พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1493 ปราบโครงกระดูก

บทที่ 1493 ปราบโครงกระดูก

พลังกระบี่สีดำพ่ายแพ้ทันที ตอนนี้โครงกระดูกตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ จ้องมองไปที่รพีพงษ์ เห็นรอยยิ้มที่มั่นใจบนใบหน้าของรพีพงษ์ โครงกระดูกก็รู้สึกกังวลใจ

“มนุษย์เล็กทองคำ บุก”

รพีพงษ์ตะโกน ก่อนหน้านั้นตอนที่ต่อสู้กับโครงกระดูกในระยะประชิด รพีพงษ์ได้ปล่อยพลังจิตวิญญาณเทพ ให้มนุษย์เล็กทองคำซ่อนอยู่ในความมืด เพื่อรอโอกาส และในขณะนี้มันเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยม!

มนุษย์เล็กทองคำถือกระบี่ยาวสีทองอยู่ในมือ แล้วเหวี่ยงกระบี่ออกไป กระบี่ยาวสีทองโจมตีไปที่คอของโครงกระดูกโดยตรง ความแข็งของกระดูกทำให้กระบี่ยาวสีทองไม่สามารถแทงทะลุได้ชั่วขณะหนึ่ง

โครงกระดูกใช้มือซ้ายจับกระบี่ยาวสีทองเอาไว้ ไม่มีอะไรให้น่าสงสัยอีกแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกตื่นตระหนก

รพีพงษ์มองภาพนี้ ยิ้มเยาะเย้ย แล้วร่างของเขาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าโครงกระดูกทันที

“คุณพ่ายแพ้แล้ว”

พูดจบ กระบี่สยบเซียนของรพีพงษ์ก็ฟันไปที่คอของโครงกระดูก

เมื่อเห็นสิ่งนี้ โครงกระดูกก็พยายามใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงกระบี่ยาวสีทองกับมนุษย์เล็กทองคำออกไป และคิดจะต้านการโจมตีของรพีพงษ์ แต่น่าเสียดาย ที่มันสายเกินไปแล้ว

กระบี่สยบเซียนฟันไปที่กระดูกต้นคอยาวของโครงกระดูกโดยตรง

พลังของกระบี่สยบเซียนนั้นทรงพลังยิ่งกว่ากระบี่ยาวสีทองของมนุษย์เล็กทองคำ การโจมตีครั้งนี้ ทำให้ร่างของโครงกระดูกเริ่มจาง

“ทำลายมันให้ละเอียด!”

รพีพงษ์เพิ่มพลังอีกครั้ง และพลังที่ล้ำลึกก็หลั่งไหลเข้าสู่ใจกลางของกระบี่สยบเซียน

โครงกระดูกประหลาดใจเล็กน้อย ปล่อยมือซ้ายลง แล้วยอมจำนน

“ฮ่า ๆ เจ้าหนู ไม่คิดว่าคุณจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ผมประเมินศัตรูต่ำเกินไป คราวนี้ผมพ่ายแพ้แล้ว”

ทันทีที่สิ้นเสียง กระบี่สยบเซียนก็ตัดโครงกระดูกออก ทำให้โครงกระดูกกระจัดกระจาย และล้มลงบนพื้น ไม่มีพลังลมหายใจอีกต่อไป

“ชนะแล้ว?”

ปัณฑาที่อยู่ด้านข้างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเปรียบเทียบกับโครงกระดูกที่อยู่ในระดับแดนบุญครึ่งก้าว ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะชนะได้จริง ๆ?

รพีพงษ์หายใจหอบ ใช้กระบี่สยบเซียนค้ำถึงจะสามารถยืนได้ รพีพงษ์ใช้พลังเทพไปทั้งหมดในการต่อสู้กับโครงกระดูกในครั้งนี้ ตอนนี้ต้องใช้เวลาเป็นครึ่งวัน รพีพงษ์ถึงจะสามารถฟื้นฟูกำลังได้

โชคดีที่มียาเม็ด ทำให้รพีพงษ์ยังสามารถในการป้องกันตนเองได้

หลังจากนั้น ขวดหยกขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นในมือของรพีพงษ์ เขาเทยาออกมาเม็ดหนึ่ง เงยหน้าขึ้นแล้วกลืนยาลงไป แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ในไม่ช้าพลังทิพย์ในร่างกายของเขาก็คงที่ขึ้น

“พวกเราไปกันต่อเถอะ ที่นี่ไม่ปลอดภัย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ปัณฑาก็พยักหน้า หลังจากพักสักครู่ สีหน้าของปัณฑาก็ดีขึ้นมาก

“เจ้าหนู อย่ารีบร้อนนัก พันปีมานี้ยากที่จะมีใครสามารถชนะผมได้ คุณจะไปแบบนี้ไม่ได้”

เสียงของโครงกระดูกดังขึ้นอีกครั้ง

รพีพงษ์และปัณฑาตกใจ และยืนขึ้นทันที แล้วมองไปรอบ ๆ

“เจ้าหนู อย่าตกใจไป ในเมื่อคุณสามารถเอาชนะร่างกายของผมได้ คุณก็ผ่านด่านของผมแล้ว ผมจะไม่ทำให้คุณต้องลำบากใจ เพียงแต่ผมยังมีเรื่องจะพูดกับคุณ”

ทันทีที่สิ้นเสียง ก็มีผีลอยออกมาเหนือโครงกะโหลก ทำให้ปัณฑาตกใจ จึงกระโดดไปที่หลังของรพีพงษ์ และตัวสั่นเทา

รพีพงษ์มองภาพนี้ รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เขาเล็งกระบี่สยบเซียนไปที่ผีแล้วกล่าวว่า “คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ และคุณมีจุดประสงค์อะไร”

ผีมองดูท่าทางระมัดระวังของรพีพงษ์ ถอนหายใจอย่างจำใจ และชี้ไปที่ร่องบนกำแพงหินทางขวามือ

“โอ้ เจ้าหนู คุณมีพรสวรรค์ สามารถเอาชนะผมได้ ผมต้องให้โอกาสคุณ มีพลอยอยู่ในโครงกระดูกของผม คุณเอาไปเปิดกลไกบนกำแพงหิน แล้วข้างในจะมีสิ่งที่คุณต้องการ”

พูดจบ ผีก็มองดูร่างกายของตนเองเป็นเวลานาน ถอนหายใจและกล่าวว่า “พันปีแล้ว นายท่าน ผมได้ปกป้องถ้ำนี้มาพันปีแล้ว และผมก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว”

ทันทีที่สิ้นเสียง วิญญาณก็ค่อย ๆ สลายกลายเป็นความว่างเปล่า และไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆอีกต่อไป

รพีพงษ์มองภาพนี้ ด้วยความระมัดระวัง เฝ้าดูกะโหลกบนพื้นค่อย ๆ กลายเป็นผง แล้วจึงเดินเข้าไป มีพลอยปรากฏขึ้นภายใต้สายตาของรพีพงษ์

ปัณฑามองไปที่พลอย และกล่าวว่า “ฉันจำได้แล้ว ไอ้หมอนี้น่าจะเป็นนักฝึกตนที่อยู่ที่นี่ จุดประสงค์น่าจะเพื่อปกป้องต้นไม้ที่ตายหมื่นปี ตอนนี้งานเสร็จสิ้นแล้ว มันก็หายไป ไม่คาดคิดว่าคุณจะสามารถเอาชนะไอ้หมอนี้ได้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ รพีพงษ์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก วางปัณฑาลง ก้มลงไปหยิบพลอยเม็ดเล็ก ๆ นี้ และเดินไปตามทิศทางที่โครงกะโหลกบอก จนไปถึงกำแพงหิน แล้วใส่พลอยลงในร่อง

หลังจากสิ้นเสียง ก็ปรากฏช่องเล็ก ๆ ขึ้นที่กำแพงหิน และในช่องนั้น มีตำราวรยุทธ และขวดยาวางอยู่

เมื่อมองฝุ่นที่อยู่บนตำรากับบนขวดหยก เกรงว่าสองสิ่งนี้อยู่ที่นี่มานานแล้ว

รพีพงษ์ยื่นมือออกไปหยิบตำราก่อน มันเป็นตำราวิชาเบิกโลกันตร์ที่โครงกระดูกใช้เมื่อสักครู่!

หลังจากที่ปัณฑามองอย่างละเอียดแล้ว ปัณฑาก็แน่ใจว่า ตำราเล่มนี้เป็นวิชาเบิกโลกันตร์จริง ๆ

และในขวดหยกนั้น เป็นยาเม็ดระดับเทพเซียนห้าเม็ด และเมื่อพิจารณาจากสีของยาเหล่านี้แล้ว พวกมันล้วนเป็นยาเม็ดระดับเทพเซียนที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ปัณฑาอดไม่ได้ที่จะยิ้ม และกล่าวว่า “ไม่คิดว่า คุณจะได้รับโอกาสที่ดีเช่นนี้ ทั้งหมดนั่นคุณได้มาด้วยความสามารถของตนเอง มันเป็นของคุณ คุณกินยานี้เพื่อฟื้นฟูพละกำลังก่อน ส่วนตำราวิชาเบิกโลกันตร์เอาไว้ค่อยฝึกทีหลัง ตอนนี้ก็สายแล้ว พวกเรารีบไปหาต้นไม้ตายหมื่นปีกันเถอะ”

รพีพงษ์พยักหน้า เทยาเม็ดระดับเทพเซียนออกจากขวดหยกขนาดเล็กแล้วเงยหน้ากลืนมันลงไปทันที สรรพคุณของยาเม็ดระดับเทพเซียนทำให้รพีพงษ์รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก และความเร็วในการดูดซับพลังทิพย์จากโลกภายนอกก็เร็วขึ้นหลายเท่า

หลังจากพักฟื้นสักครู่ รพีพงษ์ก็ลุกขึ้น และพาปัณฑาเดินไปยังส่วนลึกของถ้ำ

พริบตาก็ผ่านไปครึ่งวัน

ภายในถ้ำ ปัณฑาหยุดอยู่หน้าประตูหิน มองไปที่ประตูหิน เงียบไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “รพีพงษ์ ต้นไม้ตายหมื่นปีอยู่ข้างหลังประตูหินนี้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ รพีพงษ์พยักหน้า แล้วเดินไปข้างหน้า ใช้มือขวาแตะพื้นผิวประตูหินเบา ๆ และไม่รู้สึกถึงพลังพิเศษใด ๆ ดูแล้วมันน่าจะเป็นเพียงประตูหินธรรมดา

หลังจากนั้น รพีพงษ์ก็ให้ปัณฑาไปยืนอีกด้านหนึ่ง แล้วกระบี่สยบเซียนก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา หันไปทางประตูหินที่อยู่ตรงหน้า ตัดประตูหินได้อย่างง่ายดาย

“ผมเดินไปก่อน คุณเดินตามหลังผมมา”

ปัณฑาพยักหน้าต่อเนื่อง ใช้มือขวาจับที่มุมเสื้อของรพีพงษ์ไว้แน่น ไม่กล้าที่จะคลายสักครู่

หลังประตูหิน มีช่องขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของรพีพงษ์ และนี่คือถนนเพียงสายเดียว คดเคี้ยวขึ้นไปบนภูเขาที่อยู่ตรงหน้ารพีพงษ์

ปัณฑาเงยหน้าขึ้นมอง เห็นต้นไม้ตายหมื่นปีอยู่บนยอดเขา และกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ดูสิ รพีพงษ์นั่นเป็นไม้ที่ตายหมื่นปี พวกเราพบแล้ว”

หลังจากได้ยิน รพีพงษ์เงยหน้ามองขึ้นไปที่ต้นไม้ตายหมื่นปี พยักหน้า แล้ววางปัณฑาไว้บนไหล่ สร้างพลังทิพย์ขึ้นเพื่อเป็นเกราะป้องกันอยู่รอบตัวเพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดฝัน จากนั้นเขาก็รีบปีนขึ้นไปบนภูเขา และมุ่งหน้าไปบนยอดเขาที่ต้นไม้ตายหมื่นปีตั้งอยู่

บนยอดเขา

ต้นไม้ตายหมื่นปีสั่นโดยปราศจากลม แม้ว่าจะต้นไม้จะตายไปแล้ว แต่กิ่งไม้ตายทุกกิ่งที่อยู่บนนั้นเต็มไปด้วยพลังชีวิต

แม้แต่เถาวัลย์ที่ปัณฑาเคยให้รพีพงษ์ก่อนหน้านั้น ก็มีอยู่มากมายบนต้นไม้ตายหมื่นปีต้นนี้

รพีพงษ์กับปัณฑาปีนขึ้นไปบนยอดได้สำเร็จ เมื่อมองดูต้นไม้ตายหมื่นปี รพีพงษ์ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสดชื่นของพลังชีวิตที่ชะล้างเส้นลมปราณในร่างกายของตนเองได้อย่างชัดเจน

แม้กระทั่งในช่วงเวลานี้ รพีพงษ์ดูเหมือนจะมีความเข้าใจวิชากังฟูเสนมากยิ่งขึ้น

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท