พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1491โครงกระดูก

บทที่ 1491โครงกระดูก

เมื่อมองปัณฑาที่ไม่ได้เรื่อง รพีพงษ์ก็รับปาก และเดินตามปัณฑาไปอย่างใกล้ชิด

ตามที่ปัณฑาเคยพูดกับตนเองก่อนหน้านั้น สถานที่ที่ต้นไม้ตายหมื่นปีอยู่ ไม่เพียงแต่มีโอกาสที่ดีเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอันตรายด้วย หากไม่ระวังตัว แม้ว่ารพีพงษ์ที่อยู่ในระดับแดนเทพขั้นพีค ก็เป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พลังของปัณฑายังไม่ฟื้นคืน ถ้าเจอศัตรูหนึ่งหรือสองคน มันก็จะจบลงจริง ๆ

หลังจากเดินลึกเข้าไปในถ้ำไม่รู้นานเท่าไหร่ รพีพงษ์ซึ่งตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน รพีพงษ์ก็สามารถรับรู้ได้ชัดเจนว่า ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีพลังชีวิตอยู่รอบตัวมากขึ้นเท่านั้น สิ่งนี้สามารถพิสูจน์ว่า พวกเขากำลังเข้าใกล้ต้นไม้ตายหมื่นปีอย่างแน่นอน

“พรึบ…..”

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว และคว้าปัณฑาเอาไว้ เขาใช้พลังทิพย์สร้างเกราะป้องกันขึ้นรอบตนเองและปัณฑาทันที แล้วมองไปรอบ ๆ อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปัณฑารู้สึกตกใจ

“คุณทำอะไรอยู่? ข้างหน้าไม่ไกลเป็นสถานที่ที่ต้นไม้ตายหมื่นปีอยู่ รีบไปกลับกันเถอะ”

รพีพงษ์ส่ายศีรษะ ใช้มือทำสัญญาลักษณ์ให้เงียบ จากนั้นค่อย ๆ หันทิศทางของไฟฉายไปที่มุมบางมุมของทางเดินในถ้ำ แต่ไม่พบอะไรเลย

“โอ้ อย่ากระต่ายตื่นตูมขนาดนั้น ถ้าที่นี่จะมีอะไร ก็คงจะเป็นสิ่งที่สัตว์ประหลาดเล่นเหลือจากเมื่อพันปีก่อน การที่จะเจอพวกมันไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเราไปกันเถอะ”

พูดจบ ปัณฑากระโดดลงมาจากไหล่ของรพีพงษ์ ขณะที่เธอลงสู่พื้น ก็รู้สึกว่าเหยียบอะไรบางอย่าง เมื่อมองลงไป ก็ตกใจเป็นอย่างมาก

“โอ๊ย! รพีพงษ์ รีบเอาแมลงที่อยู่บนเท้าของฉันออกไป”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ รพีพงษ์ก็ก้มศีรษะลงและมองเข้าไปใกล้ ๆ เห็นแมลงสีดำปืนขึ้นไปอยู่บนขาของปัณฑา ฟันอันแหลมคมกำลังจะกัด แต่ถูกรพีพงษ์ใช้พลังทิพย์โจมตี ทำให้แมลงตกลงไปสู่พื้น แล้วก็ตาย

“ฮ่า ๆ……”

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะแปลกๆ ก็ออกมาจากถ้ำ

เสียงหัวเราะดังกล่าวน่าขนลุกเป็นอย่างมาก!

รพีพงษ์ใช้มือข้างหนึ่งอุ้มปัณฑาเอาไว้ แล้วมองไปรอบ ๆ พื้นดิน ถึงรู้ว่า พวกเขาทั้งสองถูกแมลงล้อมไว้

ปัณฑามองแมลงเหล่านี้ด้วยความรู้สึกขยะแขยง กอดคอของรพีพงษ์ ตัวสั่นเล็กน้อยและกล่าวว่า “พวกนี้คืออะไร? ฉันไม่เคยได้ยินว่าที่นี่มีแมลง ฉันกลัวแมลงมากที่สุด รีบจัดการพวกมันเลย”

รพีพงษ์พยักหน้า แม้ว่าแมลงเหล่านี้จะมีจำนวนมาก แต่พลังของแมลงพวกนี้ไม่สูง แค่พวกมันไม่มาเข้าใกล้พร้อมกัน รพีพงษ์ก็สามารถจัดการได้

หลังจากคิดจบ เขาอุ้มปัณฑาด้วยมือขวาไว้แน่น กระบี่สยบเซียนปรากฏอยู่ในมือซ้ายของรพีพงษ์ และพลังทิพย์อันทรงพลังก็ปกคลุมพื้นผิวของดาบกระบี่สยบเซียนทันที จากนั้นสะบัดกระบี่ ฝูงแมลงจำนวนมากถูกฆ่าตายเต็มพื้น

“ไม่ไหว! แมลงเหล่านี้มากมายมหาศาล ปัณฑาขึ้นมาอยู่บนหลังของผม แล้วก็จับไว้แน่น ๆ พวกเราจะเข้าไปข้างในถ้ำกัน” รพีพงษ์กล่าวอย่างเย็นชา

ปัณฑาพยักหน้า แล้วปีนขึ้นไปบนไหล่ของรพีพงษ์ กอดคอของรพีพงษ์ไว้แน่น เธอหลับตาลง ไม่กล้ามองแมลงเหล่านี้

รพีพงษ์สูดหายใจเข้าลึก ๆ จับกระบี่สยบเซียนไว้แน่น เขาใช้พลังทิพย์ล้อมรอบเท้า สกินเป็นเปลวไฟ และเผาแมลงที่เข้ามาใกล้

เห็นแมลงถอยหนีเพราะกลัวเปลวเพลิง รพีพงษ์จึงวิ่งลึกเข้าไปในถ้ำทันทีโดยลังเล

มีเสียงแปลกดังมาจากทิศทางที่แมลงออกมา บางทีข้างหน้าอาจมีวิธีจัดการกับแมลงเหล่านี้ก็ได้

เมื่อพลังชีวิตรอบข้างเพิ่มขึ้น รอบรพีพงษ์ก็มีแมลงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดรพีพงษ์ก็พบว่านี่มันเป็นรังของแมลง คราวนี้ตนเองถูกปัณฑาหลอกล่ะ

“รพีพงษ์ ข้างหน้ามีไอของคน แมลงเหล่านี้อาจถูกคนควบคุม คุณรีบเดินไปข้างหน้า ไปจัดการไอ้หมอนั้นซะ” ปัณฑากล่าวอย่างเร่งรีบ หัวใจเธอเต้นเร็วเพราะแมลงเหล่านี้

รพีพงษ์พยักหน้า และรีบไปในทิศทางที่ปัณฑาชี้ ที่มุมหนึ่ง เขาเห็นเป็นเงาดำ

“ฮ่า ๆไม่คิดว่าพวกคุณจะสามารถบุกทะลุด่านแมลงของผม แล้วเข้ามาถึงที่นี่ได้ ดีมาก! พวกคุณมีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับผม”

เมื่อเผชิญหน้ากับเงาดำที่พูดอย่างกะทันหัน รพีพงษ์ก็หยุดทันที และพลังทิพย์ที่อยู่รอบข้างก็ลุกไหม้ ทำให้แมลงล่าถอยไป ขณะเดียวกันก็ส่องสว่างถ้ำที่มืด

โครงกระดูกหนึ่งโครง!

รพีพงษ์ขมวดคิ้วเมื่อมองโครงกระดูกที่ยืนอยู่ตรงมุม ดูเหมือนว่า คนที่ส่งเสียงแปลก ๆ เมื่อสักครู่เป็นโครงกระดูกนี้หรือ?

ปัณฑารู้สึกสับสนเล็กน้อย มองดูโครงกระดูก ครุ่นคิดอยู่นาน และกล่าวว่า “ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง คุณกล้าที่จะกลืนผลไม้จากต้นไม้ตายหมื่นปีโดยตรงเลยหรือ?”

“พลังชีวิตที่มีอยู่ในผลไม้นั้นอุดมสมบูรณ์มาก หากคุณกินมันโดยไม่มีแนวทาง ร่างกายของคุณจะรับไม่ไหวแน่นอน แต่ฉันไม่นึกว่า คุณจะไม่มีร่างกาย เหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น แต่ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้”

หลังจากโครงกระดูกฟังแล้ว มองมาที่ปัณฑา มีความอยากรู้ และกล่าวว่า “สาวน้อยคนนี้ดูแปลกประหลาด ถึงได้รู้มากเช่นนี้ แต่รู้มากก็ไร้ประโยชน์ พวกคุณมาที่นี่ก็เพื่อผลไม้ใช่ไหม”

รพีพงษ์ประสานมือทั้งสองแล้วโค้งคำนับ และกล่าวว่า “พวกเรามาที่นี่เพื่อผลไม้ของต้นไม้ตายหมื่นปีจริง ๆ ขอให้ผู้อาวุโสหลีกทาง หลังจากที่พวกเราเอาผลไม้ได้แล้วจะจากไป และจะไม่สร้างปัญหาให้กับผู้อาวุโส”

เมื่อมองท่าทีที่สุภาพของรพีพงษ์ โครงกระดูกแปลกใจเล็กน้อย ก็ผิวปาก แมลงทั้งหมดที่อยู่รอบรพีพงษ์และปัณฑาก็ถอย และดำดิ่งเข้าไปในกำแพงหินโดยรอบ

“คุณไม่เหมือนพวกคนไร้เหตุผลพวกนั้นเมื่อพันปีที่แล้ว แต่น่าเสียดาย ในเมื่อพวกคุณมาเพราะผลไม้ของต้นไม้ตายหมื่นปี ผมก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้ ถ้าพวกคุณอยากได้ผลไม้ เอาชนะผมให้ได้ พวกคุณถึงจะสามารถเข้าไปข้างหน้าได้”

พูดจบ โครงกระดูกสกินกระบี่เล่มหนึ่งอยู่ในมือ และเจตนาฆ่าอย่างแรงก็ปกคลุมทั่วทั้งถ้ำทันที

ยอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีค!

รพีพงษ์ขยับเล็กน้อย ไม่คิดว่าในถ้ำนี้จะมียอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีคพิทักษ์อยู่

ปัณฑามองไปที่โครงกระดูก และจำสิ่งที่โครงกระดูกพูดได้ อดไม่ได้ที่จะมีความคิดที่กล้าหาญในสมอง เธอเข้าไปใกล้หูของรพีพงษ์ แล้วกระซิบว่า “รพีพงษ์ คุณต้องระวังตัว ฉันประเมินถ้ำนี้ต่ำเกินไป โครงกระดูกนี้อาจจะเป็นยอดฝีมือเมื่อพันปีก่อน เกิดข้อผิดพลาดอะไรบางอย่าง เลยกลายเป็นผู้พิทักษ์สถานที่แห่งนี้”

รพีพงษ์พยักหน้า ไม่กังวลอะไรมาก ตนเองเคยฆ่ายอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีคไปไม่น้อย

ปัณฑาเห็นว่ารพีพงษ์ประเมินโครงกระดูกต่ำเกินไป และกล่าวเสริมว่า “หากเขาเป็นยอดฝีมือเมื่อพันปีก่อนจริง เขาต้องมีวรยุทธที่ไม่เหมือนใคร เมื่อพันปีก่อน สิ่งที่ไม่ขาดมากที่สุด ก็คือวรยุทธ วิชากังฟูเสนที่คุณคิดอยู่ตลอดเวลาก็เป็นเพียงวรยุทธระดับต่ำเท่านั้น!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น รพีพงษ์ก็ตื่นตัวทันที วิชากังฟูเสนเป็นเพียงวรยุทธระดับต่ำเท่านั้น?

นักฝึกตนเมื่อหลายพันปีก่อนเป็นสัตว์ประหลาดชนิดใด

รพีพงษ์รู้สึกตกใจกับระดับผลของการฝึกตนมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นดังที่ญานิดาเคยกล่าวว่า ระดับแดนเทพขั้นพีค ถือได้ว่าเป็นแค่นักฝึกตนที่มีคุณภาพเท่านั้น

เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ รพีพงษ์ก็ไม่กล้าที่จะประมาทอีกต่อไป ถือกระบี่สยบเซียนในมือขวาไว้แน่น พลังอันล้ำลึกในมือซ้ายพุ่งขึ้น และพร้อมที่จะลงมือตลอดเวลา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท