พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1512 หล่อหลอมเข้าด้วยกันอีกครั้ง

บทที่ 1512 หล่อหลอมเข้าด้วยกันอีกครั้ง

เมื่อพลังชีวิตถูกใช้จนหมด ตัวเองก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้กับจิ้งจอกหิมะอีกแล้ว

“สมควรตาย รพีพงษ์ ยังไม่เรียบร้อยดีเหรอ”

ปัณฑาตะโกนพูด น้ำเสียงเห็นได้ชัดว่าอ่อนแรง

ทางฝ่ายรพีพงษ์ จิ้งจอกรู้ตัวเองดีกว่าพละกำลังไม่อาจจะสู้รพีพงษ์ได้ จากเริ่มแรกที่เป็นฝ่ายกระทำก็กลายเป็นฝ่ายถูกกระทำที่วิ่งหลบหนีในตอนนี้

ทุกครั้งที่การโจมตีจองรพีพงษ์จะจู่โจมเอาชีวิตของจิ้งจอกหิมะได้ จิ้งจอกหิมะตัวนั้นกลับว่าในตอนสุดท้ายก็สามารถหลบหลีกการโจมตีได้ ถ่วงเวลาของรพีพงษ์ได้ต่อไปเรื่อยๆ

“ไม่ได้การ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ปัณฑาจะต้องเป็นอันตรายแล้วแน่ๆ จะต้องหาวิธีการจัดการอย่างรวดเร็ว”

คิดแล้ว เบื้องหลังของรพีพงษ์ก็ปรากฏมังรทองเก้าตัวออกมา มังกรทองเก้าตัวติดตามเบื้องหลังของรพีพงษ์มาติดๆ หมุนเป็นวงกลมขึ้นไป ไล่เข้าไปโจมตีจิ้งจอกหิมะอย่างรวดเร็ว

จิ้งจอกหิมะสังเกตได้ถึงการโจมตีกว่าหลายครั้ง สี่ขาที่แข็งแกร่งเพิ่มพละกำลังอยู่บนต้นไม้อย่างต่อเนื่อง ความเร็วรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ถึงขีดจำกัดอย่างรวดเร็ว และยืมใช้กิ่งก้านของต้นไม้ในการปิดบัง รพีพงษ์ก็ยากที่จะจัดการจิ้งจอกหิมะได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ทำได้เพียงมองดูจิ้งจอกหิมะหลบหนีจากการโจมตีของตัวเองไปครั้งแล้วครั้งเล่า

รพีพงษ์ขมวดคิ้วแน่น เรียกมังกรทองเก้าตัวออกมาอีกครั้ง มนุษย์เล็กทองคำปรากฏขึ้นเบื้องหลัง จากครั้งก่อนที่วิญญาณได้รับบาดเจ็บกลับเป็นว่าฟื้นฟูหายดีแล้ว ระดับความแข็งแกร่งของมนุษย์เล็กทองคำแทบจึงถึงระดับแข็งแกร่งขั้นสุด มนุษย์เล็กทองคำในตอนนี้ ความเร็วไม่ได้ด้อยไปว่ารพีพงษ์เลย ถึงขนาดที่ว่าการควบคุมราบรื่นกว่าเมื่อก่อนเยอะ

“ไป!”

รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น มังกรทองทั้งเก้าตัวไล่ตามหลังจิ้งจอกหิมะไป และมนุษย์เล็กทองคำก็กระโดดลง คำนวณถึงตำแหน่งที่จิ้งจอกหิมะจะไปล่วงหน้าไว้ หมอบลงที่นั่น ในเวลานั้นเตรียมที่จะลงมือ

“เอากระบี่ไปกินซะ!”

รพีพงษ์พุ่งกระบี่สยบเซียนที่อยู่ในมือออกไป เข้าใกล้ขาหลังของจิ้งจอกหิมะ และในเวลานี้มังกรทองเก้าตัวก็ตามไปอย่างรวดเร็ว

จิ้งจอกหิมะเห็นภาพฉากนี้แล้ว เห็นต้นไม้ใหญ่ข้างหน้า รีบพุ่งเข้าไปทันที จับที่ต้นไม้ยักษ์และได้ทำการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีของรพีพงษ์

และตอนที่จิ้งจอกหิมะคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วนั้น มนุษย์เล็กทองคำก็ได้ปรากฏออกมาจากต้นไม้ยักษ์ ในมือก็วาดกระบี่ยาวสีทองออกมา เหวี่ยงเข้าไปยังจิ้งจอกหิมะอย่างไม่ลังเลเลย

เมื่อจิ้งจอกหิมะเห็นถึงภาพฉากที่กะทันหันอย่างนี้ แม้ว่าปฏิกิริยาที่ตอบสนองจะเร็วมากเพียงใด ก็ถูกกระบี่เล่มนี้สับตรงเท้าหน้าแล้ว ความเร็วลดลงไม่น้อยเลย

หลังจากที่จิ้งจอกหิมะทางฝั่งปัณฑาเห็นสหายได้รับบาดเจ็บ การโจมตีดุเดือดมากยิ่งขึ้น สายตามองไปอยากจะตัดขาดเถาวัลย์ที่เหลืออยู่สามสี่เส้นสุดท้าย

“รพีพงษ์ ฉันจะยืนหยัดไม่ไหวแล้ว!” ปัณฑาตะโกนพูดกล่าว ในมือของเธอในเวลานี้เหลือถวัลย์เพียงแค่สองเส้น และชีวิตก็ถึงจุดที่ต่ำที่สุดแล้ว ปัณฑาไม่มีกลอุบายอีกแล้ว

รพีพงษ์ใช้ลิ้นเลียฟันบนแล้ว สายตาก็จับจ้องไปยังจิ้งจอกหิมะที่มีความเร็วเปลี่ยนเป็นช้าลงทันที ไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว มังกรทั้งเก้าตัวรวมเป็นหนึ่งเดียว กระบวนท่าอัพดรากอนร่วมมือกับการห้อมล้อมของมนุษย์เล็กทองคำกับตัวเอง ตัดทางหนีทีไล่ทั้งหมดของจิ้งจอกหิมะตัวนี้เลย

จิ้งจอกหิมะตัวนั้นเห็นมนุษย์เล็กทองคำที่อยู่ข้างหน้า รีบหยุดทันที ตอนที่คิดอยากจะหันหลังหนี ก็เพิ่งจะพบว่า ตัวเองไม่มีหนทางหนีแล้ว

และในตอนที่จะคร่าเอาชีวิต จิ้งจอกหิมะตัวนี้ก็ได้รวบรวมผลการฝึกตนทั้งหมดไปให้จิ้งจอกหิมะทางฝั่งปัณฑาเลย สุดท้ายแล้ว ตัวเองก็ล้มท่ามกลางการนองเลือด ไม่หายใจแล้ว

ทันใดนั้น พละกำลังของจิ้จอกหิมะตัวที่เหลืออยู่ก็พุ่งสูงขึ้นมาทันที ทะลุสู่แดนเทพขั้นพีคทันที หลังจากที่ตระหนักได้ว่าเพื่อนของตัวเองถูกรพีพงษ์ฆ่าตายแล้ว จิ้งจอกหิมะตัวนี้ก็กลับว่าโมโหมากยิ่งขึ้น เพียงกรงเล็บเดียวก็กลับว่าทำลายเถาวัลย์เส้นสุดท้ายได้อย่างง่ายดาย สายตาจับจ้องไปยังปัณฑาอย่างดุเดือด อยากที่จะขยับร่างกายเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว

ปัณฑาพยายามกระตุ้นพลังชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่น่าเสียดาย พลังชีวิตของตัวเองได้ใช้ออกไปจนเกลี้ยงแล้ว ในเวลานี้ตัวเอง ก็ไม่ได้แตกต่างไปกว่าคนธรรมดาเลย ถ้าหากถูกโจมตีเข้า เกรงว่าตัวเองจะต้องตายที่นี่แล้วจริงๆ

เมื่อคิดว่าตัวเองจะต้องตายที่นี่แล้ว ท่าทีของปัณฑาก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสงบนิ่งลง เหมือนว่ายอมรับทั้งหมดนี้แล้ว

อย่างน้อย ตัวเองก็ได้ยืดเวลาเพื่อรพีพงษ์แล้ว เมื่อเป็นแบบนี้ ความเป็นไปได้ที่รพีพงษ์จะมีชีวิตรอดก็มีมากยิ่งขึ้นแล้ว

“อ๊ากกก!”

เสียงคำรามของจิ้งจอกหิมะแทบจะดังขึ้นมาที่ข้างหูของปัณฑา กรงเล็บที่แหลมคมห่างจากสมองของปัณฑาเพียงหนึ่งเมตรเท่านั้น

“อย่าได้คิดเพ้อเจ้อที่จะทำให้เขาบาดเจ็บ!”

เสียงคำรามที่โมโหดังขึ้นมา ในตอนสุดท้ายกระบี่สยบเซียนก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของปัณฑา ทำให้การโจมตีของจิ้งจอกหิมะนั่นกระจายออกเลย

และวินาทีถัดไป ทันใดนั้นรพีพงษ์ก็ปรากฏต่อหน้าของปัณฑาแล้ว คว้ากระบี่สยบเซียนไว้ มองตากับจิ้งจอกหิมะนั่น

“รพีพงษ์ คุณทำสำเร็จ?”

ในใจของปัณฑามีความสุขอย่างมาก มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า มีสีหน้าที่เหลือเชื่อ

รพีพงษ์พยักหน้าแล้ว มอบยาเม็ดให้กับปัณฑา พูดกล่าว : “ใช้โอกาสตอนนี้ รีบออกไปจากบริเวณนี้ซะ ยาเม็ดนี้ช่วยให้คุณฟื้นฟู ฉันจะจัดการเขาเอง”

ได้ยินแล้ว ปัณฑาพยักหน้า รับเม็ดยามา รับวิ่งออกไปทันที

จิ้งจอกหิมะมองเห็นฉากนี้แล้ว ก็เกิดความโมโหขึ้นมาทันที เพิ่งคิดอยากจะตามปัณฑาไป กลับถูกกระบี่ของรพีพงษ์กั้นขวางไว้

“คิดอยากจะไปเหรอ ฝันไปเถอะ!” รพีพงษ์พูดอย่างเยือกเย็น มังกรเก้าตัววนเวียนอยู่ข้างหลัง มนุษย์เล็กทองคำยืนอยู่ข้างรพีพงษ์ เตรียมลงมือได้ตลอดเวลา

จิ้งจอกหิมะคำรามอย่างโมโห มองไปยังรพีพงษ์ พูดกล่าว : “มนุษย์ แกจะต้องชดใช้ในสิ่งที่แกทำ!”

พูดแล้ว สองเท้าหน้าที่ทรงพลังอย่างมากของจิ้งจอกหิมะก็คว้าไปยังรพีพงษ์อย่างไร้ความปรานี

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว รพีพงษ์ก็รีบขี่ขึ้นบนหลังของมังกรทั้งเก้าตัวที่อยู่เบื้องหลังทันที กรงเล็บของมนุษย์เล็กทองคำและจิ้งจอกหิมะปะเข้าด้วยกัน ทันใดนั้นก็เกิดควันเป็นจำนวนมาก และภายในควัน รพีพงษ์และมนุษย์เล็กทองคำทั้งซ้ายและขวา ลงมือไปยังจิ้งจอกหิมะพร้อมกัน

จิ้งจอกหิมะร้องเสียงผิดแปลก ที่ตรงนั้นทำได้เพียงหลงเหลือภาพที่โหดร้าย ทำให้รพีพงษ์และมนุษย์เล็กทองคำโจมตีไปยังความว่างเปล่าเลย

และนาทีต่อมา เบื้องหลังของรพีพงษ์แสงไฟระยิบระยับที่เงาร่างของจิ้งจอกหิมะ จู่ๆก็มีกรงเล็บพุ่งเข้ามา

โชคดีที่รพีพงษ์มีปฏิกิริยาโต้ตอบได้เร็วมากพอ กระบี่สยบเซียนสามารถต้านทานการโจมตีของจิ้งจอกหิมะได้อย่างทันที ภายใต้พลังทั้งหมด ขนาดที่ว่าสามารถผลักจิ้งจอกหิมะออกไปได้

มนุษย์เล็กทองคำใช้โอกาสตอนที่ร่างกายของจิ้งจอกหิมะเกิดความไม่สมดุลกัน รีบพุ่งเข้าไป กระบี่สีทองที่อยู่ในมือทิ่มแทงไปยังหน้าอกของจิ้งจอกหิมะ

ทุกสรรพสิ่งล้วนแต่มีเส้นชีวิต ในการทำสงครามเมื่อสักครู่นี้รพีพงษ์ได้ค้นพบแล้วว่า เส้นเลือดหล่อเลี้ยงไปยังหัวใจของจิ้งจอกหิมะอยู่ที่หน้าอกเอนเอียงไปทางฝั่งอุ้งเท้าหน้าซ้าย

ขอเพียงแค่โจมตีไปยังหัวใจของจิ้งจอกหิมะตัวนี้ได้ ทุกอย่างก็จะสิ้นสุดลงแล้ว

จิ้งจอกหิมะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของจิ้งจอกหิมะ ลิ้นเลียฟันบน ร่างกายขยับไปอีกฝั่งทันที กระบี่ยาวสีทองเพียงแค่ทิ่มแทงไปยังหน้าอก ทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนหน้าอกของจิ้งจอกหิมะ กลับว่าไม่ได้ทำร้ายส่วนที่สำคัญเลย

“โอ้ว!”

จิ้งจอกหิมะโมโหอีกครั้ง เสียงคำรามทำให้รพีงษ์สั่นสะท้านขึ้นมา

และจิ้งจอกหิมะนี้เดิมทีก็มีความสามารถในการโน้มน้าวจิตใจ ภายใต้การคำรามเสียง สติของรพีพงษ์ก็ได้รับผลกระทบแล้ว เพียงในเวลาอันสั้น รพีพงษ์ก็รู้สึกหูอื้อชั่วขณะ ภาพที่อยู่เบื้องหน้ากลายเป็นเลือนรางบ้างแล้ว

จิ้งจอกหิมะหยุดตะโกน ฉวยโอกาสตอนที่รพีพงษ์ยังไม่ทันได้ฟื้นตัวกลับมา ร่างก็ปรากฏต่อหน้าของรพีพงษ์ทันทีเลย สองกรงเล็บออกมาพร้อมกัน

ถึงแม้ว่ารพีพงษ์จะฝืนต้านรับไว้ แต่เพราะว่าแรงโจมตีที่สะท้อนกลับมาแข็งแกร่งมาก ถูกแรงสะท้อนจนลอยออกไปสิบกว่าเมตร เลือดพ่นออกมาจากในปาก เห็นได้ชัดว่าอวัยวะได้รับบาดเจ็บจากการแรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้

มนุษย์เล็กทองคำเห็นท่าทางแบบนี้ รีบโจมตีไปยังจิ้งจอกหิมะทันที แต่จิ้งจอกหิมะกลับว่าหลบหลีกได้อย่างสบายๆ

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท