พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1540 ความริษยาของบวรวิทย์

บทที่ 1540 ความริษยาของบวรวิทย์

“ฮ่า ๆ ๆ คุณชาย ไม่คิดว่า แม้แต่ที่พักอาศัยก็ต้องใช้เวทมนตร์ ดูเหมือนว่าพวกเราจะประเมินเขาสูงเกินไปจริง ๆ”

ถึงตอนนี้พ่อบ้านเตชิตก็ยังไม่พอใจและยังไม่ยอมยุติ เขาและบวรวิทย์ไปที่บ้านของผลิน แต่ก็ไม่สามารถทนฆ่าคนสวยอย่างผลินได้

ดังนั้น เขาจึงยุยงให้บวรวิทย์ไปตามหารพีพงษ์ รพีพงษ์ยักไหล่เมื่อเห็นบวรวิทย์และถามว่า “ทำไม ไม่พอใจหรือ?”

“ไอ้เด็กเปรต คุณรีบบอกผมมาว่าอาจารย์ของผมพูดอะไรกับคุณ?”

“ไม่มีอะไร? แค่อาจารย์คุณต้องการคบหาผมเป็นสหาย ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรแล้วก็รีบกลับไป แต่ถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจและรู้สึกว่าคนของคุณถูกทำร้าย อยากมาทวงความยุติธรรม งั้นพวกเราก็มาสู้กันสักตั้ง”

ปัณฑาหัวเราะเบา ๆ บวรวิทย์นั้นรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก และถามปัณฑาว่า “คุณหัวเราะทำไม?”

“ถ้ารพีพงษ์เป็นเพื่อนกับอาจารย์ของคุณจริง ต่อไปถ้าคุณเห็นรพีพงษ์คุณจะต้องเรียกรพีพงษ์ว่าอย่างสุภาพว่าอาจารย์อา?” การพูดเช่นนี้ เป็นการลำดับอาวุโส

รพีพงษ์เหลือบมองปัณฑาอย่างจำใจ ผู้ชายคนนี้ยังวุ่นวายไม่พออีกหรือ?

ถ้าทำให้บวรวิทย์โกรธ ก็จะต้องต่อสู้อย่างดุเดือด

ตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่านรเทพอยู่ที่ไหน จุดประสงค์ของนรเทพคืออะไร ถ้ามีความเคียดแค้นอะไร ก็ให้มาลงที่ตนเอง แต่ทำไมต้องไปลงที่หนูลินด้วย

เธอยังเด็ก ไม่ควรแบกรับอะไรมากมายเช่นนี้

“อีเด็กเปรต ดูเหมือนว่าคุณจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม”

บวรวิทย์กัดฟัน โกรธจนดวงตาแดงก่ำ เขายกมือขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็มีหมอกล้อมอยู่รอบ ๆ มือ แล้วรวบรวมกำลังโจมตีไปที่ปัณฑาทันที

ปัณฑารีบหลบไปอยู่ข้างหลังรพีพงษ์ และกล่าวว่า “รพีพงษ์ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่พูดจาทำให้ไอ้หมอนั้นอับอาย แต่เขาก็ยังคงมาหาเรื่องพวกเราแน่นอน พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว คุณไม่ช่วยฉันไม่ได้น่ะ”

รพีพงษ์รวบรวมกำลังสกัดกั้นการโจมตี และกล่าวสีหน้านิ่งสงบว่า “คุณชายตระกูลภูสรีดาวเริ่มถือสาเด็กแล้วหรือ? ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป เกรงว่ามันจะทำลายชื่อเสียงของคุณ”

“คุณคิดว่าผมมาตามหาอีเด็กเปรตนี้หรือ? รพีพงษ์ ถ้าคุณฉลาด คุณมาจากที่ไหนก็กลับไปที่นั่นซะ ถ้าอยู่ในเมืองแฟรี่ ผมกล้ารับประกันว่า คุณจะต้องตายอยู่ที่นี่แน่นอน”

การปรากฏตัวของรพีพงษ์ สร้างแรงกดดันให้บวรวิทย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทัศนคติของนราธิปที่มีต่อรพีพงษ์ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นอาจารย์ตนเอง แต่กลับไม่ยืนอยู่ข้างตนเอง แล้วจะทำให้ตนเองนิ่งเฉยได้อย่างไร?

ความริษยาแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย จะไม่มีวันยอมให้มีคนอื่นที่มีพรสวรรค์เหนือกว่าตนเองเด็ดขาด ตนเองนั้นถึงจะเป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่น่าภาคภูมิใจ

อิทธิพลของตระกูลภูสรีดาวในเมืองแฟรี่นั้นอยู่เหนือจินตนาการของรพีพงษ์ บวรวิทย์กล่าวจบ เสียงฝีเท้าของคนมากมายก็ดังขึ้น

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ที่แท้บวรวิทย์วางแผนไว้ก่อนแล้ว?

ปัณฑาพูดถูก บวรวิทย์ไม่เคยยอมยุติง่าย ๆ และการที่ตนเองไปที่ภูเขาสองกระบี่นั้น มันเป็นการกระตุ้นให้บวรวิทย์เกิดที่ไอสังหารที่รุนแรง

ขณะนี้ กลุ่มคนก็ได้ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของบวรวิทย์ และเรียกอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “คุณชาย”

พวกเขายืนอย่างเป็นระเบียบ ส่วนบวรวิทย์เอามือกอดอกราวกับเป็นผู้ชนะ ใช้สายตาที่ดูถูกมองรพีพงษ์ และกล่าว “ถ้าคุณทำลายผลการฝึกตนของตนเองตอนนี้ แล้วไสหัวออกไปจากเทวโลก ผมก็จะไว้ชีวิตคุณ ถ้าคุณมองข้ามความหวังดีของคนอื่น คุณก็จะไม่สามารถอยู่เห็นดวงอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้ได้”

รพีพงษ์ชำเลืองมองพวกเขา รวมบวรวิทย์และพ่อบ้านเตชิตแล้ว ฝ่ายตรงข้ามมีคนทั้งหมดยี่สิบสองคน เขาสามารถรู้สึกได้ว่าผลการฝึกตนของคนพวกนี้อยู่ในระดับแดนดั่งเทพชั้นยอด ถ้าพวกเขาเข้ามาพร้อมกัน มันจะทำให้ตนเองกดดันเป็นอย่างมาก

ถ้าบวรวิทย์ไม่ลงมือเอง ตนเองนั้นสามารถจัดการคนยี่สิบคนนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่ตนเองและบวรวิทย์ทำได้เพียงเสมอกันเท่านั้น

ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ถ้าไม่สู้แล้วจะรู้ได้อย่างไร?

รพีพงษ์ยิ้มเยาะเย้ย “ในเมื่อคุณชายพาคนมาแล้ว จะมัวพูดไร้สาระอยู่ทำไม ลงมือโดยตรงไม่ดีกว่าหรือ?”

บวรวิทย์โบกมือ พวกนักสู้ที่อยู่ข้างหลังก็บุกขึ้นมา ตอนนี้แรงกดที่มองไม่เห็นดูเหมือนจะกดทับร่างกายของรพีพงษ์ ปัณฑาที่อยู่ด้านข้างก็เข้าไปร่วมต่อสู้กับคนพวกนั้น และกล่าวว่า “พวกเราจะแพ้ไม่ได้ รพีพงษ์ คิดถึงลูกสาวและภรรยาของคุณไว้”

เดิมรพีพงษ์ไม่มีความมั่นใจมากนัก แต่เมื่อเขาได้ยินคำว่าลูกสาวและภรรยา ดวงตาของเขาก็ดุดัน

ไม่มีใครสามารถขวางไม่ให้เขาช่วยชีวิตลูกสาวได้ ไม่ว่าจะเป็นนรเทพ หรือว่าจะเป็นบวรวิทย์ ขอแค่ปณิธานยังอยู่ เรื่องทุกอย่างก็สามารถพลิกได้

เขาถือกระบี่สยบเซียนไว้แน่นอย่างสง่า และคนเหล่านั้นก็ค่อย ๆ ตายไปทีละคนจนเหลือสี่คน ตอนนี้รพีพงษ์ต่อสู้จนไม่สามารถควบคุมตนเองได้แล้ว

ญาณิดาเคยกล่าวว่าผู้คนในเทวโลกล้วนมีชีวิตเป็นอมตะ นั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องเป็นคนที่มีผลการฝึกตนที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่พวกกระจอกอย่างเช่นนี้คนพวกนี้แน่นอน

บวรวิทย์เห็นว่าลูกน้องของตนเองไม่กล้าบุกไปข้างหน้า ทำให้เขาโกรธจนหน้าเขียว “บุก พวกคุณจะยืนเซ่ออยู่ทำไม?”

ตัวบวรวิทย์เองก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถเอาชนะรพีพงษ์ได้ ก่อนหน้านั้นตนเองก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับรพีพงษ์ ไม่คิดว่าคนพวกนี้ที่ตนเองเลือกมา ไม่เพียงแต่ไม่ทำสามารถทำให้รพีพงษ์สูญเสียกำลังใจได้ แต่กลับถูกรพีพงษ์ฆ่าตายอย่างง่ายดาย?

สายตาของเขาจ้องกระบี่ที่อยู่ในมือของรพีพงษ์ มีคำว่ากระบี่สยบเซียนสลักอยู่บนด้าม เขาเคยได้ยินนราธิปพูดถึงพลังของกระบี่เล่มนี้

เป็นหนึ่งในอาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณ ที่รพีพงษ์สามารถชนะการต่อสู้มามากมาย คิดว่าคงเป็นเพราะกระบี่เล่มนั้น ถ้าตนเองได้ครอบครองกระบี่เล่มนี้ ตนเองก็จะสามารถเอาชนะศัตรูเป็นร้อยได้เช่นกัน?

รพีพงษ์มองคนขี้ขลาดพวกนี้ แล้วหัวเราะเยาะว่า “ไม่คิดว่า ลูกน้องแต่ละคนของคุณชายบวรวิทย์จะไร้ประโยชน์เช่นนี้ ผมยังไม่ทันได้ใช้ท่าไม้ตายก็ตายก่อนแล้ว ดูเหมือนว่าจะต้องสู้กับคุณชายบวรวิทย์ถึงจะสะใจ”

จุดสนใจของบวรวิทย์เปลี่ยนไป และกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า “ความสามารถของคุณ มาจากกระบี่ที่อยู่ในมือของคุณ ถ้าคุณเก็บกระบี่ ผมไม่เชื่อว่าคุณยังเป็นคู่ต่อสู้ของผมอีก”

รพีพงษ์มองกระบี่สยบเซียน และยิ้มอย่างไม่ยี่หระ “คุณชายบวรวิทย์ไม่รู้หรือว่า ของที่มันจิตวิญญาณเช่นนี้มันรู้จักเจ้านาย ถึงผมจะมอบให้คุณ แต่คุณก็ไม่สามารถควบคุมมันได้”

รพีพงษ์รู้สึกว่า จะต้องทำให้ผู้ชายคนนี้ยอมรับความแพ้ทั้งกายทั้งใจ เขาถึงจะไม่มาหาเรื่องอีก

เขาไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าบวรวิทย์ เหตุผลประการแรกคือสถานะของตระกูลภูสรีดาว และประการที่สองคือเขาเป็นศิษย์ของนราธิป เขาไม่อยากล่วงเกินทั้งสองคนตั้งแต่เพิ่งมาถึงเทวโลก เพราะการสร้างศัตรูแค้นมรณะมันไม่คุ้มค่า

บวรวิทย์ไม่เชื่อว่ากระบี่จะมีจิตวิญญาณรู้จักเจ้านาย ถ้ารพีพงษ์มอบกระบี่เล่มนี้ให้ตนเอง ตนเองนั้นควบคุมมันไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไปแย่งกระบี่ของรพีพงษ์ขณะที่กำลังพูดโดยไม่ลังเลใด ๆ

เขามีทุกอย่าง แต่ขาดอาวุธที่ดี ถ้าหากมีอาวุธดีมันสามารถช่วยให้ผลการฝึกตนและการต่อสู้ของตนเองดีขึ้นเป็นอย่างมากแน่นอน

การจู่โจมอย่างกะทันหัน ทำให้รพีพงษ์ถอยหลังไปสองก้าว ส่วนปัณฑาหลบอยู่ด้านข้าง เธอไม่อยากสร้างปัญหาให้รพีพงษ์

พ่อบ้านเตชิตที่อยู่ในระดับแดนดั่งเทพชั้นยอดมองอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนเองต่อสู้กับรพีพงษ์ เขาก็เข้ามาร่วมต่อสู้ด้วย

รพีพงษ์รู้สึกหนักเอาการ แล้วกล่าวว่า “เพื่อคนรับใช้คนเดียว คุณชายบวรวิทย์ทำให้ผมลำบากใจ คุณไม่รู้สึกว่ามันไม่คุ้มหรอกหรือ? ”

รพีพงษ์กล่าวขณะที่กำลังต่อสู้ ที่ตนเองมีทุกอย่างในวันนี้ ไม่ได้อาศัยกำลังในการแก้ปัญหาเพียงอย่างเดียว แต่เขามีสติปัญญาที่ไม่ธรรมดา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท