พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1479 ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว

บทที่ 1479 ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว

ประถูกเปิดออก คนสองคนในเฮลิคอปเตอร์ก็ขนของลงมา

“นี่คือ……”

พอเห็นข้าวของที่ถูกห่อไว้อย่างดี จิรภัทรและคนอื่นๆ ก็ไม่รู้ว่าของด้านในนั้นคืออะไร

“เปิดออกเลย!”

รพีพงษ์กล่าว

กล่องไม้ถูกเปิดออก จิรภัทรและคนของสำนักเทพยาเซียนทั้งหลายก็อึ้งไป

เพราะว่า ด้านในกล่องใหญ่พวกนั้น มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์ของประเทศจีน แถมยังมีหนังสือที่หายสาบสูญไปนานแล้วจำนวนมาก

“เจ้าจิรภัทร หลังจากที่ผมจากสำนักละก็เซียนไปครั้งก่อน ผมคิดว่าในถ้ำของสำนักเทพยาเซียน ถึงแม้จะมีหนังสือมากมาย แต่มันยังไม่ครบทุกด้าน ดังนั้น ผมก็หาหนังสือพวกนี้มาเท่าที่จะหาได้ ตอนนี้ผมเอามาให้คุณครับ ไม่รู้ว่าคุณจะชอบมันหรือเปล่า”

“ชอบสิๆ ชอบมากเลย!”

จิรภัทรพูดอย่างตื่นเต้นดีใจ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นนักกลั่นยา แต่นักกลั่นยาจะพัฒนาฝีมือให้สูงขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยหนังสือวิชาการแพทย์แผนโบราณพวกนี้นี่แหละ

สำหรับพวกเขาแล้วนั้น หนังสือพวกนี้มีค่ากว่าอัญมณีใดๆ เสียอีก

“มีหนังสือโบราณพวกนี้เป็นแหล่งอ้างอิง พวกเราก็สามารถคิดหาสูตรยาเม็ดใหม่ๆ ขึ้นมาได้” จิรภัทรพูดกับรพีพงษ์อย่างซาบซึ้ง

ตอนกำลังพูดนั้น เฮลิคอปเตอร์ลำที่สองก็ค่อยๆ ลงจอด

เครื่องบินยังไม่ทันแตะพื้นดิน ปยุตก็ขยับจมูก แล้วพูดเสียงดังว่า “เหล้า กินเหล้าหอมกรุ่นเข้ามาเลย!”

รพีพงษ์ก็ยิ้มๆ ปยุตคนนี้ เห็นเหล้าเท่าชีวิตจริงๆ

ประตูเครื่องบินเปิดออก เหล้าเก่าเก็บถูกขนลงมาทีละไห

ทั้งเหล้าขาว เหล้าสี ไวน์ แชมเปญ……….

ที่รพีพงษ์ขนมาหลายหลังนี้ แทบจะเอาเหล้าจากทั่วโลกมาเลย

“เหล้าพวกนี้เป็นผลิตภัณฑ์ของโรงเหล้าที่มีชื่อเสียงในโลก ปยุต ในนั้นอันแรกเป็นเหล้าที่นีโลทกลั่นเองกับมือ”

พูดจบ รพีพงษ์ก็เปิดกล่องแรกออก มันมีทั้งหมด8ไห!

พอปยุตผู้รอบรู้เรื่องเหล้าได้ยินว่ามีเหล้าตั้ง8ไหใหญ่ๆ แถมคุณภาพก็ยังไม่ได้แย่ไปกว่าเหล้าที่จิรภัทรเก็บไว้

เฮลิคอปเตอร์สองลำแรกบินกลับออกไป จากนั้นก็ลงจอดอีกสองลำ

“พวกนี้คือ?”

ทุกคนก็รอคอย ของขวัญที่รพีพงษ์เตรียมมา แต่ละอย่างมีค่าควรเมืองทั้งนั้น

“ในเฮลิคอปเตอร์สองลำนี้เป็นพวกเสื้อผ้า ผมเห็นว่าคนในสำนักเทพยาเซียนสวมใส่เสื้อผ้าเก่ากันแล้ว ก็เลยถือวิสาสะ ซื้อพวกเสื้อผ้ามาให้ทุกคน” รพีพงษ์กล่าว

“ขอบคุณมากประมุกรพี。”

จิรภัทรพูดเสียงต่ำ

ทางนี้ก็ไม่ใช่จะยากจะเรียบง่ายอะไรมาก กลับกัน แต่หลักๆ ก็เพราะว่าไม่สะดวกลงเขา และอยู่ห่างจากตัวเมือง ดังนั้น ผู้หญิงแบบจิลลาก็เลยละทิ้งความชอบที่ต้องไปซื้อเสื้อผ้า

“รพีพงษ์ คุณจ่ายเยอะเลยนะเนี่ย เหมาชองเอลิเซ่มาครึ่งหนึ่งเลยใช่ไหมเนี่ย?”

อารียาพูดอย่างแปลกใจ

“ถึงว่าก่อนหน้านี้ฉันไปที่ฝรั่งเศษ ใจอยากจะซื้อแฟชั่นใหม่ของปีนี้ แต่หาซื้อไม่ได้ พนักงานบอกว่ามีคนมาจองไปหมดแล้ว ที่แท้มาอยู่ที่นี่หมดแล้วนี่เอง และคนที่ซื้อไปหมด ก็คือคุณนี่เอง”

ฝนสุดาพูดอย่างอึ้งๆ ออกมาเหมือนกัน

รพีพงษ์ก็ยิ้มๆ เสื้อผ้าพวกนี้เป็นเสื้อผ้าที่ช่างตัดเสื้อที่มีชื่อเสียงระดับโลกตัดขึ้นมา ตนเองก็อาศัยความสัมพันธ์หลายช่องทางถึงซื้อมาได้มากขนาดนี้

“ดีเลย ประมุกรพี น้ำใจของคุณผมรับไว้แล้วล่ะ ของมากมายขนาดนี้ เพียงพอที่จะแสดงถึงความจริงใจของคุณแล้ว จริงๆแล้ว ที่สำนักเทพยาเซียนของพวกเราได้ต้อนรับประมุกรพี นับว่าเป็นเกียรติมากกว่าอีก” จิรภัทรพูดอย่างเกรงใจ

“ของขวัญก็มีเท่านี้ก่อนนะครับ ส่วนของในเฮลิคอปเตอร์ที่เหลือ เตรียมไว้ให้ภรรยาและลูกสาวผม” รพีพงษ์กล่าว “รบกวนเจ้าจิรภัทรหาสถานที่เก็บลังพวกนี้หน่อยนะครับ”

“ได้เลย สำนักเทพยาเซียนของพวกเรามีคลังเก็บของอยู่ ขนาดก็ใหญ่ สามารถเอาไปเก็บได้เลย”

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วโบกมือเรียกลูกน้องให้เอาลังพวกนี้ไปเก็บ

“พ่อคะ ของขวัญที่จะให้หนูคืออะไรคะ”

“เดี๋ยวของมาถึง หนูก็ได้เห็นแล้วนะ” รพีพงษ์ยิ้มพูด

จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ลำสุดท้ายก็มาลงจอด ครั้งนี้ไม่ใช่ของขวัญอะไร แต่มีคนหนึ่งเดินลงมา

“พี่สาหรือเนี่ย?” อารียามองหญิงวัยกลางคนคนนี้

“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง” ชนิสรายิ้มมองพวกเขา

“คุณย่าสา”

หลังจากหนูลินเห็นชนิสรา ก็รีบวิ่งออกไปหา

“หนูลิน คิดถึงจังเลย เชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่หรือเปล่านะ” ชนิสราถาม

“ค่ะ” หนูลินพยักหน้าแรงๆ

ชนิสราดูแลหนูลินมานาน คนแก่กับเด็กคนนี้สนิทกันมาก

ด้วยเหตุนี้ รพีพงษ์ถึงให้เฮลิคอปเตอร์ไปรับชนิสรามาด้วย

“ขอบคุณคุณมากนะ รพีพงษ์” อารียาพดกับรพีพงษ์

ตนเองกังวลที่สุดก็คือ ถ้าตนเองเริ่มฝึกวิชากับรพีพงษ์แล้ว จะไม่มีใครดูแลหนูลิน ตอนนี้พี่สามาด้วย แบบนี้ความกังวลของอารียาจะได้หายไปเสียที

“วางใจเลย เรื่องที่ผมรับปาก ผมต้องทำได้แน่” รพีพงษ์ยิ้มพูด “ไม่เพียงเท่านี้นะ ผมได้ไปหาศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยชิงชัย เขารับปากผมแล้ว ว่าจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาที่สำนักเทพยาเซียนอาทิตย์ละครั้ง เพื่อมาสอนหนังหนูลิน ดังนั้นการศึกษาของลูกก็จะรอช้าไม่ได้”

อารียาพยักหน้าเบาๆ จุดนี้ตนเองยังคิดไม่ถึงเลย แต่รพีพงษ์กลับคิดได้รอบคอบมาก

“ศาสตราจารย์ปรีดิท ใช่คนที่ชื่อปรีดิท ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยชิงชัยใช่ไหม?” หงส์ถามอย่างสงสัย

“ถูกต้อง คุณรู้จักหรือ?” รพีพงษ์ถาม

“แน่นอน ฉันน่ะเป็นลูกศิษย์ของเขา” หงส์พูดอย่างภูมิใจ “ศาสตราจารย์ปรีดิทมีความรู้ทั้งสมัยใหม่และสมัยโบราณ แทบไม่มีวิชาไหนที่ไม่รู้ คนอื่นเชิญให้ไปสอน เขาก็มักจะปฏิเสธ ไม่คิดเลยว่า เขาจะสามารถมาได้อาทิตย์ละครั้ง เพื่อเจ้าสำนัก”

รพีพงษ์ก็ยิ้มๆ “ดูไม่ออกเลยนะ ว่าคุณจบจากมหาลัยที่มีชื่อเสียงกับเขาด้วย”

“ทำไม ฉันไม่เหมือนหรือไง?” หงส์แกล้งมองค้อนรพีพงษ์

รพีพงษ์ก็ยิ้มพูดว่า “มหาวิทยาลัยชิงชัยอยู่ที่เกียวโต ผมจะหาศาสตราจารย์ปรีดิทเจอก็ไม่ใช่เรื่องยาก”

หงส์คิดไปคิดมาก็จริงอยู่ รพีพงษ์มีชื่อเสียงในเกียวโต มีใครบ้างไม่รู้จัก? แล้วมีใครบ้างไม่กล้าให้เกียรตินายน้อยตระกูลลัดดาวัลย์

“เจ้าจิรภัทร”

รพีพงษ์หันไปพูดกับจิรภัทร “สองวันนี้ผมคงจะรอบกวนที่นี่ก่อน เดี๋ยวหลังจากนี้ก็จะพาแคลร์และหนูลินเข้าไปในป่าหมอกแล้ว”

“ได้เลย เจ้านายหลินจะพัดอยู่ที่นี่กี่วันก็ได้ ถ้าสำนักเทพยาเซียนไม่ได้เจ้านายหลินช่วยไว้ครั้งก่อน เกรงว่าคงจะพบกับภัยพิบัติจนสิ้นสำนักไปแล้ว!” จิรภัทรกล่าว

“นั่นสิ รพีพงษ์พวกเราไม่ได้เจอกันนานเลย ครั้งก่อนยัยจิลลามามอมเหล้าผมจนเมา เล่นเสียผมไม่ได้ไปช่วยคุณที่กลุ่มสิงโตเลย ครั้งนี้ พวกเรามีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกันเยอะแยะเลย กินเหล้าไปคุยไป” ปยุตยิ้มพูดกับรพีพงษ์

รพีพงษ์ก็ยิ้มๆ แล้วมองไปที่จิลลา แล้วก็มองปยุต

เขารู้ดีว่า คนแบบปยุตถึงแม้จะรักเหล้าเท่าชีวิต แต่จะว่าไปแล้ว เวลาเจอเรื่องใหญ่อะไรก็จะไม่เคยพลาดเลย

“ครั้งก่อนที่ไม่ได้ไปกลุ่มสิงโต ผมคิดว่า น่าจะตั้งใจมากกว่านะ” รพีพงษ์ยิ้มพูดเสียงต่ำกับปยุต

ปยุตก็ยิ้มๆ ไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ

พอกลับเข้ามาในตำหนัก หนูลินก็ลากพี่สาและพวกของหงส์ไปเล่นกันในหุบเขา ส่วนรพีพงษ์ก็พาอารียาไปยังห้องที่เจ้าจิรภัทรเตรียมไว้ให้

พอเปิดประตูเข้าไป ด้านในตกแต่งไว้อย่างสะอาดและสว่างไสวมาก ที่ริมหน้าต่าง ดอกไม้สีเหลืองกระถางหนึ่งทำให้อารมณ์เงียบสงบมากขึ้น

“ดูออกเลยว่า จิลลาตั้งใจตกแต่งห้องนี้มาก” อารียายิ้มพูด เธอพอใจกับห้องนี้อย่างมาก

“ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเราจะอยู่นาน อีกไม่กี่วัน พวกเราก็ต้องเขาไปอยู่ในป่าหมอก” รพีพงษ์กล่าว

“ป่าหมอกงั้นหรือ?” อารียาบ่นพึมพำ “รพีพงษ์ ได้ยินคุณพูดถึงที่นี่บ่อย ฉันว่าที่สำนักเทพยาเซียนก็แยกตัวจากโลกภายนอกมากแล้วนะ แล้วป่าหมอกอะไรนั่นมันคือที่ไหนกัน?”

“ที่นั่นมันอัศจรรย์มาก มากกว่าสำนักเทพยาเซียนเป็นสิบเท่า”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท