พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1473 ช่วยรักษาคน

บทที่ 1473 ช่วยรักษาคน

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ไอ้หมอนี่ เอายาอะไรออกมาก็ไม่เอา ดันเอายาเม็ดสีทองออกมา รู้ไหมว่า ยาเม็ดสีทอง มันคือยาเม็ดระดับเทพเซียน!

“ยาเม็ดนี้ เป็นยาที่ผมทำสำเร็จในสำนักเทพยาเซียน มีสรรพคุณสร้างกระดูกต่อเส้นเอ็นใหม่”

“อัศจรรย์แบบนี้เลยหรือ?” คนด้านล่างเวทีถาม

“แน่นอน”

พูดไป ชายหนุ่มก็มองไปทางผู้บาดเจ็บ “พี่ชายท่านนี้ ถ้าคุณเชื่อผมล่ะก็ ก็สามารถกินยานี้ลงไปได้เลย”

“เชื่อสิ ผมเชื่อคุณแน่นอน”

ชายบาดเจ็บคนนี้ก็รีบรับเอายาจากมือของฝั่งตรงข้ามมา “เพราะถึงอย่างไรหลายปีมานี้ ก็รักษาไม่หายอยู่แล้ว”

พูดไป ก็กลืนยาเม็ดลงไปด้วย

ผู้คนด้านล่างก็มองบนเวทีอย่างรอคอย

ชายหนุ่มคนนี้ก็พูดว่า “พี่ชายท่านี้ ลองลุกขึ้นยืนดูสิครับ”

“เอ่อ….มันจะได้ผลจริงหรือ?” คนบาดเจ็บถาม

ชายหนุ่มก็พยักหน้า “เชื่อผมสิ คุณทำได้แน่นอน”

ชายบาดเจ็บอายุ40กว่าปีคนนี้ มีความกังวลและแปลกใจ แล้วก็ค่อยๆ ลุกจากพื้นอย่างเซไปเซมา จากนั้น เขาก็ยืนตัวตรงอยู่บนเวที ใบหน้าก็มีความดีใจ

“ผมหายแล้ว ผมหายแล้ว ผมหายดีแล้ว!ช่างเป็นหมอเทวดาจริงๆ ยาเม็ดของสำนักเทพยาเซียนช่างอัศจรรย์จริงๆ !”

พูดไป ชายบาดเจ็บคนนั้นก็กระโดดโลดเต้นอยู่บนเวที วิ่งไปกระโดดไป

คนด้านล่างเวทีเห็นดังนั้นก็อึ้งไป คิดไม่ถึงว่า คนที่ขาเป๋มาเป็นสิบปี จะหายเป็นปกติได้ภายในไม่ถึง10วินาที

เรื่องแบบนี้มาเกิดขึ้นตรงหน้า ใครเห็นก็ต้องเชื่อ

เพียงแต่ พวกเขาไม่รู้ว่า เรื่องบางเรื่องต่อให้มาเกิดขึ้นตรงหน้า ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องจริง

“การแสดงมันดูเกินจริงไป ยังห่างจากรางวัลออสก้าตุ๊กตาทองอีกไกลนัก” รพีพงษ์พูดเบาๆ แล้วหันกลับมามอง ให้ได้อย่างนี้สิ ฝนสุดากลับร้องไห้น้ำตาคลอ

“คุณเป็นอะไรไป? ฝุ่นเข้าตาหรือ?” รพีพงษ์ถาม

ฝนสุดาส่ายหัว แล้วมองไปยังบนเวที “คิดไม่ถึงว่า ยาเม็ดของสำนักเทพยาเซียนจะอัศจรรย์แบบนี้ อีกอย่างหนุ่มคนนี้ก็มีคุณธรรมสูงส่ง ไม่รังเกียจที่คนป่วยเป็นคนยากจน เรื่องแบบนี้จะทำให้ฉันไม่ซาบซึ้งได้ไงล่ะ? ”

รพีพงษ์ก็หน้าแหย ฝนสุดานั้นเป็นลูกสาวตระกูลใหญ่โต ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ถูกรพีพงษ์เห็นรูปที่ไม่ควรเห็นไปนั้น เธอน่าจะเป็นคนที่มีความรู้มาก ทำไมตอนนี้ถึงเป็นคนที่ไร้เดียงสาจนโง่แบบนี้ล่ะ?

“สุดา เธอมองไม่ออกหรือ? พวกเขาสองคนกำลังแสดงจำอวดกันอยู่” อารียาพูดเตือนสติอยู่ข้างๆ

ไม่เสียแรงที่เป็นผู้หญิงของรพีพงษ์ เทคนิคแค่นี้ มาอยู่ตรงหน้าอารียา มองแวบเดียวก็ดูออกแล้ว

“จำอวด? มันคืออะไร?” ฝนสุดาเป็นคนประเทศญี่ปุ่น เธอยังไม่ค่อยเข้าใจภาษาท้องถิ่นแบบนี้

“หมายความว่า พวกเขากำลังแสดงละครกันอยู่” รพีพงษ์พูดตอบเบาๆ

“แสดงละครงั้นหรือ?” ฝนสุดาทำตาโต แล้วมองไปบนเวทีอย่างไม่เชื่อความจริง

“รพีพงษ์ แคลร์พวกเธอสองคนมองออกกันหมดเลยหรือ?”

“แน่นอน”

ทั้งสองคนพยักหน้ายิ้มพร้อมกัน

ฝนสุดาก็หน้าแดง เอาเถอะ ดูเหมือนว่าจะมีแต่ตนเองคนเดียวที่มองไม่ออก

“ไอ้หมอนี่ มันกล้ามาหลอกพวกเรา เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปสั่งสอนเสียหน่อย” ฝนสุดาทำท่าจะเข้าไป แต่ถูกรพีพงษ์รั้งไว้

“รอเดี๋ยวค่อยจัดการก็ยังไม่สาย ดูสิว่าต่อไปเขาจะทำอะไรต่อ” รพีพงษ์ยิ้มพูด แล้วก็มองไปยังบนเวทีอีกครั้ง

หลังจากเรื่องมหัศจรรย์ได้เกิดขึ้นต่อหน้าผู้คนมากมาย สายตามากมายก็มองไปยังชายหนุ่มคนนั้นอย่างเชื่อถือในความสามารถ

“ทุกท่าน ใครยังมีโรคอะไรก็บอกได้เลย เพียงแต่ วันนี้ผมลงเขาอย่างรีบร้อน เตรียมยาเม็ดมาไม่เยอะ แต่ก็ไม่เป็นไร ทุกท่านบอกอาการกับผมมา เดี๋ยวผมจะจดไว้ เดี๋ยวหลังจากนี้15วัน ผมจะเตรียมยามาให้เพียงพอ และจะไม่รับเงินสักแดงเดียว!” ชายหนุ่มกล่าว

ทุกคนก็ตื่นเต้น ยาเม็ดของสำนักเทพยาเซียน แค่เอามาในตลาดสักเม็ด ก็มีราคาดั่งอัญมณี ตอนนี้มีเรื่องดีๆ แบบนี้ ชายคนนี้ช่างมีจิตใจดีอะไรแบบนี้

ชายหนุ่มอมยิ้ม พอเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว ก็สะบัดมือบอกทุกคนว่า “ทุกท่านครับ ต่อจากนี้ เรื่องที่สองที่ผมลงเขามา ก็คือการรับศิษย์แทนอาจารย์”

“ทุกท่านต่างรู้กันดี อาจารย์ของผมเจ้าจิรภัทร เป็นมีเมตตาธรรมสูงส่ง ฝีมือการกลั่นยาก็ไม่มีใครเทียบ วันนี้ผมได้มีโอกาสลงเขามารับศิษย์แทนอาจารย์ท่าน ช่างเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก อีกอย่างทุกคนก็รู้ดี ว่าถ้าสามารถเรียนกลั่นยาได้ แล้วสิ่งที่รอท่านอยู่มันจะเป็นอะไรล่ะ ไม่ต้องให้ผมพูดเลย ทุกท่านล้วนรู้ดี”

ทุกคนก็ตาลุกวาว ถ้าตนเองได้เรียนวิธีกลั่นยาล่ะก็ หลังจากนี้ก็กลั่นยาออกมาขายเอง รายได้คงจะเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

“ดังนั้น โอกาสแบบนี้หาได้ยากมาก ไม่รู้ว่าถ้าอาจารย์จะรับศิษย์ครั้งหน้าล่ะก็ จะต้องรอนานแค่ไหน”

ชายหนุ่มมองคนด้านล่างเวที

ชายบาดเจ็บที่เพิ่งอาการดีขึ้น ก็พูดกับชายหนุ่มว่า “เอ่อคุณครับ ไม่ทราบว่าผมพอจะมีพรสวรรค์ไหม แต่ถ้าคุณไม่รังเกียจผมล่ะก็ รับผมเป็นศิษย์ด้วยได้ไหม?”

ชายหนุ่มก็มองฝั่งตรงข้าม แล้วยิ้มพูดว่า “เอ่อคือว่า ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่ก็เหมือนกับที่คุณพูด ก่อนอื่นผมจะต้องดูก่อนว่าคุณมีพรสวรรค์หรือไม่”

“แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะดูออกล่ะ?” ชายอายุ40กว่าถามชายหนุ่ม

“ง่ายมาก ต้องจับกระดูก”

“จับกระดูกงั้นหรือ?” ชายวัยกลางคนมองชายหนุ่มแปลกๆ คนด้านล่างเวทีก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ

“ถ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ กระดูกจะมีความชัดเจน และในเส้นชีพจรลมปราณจะมีชี่แท้อยู่ด้วย เพียงแต่ชี่แท้แบบนี้ พวกคุณไม่สามารถรับรู้มันได้ แต่ในฐานะที่ผมเป็นศิษย์ใหญ่ของสำนักเทพยาเซียน สามารถรับรู้ได้อย่างแน่นอน”

ชายหนุ่มอธิบายให้กับทุกคนฟัง

ทุกคนก็พยักหน้า ความอัศจรรย์ของสำนักเทพยาเซียนนั้น พวกเขาก็เคยได้มาบ้าง สำหรับเรื่องของชี่แท้และจุดชีพจรลมปราณแล้วนั้น พวกเขาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อไปเสียทั้งหมด

“มา ให้ผมได้ลองจับกระดูกดูหน่อย ว่าได้ไหม?”

ชายหนุ่มกล่าว

“ได้เลย” ชายวัยกลางคนตอบกลับ แล้วยืนขึ้นตรงหน้าของชายหนุ่ม

ชายหนุ่มมองคนตรงหน้า แล้วยื่นมือออกไปจับแขนทั้งสองข้างของเขา ตั้งแต่ตนแขนจรดปลายแขน แล้วหลับตาทำท่าจับกระดูกอย่างจริงจัง

คนด้านล่างก็มองบนเวที ผ่านไป10วินาที ทันใดนั้น ก็มีเรื่องแปลกเกิดขึ้น

เห็นว่าตอนที่ชายหนุ่มลูบคลำร่างกายของชายวัยกลางคนอยู่นั้น บนตัวของชายวัยกลางคนก็มีไอพลังสีขาวๆ ไหลออกมาปกคลุมตัวไว้บางๆ

ทุกคนก็ตกใจไปตามกัน สถานการณ์แบบนี้ มันเหมือนกับเล่นมายากลเลย!

ชายหนุ่มลืมตาขึ้น แล้วมองฝั่งตรงข้ามพร้อมพูดว่า “พี่ชายท่านนี้ คุณมีโครงกระดูกที่ดีแต่กำเนิด ชี่แท้ในร่างกายก็พลุ่งพล่าน เอามาใช้กับการกลั่นยา มันจะเหมาะสมมากเลย!”

“อะไรนะ คุณหมายความว่า?”

ชายวัยกลางคนมองชายหนุ่มอย่างแปลกใจ

“ผมหมายความว่า ถ้าคุณยินยอม คนมีพรสวรรค์แบบคุณ สามารถเข้าร่วมสำนักเทพยาเซียนของพวกเราได้!” ชายหนุ่มยิ้มพูด

“จริงหรือนี่? ผมเข้าได้จริงๆ ใช่ไหม? ”

ชายวัยกลางคนอึ้งไปก่อน จากนั้นก็พูดอย่างดีใจว่า “ดีมากเลย ในที่สุดผมก็ไม่ต้องไปเก็บของเก่าแล้ว ผมได้เข้าไปอยู่สำนักเทพยาเซียน จะได้กลายเป็นลูกศิษย์ของเจ้าจิรภัทรแล้ว!”

คนด้านล่างเวทีต่างก็ชื่นชม พวกเขาล้วนรู้ดีว่า การที่ได้เข้าร่วมกับสำนักเทพยาเซียน สำหรับคนคนหนึ่งที่ทำงานเก็บของเก่าแล้วนั้น มันเหมือนกับได้ร่ำรวยข้ามคืนเลยทีเดียว!

“เพียงแต่…….” ชายหนุ่มมองฝั่งตรงข้าม

“แต่อะไร?” ชายวัยกลางคนถาม

“เพียงแต่ ก่อนที่จะได้เข้าร่วมกับสำนักเทพยาเซียนอย่างเป็นทางการนั้น คุณจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็นก่อน ค่าใช้จ่ายไม่สูง หนึ่งพันหยวนก็พอแล้ว หนึ่งก็เพื่อเอามาใช้จ่ายประจำวันในสำนักเทพยาเซียน สองก็เพื่อแสดงถึงความจริงใจของคุณ” ชายหนุ่มกล่าว

“ฉากเด็ดเริ่มมาแล้ว” รพีพงษ์ที่อยู่ด้านล่างเวทีพูดเสียงเบาออกมา ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เขาและอารียาที่ดูออก แม้แต่ฝนสุดาก็ดูออกชัดเจนเหมือนกัน

“ไอ้หมอนี่ หน้าไม่อายเลยจริงๆ” ฝนสุดาพูดอย่างโมโห

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท