พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1441 อย่าตื่นตลอดกาล

บทที่1441 อย่าตื่นตลอดกาล

“เจ้าจะทำอะไร?”

ญาณิดาถามอย่างเย็นชา

“บอกข้ามา ที่ที่เจ้าคิดอยู่ตลอดเวลาและต้องการจะกลับไปนั้นมันคือที่ไหน!” รพีพงษ์กล่าว ตอนนี้เขายังไม่สามารถตัดสินได้ว่าโลกของฝ่ายตรงข้ามมันคืออะไร ถ้าหากตัดสินใจแล้วว่าโลกของฝ่ายตรงข้ามเป็นภัยคุกคามต่อโลกของตัวเองละก็ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ก็จะนำหินลั่วหงโยนลงไปในเหวลึก!

ญาณิดาเม้มปากและมองไปที่รพีพงษ์: “ถ้าหากข้าน้อยจำไม่ผิด ในวันที่อยู่ในใต้ใจกลางของทะเลสาบ จอมมารชูราเคยบอกกับเจ้าแล้ว ว่าการรู้เรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับเจ้า”

“ตอนนี้ไม่ใช่ตอนนั้น ในเวลานั้นข้าไม่มีฐานการฝึกตนในตอนนี้ และความรับผิดชอบที่แบกรับไว้ก็มากเท่าตอนนี้” รพีพงษ์กล่าว

“ก็ได้ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ข้าน้อยจะยอมบอกเจ้า”

ญาณิดามองไปที่ทั้งสองคนด้วยความนิ่งเฉย: “คุณชายรพี เจ้าเชื่อในเรื่องอมตะหรือไม่?”

“อมตะ?”

รพีพงษ์และนีย์ตกตะลึงอย่างมาก

“พวกข้าก้าวสู่เส้นทางการฝึกตน และพยายามยกระดับผลการฝึกตน ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งส่วนบุคคลที่จะยกระดับขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังจะช่วยยืดอายุขัยของพวกข้าได้อีกด้วย ข้าน้อยคิดว่า เมื่อพวกข้าฝึกตนไปถึงระดับสูงสุดแล้ว อมตะก็ไม่ใช่ที่จะมีความเป็นไปไม่ได้!”

นีย์กล่าว

“ฮ่าฮ่า สาวน้อย เจ้ายังคงไร้เดียงสาจริงๆเลย”

ญาณิดายิ้มและพูดว่า: “ระดับสูงสุดที่เจ้ากำลังพูดถึงนั้นคืออะไร? แดนเทพเหรอ? หรือว่าแดนเทพขั้นพีค? ถ้าอย่างนั้นข้าน้อยขอถามเจ้า ความแข็งแกร่งของทั้งสามพี่น้องจิรกิตติ์นั้นได้ถึงแดนเทพขั้นพีคแล้ว และคนที่ชื่อธีรพัฒน์นั้น ซึ่งหนวดเคราและผมก็ขาวหมดแล้ว ดังนั้นเจ้าคิดว่า พวกเขาจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน?”

นีย์พูดด้วยความลังเล: “ข้าน้อยคิดว่า สี่ถึงห้าร้อยปี ก็ไม่น่าจะมีปัญหาหรอกมั้ง”

“ใช่ แต่ถ้าสี่ห้าร้อยปีต่อมาล่ะ?”

“อันนี้……”นีย์กัดริมฝีปาก เนื่องจากคำถามนี้ได้เกินความรู้และความเข้าใจของนางแล้ว

“สาวน้อย เจ้าดูข้าน้อยสิ ข้าน้อยมีอายุมากกว่าพันปีแล้ว แต่รูปร่างหน้าตาของข้าน้อยยังน่ารักและสวยกว่าเจ้าอีกด้วยซ้ำ เจ้าไม่รู้สึกว่าข้าน้อยจะเหมือนกับเด็กสาวอายุยี่สิบปีหรือ?”ญาณิดาพูดด้วยรอยยิ้ม และอวดโชว์รูปร่างของตัวเอง

“ดังนั้นจึงบอกว่าเจ้าเป็นนางปีศาจเฒ่า” นีย์พูดอย่างเย็นชา ถูกคนอื่นพูดว่าสวยกว่าตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้ทำให้นีย์โมโหอย่างมาก

รพีพงษ์ที่ยืนฟังสนทนาระหว่างทั้งสองอยู่ด้านข้างอย่างสงบ ซึ่งค่อนข้างแต่งต่างกับสิ่งที่เขาคิดในใจอยู่เล็กน้อย

ความแข็งแกร่งของทั้งหมดก็เป็นแดนเทพขั้นพีค แต่เมื่อสามพี่น้องจิรกิตติ์เทียบกับธีรพัฒน์แล้ว ไม่เพียงแต่ในทางด้านวรยุทธเท่านั้น แต่พลังจิตวิญญาณในร่างกายจะแข็งแกร่งกว่าธีรพัฒน์อย่างมาก และนี่ก็คือสาเหตุที่การต่อสู้ยอดเขาคุนหลุนในครั้งก่อน ที่ธีรพัฒน์ทำไมถึงถูกจิรกิตติ์ปราบปรามโดยสิ้นเชิง

ซึ่งหมายความว่า แม้ว่าจะเป็นแดนเทพขั้นพีคด้วยกัน แต่ถ้าหากแยกแยะอย่างละเอียด ก็ยังคงมีความแตกต่างในระดับอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของรพีพงษ์ แม้ว่าจิรกิตติ์จะเป็นผู้ดำรงอยู่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเหล่าแดนเทพขั้นพีคแล้ว แต่เมื่อเทียบกับจอมมารชูราแห่งปีนั้นแล้ว ก็ยังคงรู้สึกมีความแตกต่างอยู่เล็กน้อย มิฉะนั้น เขาคงไม่ซ่อนตัวอยู่ในทวีปโอชวินเป็นเวลาหลายร้อยปี เพียงแต่กลัวว่าจะศักดิ์ศรีจอมมารชูรา

เป็นไปได้ไหมว่า ระดับของจอมมารชูรานั้นจะสู้กว่าจิรกิตติ์?

รพีพงษ์ปฏิเสธความคิดในใจของตัวเองทิ้งอย่างรวดเร็ว เนื่องจากธีรพัฒน์เคยเห็นจอมมารชูรามาก่อน ถ้าหากจอมมารชูราบรรลุไปยังระดับใหม่ละก็ ถ้าอย่างนั้นท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์จะบอกให้ตัวเองอย่างแน่นอน

“นอกเหนือจากแดนเทพขั้นพีคแล้ว ยังมีระดับอื่นอยู่เหรอ?”

รพีพงษ์มองไปที่ญาณิดา

ญาณิดายิ้มและพยักหน้า: “แน่นอน ถึงระดับแดนเทพขั้นพีคที่พวกเจ้าพูดนั้นแล้ว ซึ่งนับได้ว่าเป็นแค่ผู้ฝึกตนที่ผ่านเกณฑ์เท่านั้น แต่เนื่องจากเป็นเพียงแค่เป้าหมายง่ายๆเช่นนี้ หลายร้อยปีที่ผ่านมา โลกของพวกเจ้ามีคนเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถถึงระดับแดนเทพขั้นพีคได้ แม้แต่คุณชายรพีอย่างเจ้าก็ยังไม่ถึงระดับนี้เลย เจ้าต้องสู้หน่อยละนะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้วรพีพงษ์ตะลึงอย่างมาก และนีย์ก็ตกตะลึงเช่นกัน

ถึงระดับแดนเทพขั้นพีค มันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น และนับเป็นแค่ผู้ฝึกตนที่ผ่านเกณฑ์? สิ่งที่ญาณิดาพูดนั้นเป็นพันหนึ่งราตรีชัดๆ!

“นักแดนเทพขั้นพีคนั้นสามารถเคลื่อนย้ายภูเขา แล้วก็ยังสามารถเปลี่ยนทัศนียภาพของท้องฟ้าและผืนดินด้วยพลังจิต แบบนี้ยังแข็งแกร่งไม่พออีกเหรอ?” นีย์ถาม

“นี่มันแค่เรื่องจิ๊บจ๊อย ในสายตาพวกข้านี่เป็นเพียงแค่กลลวงเท่านั้นเอง สำหรับผู้ฝึกตนที่แท้จริง เพียงแค่เคลื่อนย้ายภูเขาแบบนี้ไม่นับว่าเป็นความสามารถหรอกนะ”

ญาณิดาพูดด้วยรอยยิ้ม ในแววตาเต็มไปด้วยการดูหมิ่น

“โอ้? ถ้าอย่างนั้นแล้วเจ้ามีความสามารถอะไรล่ะ? ถ้าหากมีความสามารถจริงก็ให้ข้าน้อยเปิดหูเปิดตาหน่อยสิ” นีย์กล่าว

ญาณิดาขยิบตาพร้อมกับรอยยิ้ม และมองไปที่นีย์พูดอย่างแผ่วเบาว่า: “เจ้าแน่ใจหรือ?”

“แน่นอน แค่คำพูดลอยๆเชื่อถือไม่ได้ ข้าน้อยอยากจะเปิดหูเปิดตาหน่อย” นีย์กล่าว

รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย: “นีย์ เจ้าไม่เคยเห็นนางออกมือ ฉะนั้นจึงไม่รู้ความแข็งแกร่งของนาง อย่าซี้ซั้วทำ”

“โอ้ ดูเหมือนว่าคุณชายรพีจะเอ็นดูสาวน้อยคนนี้มากสินะ ถ้าหากเช่นนี้ ข้าน้อยจะไม่ทำร้อยนาง”

ญาณิดาพูดด้วยรอยยิ้ม

“เจ้ามาเถอะ ข้าน้อยอยากจะเปิดหูเปิดตาบ้าง จะดูว่าสิ่งที่เรียกว่าความแข็งแกร่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าแดนเทพขั้นพีคนั้นเป็นอย่างไร?” นีย์เดินก้าวขึ้นไปข้างหน้าและกล่าว

“ได้!”

ทันทีที่ญาณิดาพูดจบ และทันใดนั้นนีย์รู้สึกกำลังวิงเวียน ราวกับโลกทั้งใบกำลังโคลงเคลง

โดยไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน และเมื่อนีย์ลืมตาขึ้นมา ฉากที่อยู่ตรงหน้าทำให้สีหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างมาก!

“นี้คือ……กลุ่มสิงโต?”

นีย์พูดด้วยความประหลาดใจ: “ข้าน้อยมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ข้าน้อยอยู่ในวิหารของทวีปโอชวินไม่ใช่หรือ?”

นีย์มองไปรอบๆ ซึ่งนี่เป็นห้องที่ตัวเองอาศัยพักในกลุ่มสิงโตจริงๆด้วย

นางผลักประตูออกไป และนอกห้องไม่มีใครอยู่เลย

“รพีพงษ์ รพีพงษ์เจ้าอยู่ไหน!”

นีย์ตะโกน และทันใดนั้น เสียงเย็นชาก็ดังมาจากด้านข้าง

“เจ้าเรียกชื่อของเจ้าสำนักทำไม?”

ทันทีที่นีย์หันกลับไปดู แต่กลับเห็นหงส์ซึ่งไม่รู้ว่าปรากฏตัวอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่

“หวงส์ เป็นเจ้าจริงๆหรือ?”

นีย์ก้าวขึ้นไปข้างหน้า และสัมผัสผิวอันเย็นชาของหงส์

“ใช่ข้าน้อยเอง โปรดเจ้าปล่อยมือ” หวงส์พูดอย่างเย็นชา: “เดิมทีเจ้าเป็นคนของทวีปโอชวิน ข้าน้อยควรฆ่าเจ้าเพื่อช่วยเต่าล้างแค้น แม้ว่าเจ้าสำนักจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้าก็อย่าดีใจจนลืมตัวล่ะ ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์มีเรื่องเรียกข้าน้อยไป ข้าน้อยขอตัวไปก่อน”

“ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์?” นีย์พูดด้วยความประหลาดใจ: “ท่าน……ท่านตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?”

“การพูดจาเหลวไหล! ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ยังคงสบายดี เจ้ากล้าสาปแช่งให้ท่านตายงั้นหรือ?” ในแววตาของหงส์ที่เต็มไปด้วยเจตนาแห่งการฆ่าก็จ้องมองไปที่นีย์ทันที: “นึกแล้วเชียว ทวีปโอชวินของพวกเจ้าไม่มีใครดีเลย!”

ในขณะที่พูดนั้น หงส์ก็ได้ละทิ้งสายตาที่โกรธแค้น ก่อนที่จะจากไปจากที่นี่

นีย์มองไปที่เงาด้านหลังของหงส์ด้วยความประหลาดใจ วินาทีก่อนหน้านี้ตัวเองยังอยู่ที่ทวีปโอชวินอยู่เลย แล้วตอนนี้มาอยู่ในกลุ่มสิงโตได้อย่างไร?

“หรือว่านี่คือวิทยากล?” นีย์แอบคิดในใจ แต่ทุกอย่างดูสมจริงมาก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของวางโชว์ในห้องหรือว่าหงส์ในเมื่อกี้ ทั้งหมดดูสมจริงมาก

ในขณะนี้ เสียงอันอ่อนโยนของรพีพงษ์ก็ดังมากจากด้านหน้าของนีย์: “นีย์ เจ้าออกมาทำอะไร อาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ดีขึ้นแล้วหรือ?”

“รพีพงษ์?”

นีย์มองไปชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า คิ้วโค้งเรียวเหมือนดาบ ดวงตาเป็นประกายดุจดวงดาวและผิวอันขาวนวล อีกทั้งยังร่างสูงใหญ่ ถ้าไม่ใช่รพีพงษ์จะเป็นใครได้ละ

“ดีใจจริงๆที่ได้พบเจ้า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกข้า ถูกนางปีศาจเฒ่านั้นทำให้สับสนไปแล้วหรือ?” นีย์พูดกับรพีพงษ์

“นางปีศาจเฒ่าอะไร?”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นยื่นมืออกมา และแตะที่หน้าผากของนีย์

“ก่อนหน้านี้เจ้าได้รับบาดเจ็บจากชายในเสื้อคลุมดำเหล่านั้น ยังไม่ดีขึ้นใช่ไหม? เร็วเข้า ข้าพาเจ้ากลับไปพักผ่อนที่ห้อง” รพีพงษ์จูงมือของนีย์ไว้แล้วพูด จากนั้นก็พานางเข้าไปในห้อง

ทุกอย่างดูสมจริงมาก แม้กระทั่งอุณหภูมิบนฝ่ามือของรพีพงศ์ที่แผ่ออกมานั้นก็สมจริงมาก

ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นีย์ได้รับการปฏิบัติอ่อนโยนเช่นนี้จากรพีพงษ์ เพียงเพราะเขาพาตัวเองเข้าไปพักผ่อนในห้อง

“มา พักผ่อนหน่อย เดี๋ยวก็หายดีแล้วนะ”

มือทั้งสองข้างของรพีพงษ์แตะไหล่ของนีย์ และพูดกับนาง

นีย์มองไปยังใบหน้าที่อ่อนโยนของรพีพงษ์ แววตาแบบนี้ของรพีพงศ์จะมีก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าอารียา

“รพีพงษ์……”

นีย์กัดริมฝีปาก ดูเหมือนว่ามีร้อยพันคำพูดซ่อนอยู่ในดวงตา

“เป็นอะไรหรือเปล่า? ได้รับบาดเจ็บก็ต้องพักผ่อนดีๆ มีข้ารพีพงษ์อยู่ที่นี่ เจ้าจะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน” รพีพงษ์กล่าว

นีย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทั้งหมดนี้สมจริงมาก

“ทำไม ทำไมเจ้าถึงทำกับข้าน้อยเช่นนี้? เจ้ารู้หรือไม่ ทั้งหมดนี้มันไม่ใช่ความจริง” นีย์กล่าว

“ไม่จริง? ไม่จริงตรงไหน?”

รพีพงษ์พูดกับนีย์: “เอาล่ะ รีบพักผ่อนเถอะ ข้าว่าเจ้ายังไม่หายดี ถึงได้พูดจาเหลวไหลเช่นนี้”

“ถ้า……ถ้าอย่างนั้นข้าน้อยขอพักผ่อนในอ้อมอกของเจ้าได้ไหม?” นีย์ถามด้วยเสียงอย่างแผ่วเบา

รพีพงษ์ตื่นตระหนก: “ถ้า……ถ้าหากว่าเช่นนี้มันทำให้เจ้ารู้สึกสบายขึ้น มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้”

ขณะที่พูด รพีพงษ์นั่งลงที่ข้างเตียง และใช้แขนข้างหนึ่งโอบนีย์เข้ามาในอ้อมอกของตัวเอง

นีย์หลับตาลง และนางก็รู้สึกถึงการจังหวะเต้นของหัวใจอันแข็งแกร่งของรพีพงษ์ อีกทั้งยังรู้สึกถึงอุณหภูมิแผ่ออกมาจากร่างกายของรพีพงษ์

ถ้าหากนี่คือความฝัน ถ้าอย่างนั้นก็อย่าตื่นตลอดกาลเลย……

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท