พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1508 โจรกรรม

บทที่ 1508 โจรกรรม

หลังจากเห็นการ์ดดำในมือของรพีพงษ์ เจ้าของร้านไม่กล้าที่จะรีรอ รีบหยิบการ์ดดำของรพีพงษ์ด้วยมือทั้งสองข้าง ใส่บัตรบนเครื่องรูดบัตร แล้วใส่จำนวนตัวเลข แล้วคืนการ์ดดำให้รพีพงษ์ด้วยความนอบน้อม

“คุณผู้ชาย ห้องถูกจัดเตรียมไว้ให้แล้ว ห้องข้างในสุดบนชั้นสาม นี่คือกุญแจ อีกสักครู่ผมจะให้คนไปส่งอาหารทุกอย่างที่คุณสั่งไว้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ รพีพงษ์ก็พยักหน้า รับการ์ดดำและกุญแจ จากนั้นหันหลังและพาปัณฑาขึ้นไปข้างบนพร้อมกัน

หลังจากที่รพีพงษ์จากไป ที่ชั้นหนึ่ง สายตาของคนที่ทานอาหารก็ร้อนรุ่มขึ้นมา และมีรอยยิ้มแปลก ๆ อยู่ที่มุมปากของพวกเขา

เจ้าของร้านทำเป็นไม่เห็น และก้มหน้าเช็ดกระจกต่อไป

บนชั้นสาม รพีพงษ์ยืนอยู่ที่ประตูห้องข้างในสุด หลังจากเปิดประตูด้วยกุญแจแล้ว การตกแต่งภายในห้องก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง

เตียงนุ่มสองเตียง เครื่องปรับอากาศและเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ครบครัน และพื้นที่ก็ใหญ่พอ หากว่างยังสามารถลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัวได้อีกด้วย

ปัณฑามองห้องที่สวยงามนี้ แล้วกระโดดลงจากไหล่ของรพีพงษ์ลงไปบนเตียงนุ่มขนาดใหญ่ด้วยใบหน้าที่เพลิดเพลิน

เมื่อเห็นภาพนี้ รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างจำใจ และกล่าวว่า “เอาล่ะ ห้องก็เปิดให้แล้ว พวกเราจะพักผ่อนครึ่งวัน และพรุ่งนี้เช้าพวกเราจะเดินทางต่อ อยู่ที่นี่นานไม่ได้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ปัณฑาก็พยักหน้า มองไปที่รพีพงษ์และถามว่า “เมื่อสักครู่ ทำไมคุณถึงได้สั่งอาหารมากมายเช่นนั้น ฉันรู้สึกได้ว่า พวกคนเหล่านั้นดูเหมือนกำลังจับตาดูคุณอยู่”

รพีพงษ์ยิ้มราบเรียบ ถอดเสื้อคลุมออก มองไปที่สระน้ำร้อน ต้องการไปแช่อยู่ในฟอง

“ซื้อของเยอะก็สามารถเก็บไว้ได้ ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนพวกเราถึงจะหาน้ำอำมฤตพบ ถ้าไม่ซื้อเยอะ ต่อไปจะกินอะไร สำหรับไอ้พวกนั้น ถ้าพวกเขากล้ามา ผมจะให้พวกเขาอยู่ที่นี่ตลอดไป”

เมื่อเห็นใบหน้าราบเรียบของรพีพงษ์ ปัณฑาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น มันก็ใช่ ตอนนี้รพีพงษ์อยู่ในระดับแดนเทพขั้นพีค นอกจากตวัสแล้ว ใครจะสามารถหยุดผู้ชายคนนี้ได้?

“โอ้ ฉันไม่สนใจเรื่องนี้หรอก ยังไงคุณก็แก้ปัญหาเอง ฉันจะนอนก่อน อาหารมาส่งแล้วค่อยปลุกฉัน ฉันอยากกินของอุ่น ๆ!”

หลังจากรพีพงษ์ฟัง ยิ้มอย่างขมขื่นและพยักหน้าด้วยความรู้สึกจำใจ มองปัณฑาที่อยู่บนเตียงและเริ่มหลับ ตนเองเลือกที่จะแช่ตัวในสระน้ำร้อน ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย

บนชั้นสาม คนที่อยู่ที่ชั้นหนึ่งเมื่อสักครู่พาคนที่มีรอยแผลเป็นอยู่บนหน้าและพรรคพวกเดินขึ้นบันได จากนั้นก็มองไปรอบ ๆ และหลังจากยืนยันว่าไม่มีใครอยู่ พวกเขาจึงเดินเข้ามาใกล้ห้องของรพีพงษ์

ที่ประตูห้องของรพีพงษ์ ชายที่มีเป็นแผลเป็นบนหน้ามองหมายเลขห้อง และถามว่า “พวกคุณแน่ใจหรือว่าคือห้องนี้?”

หลายคนที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าพร้อมกัน ห้องข้างในสุดบนชั้นสาม ถูกต้องแน่นอน

ชายที่ผอมคล้ายลิงยืนอยู่หน้าชายที่มีเป็นแผลเป็นบนหน้า และยิ้มอย่างชั่วร้าย “ฮ่า ๆ พี่ใหญ่ สิ่งที่พวกเราเห็นเมื่อสักครู่คือการ์ดดำชัด ๆ! ทั่วโลกมีจำนวนจำกัด ไอ้เด็กคนนี้ต้องมาจากตระกูลรวยที่ไหนสักที่แน่นอน?”

“แต่ไม่คาดคิดว่า ไอ้เด็กคนนี้จะกล้ามาที่ดินแดนเย็นสะท้านโดยไม่มีบอดี้การ์ด นี่เป็นโอกาสที่หายาก แค่พวกเราปล้นมัน ก็จะมีกินมีใช้ไปจนถึงชาติหน้า”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายที่มีแผลเป็นบนหน้าก็อดยิ้มไม่ได้ ด้านความปลอดภัยของดินแดนเย็นสะท้านสู้เมืองข้างนอกไม่ได้ เพราะเมืองข้างนอกนั้นมีมาตรการด้านความปลอดภัย

ในดินแดนเย็นสะท้านนี้ ต้องอาศัยความแข็งแกร่งทั้งหมด! ถึงที่นี่จะมีคนตายแล้วยังไงล่ะ? ไม่มีใครตรวจเจอ ก็จะไม่มีใครใส่ใจ

“ฮ่า ๆไม่คิดว่าศตวรรษนี้ยังมีหนุ่มที่โง่เช่นนี้ เอาล่ะ ในเมื่อไอ้เด็กนั้นอยู่ที่นี่ พวกเราจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป พวกคุณทุกคนอยู่ในโรงแรมนี้ จับตาการเคลื่อนไหวของไอ้เด็กคนนี้ตลอด เมื่อเขาออกจากโรงแรมแล้ว ก็รีบแจ้งผมทันที พวกเราจะได้หาโอกาสลงมือ”

ลูกน้องเหล่านั้นพยักหน้าต่อเนื่อง และตั้งหน้าตั้งตารอสำหรับงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากพวกสามารถเอาการ์ดดำจากรพีพงษ์มาได้ พวกเขาจะไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินในดินแดนเย็นสะท้านแห่งนี้อีกต่อไป

ในสระน้ำร้อน รพีพงษ์นอนพิงสระ ความร้อนทำให้เกิดไอน้ำเต็มห้อง

รพีพงษ์รับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของคนหลายคนที่อยู่นอกห้อง แต่เขาได้ตั้งกลไกไว้ที่ประตูแล้ว หากใครกล้าบุกเข้ามา พวกเขาจะถูกมัดด้วยลวดเหล็กที่ซ่อนอยู่รอบประตูทันที และจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

ผ่านไปหลายสิบนาที รพีพงษ์รับรู้ได้ว่าไอ้คนพวกนั้นจากไปแล้ว ก็ถอนหายใจอย่างจำใจ ถ้าคนพวกนี้ไม่เข้ามาก็ดี แต่ถ้าพวกเขากล้าเข้ามา รพีพงษ์คิดว่าดันแต่จะทำให้ตนเองเสียเวลาเปล่า

ตอนที่พนักงานเสิร์ฟนำอาหารรสเลิศและไวน์ที่รพีพงษ์สั่งขึ้นมาบนห้อง ท้องฟ้าก็ค่อย ๆ มืดลง หลังจากรับประทานอาหารแบบสบาย ๆ แล้ว รพีพงษ์ก็เก็บอาหารแห้งและไวน์ไว้ในถุงที่เก็บของ แล้วก็พักผ่อนทันที

วันรุ่งขึ้น ที่ดินแดนเย็นสะท้านยากที่จะมีดวงอาทิตย์ปรากฏสักครั้ง รพีพงษ์และปัณฑาตื่นแต่เช้า หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ พวกเขาสองคนก็เก็บข้าวของ แล้วออกมาจากห้อง และคืนกุญแจห้องที่ชั้นหนึ่ง

ที่ชั้นหนึ่ง เมื่อลูกน้องชายเห็นรพีพงษ์เดินออกจากโรงแรม พวกเขาจึงติดต่อชายที่มีแผลเป็นบนหน้าทันที

หลังจากนั้นชายที่มีแผลเป็นบนหน้า ก็รีบตามออกไปทันที

ปัณฑานั่งอยู่บนไหล่ของรพีพงษ์ หลังจากที่ได้พักทั้งคืน ขณะนี้พลังชีวิตส่วนใหญ่ของปัณฑาได้รับการฟื้นฟูแล้ว ความหนาวเย็นสะท้านของที่นี่จะไม่ส่งผลต่อเธอมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้แดดแรง ทำให้ร่างกายของปัณฑารู้สึกอบอุ่น แล้วก็รู้สึกง่วงนอนอีกครั้ง

“อีกไกลแค่ไหน?” คำพูดของรพีพงษ์ปลุกปัณฑาตื่น

ปัณฑาหลับตาลงแล้วรับรู้สัมผัส และกล่าวว่า “ไม่ไกลแล้ว ไม่เกินครึ่งวัน พวกเราจะไปถึงแหล่งที่ตั้งของน้ำอำมฤต”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ รพีพงษ์พยักหน้า และหยุดเดินกะทันหัน ขมวดคิ้วจนแน่น ราวกับว่าเขารับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง

“ปัณฑา คุณไปรออยู่ข้างหน้าก่อน อย่าอยู่ห่างผมไกลมาก”

ปัณฑาพยักหน้า แล้วกระโดดลงมาจากไหล่ของรพีพงษ์ แล้วใช้พลังชีวิตสร้างเกราะป้องกันร่างกายไว้

เนินหิมะที่อยู่ด้านหลังของรพีพงษ์ ชายที่มีแผลเป็นบนหน้าและลูกน้องนั่งยอง ๆ อยู่ด้านหลังเนินหิมะ เมื่อพวกเขาเห็นรพีพงษ์หยุดเดิน พวกเขารู้สึกสงสัยทันที

“พี่ใหญ่ พวกเราจะไม่ถูกค้นพบใช่ไหม?” ลูกน้องที่ผอมเหมือนลิงกล่าว

ชายที่มีเป็นแผลเป็นบนหน้ามองไปที่รพีพงษ์ แล้วกระเดาะปาก จับดาบยาวในมือไว้แน่น และกล่าวว่า “ไม่รอแล้ว พวกพี่น้อง บุก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ บรรดาลูกน้องก็พยักหน้า หยิบอาวุธของตนเองออกมา และเดินออกจากหลังเนินหิมะพร้อมกับชายที่มีแผลเป็นบนหน้า

รพีพงษ์หันไปมองชายที่มีแผลเป็นบนหน้า และอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะเย้ย และกล่าวว่า “ในที่สุดพวกคุณก็ยอมออกมาเอง”

ชายที่มีแผลเป็นบนหน้ารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย มองรพีพงษ์ แล้วกล่าวว่า “เจ้าหนูแกมีความสามารถไม่น้อยนี่ ไม่คิดว่าจะรู้ว่าพวกเราดักรออยู่ที่นี่ แต่น่าเสียดาย ไม่นึกเลยว่าคุณจะกล้ามาที่ดินแดนเย็นสะท้านเพียงลำพัง แล้วยังพาเด็กมาด้วย เอาการ์ดดำและของมีค่าทั้งหมดออกมาสักดี ๆ”

หลังจากที่ปัณฑาฟัง ก็โกรธทันที ทำไมตนเองถึงกลายเป็นภาระล่ะ? หากตนเองจะลงมือจริง ๆ ไอ้คนพวกนี้ไม่ใช่เป็นคู่ต่อสู้ของตนเองแน่นอน!

รพีพงษ์มองชายที่มีแผลเป็นบนหน้า ระดับแดนดั่งเทพขั้นกลางหนึ่งคน ระดับแดนดั่งเทพขั้นกลางขั้นต้นสองคน ส่วนคนอื่น ๆ ไม่มีแม้แต่แดนดั่งเทพเลย ความแข็งแกร่งดังกล่าว ทำให้รพีพงษ์ไม่มีอารมณ์สนใจสักนิด

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท