีปัญหาอะไรงั้นเหรอ? ไม่งั้นเธอคิดว่าทำไมในวิหารแห่งนี้ถึงได้มีตำรามากขนาดนี้ล่ะ? หรือว่าอยู่ดีๆพวกเธอก็เปลี่ยนมันออกมา?”

รพีพงษ์กับนีย์ได้คิดอะไรออกอย่างฉับพลัน วิหารที่อยู่ดีๆก็ปรากฏนี้ ตลอดจนวิชาลับมากมายเช่นนี้ที่อยู่ภายในวิหารก็ล้วนมีคำตอบแล้ว เดิมนี่ก็ไม่ได้เป็นสมบัติที่มาจากสวรรค์ กลับกันก็เป็นเพียงแค่ที่ใช้เก็บตำราในโลกของพวกญาณิดาก็เท่านั้น

เพื่อเก็บตำราพวกนี้ จึงได้สร้างโลกใบใหม่โลกหนึ่งออกมา นี่ก็ทำให้คนประหลาดใจเกินไปแล้วจริงๆ!

วันนี้ความรู้ความเข้าใจของนีย์ได้ถูกทำลายอย่างถึงที่สุดแล้ว

แท้จริงแล้ว ทวีปโอชวินที่ตัวเองได้ทุ่มเทปกป้องมาโดยตลอด ก็เป็นเพียงแค่ห้องหนังสือของคนอื่นเท่านั้น!

“เพียงแต่โชคของพวกจิรกิตติ์ก็ยังคงไม่เลว ภายใต้ความบังเอิญ คิดไม่ถึงว่าจะทะลุมาถึงทางด้านนี้ ฉันก็คิดไม่ถึงว่าตำราเก่าพวกนี้ที่พวกเราได้เก็บไว้ จะถูกเขาถือเป็นสิ่งมหัสจรรย์ อีกทั้งยังสามารถเลื่อนขั้นผลการฝึกตนได้ในเวลาอันสั้น แต่มีคนกลุ่มหนึ่งแบบนี้ช่วยฉันดูแลห้องหนังสือ ก็ยังนับว่าไม่เลว” ญาณิดาพูด

รพีพงษ์ส่ายหัวด้วยความจนปัญญา วิชาลับพวกนี้ทุกเล่มล้วนเรียกได้ว่าเป็นคัมภีร์ของทวีปการฝึกตน แต่แท้จริงแล้วเป็นตำราเก่าที่คนอื่นทิ้งไปแล้ว

“เดิมทีทางทะลุผ่านสำหรับพวกจิรกิตติ์นั้นก็เหมือนกับดินแดนลับก่อนหน้านี้ไม่มีผิด พวกเขาก็ไม่สามารถออกมาได้ เพียงแต่พวกเราเห็นว่าจิรกิตติ์กังวลเกี่ยวกับแหล่งจิตวิญญาณของจอมมารชูร่าและบนโลกมาโดยตลอด ฉันก็คิดว่าในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็สู้ไม่ได้กับดูการละครดีๆฉากหนึ่ง เพื่อผ่านช่วงเวลาที่น่าเบื่อนี้ ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันก็อยากกลับไปยังโลกของตัวเอง และยังต้องใช้เวลานานมาก” ญาณิดาพูดตามอำเภอใจ

“ก็พูดได้ว่า ทางทะลุผ่านทั้งแปดนี้ก็เป็นคุณที่เปิดออกเพื่อพวกจิรกิตติ์เหรอ?” รพีพงษ์ขมวดคิ้วแน่นพร้อมถาม

ญาณิดาพยักหน้า: “ใช่สิ เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าจอมมารชูร่าจะใช้พลังจิตวิญญาณสุดท้ายของตัวเองมาปิดทางทะลุนี้ และพวกจิรกิตติ์ก็ยังฉลาดอยู่บ้าง คิดไม่ถึงว่าจะฝึกสำเร็จจนเป็นวิชาเศษวิญญาณรอดหนี สามารถรับส่งคนของตัวเองจากทางทะลุได้ นี่กลับเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของฉัน”

รพีพงษ์กำหมัดไว้แน่น น้ำเสียงก็ได้เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมา: “นี่ก็พูดได้ว่า เดิมทีพวกจิรกิตติ์ก็ออกมาไม่ได้ ก็แม้ว่าจะต้องการมานอกโลกก็ต้องใช้เวลาหลายร้อยปี แต่ว่าเป็นเพราะว่าคุณ พวกเขาจึงได้มาถึงทวีปโอชวินของพวกเราได้ตามอำเภอใจใช่ไหม?”

“ใช่สิ ทำไม มีปัญหางั้นเหรอ?” ญาณิดามองรพีพงษ์ไว้ด้วยสายตาที่งุนงง

“มีปัญหาใหญ่มาก!”

รพีพงษ์ตะคอกเสียงแหลม ก็แม้แต่นีย์ที่อยู่ทางด้านหนึ่งก็ได้ตกใจ!

“การโต้เถียงของโลกกับทวีปโอชวินที่ยาวนานมาถึงหลายร้อยปี คนของทวีปโอชวินได้ทำชั่วไปทุกที่บนโลกของพวกเรา เป็นพิษทำลายประชาชน แต่เรื่องพวกนี้กลับสร้างขึ้นเพราะคุณ คิดไม่ถึงว่าสาเหตุจะเป็นเพราะคุณทำเพื่อฆ่าเวลา ดูละครดีๆฉากหนึ่ง? คุณรู้ว่าละครฉากนี้ของคุณ มีคนต้องตายไปเท่าไหร่ไหม!”

บนตัวของรพีพงษ์ได้มีไอเย็นกระจายออกมา หลังจากที่เขาเข้าใจความจริงทั้งหมด ก็ไม่มีความรู้สึกดีแม้แต่น้อยต่อญาณิดาหญิงสาวคนนี้อีกเลย!

นีย์ที่ยืนอยู่ทางด้านหนึ่งก็คิดไม่ถึงว่า ตำแหน่งเจ้าทวีปกิตติ์ที่ทำให้พ่อกับพี่สาวของตัวเองร่วมกันต่อสู้บนทวีปโอชวิน ก็เป็นเพียงแค่การรับจ้างในห้องสมุดก็เท่านั้น?

ตัวเองที่เพิ่งได้กลายเป็นเจ้าทวีปกิตติ์ของทวีปโอชวิน ก็ได้รู้ความลับหลายร้อยปีของทวีปโอชวินที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน

ที่ทำให้นีย์ผิดหวังก็คือ หากไม่ใช่เพราะคำพูดของญาณิดา ทางทะลุก็จะไม่เปิดออก ก็แม้ว่าจะเปิดออกก็ต้องใช้เวลาหลายร้อยปี และเมื่อถึงตอนนั้นจริงๆแล้ว ความตั้งใจของพ่อตัวเองอาจจะค่อยๆหมดไปตั้งนานแล้ว ไม่แน่ว่าก็จะไม่อยากได้แหล่งจิตวิญญาณบนโลกอีกต่อไป

และสิ่งที่นีย์มั่นใจก็คือ อย่างน้อยที่สุดพวกจิรกิตติ์ตลอดจนฉันท์ชนกก็จะไม่ถูกฝังเพราะเหตุนี้

“นังแม่มดเฒ่า ทั้งหมดเป็นเพราะแก ที่ทำให้ทวีปโอชวินของพวกเราเป็นศัตรูกับโลก ฉันกับแกอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้!” นีย์ได้พูดด้วยความโกรธเช่นเดียวกัน

ในสายตาของญาณิดามีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์: “สาวน้อย พูดตามความจริง ก็แม้ว่าทวีปโอชวินบวกกับกลุ่มสิงโตของคุณชายรพีพงษ์ เอาทุกคนมารวมกัน เกรงว่าก็เทียบกับปลายนิ้วของฉันคนเดียวไม่ได้ ด้วยกำลังแบบนี้ เธอก็กล้าที่จะอยู่ร่วมโลกกับฉันไม่ได้งั้นเหรอ?”

“แก!”

นีย์โกรธเป็นพิเศษ แต่ว่าหล่อนกลับถูกรพีพงษ์ขวางไว้อยู่ด้านหลัง

“คุณญาณิดา คุณแข็งแกร่งมากจริงๆ แข็งแกร่งจนผมไม่สามารถทนมือคุณได้แม้แต่รอบเดียว แต่คุณอย่าลืมไปแล้ว ตอนนี้หินลั่วหงยังอยู่บนมือของผม” ในสายตาของรพีพงษ์มีลำแสงของความมั่นใจ และได้มองญาณิดาเอาไว้

เขารู้ว่าเจรจากับคนแบบนี้ ในมือตัวเองจะต้องมีแต้มต่อถ่วงฝ่ายตรงข้าม และหินลั่วหงก็คือแต้มต่อของตัวเอง!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท