พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1453 สุขสันต์

บทที่1453 สุขสันต์

ทุกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามดื่มเหล้ามากเกินไป ดังนั้นจึงไม่สามารถรับรู้ได้ มิเช่นนั้นสายตาเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกกระจอกเหล่านี้ฉี่ลาดได้

“มิฉะนั้น ผมจะทำให้เลือดของพวกคุณสาดอยู่ตรงนี้!”

ชายหัวโล้นชี้ไปที่ไตรทศพร้อมขวดเบียร์ในมือ

แต่ ณ เวลานี้ ขวดเบียร์ในมือของเขาถูกธฤตญาณที่อยู่ข้างๆ กระชากไปทันที หลังจากเสียงดังก้อง ศีรษะที่เป็นประกายแวววาวของชายหัวโล้นก็แตกทันที!

“แค่ขวดเบียร์ยังจับไม่มั่น คนอย่างคุณจะประสบความสำเร็จในเกียวโตได้หรือ?”

ธฤตญาณกล่าวด้วยเสียงเย็นชา

ชายหัวโล้นจับหัวที่เลือดกำลังไหล ชี้ไปที่ธฤตญาณ และกล่าวว่า “คุณ คุณลอบโจมตี……คุณไม่ปฏิบัติตามกฎ!”

“ไม่สำคัญว่าคุณจะใช้ขวดเบียร์ชี้มาที่ผม หรือเหยียบหยามผมด้วยคำพูด แต่สุนัขอย่างพวกคุณ กล้าว่าประมุขรพีของตระกูลลัดดาวัลย์ คุณก็สมควรตาย!”

ธฤตญาณกล่าวอย่างเย็นชา พร้อมมีไอเยือกเย็นแผ่ออกมาจากภายในร่างกายสู่ภายนอก

ข้างหลังเขา เมื่อชายตาเล็กเห็นว่าอีกฝ่ายเก่งเป็นอย่างมาก และแววตาสังหารของอีกฝ่ายที่ไม่เหมือนคนธรรมดา เขาจึงรีบรั้งชายหัวโล้นแล้วกล่าวว่า “เฮียยิ่งคุณ พวกเรารีบไปกันเถอะ”

“ไปเหี้ยอะไร! พวกเรามีสี่คน จะไปกลัวพวกเขาทำไม!”

ขณะที่ชายหัวโล้นพูด ก็พุ่งไปข้างหน้าทันที

ธฤตญาณส่ายศีรษะอย่างจำใจ “แน่นอนว่า คนที่ดื่มเหล้ามากเกินไปจะไม่รู้จักความเจ็บปวด”

“งั้นผมจะเป็นคนที่ช่วยให้เขาสร่างเมาเอง!”

รอยยิ้มอยู่ปรากฏอยู่ในแววตาของไตรทศ จากนั้นเขาก็ใช้เท้า

เตะไปที่ท้องของอีกฝ่ายทันที เดิมชายหัวโล้นเองก็เมาอยู่แล้ว บวกกับพลังอันมหาศาลของไตรทศ ทำให้เขายืนไม่มั่น และล้มลงกับพื้นทันที

หลังจากนั้น ไตรทศเดินไปข้างหน้า และเหยียบบนตัวของอีกฝ่าย แม้ว่าชายหัวโล้นจะตัวใหญ่ แต่เขาก็ไม่สามารถขยับตัวได้

เมื่อพวกที่อยู่ข้างหลังเห็นเช่นนี้ พวกเขาไม่เคยคิดว่า สองคนนี้ที่ดูธรรมดา แต่กลับมีทักษะฝีมือที่เก่ง ถ้าไม่มีประสบการณ์ต่อสู้นับร้อยครั้งจะทำเช่นนี้ไม่ได้แน่นอน

“พวกคุณ มีใครกล้าเข้ามาอีก”

ธฤตญาณกล่าวอย่างเย็นชา เพียงแค่สายตาของเขา ก็ทำให้พวกเขาวางขวดเบียร์ในมือลงทีละขวด

“ตีพวกมันเลย แม่งฉิบ ตีพวกมันให้ตาย!”

ชายหัวโล้นที่ถูกเหยียบกล่าวเสียงดัง

“ดูเหมือนว่าเขาจะดื่มเหล้าไปไม่น้อย ไม่เป็นไรอีกสักครู่คุณจะสร่างเมาเอง”

เมื่อพูดจบ ไตรทศก็เดินออกไปสองก้าว และมาที่ประตูร้านอาหาร

หน้าประตูของร้านอาหารมีสายยางน้ำประปา เพื่อเอาไว้ใช้สำหรับล้างปลาและกุ้ง

ไตรทศลากสายยางน้ำประปา แล้วเปิดก๊อกน้ำ ตอนนี้เป็นเวลาดึกแล้ว และอากาศตอนกลางคืนของเกียวโตมันหนาวมาก

น้ำประปาที่ไหลออกจากท่อน้ำนั้นจึงเย็นเฉียบ!

น้ำเย็นไหลลงไปบนใบหน้าของชายหัวโล้นอย่างต่อเนื่อง ชั่วพริบตา เขาก็ได้สติสร่างเมาทันที

“โอ๊ย! ไม่ พี่ใหญ่ ผมผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ผมด้วย!” ชายหัวโล้นกล่าวด้วยความทรมาน

“เมื่อสักครู่คุณดุนักไม่ใช่หรือ จะให้พวกเราเลียรองเท้าของคุณไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้คุณไม่ดุล่ะ หือ?” ไตรทศกล่าวอย่างดุร้าย และมือของเขาก็ยังเคลื่อนไหวไม่หยุด

“ผมผิด มันเป็นความผิดของผมเอง ผมดื่มมากเกินไปถึงได้เป็นแบบนี้” ชายหัวโล้นอ้อนวอนขอความเมตตา

“เอาล่ะ ไตรทศสั่งสอนแค่นี้ก็พอประมาณแล้ว”

ธฤตญาณกล่าวอย่างเคร่งขรึม และเดินไปอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย

ไตรทศถอนลมหายใจ แล้วโยนสายยางน้ำประปาทิ้งไป

“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่พวกเราผิดไปแล้ว” คนเหล่านี้มองสองคนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าก่อเรื่องอีก

“ปล่อยคุณไปก็ได้ แต่เมื่อสักครู่คุณคุยโว และดูถูกประมุขของตระกูลลัดดาวัลย์ เรื่องนี้ผมยอมไม่ได้” ธฤตญาณกล่าวกับชายหัวโล้น

ชายหัวโล้นสั่นไปทั้งตัว และกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเทาว่า “พี่……พี่ใหญ่ คุณต้องการอะไร หรือจะให้ผม…..ผมเลียพื้นรองเท้าของคุณ?”

“แม่งฉิบหาย คุณคู่ควรหรือ?” ไตรทศกล่าว

“แล้ว……แล้วคุณจะเอาอย่างไร?” ชายหัวโล้นมองธฤตญาณด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้เขาสร่างเมาแล้ว มองแวบแรกก็รู้ว่า ธฤตญาณเป็นคนที่พูดน้อย แต่เป็นคนที่ไม่สามารถล่วงเกินได้

“คุณชื่อ……..ยิ่งคุณ?” ธฤตญาณกล่าวอย่างเย็นชา

ชายหัวโล้นพยักหน้าอย่างงุนงง

“โอเค ชื่อนี้ไม่เลว เมื่อเป็นเช่นนี้ จะลงโทษคุณ โดยให้คุณยืนร้องเพลงสุขสันต์อยู่หน้าร้านสิบรอบ” ธฤตญาณกล่าวอย่างเย็นชา

ไตรทศที่ยืนอยู่ด้านข้างยิ้มเล็กน้อย ให้ชายร่างใหญ่กำยำร้องเพลงกล่อมเด็กที่ทางเข้าร้านอาหาร คาดว่าพรุ่งนี้คลิปวิดีโอนี้จะถูกผู้คนค้นหาอย่างร้อนแรง สมแล้วที่เป็นธฤตญาณที่สามารถคิดวิธีเช่นนี้ออกมาได้

“พี่ใหญ่ ผม……ไม่ใช่ว่าผมไม่ร้อง แต่ผม……ผมร้องเพลงนี้ไม่เป็น” ชายหัวโล้นกล่าวอย่างเก้อเขิน

“ผมร้องเป็น ผมจะเป็นคนร้องนำ”

ชายตาเล็กที่อยู่ด้านข้างกล่าวอย่างรวดเร็ว เขากระแอมในลำคอ และเริ่มร้องเพลง “สุขสันต์ แกะแสนสวย……. ”

หลังจากได้ยินเสียงร้องเพลง ทำให้ไตรทศและคนอื่น ๆ ส่ายศีรษะ

ขณะนี้รพีพงษ์ได้เดินเข้ามา “เป็นอย่างไรบ้าง จัดการเรียบร้อยหรือยัง? ”

“จัดการเรียบร้อยแล้วครับพี่ใหญ่ พวกเราไปกันเถอะ”

ไตรทศกล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วทั้งสามก็หันหลังและกำลังจะเดินออกไป

ในคืนที่มืดมิด เมื่อสักครู่ตอนที่อยู่ในร้านอาหารชายตาเล็กไม่ได้สนใจ ตอนนี้เขาถึงสังเกตเห็นใบหน้าของรพีพงษ์อย่างชัดเจน

เขากล่าวด้วยเสียงที่แหบว่า “คุณ……คุณคือคุณชายรพี”

“อะไรน่ะ? เขาคือรพีพงษ์?”

ชายหัวโล้นกล่าวด้วยความประหลาดใจ

ไตรทศหันหลังกลับมา “ไอ้หมอนี่ คุณกล้าเรียกชื่อคุณชายรพีโดยตรงได้อย่างไร เร็วรีบร้องเพลงให้ผมฟังเลย!”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ไตรทศกล่าว ทุกคนก็ยิ่งมั่นใจยิ่งขึ้น ในสามคนนั้น คนที่เป็นหัวหน้าคือรพีพงษ์ ประมุขของตระกูลลัดดาวัลย์!

“พี่ทั้งสามคน ผม…….ผมมีเรื่องจะบอกพวกคุณ”

ชายตาเล็กกล่าวกับพวกธฤตญาณ

“ทำไม คุณมีเรื่องอะไร?” ธฤตญาณกล่าว

“พวกเราอยากให้พวกคุณเป็นพี่ใหญ่ของพวกเรา ต่อไปพวกเราจะติดตามพวกคุณ!”

ชายตาเล็กขยิบตาให้เพื่อนของตนเอง

คนเหล่านี้เข้าใจอย่างชัดเจน และรีบกล่าวพร้อมกัน “ใช่ ต่อไปพวกเราจะติดตามพวกคุณ! ”

รพีพงษ์มองดูคนเหล่านี้ และคิดว่าชายตาเล็กคนนี้ค่อนข้างฉลาด หลังจากที่รู้ว่าธฤตญาณกับไตรทศกำลังติดตามตนเองอยู่ เขาก็อยากจะติดตามตนเองอย่างรวดเร็ว

“พวกคุณจะติดตามผม อาศัยอะไร? ผมธฤตญาณไม่เคยต้องการคนไร้ประโยชน์” ธฤตญาณกล่าวอย่างเย็นชา

ชายตาเล็กรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว “พี่ใหญ่ เดิมทีพวกเราเป็นคนของแก๊งมังกรทองที่เป็นกองกำลังมืดใต้ดินอันดับหนึ่งในเกียวโต ใครจะไปรู้ เพราะเรื่องหนึ่ง พวกเราจึงถูกขับไล่ออกจากแก๊งมังกรทอง”

“อ้อ?”

หลังจากฟังธฤตญาณก็มองไปที่รพีพงษ์

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย “ผมไม่ได้อยู่เกียวโตนาน ผมไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับแก๊งมังกรทอง”

“ประมุขรพีมีธุรกิจใหญ่โตมากมาย ดังนั้นมันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะไม่สนใจแก๊งมังกรทอง แต่ผู้นำของแก๊งมังกรทองที่ชื่อมกรธวัช เคยพูดประโยคหนึ่ง”

ชายตาเล็กกล่าวแล้วมองไปที่รพีพงษ์

“เคยพูดอะไร?” รพีพงษ์ถามด้วยความอยากรู้

“เขาบอกว่า ในเมืองเกียวโตถ้าเป็นตอนกลางวันประมุขรพีเป็นใหญ่ ส่วนตอนกลางคืนเขามกรธวัชเป็นใหญ่!” ชายตาเล็กกล่าว

“ไอ้หมอนี้มันช่างจองหองจริง ๆ!” ไตรทศกล่าวอย่างเย็นชา

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ไม่อนุญาตให้คนจองหองเช่นนี้อยู่ในเกียวโตอีกต่อไป

แค่ตนเองสั่ง ก็สามารถจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย แต่เรื่องเช่นนี้ตนเป็นคนลงมือเองจะดีกว่า

ธฤตญาณมองพวกเขาและกล่าวว่า “เมื่อสักครู่พวกคุณบอกว่าถูกมกรธวัชขับไล่ออกจากแก๊งมังกรทอง ผมอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“เพราะว่าไอ้หมอนั้นแย่งแฟนสาวของผมไป!”

ขณะนี้ ยิ่งคุณที่หัวโล้นก็เดินเข้ามา เขามองธฤตญาณและคนอื่น ๆ อย่างเจ็บปวดและกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ผมร้องเพลงจบแล้ว”

“คุณบอกว่ามกรธวัชแย่งแฟนสาวของคุณ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ธฤตญาณกล่าวถาม

ยิ่งคุณกล่าวว่า “แม่งฉิบหาย มกรธวัชบังคับครอบครองแฟนสาวลับหลังผม ด้วยความโกรธผมจึงไปถามเขา แต่กลับถูกเขาทำร้าย แล้วก็ขับไล่ผมออกมาจากแก๊ง”

“แล้วพวกคุณล่ะ หรือว่ามกรธวัชแย่งแฟนสาวของพวกคุณด้วย?” รพีพงษ์กล่าวถาม

ชายตาเล็กและคนอื่น ๆ ส่ายหน้า “ไม่ใช่ พวกเราเป็นพี่น้องที่สนิทของยิ่งคุณ เมื่อเห็นว่าเขาถูกขับไล่ เราก็ตามออกมา เพียงแต่…… ”

“เพียงแต่เมื่อวานไอ้มกรธวัชออกคำสั่งฆ่า เพื่อให้พวกเราไม่สามารถอยู่ในเกียวโตได้อีก แต่ผมไม่อยากให้พี่น้องต้องติดร่างแหไปด้วย ดังนั้นคืนนี้ผมก็เลยพาพวกเขาออกมาเลี้ยงสังสรรค์?” ชายหัวโล้นกล่าว

“ดูไม่ออกเลยว่าคนพวกนี้จะมีน้ำใจ” รพีพงษ์กล่าวกับธฤตญาณ

ธฤตญาณพยักหน้า

“พี่ใหญ่ ต่อไปให้พวกเราติดตามคุณได้ไหม ถ้ามีพวกคุณ ไอ้มกรธวัชจะไม่กล้าทำอะไรพวกเรา” ชายตาเล็กกล่าว

ยิ่งคุณก็ขอร้องอ้อนวอนเช่นกัน “คุณชายรพี เมื่อสักครู่ผมเลอะเลือนไปชั่วขณะ ผมสมควรตาย ผมไม่ควรพูดเช่นนั้น คุณชายรพีเป็นบุคคลประเภทใด ผมเลอะเลือนเช่นนั้นได้อย่างไร กล้าไปเปรียบเทียบกับคุณได้อย่างไร?”

รพีพงษ์กล่าวอย่างราบเรียบว่า “ไม่เป็นไร สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง เมื่อก่อนผมเป็นแค่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของเมืองริเวอร์จริง ๆ”

“พวกคุณจะตามติดตามพวกเราก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะพวกเราไม่ได้อยู่ในเกียวโต อีกสองวันพวกเราก็จะกลับไปแล้ว” ธฤตญาณกล่าว

“นี่……”

ยิ่งคุณกัดริมฝีปาก และหันไปหาทุกคนและกล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย ต้องขอโทษด้วย ที่พวกคุณติดตามผมแล้วมีแต่ความทุกข์ยาก เมื่อเป็นเช่นนี้ คืนนี้หลังจากดื่มสังสรรค์แล้ว พรุ่งนี้ต่างคนต่างไปดีกว่า!”

“แล้วคุณล่ะ?” ชายตาเล็กกล่าวถาม

สายตาของยิ่งคุณมีแววดุร้าย “มกรธวัชเผด็จการเกินไปแล้ว พรุ่งนี้กูจะไปชำระบัญชีกับมัน!”

“อย่าไป มกรธวัชมีลูกน้องร้อยกว่าคน อีกอย่าง ถึงจะสู้ตัวต่อตัวคุณก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ถ้าคุณไปก็เท่ากับไปรนหาที่ตาย!” ชายตาเล็กกล่าว

“แต่ว่า……”

ชายหัวโล้นมีสีหน้าเคียดแค้น เขาในฐานะผู้ชาย สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือถูกสวมเขาแต่ไม่มีทางที่จะล้างแค้นได้!

“ธฤตญาณ คุณมาทางนี้ก่อน”

รพีพงษ์โบกมือ แล้วทั้งสามคนก็ถอยไปด้านข้าง

“พี่ใหญ่ มีอะไรหรือ?” ไตรทศกล่าวถาม

“สนใจที่จะมาปักหลักที่เกียวโตหรือไม่?” รพีพงษ์กล่าว และมองสองคนด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท