พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1456 ไม่เคยฝึกเน่ยจิ้งจริง ๆ

บทที่ 1456 ไม่เคยฝึกเน่ยจิ้งจริง ๆ

“คุณเป็นใคร ทำไมคุณถึงมาช่วยยิ่งคุณ!” มกรธวัชกล่าวกับธฤตญาณ

ธฤตญาณมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา “เพราะว่าตอนนี้ยิ่งคุณเป็นลูกน้องของผมแล้ว ไม่เพียงแค่นี้ ตอนนี้พวกเขาทั้งสี่คนก็เป็นลูกน้องของผม! เมื่อลูกน้องมีปัญหา ผมในฐานะพี่ใหญ่ถ้าไม่ออกหน้า มันจะทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะได้?”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ธฤตญาณกล่าว พวกชายหัวโล้นต่างรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ดูสถานการณ์แล้ว อีกฝ่ายเต็มใจยอมรับตนเองแล้ว

“คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมผมถึงไม่เคยเห็นคุณที่เกียวโตมาก่อน!” มกรธวัชกล่าวถาม

“ธฤตญาณ”

“ธฤตญาณ?” มกรธวัชขมวดคิ้วจนแน่น

ถ้าได้ยินชื่อของธฤตญาณในเมืองริเวอร์ บางครั้งถึงขั้นทำให้คนอื่นหวาดกลัวมากกว่าชื่อของรพีพงษ์เสียอีก

“ผมเคยได้ยินชื่อของคุณ ได้ยินมาว่าคุณเป็นคนรวมธุรกิจมืดของเมืองริเวอร์ แม้แต่กองกำลังโดยรอบก็ยังถูกคุณยึดครองใช่ไหม” มกรธวัชกล่าวถาม

มกรธวัชฮึ่มประโยคหนึ่ง แต่ไม่ตอบ

“แต่คุณอย่าลืมว่าที่นี่คือเกียวโต ไม่ใช่พวกคุณจากเมืองเล็ก ๆ จะมาวางอำนาจได้! ตอนนี้พวกคุณรีบออกไปจากที่นี่ซะ ผมยังสามารถให้เกียรติประมุขรพีได้เล็กน้อย แล้วก็ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าพวกคุณจะเป็นปรปักษ์กับผม ไม่เพียงแค่ผม แต่ยังมีลูกน้องร้อยกว่าคนของผมจะสับพวกคุณเป็นชิ้น ๆ!”

มกรธวัชกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น

“เกียรติของผม ผมเป็นคนหามาเอง คุณยังไม่มีสิทธิ์มาให้ผม”

รพีพงษ์กล่าวเบา ๆ แล้วเดินไปข้างหน้าธฤตญาณและคนอื่น ๆ

“วันนี้น้องชายสองคนของผมมาที่นี่ ก็ไม่คิดที่จะจากไป”

“ใช่ มกรธวัช วันนี้พวกเรามาที่นี่เพื่อจะบอกคุณว่า อย่าดูถูกพวกเราชาวเมืองริเวอร์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราจะเป็นใหญ่ในธุรกิจมืดของเกียวโต!”

ไตรทศกล่าวเสียงดัง

“อะไรน่ะ?”

ดวงตาของมกรธวัชมีแววสังหาร “ที่แท้พวกคุณกำลังคิดแผนนี้ อยากครอบครองธุรกิจมืดของเกียวโต ฮึ่ม! ฝันไปเถอะ!”

“ลองดูก็รู้” ธฤตญาณเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว บอกตามตรง เมื่อสักครู่เขาเห็นมกรธวัชลงมือกับชายหัวโล้น ด้วยพลังที่แข็งแกร่งของเขา ตนเองอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

แต่เนื่องจากเขาเป็นเทพสังหาร จึงทำให้ธฤตญาณไม่เคยกลัวอะไร

“ประมุขรพี ผมคิดว่า วันนี้คุณจะลงมือเองหรือ?” มกรธวัชกล่าวกับรพีพงษ์ เขาไม่เคยเห็นคนเหล่านี้อยู่ในสายตาเลย คนที่ทำให้เขาหวาดกลัวที่สุดคือรพีพงษ์

“จัดการกับพวกคุณ น้องชายสองคนนี้ของผมก็พอแล้ว” รพีพงษ์กล่าวพลางหัวเราะเบา ๆ

“ดี คุณเป็นคนพูดเอง นายน้อยตระกูลลัดดาวัลย์พูดคำไหนคำนั้น”

มกรธวัชกล่าวอย่างเร่งรีบ หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็มีแววสังหาร “ธฤตญาณ ไตรทศ ผมจะทำให้พวกคุณรู้ว่า ผลของการยุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่งมันเป็นยังไง!”

“แม่ง ยังไม่แน่ว่าใครจะชนะ!”

ไตรทศเดินออกไปอย่างฉุนเฉียว และใช้กำปั้นต่อยไปทันที

ความแรงและความเร็วของหมัดนี้รุนแรงกว่าชายหัวโล้นมาก

แต่มกรธวัชไม่ได้วิตกกังวลเลยสักนิด ทุกคนแทบจะไม่มีใครเห็นว่ามกรธวัชเคลื่อนไหวอย่างไร เพียงแค่เห็นเหมือนเป็นภาพลวงตา

“แย่แล้ว!”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วจนแน่น ไตรทศไม่สามารถต้านทานหมัดของยอดฝีมือเน่ยจิ้งได้

เขาปล่อยพลังจิตอย่างลับ ๆ แล้วจิตวิญญาณเทพก็ไปสร้างเกาะป้องกันบนหมัดของไตรทศไว้

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงพลังจิตวิญญาณ แต่ก็แข็งแกร่งกว่าพลังของมกรธวัชมาก

ฝ่ายมกรธวัชยังคงลําพองใจ หมัดนี้ของตนเอง สามารถหักกระดูกทั้งห้านิ้วของอีกฝ่ายได้แน่นอน

แต่ครึ่งวินาทีต่อมา เขาล้มลงกับพื้นทันที และนิ้วทั้งห้าของเขาก็เต็มไปด้วยเลือด

“นี่ นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”

มกรธวัชมองไปที่ไตรทศด้วยความประหลาดใจ หมัดเมื่อสักครู่เหมือนกระทบกับแผ่นเหล็ก

“คุณเคยฝึกพลังเน่ยจิ้งด้วยหรือ?” มกรธวัชกล่าวถาม

“หึ กูมีพละกำลังเยอะมาตั้งแต่เกิด เน่ยจิ้งอะไรผมไม่รู้จัก” ไตรทศกล่าว “หากคุณมีความสามารถ ก็ลุกขึ้นมา พวกเรามาสู้กันต่อ! วันนี้ต้องสู้จนกว่าคุณจะยอมแพ้!”

“ผม…….” มกรธวัชพยายามลุกขึ้นด้วยสายตาที่ดุร้าย

นี่คือเขตอิทธิพลของตนเอง สิ่งที่ทำให้ตนเองรู้สึกเสียหน้ามากขึ้นไปอีกก็คือ วันนี้ลูกน้องของตนเองทั้งหมดอยู่ที่เกิดเหตุ แต่ตนเองกลับถูกทุบตีราวกับนก

“ไอ้หนู เมื่อสักครู่ผมแค่อุ่นเครื่องกับคุณ จากนี้ไปผมจะเอาจริงกับคุณแล้ว”

ขณะที่พูด มกรธวัชชักดาบยาวออกมาจากเอว

ไอ้หมอนี้ไม่เพียงแต่ฝึกพลังวิเศษเสนเท่านั้น แต่เขายังเป็นยอดฝีมือด้านดาบอีกด้วย

ขณะนี้ ธฤตญาณได้เดินออกมา “อยากใช้ดาบใช่ไหม? งั้นผมจะเล่นเป็นเพื่อนคุณเอง”

เมื่อไตรทศเห็นสิ่งนี้ ก็ก้าวถอยหลังไป ธฤตญาณโจมตีธุรกิจมืดของเมืองริเวอร์ด้วยกริช และมีคำกล่าวที่ว่า ไม่กลัวหมัดของธฤตญาณ แต่กลัวมีดของธฤตญาณ!

เพราะทุกคนรู้ดีว่า เมื่อธฤตญาณหยิบกริชของตนเองออกมา แสดงว่าเขามีเจตนาฆ่าจริง ๆ!

มกรธวัชสะบัดดาบยาวไปมา ในทางกลับกันฤตญาณนั้นต่างออกไป ดวงตาทั้งคู่ของเขาเหมือนหมาป่า จ้องมองอีกฝ่ายอย่างดุดัน ถือกริชอยู่ในมือ เอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย รอจังหวะเวลาเพื่อจู่โจมคู่ต่อสู้!

รพีพงษ์ที่อยู่ด้านข้างพยักหน้า ท่าทางการเริ่มต้นเช่นนี้คือสิ่งที่นักฆ่าตัวจริงควรมี

ตอนที่รพีพงษ์อยู่กับทหารมังกร เขาก็ฝึกทหารมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศจีนด้วยวิธีนี้

ทั้งสองต่อสู้กัน เรียบง่ายและตรงไปตรงมา การโจมตีถึงตายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

แตกต่างจากการฝึกอย่างเป็นระบบของทหารมังกร หลังจากที่ธฤตญาณผ่านประสบต่อสู้ต่าง ๆ รพีพงษ์สามารถมองออกว่า ต้องบอกว่าผู้ชายคนนี้เกิดมาเพื่อต่อสู้อย่างแท้จริง!

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รพีพงษ์กังวลมากที่สุดก็คือมกรธวัชมีพลังเน่ยจิ้ง เมื่อเป็นเช่นนี้ ในแง่ของพละกำลัง ธฤตญาณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

“ไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องช่วยธฤตญาณอีกครั้ง”

รพีพงษ์คิดแล้วยิ้ม

“ดาบยาวเล่มนี้ของผมสร้างขึ้นโดยนักฝึกดาบอันดับหนึ่งในเกียวโต ไอ้หนู อาศัยแค่กริชเล่มนี้ในมือ ยังกล้าสู้กับดาบยาวของผมอีกหรือ?”

“กริชเล่มนี้ของผมธรรมดามาก แต่มันอยู่กับผมมาสิบสามปีแล้ว” ดวงตาของธฤตญาณเย็นชา และมือขวาของเขาจับกริชไว้แน่น

“ฮึ่ม อีกสักครู่ผมจะทำให้มันกลายเป็นเศษเหล็ก!”

แม้ว่ามกรธวัชจะมีรูปร่างที่เตี้ยและอ้วน แต่เขาก็เร็วมาก เขาพุ่งตรงมาที่ธฤตญาณทันที

ธฤตญาณสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตนเองเคยผ่านประสบการณ์การต่อสู้ต่าง ๆ มากมาย แต่เขาไม่เคยพบคู่ต่อสู้ที่เหมือนมกรธวัช

“ความเร็วของเขาเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?”

ธฤตญาณพบว่า ตาของตนเองไม่สามารถจับภาพของอีกฝ่ายได้

ชั่วพริบตา มกรธวัชก็มาอยู่ตรงหน้าของธฤตญาณแล้ว เขาพลิกดาบยาว แสงสีขาวส่องเข้าตาของธฤตญาณพอดี

หลังจากนั้น ธฤตญาณใช้มือปิดตาตามสัญชาตญาณ อย่างไรก็ตาม ชั่วพริบตาเดียวดาบยาวก็มาจ่ออยู่ที่ลำคอของธฤตญาณแล้ว!

“ระวัง!”

ไตรทศตะโกนเสียงดังจากด้านข้าง และพวกชายหัวโล้นที่อยู่ข้างๆ ต่างก็กังวลใจเป็นอย่างมาก

สายตาของธฤตญาณดูเย็นชา และในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ ประสบการณ์ต่อสู้หลายปีได้ช่วยชีวิตเขาไว้

เขารู้สึกว่าความเย็นบริเวณลำคอเริ่มอุ่นขึ้น และหลังจากนั้น เขาก็ยกขึ้นมือต้านทันที

ก่อนที่กริชจะขวางคอของตนเอง มันก็ไปปะทะกับดาบยาว

“ฮึ่ม แค่อาศัยกริชเล่มนี้ก็กล้ามาต้านดาบยาวของผมหรือ? เพลี้ยง!”

มกรธวัชตะโกน ด้วยท่าทางที่โอ่อ่า

พลังเน่ยจิ้งในร่างกายของเขาถูกปล่อยออกมาอย่างลับ ๆไปที่ดาบยาว

ข้างหลังเขา ลูกน้องทุกคนเห็นพี่ใหญ่ของตนเองกล้าหาญชาญชัย ทำให้พวกเขายิ้มอย่างมีชัย

อย่างไรก็ตาม มีเสียงดังขึ้น เสียงนั้นไม่ได้เกิดจากกริชของธฤตญาณ ในทางกลับกัน ดาบยาวในมือของมกรธวัชหักออกเป็นแปดชิ้น และตกลงบนพื้นทันที

มกรธวัชตกตะลึง ปากของเขาชา และแขนของเขาก็สั่นขึ้นมา

โอกาสเช่นนี้ธฤตญาณไม่ปล่อยให้พลาดแน่นอน

เขาพลิกกริช และเปลี่ยนจากการป้องกันเป็นการโจมตี ธฤตญาณไม่ใช้กลอุบายใด ๆ เขาก้มตัวลงเล็กน้อย และแทงหน้าท้องของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

สีหน้าของมกรธวัชเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก อยากจะยื่นมือออกไปต้าน แต่เขากลับลืมไปว่า มือทั้งคู่ของเขาใช้การไม่ได้แล้ว ไม่ต้องพูดว่าใช้มือต้าน ตอนนี้เขาไม่สามารถยกมือขึ้นได้ด้วยซ้ำ!

เลือดสีแดงไหลออกมาจากช่องท้องของมกรธวัช และเขาใช้มืออุดแผลที่หน้าท้องของตนเองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“พวก……พวกคุณไม่เคยฝึกพลังเน่ยจิ้งจริงหรือ?” มกรธวัชถามธฤตญาณและไตรทศ

“ไม่เคยแน่นอน”

ทั้งสองคนตอบพร้อมกัน

ปรากฏรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของมกรธวัช จนกระทั่งเขาขยับสายตาไปที่รพีพงษ์ที่อยู่ด้านข้าง ดวงตาของเขาดูหวาดกลัวขึ้นมา

ถ้าเป็นเช่นนี้ คนที่สามารถช่วยให้คนทั้งสองต้านพลังเน่ยจิ้งของตนเองต้องเป็นนายน้อยตระกูลลัดดาวัลย์แน่นอน!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท