พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1580 งานเลี้ยงของตระกูลพิมพ์สาร

บทที่ 1580 งานเลี้ยงของตระกูลพิมพ์สาร

ปัณฑาตั้งใจกล่าวประโยคนี้ให้เทวเทพ ตอนแรกที่รพีพงษ์มอบกระบี่สยบเซียนให้แก่เทวเทพ ตนเองเคยบอกไปแล้ว แต่รพีพงษ์ไม่ฟัง

เมื่อสักครู่ท่าทางเทวเทพไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก ถ้ารพีพงษ์ต้องการกระบี่คืนมามันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ตอนนี้ไม่เป็นไร กระบี่สยบเซียนกลับมาอยู่ในมือของรพีพงษ์แล้ว ไม่มีใครสามารถเอามันไปได้

ถ้ารพีพงษ์ไม่ยินยอมที่จะคืนให้ เทวเทพก็ไม่สามารถบังคับยึดไปได้ ขอแค่ได้จิตวิญญาณของหนูลินแล้ว พวกเขาก็จะกลับไปทันที ทุกสิ่งในเทวโลกล้วนว่างเปล่า จะมีสักกี่คนที่จะจำได้?

รพีพงษ์มองค้อนปัณฑา โบกมือเป็นนัยให้ปัณฑาหุบปาก

เทวเทพโต้กลับปัณฑาว่า “ไม่ว่าจะเป็นของอะไร ก็ใช้ไม่คล่องมือตั้งแต่ต้น ผมเชื่อว่ากว่าที่รพีพงษ์จะได้เป็นเจ้านายของกระบี่เล่มนี้ก็ต้องใช้ความพยายามไม่น้อย”

รพีพงษ์รีบพูดประจบ เพราะกลัวว่าเทวเทพจะโกรธ

“ท่านผู้อาวุโสพูดถูก ผมใช้ความพยายามไปมากถึงทำให้กระบี่เล่มนี้เป็นของผม และตอนแรกผมก็ไม่มีความสามารถที่จะใช้มัน”

เทวเทพไม่ใช่คนที่ใจคอคับแคบ ดังนั้นเขาจึงให้คนวาดแผนที่ให้รพีพงษ์ ตนเองไม่ต้องลงมือเอง แต่ให้รพีพงษ์เป็นคนลงมือฆ่านฤเบศร์ มันเป็นเรื่องดีสำหรับตนเอง

รพีพงษ์เดินออกไปในสวนหลังบ้านของตระกูลภูสรีดาว ผลินเดินมาอยู่ข้างกายรพีพงษ์ และกล่าวว่า “พี่รพี ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนฉันก็จะไปด้วยทุกที่ ฉันไม่อยากอยู่บ้านของตระกูลภูสรีดาว”

“ผมออกไปข้างนอกมันอันตรายมาก ถ้าเกิดคุณเป็นอะไรไป ผมจะอธิบายให้แม่คุณฟังได้อย่างไร”

“ตราบใดที่คุณไม่เป็นไรฉันก็จะไม่เป็นไรเช่นกัน ถึงจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันก็จะไม่โทษคุณ ฉันถูกพ่อบ้านของตระกูลภูสรีดาวทำร้าย ทำให้ฉันอยู่ที่นี่แล้วรู้สึกไม่มีความปลอดภัย คุณพาฉันไปด้วย”

น้ำเสียงแผ่วเบา น้ำตาคลอเบ้า แม่ของเธอเพิ่งเสียไป อารมณ์จึงไม่ค่อยดีนัก ถ้าอยากไปก็พาเธอไปด้วยมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

รพีพงษ์พยักหน้า “เอาล่ะ ถ้าถึงเวลาที่จำเป็นผมจะให้คุณเข้าไปอยู่ในโลกใบเล็ก”

หลังจากได้ยินประโยคนี้ ผลินยิ้มที่มุมปาก รพีพงษ์กำลังถือกระบี่สยบเซียนอยู่ในมือ และเขารู้สึกปีติยินดีที่ของหายไปแล้วได้กลับคืนมา

ตอนนี้ไม่ว่าจะยังไง ก็จะไม่คืนกระบี่สยบเซียนเล่มนี้ให้ตระกูลภูสรีดาวอีก เล่าปี่ยืมเมืองจิงโจวยังไม่คืนแลย เดิมสิ่งนี้เป็นของตนเอง ถึงแม้ว่าจะไม่คืนให้เทวเทพอีก เทวเทพก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ แต่ตอนนี้ทุกคนเป็นเพื่อนกันชั่วคราว ใครจะไปรู้ว่ในอนาคตมันจะพัฒนาไปในทิศทางใด?

ขณะที่ฝึกกระบี่อยู่ในสวนหลังบ้าน ปัณฑาและผลินนั่งอยู่ด้านข้าง ปัณฑากล่าวว่า “ไม่คิดว่า แม่ของคุณจะยอมแลกชีวิตเพื่อให้คุณสมปรารถนา และสามารถอยู่กับรพีพงษ์ได้”

“พ่อกับแม่ของฉันมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ดังนั้น…..”

ผลินกล่าวด้วยความโศกเศร้า

ในโลกนี้ มีเพียงแม่เท่านั้นที่ดีต่อเธอที่สุด แม่คิดถึงแต่ความสุขของเธอ เธอต้องอยู่กับรพีพงษ์อย่างมีความสุข เพื่อไม่ให้แม่ต้องจากไปโดยเปล่าประโยชน์

ปัณฑาเหลือบมองผลินแล้วกล่าวว่า “นั่นคือสิ่งที่แม่ของคุณพูด โลกนี้ช่างสวยงาม ฉันไม่เชื่อว่ามีคนเต็มใจที่จะตาย แต่ฉันเคยบอกคุณก่อนหน้านั้นแล้วว่า รพีพงษ์และภรรยานั้นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดี คุณอย่าคาดหวังมากเกินไป เกรงว่าในอนาคตคุณจะไม่สามารถยอมรับได้”

ปัณฑารู้ว่ารพีพงษ์และอารียามีรักใคร่ปรองดอง ถ้าหากผลินเห็นแล้วอาจโกรธจนอกแทบระเบิดก็ได้?

ผลินยืนขึ้นอย่างไม่พอใจ กล่าวโทษปัณฑาว่าประเด็นไหนไม่ควรยกขึ้นพูด ก็พูดประเด็นนั้น แม้ว่าเธอและรพีพงษ์จะไม่สามารถเป็นสามีภรรยาได้ก็ตาม อย่างที่แม่ของเธอพูด การเป็นพี่น้องกันก็ไม่เลว

แต่รพีพงษ์เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ขอแค่ตนเองคิดวิธีที่จะกลายเป็นผู้หญิงของรพีพงษ์ รพีพงษ์จะต้องรับผิดชอบตนเองอย่างแน่นอน

เธอมีความคิดนี้อยู่ในใจ จึงละเลยคำพูดของปัณฑา ไม่ว่าคู่สามีภรรยาหรือคู่รักทุกคน ที่อยู่ห่างกันเป็นเวลานาน จะมีสักกี่คนที่ไม่นอกใจ?

รพีพงษ์เป็นวีรบุรุษ และก็เป็นผู้ชายเช่นกัน มีอารมณ์ความรู้สึกความปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไป เขานั้นดีต่อตนเองจริง แต่ตนเองก็ต้องหาทางสร้างโอกาส

ปัณฑาไม่ได้พูดอะไร แต่โทษตนเองอยู่ในใจ เธอรู้สึกเสมอว่าการตายของแม่ผลินเกี่ยวข้องกับตนเองเป็นอย่างมาก ถ้าหากตอนนั้นตนเองออกจากภูเขาสองกระบี่กับรพีพงษ์อย่างเงียบ ๆ ก็จะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

แม้ว่าผลินไม่ได้พูดถึง และรพีพงษ์ไม่เคยกล่าวโทษ แต่เธอก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

แผนที่ของเทวเทพวาดเสร็จแล้ว นันท์ธรมองและกล่าวว่า “พี่ใหญ่ พวกเราไม่ได้ไปตระกูลพิมพ์สารหลายปีแล้ว และตอนนี้ไม่รู้ว่าตำแหน่งบนแผนที่นี้เปลี่ยนไปหรือไม่”

“มันน่าจะแตกต่างกันไม่มาก ถ้าตระกูลพิมพ์สารเริ่มงานก่อสร้างใหญ่ มันจะสร้างความแตกตื่นแน่นอน แต่หลายปีมาก็ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้”

นันท์ธรถือแผนที่ไว้ในมือ มีความไม่พอใจรพีพงษ์บ้าง และบ่นว่า “ผมคิดว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่ใส่ใจรายละเอียดในชีวิต ไม่คาดคิดว่ามอบกระบี่ให้พี่ใหญ่แล้วยังจะมาขอคืนอีก พี่ใหญ่ก็ให้เขาไปจริง ๆ”

เทวเทพหยิบถ้วยชาขึ้นมา ยิ้มบาง ๆ เขาเป็นคนที่ปล่อยวางได้ และกล่าวว่า “เดิมกระบี่ก็เป็นของเขา ตอนแรกเพื่อที่จะผูกไมตรีกับพวกเรา ดังนั้นจึงทำให้กระบี่มาตกอยู่ในมือของผม พูดไปแล้ว กระบี่นั้นอยู่ในมือผมก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ อีหนูปัณฑาพูดถูก กระบี่จำเจ้านายจริง ๆ”

“พี่ใหญ่หมายความว่า ไม่ได้คิดที่จะเอากระบี่สยบเซียนกลับคืนมาหรือ?”

“ผมไม่ได้พูดเช่นนั้น ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา ถ้าเป็นไปได้ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระบี่นั้นจะกลับคืนมาสู่มือ”

นันท์ธรไม่รู้จะพูดอะไรอยู่พักหนึ่ง เขาจึงนำแผนที่ให้รพีพงษ์

รพีพงษ์ก็ไม่ชักช้ารีรอ เวลาก็ค่ำแล้ว คืนมืดมิดและลมแรง เป็นเวลาดีที่สุดที่เขาจะไปบ้านของตระกูลพิมพ์สาร

ขณะที่เขาเดินไปเพื่อจะกล่าวขอบคุณเทวเทพก็ที่ได้ยินคนรับใช้มารายงานว่า นฤเบศร์จัดงานเลี้ยงและเชิญเทวเทพไปงานเลี้ยงด้วย

หลังจากที่คนรับใช้ออกไป รพีพงษ์ก็รีบเดินเข้าไปข้างใน แล้วกล่าวว่านฤเบศร์มาไม้นี้ไม่รู้ว่าจะมีเล่ห์เหลี่ยมอะไร

เทวเทพครุ่นคิด ไม่มีเหตุผลที่นฤเบศร์จะเชิญเขาไป รพีพงษ์กล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโสไปไม่ได้ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นงานเลี้ยงลอบสังหาร”

“เขามาเชิญถึงที่แล้ว ถ้าไม่ไปมันจะไม่เหมาะสม ขอแค่ผมพาคนไปมากพอ เขาก็จะไม่สามารถทำร้ายผมได้”

รพีพงษ์มีแผนอยู่ในใจ และได้รู้จากปากของเทวเทพว่า งานเลี้ยงนี้ได้เชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงทั้งหมดของเมืองแฟรี่มาด้วย หากเขาไม่ไปก็จะเป็นการไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย

ถ้าเทวเทพไปจะตกอยู่ในอันตราย ตนเองไปแทนเทวเทพดีกว่า

ตอนนี้ ทุกคนในเมืองแฟรี่รู้ว่ารพีพงษ์และบวรวิทย์นับถือเป็นพี่น้องกัน และรพีพงษ์ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลภูสรีดาว เทวเทพป่วยร่างกายไม่แข็งแรง แล้วให้รพีพงษ์ไปเป็นตัวแทน มันก็ไม่น่าเกลียด

เมื่อเทวเทพได้ยินว่ารพีพงษ์จะไปแทนตนเอง ก็รู้สึกโล่งใจและเขากล่าวว่า “การไปคราวนี้อันตรายเป็นอย่างมาก ถ้าบวรวิทย์อยู่ ผมก็จะให้เขาไปพร้อมคุณ”

ก่อนหน้านั้นตอนที่ต่อสู้กับนฤเบศร์ นฤเบศร์ชนะเขาแล้วเข้าไปในถ้ำได้อย่างง่ายดาย ทำให้เทวเทพรู้สึกว่านฤเบศร์นั้นเป็นเงามืดอยู่ในใจของตนเอง แต่ตนเองก็ต้องรักษาหน้าเอาไว้จะไม่ไปมันก็ไม่ได้

ตอนนี้รพีพงษ์เสนอว่าจะไปแทนตนเอง และมันก็ทำให้ตนเองไม่เสียหน้าอีกด้วย

ขณะนี้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากภายนอก “เมื่อพ่อต้องการให้ผมไปกับรพีพงษ์ ประจวบเหมาะ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเราสองพี่น้องร่วมมือกัน ถ้าคนภายนอกมีแผนก็จนใจ และไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท