พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1581 ความทะเยอทะยานของนฤเบศร์

บทที่ 1581 ความทะเยอทะยานของนฤเบศร์

เมื่อได้ยินเสียงของบวรวิทย์ เทวเทพก็มองออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว

เขากลับมาได้ยังไง เรื่องแบบนี้ให้รพีพงษ์ไปคนเดียวก็ดีแล้ว ตอนอยู่ที่ภูเขาสองกระบี่เขาเกือบจะถูกนรเทพฆ่า และทำให้เทวเทพตกใจเป็นอย่างมาก

ตอนนี้แผลที่คอยังไม่สมาน ยังไงก็ไม่สามารถปล่อยให้เขาไปได้

“รพีพงษ์ มีแผนของตนเอง ถ้าลูกไปด้วย จะทำให้แผนของรพีพงษ์ยุ่งเหยิง”

รพีพงษ์กระแอมสองครั้งด้วยความเก้อเขิน ตอนแรกเขาเป็นคนบอกว่าถ้าบวรวิทย์อยู่ ก็จะให้บวรวิทย์ไปพร้อมกับตนเอง

ตอนนี้บวรวิทย์กลับมาแล้ว คำพูดที่เขาพูดเมื่อสักครู่ดูเหมือนจะไม่เป็นตามที่เคยพูดไว้

เขาถามบวรวิทย์ว่า “ลูกกลับมาแล้ว อาจารย์ธิปก็อยู่ที่ภูเขาสองกระบี่คนเดียวหรือ?”

“อาจารย์ก็จะมาอยู่ในเมืองแฟรี่ บอกว่าสิ่งสำคัญที่จะต้องทำ อยู่ที่ภูเขาสองกระบี่ไม่ได้”

รพีพงษ์เดาได้แล้วว่ามันคืออะไร ตอนนี้ไม่มีเจ้าเทวโลก ถ้าไม่มีใครออกมาปราบปราม ความโกลาหลจะเกิดขึ้นทุกที่

ตอนนี้คนเดียวที่สามารถออกมาปราบปรามได้ก็คือนราธิป รพีพงษ์ไม่ใช่คนของเทวโลก เขาจึงไม่มีอารมณ์สนใจข้อพิพาทในเทวโลก และไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

เขาแค่ต้องการวิญญาณของลูกสาวกลับคืนมาเท่านั้น และถ้าเขาเอาวิญญาณกลับมาเอง ลูกสาวก็ไม่ต้องฝากตัวเป็นศิษย์ของนราธิป ถ้าคนอื่นเอาคืนมาให้ตนเอง งั้นก็ต้องปฏิบัติตามข้อตกลง

ตอนนั้นที่ตนเองตกลงทันที นั่นเป็นเพราะนราธิปกล่าวว่าสามารถช่วยชีวิตหนูลินได้ ตอนนี้คิดดูแล้ว หนูลินเป็นคนคนหนึ่ง รพีพงษ์หวังว่าเธอจะสามารถเลือกทางเดินที่เธอต้องการในอนาคตได้ ตนเองเป็นพ่อ ไม่เหมาะที่จะตัดสินใจแทนเธอ

เทวเทพคัดค้านการไปของบวรวิทย์ แต่บวรวิทย์ไม่ได้เห็นแกหน้าพ่อ และกล่าวโดยตรงว่า “พ่อบอกว่าผมสามารถไปพร้อมกับรพีพงษ์ได้ไม่ใช่หรือ? ”

นันท์ธรที่อยู่ด้านข้างทนดูไม่ได้ เพราะเทวเทพนั้นกลับคำเร็วเกินไปแล้ว

เขาไกล่เกลี่ยอยู่ด้านข้าง “พี่ใหญ่ คนหนุ่มควรจะมีประสบการณ์ต่อสู้ให้มาก ผมรู้ว่าพี่ชายไม่วางใจ ผมจะไปกับบวรวิทย์และรพีพงษ์ด้วย ก่อนหน้านั้นพวกเราเคยไปตระกูลพิมพ์สารครั้งหนึ่ง ถ้าไปคราวนี้ ประจวบเหมาะที่จะแอบตรวจสอบดูว่าแผนที่นั่นจำเป็นต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกไหม”

เทวเทพเหลือบมองนันท์ธร และรู้ว่านันท์ธรหมายถึงอะไร จึงตกลงและกล่าวย้ำอีกครั้งว่า “ไม่เพียงแต่เด็ก ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความปลอดภัยของตัวคุณเองด้วย”

หลังจากโน้มน้าวเทวเทพสำเร็จแล้ว พวกเขาก็เดินทางไปที่ตระกูลพิมพ์สารพร้อมกัน

ระหว่างทาง บวรวิทย์เห็นรพีพงษ์ถือกระบี่สยบเซียนอยู่ในมือ บวรวิทย์รู้สึกสงสัย แต่หลังจากนั้นก็ยิ้มทันทีและเข้าใจทุกอย่าง

เขาตบไหล่รพีพงษ์ และกล่าวว่า “พ่อของผมเป็นคนหัวแข็ง คุณพูดโน้มน้าวให้เขามอบกระบี่ให้คุณได้อย่างไร?”

นันท์ธรแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน รพีพงษ์โต้กลับว่า “คุณอย่าพูดเหลวไหล ผมยืมมันมา พอผมกลับไป ก็จะคืนกระบี่เล่มนี้ให้กับพ่อคุณ”

“เอาล่ะ ตอนที่คุณมอบกระบี่เล่มนี้ให้พ่อของผม ผมก็รู้ว่าคุณมีเจตนาแอบแฝง ตอนนี้เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาหมดแล้ว”

ทั้งหมดที่พวกเขาพูดนั้นมันเป็นการล้อเล่น รพีพงษ์ยิ้มและไม่พูดอะไรอีก พวกเขาทั้งหมดเป็นคนฉลาด อาจเป็นการไม่ดีถ้าหากพูดชัดเจนเกินไป

ฝั่งนี้นฤเบศร์นั้นดูแลนรเทพเป็นอย่างดี

ผลการฝึกตนเป็นเวลาหลายปีของนรเทพถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ แต่เขาไม่สามารถแสดงความอ่อนแอต่อหน้านฤเบศร์ มิฉะนั้นนฤเบศร์จะทอดทิ้งและไม่ดูแลเขา

งานเลี้ยงคราวนี้นรเทพเป็นคนที่ปลุกปั่นนฤเบศร์ให้จัดขึ้นมา เขาต้องการยืมมือของนฤเบศร์ฆ่าเทวเทพ

เมื่อถึงเวลานั้น บวรวิทย์และคนอื่นๆ จะต้องมาแก้แค้น และรพีพงษ์ก็จะปรากฏตัวขึ้นอย่างแน่นอน

เมื่อถึงเวลา จะฆ่าพวกเขาให้หมด ดูดซับพลังที่มีอยู่ในร่างกายของพวกเขา จากนั้นพลังจิตวิญญาณของตนเองก็จะฟื้นคืนอย่างรวดเร็ว

นรเทพมีแผนของตนเองอยู่ในใจ จิตวิญญาณของลูกสาวรพีพงษ์มีพรสวรรค์สูงมาก ขอแค่พลังของตนเองได้รับการฟื้นฟูเล็กน้อย ก็สามารถทำให้จิตวิญญาณของเด็กคนนั้นกลายเป็นของตนเอง และถูกตนเองดูดซับ

ตนเองเคยมีพื้นฐานการฝึกมาก่อน และมันก็ไม่ยากเลยที่จะฝึกให้กลับมาเหมือนเดิม

นฤเบศร์เดินเข้ามา มองนรเทพที่นั่งอยู่บนพื้น และกล่าวด้วยความเคารพว่า “นายท่าน ผู้มีอำนาจทั่วทุกสารทิศเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว”

“นี่คือสิ่งที่คาดการณ์ไว้ ตอนนี้ผมได้รับบาดเจ็บ และทุกคนต่างก็คิดที่จะแทนที่ผม เรื่องที่ผมให้คุณทำเป็นยังไงบ้าง เทวเทพมาไหม?”

“ผมให้คนไปส่งข่าวแล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะมา เพราะว่าเขาเป็นคนที่รักเกียรติมาก ถ้าเขาไม่มา ผมจะบอกกับสาธารณชนว่าเพราะความขัดแย้ง ทำให้เขาไม่ยินยอมมา ถึงเวลานั้น คนในเมืองทั้งหมดจะคิดว่าเทวเทพเป็นคนใจคอคับแคบ จะไม่มีผลดีต่อเขาเลย!”

นรเทพยิ้มอย่างลำพอง และถามว่า “สิ่งที่ควรจัดเตรียมนั้นต้องจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า ขอแค่สามารถฆ่าเขาได้ ความคับข้องใจของคุณก็จะถูกระบายออก และพวกเราก็อยู่ห่างจากเป้าหมายใกล้เข้าไปอีกก้าว ผมสัญญาว่าจะให้ตำแหน่งคุณ ที่อยู่ใต้คนคนเดียว แต่อยู่เหนือคนนับหมื่น มันจะต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ นฤเบศร์ยิ้มจนแก้มปริ และกล่าวว่า “ถ้าสามารถทำงานให้นายท่านได้ ผมก็จะไม่ปฏิเสธแม้จะตายเป็นหมื่น ๆ ครั้ง”

“ผลงานของคุณไม่เลว และคุณต้องรีบเอาคัมภีร์ลับของคุณชายปริตรมาให้ได้โดยเร็วที่สุด”

เมื่อนึกถึงปริตร ทำให้นรเทพรู้สึกมีเงามืดอยู่ในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะปริตร เขาคงไม่ตกอับเหมือนตอนนี้

นฤเบศร์คิดอย่างมีความสุขว่า ฝีมือของเทวเทพนั้นสู้ตนเองไม่ได้ วันนี้ถ้าเขามาที่ตระกูลพิมพ์สารแล้ว ตนเองได้วางกับดักไว้แล้ว ถึงเขาจะมีปีกก็ไม่สามารถหนีไปได้

ถ้านฤเบศร์ฆ่าเทวเทพแล้ว และหลังจากเอาคัมภีร์ลับมาของปริตมาได้แล้ว ตนเองก็จะไม่มีวันให้นรเทพเด็ดขาด

ก่อนหน้านั้นนรเทพเคยสัญญาว่าจะให้คัมภีร์ลับแก่ตนเอง แต่ตอนนี้นรเทพนั้นยังเอาตัวเองไม่รอด ถ้าไม่ใช่เพราะบารมีของนรเทพ เขาก็คงไม่นอบน้อมถ่อมตนกับนรเทพเช่นนี้

ผู้แข็งแกร่งไม่สามารถรับมือกับกองกำลังท้องถิ่นได้ ตอนนี้คนอยู่ในมือของตนเอง ตอนเองอยากทำอะไร ต้องวางแผนอย่างรอบคอบทีละขั้นตอน

ก่อนหน้านั้น เขาได้ปล่อยข่าวว่านรเทพได้รับบาดเจ็บและพักฟื้นอยู่ที่บ้านของตนเอง ทหารที่อยู่ในมือของนรเทพยังมีเป็นล้าน ถ้าสามารถรวมทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวได้ และถ้าตนเองสามารถใช้ทหารพวกนี้ได้ ตนเองก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ใต้คนอื่น

ถึงนรเทพจะเป็นเจ้าเทวโลกแล้วยังไงล่ะ ผู้มีความสามารถเท่านั้นถึงจะอยู่ในตำแหน่งนั้นได้ ยุคของนรเทพได้ผ่านไปแล้ว และถึงเวลาเปลี่ยนคนแล้ว

ตอนนี้ก้มหน้ารับใช้นรเทพ และเขาจะได้รับรางวัลที่ควรได้ในอนาคตอย่างแน่นอน

เมื่อจิรันดน์ได้ยินมาว่ามีคนจากตระกูลภูสรีดาว เขารออยู่ที่งานเลี้ยงนานแล้ว บวรวิทย์และเขาเป็นเพื่อนสนิท เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล ทำให้พวกเขาไม่ได้เจอหน้ากันมาเป็นเวลานานแล้ว

ตนเองเป็นคนที่ชอบความคึกคัก และบางทีตนเองอาจจะโชคดีได้พบเขาในงานเลี้ยงครั้งนี้

จิรันดน์มองไปรอบ ๆ นฤเบศร์บอกเขาว่าอย่าทำเรื่องวุ่นวาย และบอกว่าบวรวิทย์ไม่มาแน่นอน

ปากนั้นพูดอย่างนั้น แต่นฤเบศร์หวังว่าบวรวิทย์และรพีพงษ์จะมาด้วย

หลังจากวางแผนทำงานหนักมาหลายวัน ผลลัพธ์จะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับวันนี้

ไม่ให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว จะได้จบปัญหาทั้งหมดในคราวเดียว

“ท่านพ่อ ท่านดูสิ……”

จิรันดน์ชี้ไปที่ประตู บวรวิทย์และรพีพงษ์เดินเข้ามา

เขาเดินไปหาบวรวิทย์แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผมได้จองที่ให้คุณนั่งกับผมแล้ว พวกเราพี่น้องไม่ได้ดื่มด้วยกันนานแล้ว”

“ผมยังมีพี่น้องอีกคนหนึ่ง” บวรวิทย์แนะนำรพีพงษ์ให้จิรันดน์รู้จัก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท