พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1585 ดำเนินการทีละขั้นตอน

บทที่ 1585 ดำเนินการทีละขั้นตอน

รพีพงษ์เดินไปหาผู้หญิงที่ดื่มเหล้าเมื่อสักครู่ และกล่าวว่า “ผู้หญิงคนนี้ยังไม่ตาย ขอแค่ผู้หญิงคนนี้ตื่น ก็จะรู้ทุกอย่าง”

ไม่ใช่ว่ารพีพงษ์นั้นเป็นคนใจดี เพียงแต่ผู้หญิงคนนี้มีใบหน้าที่คล้ายอารียา และเธอไม่ได้เป็นศัตรูคู่แค้นกับตนเอง ที่เธอมาทำร้ายตนเองนั้น เป็นเพราะได้รับคำสั่งเท่านั้น

บางทีอาจจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถพูดออกมาได้อยู่เบื้องหลัง เขาทนไม่ได้ที่จะมองดูคนอื่นตาย

นฤเบศร์โมโหจนหน้าแดงก่ำ เขานั้นได้วางยาพิษไว้ในเหล้าแล้ว แค่ผู้หญิงคนนั้นดื่ม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เป็นไร

ตอนนี้เธอยังไม่ตาย รพีพงษ์ล้อเล่นหรือเปล่า?

เขายิ้มเยาะเย้ย “คนนอนแนบนิ่งแล้ว ไม่ตายได้อย่างไร ผมคิดว่าคุณปลิ้นปล้อนเหลี่ยมจัด”

ตอนนี้เขาไม่รีบ สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นละครที่น่าสนใจฉากหนึ่ง เขาอยากดูว่ารพีพงษ์มีวิธีอะไรที่จะปลุกผู้หญิงคนนี้ให้ฟื้นขึ้นมาได้

เขาเป็นคนที่คัดเลือกผู้หญิงคนนี้มาโดยเฉพาะ และขณะที่กำลังวางแผนเรื่องนี้ นรเทพเลือกผู้หญิงคนนี้อย่างรวดเร็ว และกล่าวว่าอัตราความสำเร็จคือร้อยเปอร์เซ็นต์

ตอนนี้รพีพงษ์ไม่หลงกล ถือว่าเขานั้นเก่งจริง ๆ

รพีพงษ์นั่งลงบนพื้น ถ่ายทอดพลังเพื่อทำให้ผู้หญิงคนนั้นอาเจียนเหล้าพิษออกมา แน่นอนว่าการดื่มเหล้าพิษนั้นมันทำร้ายกระเพาะอาหารของเธอ

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว มันก็ดีกว่าการฆ่าเธอให้ตาย

ถึงแม้ว่าตนเองได้ช่วยเธอไว้ แต่เกรงว่านฤเบศร์คงไม่ปล่อยเธอไป

เรื่องจะเป็นยังไง ก็ขึ้นอยู่กับดวงของเธอเอง รพีพงษ์ก็ช่วยอะไรไม่ได้

ผู้หญิงคนนั้นตื่นขึ้นมา รู้สึกว่าท้องตนเองปวดแสบปวดร้อนเป็นอย่างมาก จากนั้นมองกลับไปที่รพีพงษ์ด้วยความใจประหลาดใจ และรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก

“ฉันจะทำร้ายคุณ แล้วทำไมคุณถึงได้ช่วยฉัน”

“ผมรู้ว่าคุณต้องการทำร้ายผม คุณพูดมาสิว่าใครให้คุณมาทำร้ายผม”

รพีพงษ์ไม่ได้กล่าวอะไรมากมาย ถามตรงไปที่ประเด็นทันที ผู้หญิงคนนี้เป็นสาวงามที่นฤเบศร์เลี้ยงไว้ในบ้าน

และผู้หญิงคนนี้รู้ว่ารพีพงษ์ได้ช่วยชีวิตเธอไว้ ตอนนี้เธอไม่สามารถทำร้ายรพีพงษ์ได้ แต่เธอเป็นเด็กกำพร้า และถูกนฤเบศร์เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ และเธอก็ไม่สามารถหักลังนฤเบศร์ได้เช่นกัน

“ฉันเอง ฉันเห็นคุณเหมือนศัตรูคนหนึ่งของฉัน ก็เลยตั้งใจมานั่งอยู่ข้างกายคุณ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านผู้นำใด ๆ”

หลังจากได้ยินประโยคนี้ นฤเบศร์ก็รู้สึกโล่งใจ หากคราวนี้เกิดปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้ ก็จะทำให้เสียชื่อเสียง และถ้าในอนาคตตนเองอยากจะเชิญคนอื่นมางานเลี้ยงอีกนั้นจะเป็นเรื่องยาก

รพีพงษ์รู้สึกจำใจ เดิมคิดว่าผู้หญิงคนนี้สามารถพูดอะไรที่ยุติธรรมได้ แต่ไม่คิดว่าเธอเลือกที่จะไม่ล่วงเกินทั้งสองฝ่าย

เป็นเช่นนี้ก็ดี อย่างน้อยก็สามารถรักษาชีวิตของเธอไว้ได้

ผู้หญิงคนนั้นยืนขึ้น และเดินอย่างไร้เรี่ยวแรงไปข้างนฤเบศร์ คุกเข่าลงบนพื้น “ท่านผู้นำ ฉันไม่ดีเอง ทำให้คุณต้องลำบากใจ”

นฤเบศร์ตบผู้หญิงคนนั้นอย่างแรงและดุด่าว่า “ตันเหมยผมเลี้ยงคุณมาตั้งแต่เด็ก ถึงคุณไม่สำนึกบุญคุณของผมก็ช่าง แต่ตอนนี้คุณยังทำเรื่องแบบนี้ได้ ไสหัวออกไปจากบ้านของผม”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ตันเหมยก็รีบเดินออกไปทันที สถานที่ที่มีแต่เรื่องเลวร้าย ถ้าพูดผิดคำเดียวอาจไม่มีชีวิตรอด และเธอไม่ต้องการเป็นเช่นนั้น

นฤเบศร์รู้สึกลำพองใจ ดูผิวเผินเหมือนตนเองพ่ายแพ้ ที่รพีพงษ์ไม่อยากจะลงมือกับ ตันเหมย คิดว่าเป็นเพราะใบหน้าของ ตันเหมยขอแค่มีตันเหมยอยู่ในมือ ก็ยังคงเป็นไพ่ตายของตนเอง

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้ม รพีพงษ์อยากสู้กับตนเองนั้นยังอ่อนหัดไป

ทุกคนไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่ดื่มกินอีกต่อไป และแต่ละคนก็แยกย้ายกันกลับ รพีพงษ์และบวรวิทย์ไม่ได้คิดที่จะกลับ และพวกเขาก็รู้ว่า แม้ว่าพวกเขาต้องการกลับ แต่นฤเบศร์ก็ไม่ให้โอกาสพวกเขากลับแน่นอน

หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกลับกันไปหมดแล้ว รพีพงษ์และบวรวิทย์ก็มองหน้ากันแล้วก็ยิ้ม และทำตามแผนที่พวกเขาวางไว้ตั้งแต่แรก

แสดงท่าทางราวกับว่ากำลังจะกลับ นฤเบศร์รีบหยุดพวกเขาไว้ “คุณชายรพี ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ที่บ้านยังมีเหล้าดีอยู่หนึ่งโถ คุณชายรพีเข้าไปที่บ้านพร้อมกับผม ผมจะได้เอาเหล้านั้นให้คุณชาย เพื่อเป็นการขอโทษ”

บวรวิทย์เดินไปข้างหน้า และปฏิเสธทันที “คุณลุงนฤเบศร์ น้ำใจของคุณลุงนั้นพวกเรารับไว้แล้ว ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างสิ้นสุดแล้ว ผมหวังว่าพวกเราทุกคนจะไม่ถือสาเรื่องในอดีต และถือว่าลบล้างกันไป”

นฤเบศร์กล่าวว่า ถ้าพวกเขาไม่ไปดื่มเหล้ากับตนเอง งั้นก็แสดงว่าพวกเขาไม่ให้เกียรติตนเอง

รพีพงษ์พาผลินและคนอื่น ๆ เดินเข้าไปในบ้านพร้อมกัน คนที่ควรจะกลับไปตอนนี้ก็กลับไปหมดแล้ว บวรวิทย์กล่าวว่าอยากให้จิรันดน์พาตนเองไปเดินชมรอบบ้านขนาดใหญ่ของตระกูลพิมพ์สาร เพราะตนเองไม่ได้มาที่นี่หลายปีแล้ว

เป้าหมายของนฤเบศร์คือรพีพงษ์ เขาไม่สนใจว่าบวรวิทย์จะเป็นอย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้น จิรันดน์ยังอยู่ที่นี่ ถ้าบวรวิทย์ถูกฆ่าตายทันที อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกแตกสลาย

ขอแค่ฆ่ารพีพงษ์แล้ว จะฆ่าบวรวิทย์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก

บวรวิทย์มองไปทุกหนทุกแห่ง เขาจะต้องหานรเทพให้พบ แล้วก็ควบคุมตัวนรเทพไว้ และนำตัวนรเทพกลับไปให้ได้

วิธีนี้เท่านั้นถึงจะสามารถบังคับเอาวิญญาณคืนมาได้ และทำให้ลูกสาวของรพีพงษ์ดีขึ้น ต่อไปก็ไม่ต้องกังวลว่านรเทพจะกลับมาแก้แค้นคืน

จิรันดน์พาบวรวิทย์ไปเดินรอบสวนหลังบ้าน เขากล่าวว่า “เรื่องเมื่อสักครู่พ่อของผมเป็นคนบงการเอง ผมพยายามเกลี้ยกล่อมเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาไม่ฟัง โชคดีที่พวกคุณนั้นไม่เป็นไร”

“คุณรู้เรื่องที่พ่อของคุณทำ ผมคิดว่าคุณควรหาวิธีขัดขวางเขา ผมไม่ได้อยากให้คุณพามาชมสวน จิรันดน์ ผมไม่ได้คิดที่จะทำร้ายคุณลุงนฤเบศร์ แต่คุณต้องให้ผมไปหานรเทพ ขอแค่เจอนรเทพ ต่อไปพวกเราจะไม่มีความขัดแย้งอะไรกับคุณลุงนฤเบศร์อีกต่อไป”

บวรวิทย์มองเด็กโง่คนนี้ และกล่าวกับเขาอย่างจริงจัง

บนร่างกายของนรเทพนั้นมีไอพิฆาตแน่นหนาเป็นอย่างมาก จิรันดน์ไม่เคยชอบนรเทพเลย นรเทพนั้นมาอาศัยดื่มกินอยู่ที่บ้านของตนเอง แต่ท่าทางที่เขาปฏิบัติต่อพ่อตนเองนั้นไม่ดีเสียเลย

ถ้าบวรวิทย์และคนอื่นๆ สามารถนำตัวนรเทพไปได้ บ้านนี้ก็จะสงบสุขขึ้นมาก

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาตัดสินใจ และพาบวรวิทย์ไปยังห้องลับทันที

ฝั่งรพีพงษ์ที่อยู่กับนฤเบศร์ เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการโจมตีของนฤเบศร์

นฤเบศร์ไม่มีเจตนาดี เมื่อมาถึงห้องหนังสือของนฤเบศร์ ทันใดนั้นในมือของนฤเบศร์ก็ปรากฏกระบี่ขึ้นมา และพุ่งตรงไปที่รพีพงษ์อย่างรวดเร็ว

เกราะป้องกันบนร่างกายทำงานทันที รพีพงษ์ดึงกระบี่สยบเซียนออกมาและยิ้มเยาะเย้ยว่า “ผมคิดแล้วว่า คุณไม่มีเจตนาดีขนาดนั้น”

นฤเบศร์มองกระบี่สยบเซียนที่อยู่ในมือของรพีพงษ์ จากนั้นก็มองกระบี่ที่อยู่ในมือของตนเอง และถามว่า “ทำไมกระบี่เล่มนี้ถึงอยู่ในมือคุณได้?”

“ผมเป็นเจ้านายของมัน มันไม่อยู่ในมือของคนถ่อยอย่างคุณหรอก หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว”

รพีพงษ์โต้กลับ เขาไม่คาดหวังว่าตนเองจะสามารถฆ่านฤเบศร์ได้ ที่ทำนั้นก็เพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น เพื่อให้บวรวิทย์ นันท์ธร และคนอื่นสามารถนำตัวนรเทพมาได้

นรเทพอยู่ในมือของตนเองเท่านั้น ถึงจะทำให้ตนเองสบายใจได้ มิเช่นนั้นตนเองจะไม่สามารถพักได้แม้แต่ชั่วขณะหนึ่ง

กระบี่ส่องประกาย ตอนแรกนฤเบศร์มั่นใจว่าจะสามารถฆ่ารพีพงษ์ได้ แต่ตอนนี้รพีพงษ์มีกระบี่สยบเซียนอยู่ในมือ เป็นการยากที่จะฆ่ารพีพงษ์ได้

“รพีพงษ์ คุณมีพรสวรรค์ที่หายาก ต้องทำอย่างไรคุณถึงจะเป็นคนของตระกูลพิมพ์สาร ถ้าคุณติดตามผม ผมสามารถให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ รวมไปถึงตัวนรเทพ คุณต้องการเอาจิตวิญญาณลูกสาวของคุณกลับคืนไปไม่ใช่หรือ?”

เขากล่าวในขณะที่หลีกเลี่ยงแสงของกระบี่สยบเซียน กระบี่ของเขานั้นไร้แสงประกายเมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่สยบเซียน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท