พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1545 ยาเซียนของเทวโลก

บทที่ 1545 ยาเซียนของเทวโลก

“ผมไม่จำเป็นต้องช่วยเขา เขาจะเติบโตด้วยตนเอง เขาไม่ได้เปราะบางอย่างที่คิด”

สถานการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ ทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก รพีพงษ์ได้รับเลือกจากเทพเจ้าสร้างโลกตั้งแต่อายุยังน้อย นั้นแสดงให้เห็นว่าตนเองมีวิสัยทัศน์ที่ดี

เทพเจ้าสร้างโลกมีความสามารถในการทำลายโลก แต่รพีพงษ์ยังไม่ถึงระดับนั้น

ตอนนี้ทนกับความคับข้องใจเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร อนาคตที่สดใสยังรออยู่

นันท์ธรพบว่านราธิปก็อยู่ที่นี่ด้วย เงยหน้าขึ้นอย่างโกรธเคือง “ทำไมคุณต้องช่วยเขา ไม่ช่วยลูกศิษย์ของตนเอง แต่ไปช่วยเหลือคนนอก คุณอย่าลืมข้อตกลงระหว่างคุณกับพี่ชายของผม”

“นันท์ธร ในเมื่อคุณเห็นผมแล้ว และคุณก็รู้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ชายของคุณ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าคุณไม่ให้เกียรติผม เขาเป็นคนของผม และใครก็ตามที่กล้าทำร้ายเขาก็เท่ากับเป็นอริกับผม”

ขณะที่พูด นราธิปก็ไปยืนอยู่ตรงหน้ารพีพงษ์แล้ว รพีพงษ์เฝ้าดูวิญญาณของเทพเจ้าสร้างโลกหายไป และรู้สึกว่าตอนนี้ตนเองใช้พลังทิพย์ในร่างกายไปหมดแล้ว ถ้าตนเองต้องการที่จะฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด ตนเองต้องไปยังไปยังโลกใบใหม่ และฝึกให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นเท่านั้น จึงจะสามารถปราบศัตรูเหล่านี้ทั้งหมดได้

นราธิปเป็นคนที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมีนันท์ธรสิบคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา คนเดียวที่นันท์ธรสามารถพึ่งพาได้คือเทวเทพ แต่เทวเทพนั้นเข้าข้างนราธิปแน่นอน

นันท์ธรรู้สึกไม่พอใจ และกล่าวว่า “คุณอย่าลืมว่า ใครเป็นลูกศิษย์ที่แท้จริงของคุณ? ไอ้เด็กเปรตที่โชคดีคนนี้ไม่รู้ว่าเขามาจากไหน ผมไม่อยากเป็นศัตรูกับคุณ แต่ว่าคุณอย่าขัดขวางผมแก้แค้นให้หลานชาย”

“ไอ้เด็กเปรตนั่นควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะเป็นศัตรูของตนเอง คนอื่นไม่รู้ แต่ผมที่เป็นอาจารย์รู้ดี?”

นราธิปไม่ไว้หน้าบวรวิทย์ เขารู้สึกผิดหวังกับลูกศิษย์อย่างบวรวิทย์เป็นอย่างมาก

นันท์ธรจากไปอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นนราธิปก็นั่งลงบนพื้น ถ่ายพลังเซียนให้รพีพงษ์

นันท์ธรลงมือได้โหดเหี้ยมมาก เวลาผ่านไปสักครู่ใหญ่ ใบหน้าของรพีพงษ์ถึงได้กลับมามีเลือดฝาด

ตอนนี้รพีพงษ์รู้แล้วว่า ความสัมพันธ์ของนราธิปและตระกูลภูสรีดาวยิ่งอยู่ยิ่งห่างเรื่อย ๆ และเขาเคยได้ยินนราธิปบอกว่าไม่ต้องการใกล้ชิดกับตระกูลภูสรีดาว มากเกินไป เกิดรอยยิ้มจาง ๆ ซึ่งพิสูจน์ว่านราธิปเป็นคนชาญฉลาด

นราธิปกล่าวถึงเรื่องการสืบทอด รพีพงษ์ก็อธิบายเล็กน้อย และการที่นราธิปยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ไม่ถือว่าเป็นการสนทนาเชิงลึกกับคนที่มิตรภาพยังไม่ลึกซึ้ง

รพีพงษ์ไปที่ภูเขาสองกระบี่กับนราธิป เขากล่าวย้ำหลายครั้งว่าจะไม่ฝากตัวเป็นศิษย์ นราธิปก็พยักหน้ายอมรับ

การที่ตนเองเคยฝากตัวเป็นศิษย์ของชัชพิสิฐ มันเป็นเงามืดอยู่ในใจตนเอง

อาจารย์ที่สอนเขาอย่างดี ตอนสุดท้ายกลับเผยธาตุแท้ที่ชั่วร้าย เขาไม่เคยลืมตั้งแต่ต้นจนจบ เคยเป็นคนที่ตนเองใกล้ชิดที่สุด แต่ก็จะลงมือทำร้ายตนเอง เป็นเรื่องที่คนปกติธรรมดายอมรับไม่ได้

ที่ภูเขาสองกระบี่ นราธิปหยิบยาสองเม็ดออกจากเตากลั่นยา และส่งให้รพีพงษ์ และกล่าวว่า “ยาเม็ดนี้สามารถช่วยปรับปรุงพลังจิตวิญญาณของคุณ รักษาและซ่อมแซมร่างกายได้ กินยาเถอะ”

รพีพงษ์ถือยาเม็ดไว้ในมือ ยาเม็ดนี้กลมและใส แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือยายาเซียนหรือ?”

เขารู้จักการกลั่นยาตั้งแต่อยู่ในโลกมนุษย์ วันนี้ได้เห็นยาเซียนจริง?

ปัณฑายิ้ม และกล่าวล้อเล่นว่า “ของในเทวโลก มันมีไอเซียนเป็นเรื่องธรรมดา นี่คือยายาเซียน ไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้คุณก็ไม่รู้”

“ผมอยู่มายี่สิบกว่าปี คิดว่าตนเองมีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวาง แต่ก็เทียบไม่ได้กับภูตโบราณที่มีชีวิตอยู่เป็นพันปี อย่าหัวเราะเยาะผมล่ะ”

ขณะพูด เขาก็กินยายาเซียนและรู้สึกว่ามีแรงบาง ๆ เคลื่อนตัวอยู่ภายในร่างกาย ผ่านทุกเซลล์และซ่อมแซมร่างกายของเขา

หลังจากนั้นไม่นาน รพีพงษ์ก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาลอยขึ้นไปในอากาศอย่างควบคุมไม่ได้ เขาตัวเบามาก กำลังจะปลิวไปตามลมกระโชกแรง เห็นนกกระเรียนบนท้องฟ้าบินไปรอบ ๆ แล้วได้กลิ่นหอมลอยมา นราธิปที่อยู่ด้านล่าง กำลังท่องคาถา แล้วรพีพงษ์ก็ค่อย ๆ ลงสู่พื้น

“อาจารย์ธิป นี่คือ……”

“มันจะทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณแข็งแกร่งขึ้น แม้จะอยู่ห่างออกไปไกลมาก เมื่อมีสิ่งผิดปกติ คุณก็สามารถรับรู้ได้”

“ที่นี่อยู่ห่างจากเมืองแฟรี่ประมาณสองพันกิโลเมตร นี่…….”

“ถูกต้อง แต่ระดับของคุณยังไม่เพียงพอ ยอดฝีมือแดนบุณระดับสูงขึ้นไป ถ้าหากพวกเขาจงใจซ่อนตัวตน เวลาที่พวกเขาไปไหนมาไหน คุณก็จะไม่สามารถรับรู้ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ”

รพีพงษ์พยักหน้าอย่างรวดเร็ว และตอบกลับ แล้วก็ถามถึงข่าวของนรเทพอีกครั้ง แต่นราธิปก็ไม่ตอบอะไรเลย

ในบ้าน ณ.ภูเขาสองกระบี่ ปัณฑาทนอยู่นิ่งไม่ไหวแล้ว เธอเป็นภูตโบราณที่อยู่ในป่า แล้วถูกรพีพงษ์พาออกมา เธออยากจะไปที่เมืองแฟรี่เพื่อสืบข่าวของนรเทพแทนรพีพงษ์

“คุณจะไปที่เมืองแฟรี่เพื่อสืบข่าวของนรเทพ แต่คุณเป็นคนข้างกายของผม ตระกูลภูสรีดาวมีอิทธิพลในเมืองแฟรี่เป็นอย่างมาก ถ้าคุณไปจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน”

“ฉันพูดความจริงนะ ที่ฉันอยากจะไปที่เมืองแฟรี่ เพราะว่าเบื่อที่นี่ ภูเขาสองกระบี่ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง วัน ๆ ก็เฝ้าแต่คุณ แล้วยังมีนราธิปที่ดื้อรั้น ฉันทนไม่ไหวแล้ว” ปัณฑาตอบ

“ผมให้คุณออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกได้ แต่คุณต้องกลับมาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เข้าใจไหม”

เมื่อรู้นิสัยของภูตโบราณคนนี้ รพีพงษ์ก็ไม่สามารถขวางเธอได้ ตามนิสัยของเธอ ออกไปข้างนอกนั้นใช่ว่าจะเปล่าประโยชน์ ถ้าเธอสามารถสืบข่าวนรเทพกลับมาได้ มันจะเป็นผลพลอยได้ที่ไม่คาดฝัน

ตอนนี้รพีพงษ์ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ ตนเองอยู่ในระดับแดนบุณระดับต้น จะต้องปรับปรุงให้ถึงแดนบุณระดับกลางเสียก่อนถึงจะออกไปได้

ไม่ต้องพูดถึงว่าจะมาต่อสู้กับใคร การมาที่เทวโลกในครั้งนี้การเพิ่มระดับเป็นจุดเริ่มต้น รพีพงษ์รู้สึกว่าตนเองน่าจะใช้เวลาไม่นาน และเมื่อปัณฑาได้รับอนุญาตจากรพีพงษ์แล้ว ปัณฑาก็เดินทางไปที่เมืองแฟรี่อย่างมีความสุข

ทันทีที่ปัณฑามาถึงเมืองแฟรี่ ก็เห็นพ่อบ้านเตชิตกำลังกลั่นแกล้งผลินอยู่ “นังตัวแสบ ตอนนี้คุณคนที่คอยปกป้องคุณนั้นตายไปแล้ว ผมจะคอยดูว่ายังจะมีใครสามารถช่วยคุณได้อีก ถ้าคุณยินดีที่จะแต่งงานเป็นเมียน้อยของผม ผมก็จะไว้ชีวิตของคุณและแม่”

“ไอ้สารเลว ถึงตายฉันก็ไม่ยอม รพีพงษ์ต้องไม่เป็นไร คุณอย่ามาโกหกฉัน”

ปัณฑาไม่คิดว่าจะได้พบผลินที่นี่ ตอนรพีพงษ์อยู่ที่นี่เขาสามารถช่วยผลินได้ แต่ตอนนี้รพีพงษ์ไม่ได้อยู่ในเมืองแฟรี่ ทำให้พ่อบ้านเตชิตกำเริบเสิบสานทำอะไรตามอำเภอใจโดยไม่ต้องเกรงกลัวใคร

ปัณฑาเดินเข้าไปแล้วมองพ่อบ้านเตชิตอย่างโกรธเคือง “เจ้าคนถ่อย ไม่รู้หรือว่าเจ้าบ้านของตระกูลภูสรีดาวได้พูดอะไรไว้ คุณอย่าลืมว่า คุณเกือบจะถูกไล่ออกจากตระกูลภูสรีดาวแล้ว”

เมื่อเห็นปัณฑา ผลินก็สะบัดมืออย่างแรงจนหลุดจากมือของพ่อบ้านเตชิต และถามปัณฑาว่า “ฉันคิดแล้วว่า รพีพงษ์จะต้องไม่เป็นไร เขาอยู่ที่ไหน ฉันอยากจะไปหาเขา”

วันนี้พ่อบ้านเตชิตมาคนเดียว เขาเคยเห็นฝีมือของปัณฑาแล้ว เขาไม่สามารถเอาชนะเด็กคนนี้ได้ จึงกลับไปตระกูลภูสรีดาวก่อน อย่างไรก็ตาม เพราะเขายังไม่รู้ทัศนคติของเจ้าบ้านตระกูลภูสรีดาวที่มีต่อรพีพงษ์

คุณชายบอกว่ารพีพงษ์ตายแล้ว ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ แต่เรื่องนี้ก็ต้องปิดไม่ให้เจ้าบ้านตระกูลภูสรีดาวรู้

เขาไม่อยากสูญเสียที่พึ่งยิ่งใหญ่อย่างตระกูลภูสรีดาวเพราะรพีพงษ์ หลังจากพ่อบ้านเตชิตไปแล้ว ผลินถามอย่างรีบร้อนว่ารพีพงษ์อยู่ที่ไหน

“เขาอยู่ที่ภูเขาสองกระบี่ พวกคุณไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปแล้ว พ่อบ้านเตชิตไม่ปล่อยคุณไปแน่นอน พวกคุณย้ายไปอยู่ที่อื่นเถอะ”

“ฉันจะไปที่หารพีพงษ์ที่ภูเขาสองกระบี่ คุณพาฉันไปที่นั่นด้วย!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน