พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1498 หมดสติ

บทที่ 1498 หมดสติ

ข้างในถ้ำ ภูตต้นไม้เผชิญหน้ากับชายผู้นั้น ทั้งสองไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ออกทางสีหน้า ภายใต้สิ่งที่มองไม่เห็น ทั้งสองใช้พลังเทพและพลังชีวิตต่อสู้กันหลายครั้ง และทุกครั้งที่ต่อสู้พลังของทั้งสองคนก็สูสีกัน

ชายคนนั้นอดที่จะยิ้มไม่ได้ มองดูภูตต้นไม้แล้วกล่าวว่า “ฮ่า ๆ ไม่คิดว่าที่นี่จะมีระดับแดนบุญ ภูตต้นไม้ บอกมาสิว่าคุณชื่ออะไร”

ภูตต้นไม้เงียบไปครู่หนึ่ง และจำชื่อที่ผู้ใหญ่คนนั้นตั้งให้เมื่อพันปีก่อน และกล่าวอย่างราบเรียบว่า “ตวัส”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายคนนั้นจำชื่อนี้ไว้ขึ้นใจ หัวเราะและกล่าวว่า “เอาล่ะ ตวัส คุณจำไว้ได้ดี ในไม่ช้า ข้านรเทพจะปลิดชีพของคุณและฉวยเอาโอกาสของคุณไป”

พูดจบ หมอกสีดำก็ปรากฏขึ้นรอบ ๆ ร่างกายของนรเทพ และเมื่อหมอกสีดำหายไป นรเทพก็หายไป และแม้แต่ลมหายใจก็หายไปจากโลกใบนี้

ตวัสถอนหายใจด้วยความโล่งอก มองรพีพงษ์และปัณฑาที่ถูกกิ่งไม้ตายห่อหุ้มไว้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย และเดินกลับไปที่ส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำ

หน้าต้นไม้หมื่นตายหมื่นปี ตวัสได้วางรพีพงษ์และปัณฑาที่หมดสติไว้ใต้ต้นไม้ และระดมพลังชีวิตจากต้นไม้ตายหมื่นปี เพื่อรักษาพวกเขาสองคนอย่างต่อเนื่อง

บาดแผลบนร่างกายของรพีพงษ์เริ่มฟื้นฟูด้วยความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ลมหายใจของทั้งสองสงบลงอย่างรวดเร็ว จะสามารถฟื้นได้หรือไม่ หรือฟื้นเมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับชะตากรรมของพวกเขาเอง

หลังจากนั้น ตวัสก็กลับเข้าไปที่ต้นไม้ตายหมื่นปี ตนเองได้ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้แล้ว ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรม

ในป่าหมอก จิรภัทรได้พาเหล่าลูกศิษย์ในสำนักเทพยาเซียนค้นหารพีพงษ์ หลังจากนั้นผู้คนจากกลุ่มสิงโตและสำนักสยบเซียนก็เข้ามาสมทบ พวกเขาค้นหาเป็นเวลาสามวันสามคืน พบเพียงแค่ร่องรอยการต่อสู้มากมาย แต่ไม่พบร่องรอยของรพีพงษ์

สำหรับทางเข้าถ้ำที่รพีพงษ์และปัณฑาอยู่นั้น ได้พังทลายลงเนื่องจากการต่อสู้ระหว่างภูตต้นไม้กับนรเทพ นอกจากนี้ตวัสใช้พลังชีวิตซ่อนพื้นที่ในถ้ำไว้ การที่จิรภัทรและคนอื่น ๆ จะหาที่นี่เจอ มันเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน

ในสำนักเทพยาเซียน ทุกคนต่างกังวลเกี่ยวกับความเป็นความตายของรพีพงษ์

ตั้งแต่การปรากฏตัวของชายคนนั้น และหลังจากมีรอยสีดำปรากฏที่แขนของหนูลิน และหนูลินก็หมดสติไปด้วยความเจ็บปวด ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าหนูลินจะฟื้น โชคดีที่ลูกศิษย์ของสำนักเทพยาเซียนดูแลหนูลินอย่างดี ร่างกายของหนูลินยังไม่ขาดคุณค่าทางโภชนา และไม่ถึงกับอดตาย

ถึงแม้จะเป็นสำนักเทพยาเซียน แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนูลิน นับประสากับการปลุกหนูลินให้ฟื้น

เมื่อต้องเผชิญกับรพีพงษ์ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และหนูลินที่ไม่ได้สติ อารียารู้สึกเครียดเป็นอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัย

ในช่วงสามวันสามคืนที่ผ่านมา อารียาร้องไห้จนตาบวม เฝ้าอยู่ข้างเตียงหนูลินตลอดเวลา ไม่เคยนอนพักผ่อนเลย

เธอไม่เคยคิดว่า เดิมต้องการมาที่ป่าหมอกเพื่อฝึกตนกับรพีพงษ์ เพิ่งจะเข้ารูปเข้ารอย ก็ต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้

ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? เขามาที่นี่ทำไม?

สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นความสงสัยอยู่ในใจของอารียา แต่ในเวลานี้ สิ่งที่เธอสนใจมากที่สุดคือรพีพงษ์อยู่ที่ไหน ยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว?

แม้ว่าฝนสุดาและจิลลาจะพยายามเกลี้ยกล่อมเธอหลายครั้ง แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก

ณ ห้องโถงใหญ่ของสำนักเทพยาเซียน

จิรภัทร นิศมา บาวัน นฤชัย และสมาชิกของกลุ่มสิงโตและสำนักสยบเซียนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่

ขอบตาของนิศมาแดง ถามอย่างรีบร้อนว่า “เจ้าจิรภัทร ยังไม่มีข่าวของรพีพงษ์อีกหรือ?”

หลังจากจิรภัทรได้ยิน ดวงตาของเขาดูอ้างว้าง และก็ส่ายศีรษะโดยไม่พูดอะไร

นฤชัยกระเดาะปาก ลุกขึ้นทันทีและกล่าวว่า “ไม่! เป็นไปไม่ได้ที่ท่านผู้นำจะตายแบบนี้ ผมจะออกไปหาเดี๋ยวนี้ และผมต้องหาท่านผู้นำให้พบ!”

พูดจบ นฤชัยก็กระโดดออกไป และวิ่งไปในป่าหมอก

สักพัก ผู้คนก็ลุกขึ้นและวิ่งตามไปในป่าหมอก เพื่อค้นหาร่องรอยของรพีพงษ์ต่อไป

จิรภัทรถอนหายใจ และส่ายศีรษะอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ป่าหมอกใหญ่เท่านี้ สามวันมานี้ผู้คนจำนวนมากได้ค้นหาทั่วป่าหมอกแล้ว แต่พวกเขาไม่พบแม้แต่ร่องรอยของรพีพงษ์

นอกจากนี้ แม้แต่หงส์และธมกรก็ยังหาไม่เจออีกด้วย

จิรภัทรอยากรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นในวันที่รพีพงษ์หายตัวไป

และรอยแยกที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือป่าหมอกในวันนั้นคืออะไรกันแน่?

และในขณะที่จิรภัทรกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ลูกศิษย์หญิงเดินเข้ามาในห้องโถง และกล่าวอย่างรีบร้อนว่า “เจ้า……เจ้าสำนัก มีแรดยักษ์ตัวหนึ่ง พาคุณหงส์และคุณธมกรกลับมา ทั้งคู่ปลอดภัยดีค่ะ!”

ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ ทุกคนในห้องโถงดูเหมือนจะเห็นความหวัง

จิรภัทรระงับความตื่นเต้น และถามว่า “นอกจาก หงส์และธมกรแล้ว ยังมีใครอีกไหม?”

ลูกศิษย์หญิงเงียบไปครู่หนึ่ง ส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “เรียนเจ้าสำนัก แรดยักษ์ตัวนี้พากลับมาแค่สองคนนี้เท่านั้น อีกอย่าง สิ่งที่แรดยักษ์พูดก่อนไป ดูเหมือนว่า……จะไปตามหานายท่าน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จิรภัทรรู้สึกหมดแรงชั่วขณะ แรดยักษ์น่าจะเป็นแรดโบราณที่รพีพงษ์พิชิตได้ในป่าหมอก

แรดโบราณอาศัยอยู่ในป่าหมอกเป็นเวลาหลายร้อยปี และติดต่อกับรพีพงษ์หลายครั้ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า แม้แต่แรดโบราณตัวนี้ก็ยังไม่รู้ว่ารพีพงษ์อยู่ที่ไหน?

รพีพงษ์ คุณอยู่ที่ไหน?

หรือว่า รพีพงษ์จะ………

จิรภัทรระงับความคิดน่าสยองนี้ทันที หลังจากค่อยยังชั่ว เขาก็ยืนขึ้นทันที และกล่าวว่า “คุณกลับไปดูแลหงส์กับธมกร และคนอื่น ๆ ให้ดี ส่วนคนที่ยังมีแรงเหลือก็ไปค้นหารพีพงษ์กับผมต่อไป!”

พูดจบ จิรภัทรก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องโถงทันที

ในห้องโถง ทุกคนลุกขึ้นตามจิรภัทรเข้าไปในป่าหมอกเพื่อค้นหารพีพงษ์

ที่ใต้ดินในป่าหมอก

น้ำค้างหยดลงมาที่ปลายจมูกของปัณฑา และความเหน็บหนาวได้ปลุกปัณฑาให้ฟื้นขึ้นมา เธอลุกขึ้นนั่งทันที แล้วมองต้นไม้ตายหมื่นปีที่อยู่ตรงหน้า ปัณฑาจำได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น

“รพีพงษ์ รพีพงษ์เป็นยังไงบ้าง!”

ปัณฑากล่าวอย่างรีบร้อน และมองหารพีพงษ์ไปทั่ว

ตวัสปรากฏตัวท่ามกลางกิ่งไม้ตายของต้นไม้ตายหมื่นปี และกล่าวเสียงราบเรียบว่า “ไม่ต้องตกใจ รพีพงษ์อยู่ที่นั่น”

ตวัสชี้ไปที่ยอดของต้นไม้ตายหมื่นปี

ปัณฑาเงยหน้าขึ้นมอง เห็นรพีพงษ์ถูกกิ่งไม้ตายของต้นไม้ตายหมื่นปีห่อหุ้มเอาไว้

“ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ตวัสก็หาวและกล่าวว่า “อาการบาดเจ็บหายดีแล้ว ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ผมใช้พลังชีวิตรักษาเขาไปไม่น้อย จนสามารถรักษาชีวิตไว้ได้แล้ว แต่เรื่องที่จิตวิญญาณเทพได้รับบาดเจ็บผมไม่สามารถช่วยได้ จะฟื้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง”

ตวัสกล่าวด้วยสีหน้าจำใจ ถ้ารพีพงษ์ได้รับบาดเจ็บจากนรเทพเพียงแค่ร่างกาย เกรงว่ารพีพงษ์คงจะฟื้นนานแล้ว

น่าเสียดายที่จิตวิญญาณเทพของรพีพงษ์ถูกนรเทพดูดไปไม่น้อย

จิตวิญญาณเทพเท่ากับรากฐานของการฝึกตน สิ่งที่ตวัสสามารถทำได้ก็ทำไปหมดแล้ว จะสามารถฟื้นฟูจิตวิญญาณเทพได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับตัวรพีพงษ์เอง

ปัณฑากระโดดไปข้างของรพีพงษ์ มองรพีพงษ์ที่หลับตาอยู่ ปัณฑากระเดาะปาก และส่งพลังชีวิตของตนเองให้กับรพีพงษ์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่เห็นรพีพงษ์มีอาการใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าดีขึ้น

“ไม่มีประโยชน์ พลังชีวิตของผมไม่สามารถปลุกจิตวิญญาณเทพของเขาให้ฟื้นขึ้นได้ ดังนั้นคุณจะสิ้นเปลืองทำไม ปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรมเถอะ ถ้าหากเขาตาย ก็ถือว่าผมสูญเสียผลไม้ฟื้นฟูไปไม่กี่ผล”

ตวัสกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ แล้วก็กลับเข้าไปยังต้นไม้ตายหมื่นปี

ปัณฑารู้สึกไม่เต็มใจ มีคราบน้ำตาอยู่ที่มุมตาของเธอ

“รพีพงษ์ คุณจะนอนแบบนี้ต่อไปไม่ได้น่ะ คุณต้องไปหาน้ำอำมฤตไม่ใช่หรือ? คุณลืมตาขึ้นมาสิ”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท