พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1497 รอดจากความตาย

บทที่ 1497 รอดจากความตาย

เมื่อฝุ่นจางลง ชายคนนั้นมองรพีพงษ์ที่หายตัวไป คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย เขาใช้พลังเทพปกคลุมไปทั่วป่าหมอก และในไม่ช้าก็ค้นพบตำแหน่งของรพีพงษ์และปัณฑา

“คิดหนีจากเงื้อมมือของข้า เพ้อเจ้อ!”

พูดจบ ชายคนนั้นก็กระโดด ร่างของเขาก็ปรากฏอยู่บนอากาศ และรีบไล่ตามไปในทิศทางที่รพีพงษ์หลบหนีไป

รพีพงษ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็สามารถรับรู้ถึงพลังที่เข้ามาใกล้จากด้านหลังอย่างรวดเร็ว และเขาก็อดไม่ได้ที่จะกระเดาะปาก

“ไม่ไหว ความแข็งแกร่งแตกต่างกันมากเกินไป ปัณฑาคุณหนีไปก่อน เขามาเพราะผม ผมไม่อยากทำให้คุณเดือดร้อน”

หลังจากที่ปัณฑาได้ยิน ก็ยิ้มอย่างขมขื่น แล้วกล่าวว่า “ต่อให้หนีก็หนีไปไหนไม่ได้ มันคงจะดีกว่าถ้าฉันจะต่อสู้พร้อมกับคุณ ถ้าคุณวิ่งไปที่ถ้ำนั้น บางทีอาจจะมีโอกาสรอด”

รพีพงษ์พยักหน้า ใช้พลังทั้งหมด และวิ่งตรงไปที่ถ้ำทันที

ฝั่งฝนสุดา จิรภัทรได้พาลูกศิษย์ของสำนักเทพยาเซียนมากมายไปยังป่าหมอก และบังเอิญได้พบฝนสุดา อารียา และหนูลินทั้งสามคน

จิลลาที่อยู่ข้างจิรภัทรขมวดคิ้วและถามว่า “ทำไมถึงมีแต่พวกคุณ รพีพงษ์อยู่ที่ไหน”

อารียารู้สึกเป็นห่วงมากเหมือนกัน แล้วกล่าวว่า “รพีพงษ์ ออกไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว และตามหลักแล้วน่าจะกลับมาในวันนี้ แต่ ……. ”

หลังจากฟังประโยคนี้แล้ว จิรภัทรก็ส่ายศีรษะให้จิลลา และกล่าวราบเรียบว่า “คุณอารียา คุณฝนสุดา พวกคุณพาเด็กตามจิลลากลับไปที่สำนักเทพยาเซียนก่อน สำหรับรพีพงษ์ พวกเราจะไปตามหาเขาเอง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จิลลาที่กำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่รู้สึกตกใจกับดวงตาที่เย็นเฉียบของจิรภัทร

จิลลาเข้าใจทันทีว่าครั้งนี้จิรภัทรจริงจังเป็นอย่างมาก

จิลลาจึงตกลงรับปากด้วยความจำใจ

ดูเหมือนว่าหนูลินจะรู้แล้วว่ารพีพงษ์กำลังตกอยู่ในอันตราย ซึ่งมองไปที่อารียาด้วยน้ำตาคลอเบ้า

“คุณแม่ หนูต้องการพ่อ หนูจะไปหาพ่อ”

ตาของอารียาอ้างว้าง ถ้าตอนนี้เธอพาหนูลินไปหารพีพงษ์โดยไม่คำนึงอะไร เกรงว่าจะทำให้สถานการณ์ปัจจุบันยิ่งวุ่นวายขึ้น

“หนูลิน เป็นเด็กดีน่ะ พวกเราอย่าสร้างปัญหาให้ทุกคน พ่อจะไม่เป็นอะไร พวกเรากลับไปรอพ่อก่อนดีไหม?”

ปกติหนูลินซึ่งเป็นเด็กดีเชื่อฟังตลอด ร้องไห้เสียงดังหลังจากได้ยินเรื่องนี้

“ไม่ หนูต้องการพ่อตอนนี้ พ่อตกอยู่ในอันตราย หนูไม่อยากให้พ่อไป”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อารียารู้สึกกดดัน และแม้แต่ทุกคนก็รู้สึกกดดันเช่นกัน ว่ากันว่าพ่อกับลูกสาวใจเชื่อมกัน หรือว่าตอนนี้รพีพงษ์ กำลังตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ ?

“โอ๊ย!”

หนูลินตะโกนด้วยความเจ็บปวด และรอยดำก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นที่แขน ประกายแสงสีแดงเลือด เพียงไม่กี่วินาที หนูลินก็หมดสติไปด้วยความเจ็บปวด

“หนูลิน หนูลินเป็นอะไรไป!”

อารียากอดหนูลินเอาไว้ และหลังจากกลายเป็นนักฝึกตนแล้ว ตนเองสามารถรับรู้ถึงลมหายใจชีวิตได้

ในขณะนี้ อารียาสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า ลมหายใจของหนูลินลดลงมากกว่าครึ่งในชั่วพริบตาเดียว และยังลดลงไปอย่างต่อเนื่อง

จิรภัทรหยิบยาเม็ดชั้นเลิศออกจากกระเป๋าทันที หลังจากป้อนหนูลินแล้ว ทำให้ลมหายใจของหนูลินคงที่และเริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ

“รอช้าไม่ได้แล้ว จิลลาคุณพาพวกเขากลับไปที่สำนักเทพยาเซียนทันที และแจ้งกลุ่มสิงโตและลูกศิษย์สำนักอื่น ๆ ให้ตามผมไปค้นหารพีพงษ์ในป่าหมอกทันที!”

“ครับ!”

หลังคำสั่ง ลูกศิษย์ของสำนักเทพยาเซียนนับร้อยเข้าไปในป่าหมอกทันที และเริ่มปูพรมค้นหารพีพงษ์

ในป่าหมอกลึก ใต้พื้นดิน

รพีพงษ์แบกปัณฑาไว้ที่หลังและวิ่งด้วยกำลังทั้งหมด พลังเทพของรพีพงษ์กำลังจะถึงจุดต่ำสุด และข้างหลังตนเอง ชายคนนั้นอยู่ห่างจากตนเองใกล้มาก

“คุณหนีไม่ได้แล้ว”

ชายคนนั้นยิ้มเยาะเย้ย และเอื้อมมือออกไปจับรพีพงษ์ รู้สึกว่าคอของตนเองถูกมือที่มองไม่เห็นจับไว้ จนไม่สามารถขยับได้ และในไม่ช้าเขาก็ถูกยกขึ้น ทำให้รู้สึกหายใจลำบากเป็นอย่างมาก

ปัณฑากระโดดลงมาทันที ระเบิดพลังชีวิต แล้วเถาวัลย์สามต้นก็พุ่งไปชายคนนั้นจากสามทิศทาง แต่เถาวัลย์พวกนั้นถูกชายที่มีพลังเทพทำให้แตกละเอียด

“รนหาที่ตาย!”

สายตาของชายผู้นั้นจ้องไปที่ปัณฑา พริบตาเดียวพลังที่แข็งแกร่งก็กดทับปัณฑาไว้ทันที

ใบหน้าของปัณฑาขาวซีดเผือดทันที ชั่วพริบตาก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด อ่อนแรงล้มลงบนพื้น

เมื่อเห็นภาพนี้ รพีพงษ์จ้องไปที่ชายคนนั้นแล้วกล่าวว่า “มีอะไรก็มาลงที่ผม ปล่อยเธอไปซะ”

ชายคนนั้นยิ้มอย่างดูถูก เพิ่มแรงที่มือขึ้นไปอีก และแม้แต่มือที่มองไม่เห็นที่อยู่บนคอของรพีพงษ์ก็เพิ่มแรงขึ้น

“มันน่าขำมาก เป็นแค่มดเท่านั้น ผมต้องการทำอะไรไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถสั่งได้ ผมให้โอกาสคุณแล้ว แต่น่าเสียดาย ที่คุณไม่คว้ามันไว้ แต่พลังจิตวิญญาณเทพของคุณไม่เลว ถ้าสามารถกลืนกินคุณได้ อาจจะช่วยเพิ่มพลังให้ผมได้”

“สามารถช่วยเพิ่มพลังให้ข้าได้ คุณอยู่ในยมโลกก็คงรู้สึกภูมิใจตนเองแล้ว!”

หลังจากนั้น ชายคนนั้นก็จับรพีพงษ์ไปไว้ข้างหน้า กรงเล็บขวาแทงไปที่ท้องของรพีพงษ์อย่างแรง เลือดสด ๆไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง แล้วเลือดก็ถูกชายคนนั้นดูดกลืนไปจนหมด

“ไม่เลว ไม่เลวนี่ ฮ่าๆๆ เจ้าหนู จิตวิญญาณเทพของคุณเกินความคาดหมายของผม ผมจะทำให้คุณตายอย่างสบายขึ้น”

ขณะนี้สติของรพีพงษ์ ค่อย ๆ เลือนราง เดิมร่างกายก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว และบวกกับถูกชายคนนั้นดูดจิตวิญญาณเทพวิญญาณไป อีกไม่นานรพีพงษ์ก็คงจะตายอยู่ที่นี่!

“ให้ตายเถอะ ไม่มีหนทางจริง ๆ แล้วหรือ?”

รพีพงษ์คิดอยู่ในใจ ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ หากปล่อยให้ชายคนนี้กระทำความผิดอย่างกำเริบเสิบสานต่อแผ่นดินของโลก สำหรับโลกใบนี้แล้ว มันจะเป็นการทำลายล้างอย่างรุนแรงแน่นอน!

“ถึงผมจะตาย ผมก็จะลากคุณตายไปด้วย!”

รพีพงษ์คำรามด้วยพละกำลังทั้งหมด พลังเทพในร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น ดูเหมือนจะระเบิด

“พอได้แล้ว เจ้าหนู หยุดเถอะ ปล่อยให้ผมรับมือไอ้หมอนี้เอง”

เสียงเรียบดังมาจากในป่า

คลื่นพลังที่รุนแรง ทำให้ชายคนนั้นตกใจจนถอยทันที

รพีพงษ์หยุดระเบิดตนเองทันที และล้มลงกับพื้น อาการบาดเจ็บของเขาได้รับการเยียวยาจากพลังชีวิตอันทรงพลัง

ปัณฑารู้สึกถึงพลังชีวิตมหาศาล และยิ้มทันที ดูเหมือนว่าคราวนี้ตนเองจะเดิมพันถูกแล้ว

ในถ้ำลึก กิ่งไม้ตายมากมายเหยียดออกมา ภูตต้นไม้ก็เดินออกจากความมืด มองรพีพงษ์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสบนพื้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ชายคนนั้นมองภูตต้นไม้ แล้วยิ้มเยาะเย้ย และกล่าวว่า “ฮ่า ๆ ที่แท้เป็นเพียงภูตต้นไม้เล็ก ๆ เท่านั้น ต้องใช้เวลามากในการฝึกจนกลายเป็นภูตต้นไม้ ถ้าคุณไม่อยากเสียมันไป หลีกไปเดี๋ยวนี้ เรื่องที่ข้าต้องการจะทำ ไม่เคยมีใครสามารถขวางได้”

สีหน้าของภูตต้นไม้ราบเรียบ โบกมือขวา กิ่งไม้ตายเหยียดออกไปห่อหุ้มรพีพงษ์และปัณฑาเอาไว้

เมื่อเห็นว่าเหยื่อของตนเองกำลังจะถูกนำไป ชายคนนั้นก็ปล่อยหมัด และพลังเทพอันทรงพลังก็พุ่งไปที่กิ่งไม้ตาย แต่ถูกต้านทานด้วยพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง

“ที่นี่ไม่ใช่เทวโลก ความแข็งแกร่งของคุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม เด็กสองคนนี้มีประโยชน์ต่อผม ดังนั้น มีผมอยู่ คุณอย่าคิดว่าจะสามารถทำร้ายพวกเขาได้ หรือคุณคิดที่จะต่อสู้กับผม?”

ดวงตาของภูตต้นไม้เย็นชา และกิ่งไม้ตายแล้วยังคงแผ่กระจายอยู่ข้างหลังภูตต้นไม้ และในไม่ช้าก็ปกคลุมไปทั่วผนังถ้ำ

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท