พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1588 มาจากที่ไหน

บทที่ 1588 มาจากที่ไหน

อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ยังมีคนรู้จักดูทิศทางลม กำลังคิดว่า นฤเบศร์และรพีพงษ์กำลังต่อสู้กันอยู่ จะรู้ได้อย่างไรว่านฤเบศร์จะสามารถออกมาได้หรือไม่?

ถ้านฤเบศร์เป็นคู่ต่อสู้ของรพีพงษ์ตั้งแต่ตอนแรก ก็ไม่จำเป็นต้องพาพวกเขาทั้งหมดมาด้วย ตอนนี้นฤเบศร์ถูกรพีพงษ์พาตัวไปแล้ว และตอนนี้พวกเขาทั้งหมดก็ตกอยู่ในสถานการณ์อกสั่นขวัญหาย

มีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนออกมาและกล่าวว่า “ผมคิดว่านายน้อยพูดถูก ขอแค่นายท่านไม่อยู่ นายน้อยก็คือนายท่านของพวกเรา และพวกเราควรจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของนายท่าน”

จิรันดน์ยิ้มด้วยสีหน้าสบายใจ โดยบอกว่าทุกคนคิดเช่นนั้นจะเป็นการดีที่สุด แต่ถ้าทุกคนไม่เชื่อฟังก็ไม่เป็นไร ตอนสุดท้ายก็อย่ามาโทษตัวเองว่าไร้ความปรานี

บวรวิทย์มองจิรันดน์ด้วยความตื้นตัน เขารู้ว่าจิรันดน์ทุ่มเทให้กับมิตรภาพความเป็นพี่น้องของพวกเขาเป็นอย่างมาก

เขาฆ่านฤเบศร์ได้ แต่เขาจะไม่ทำร้ายจิรันดน์เด็ดขาด

ขอแค่ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาคนใดคนหนึ่งก้าวออกมาพูด คนอื่นที่เหลือก็จะปฏิบัติตามเช่นกัน

ทุกคนจึงถอยออกไป ที่จิรันดน์ให้พวกเขาออกไปเพราะเขาเชื่อว่ารพีพงษ์ไม่สามารถฆ่านฤเบศร์ได้ นอกจากนี้รพีพงษ์ยังเป็นพี่น้องกับบวรวิทย์ หากพ่อของตนเองตกเป็นเบี้ยล่าง รพีพงษ์ก็จะพิจารณาความสัมพันธ์นี้ด้วย เขาจะไม่ลงมืออย่างรุนแรง

หลังจากที่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้นถอยออกไปแล้ว จิรันดน์กล่าวว่า “ห้องลับนี้มีทางออกอยู่สองทาง ตอนนี้ทางออกฝั่งตรงข้ามถูกปิด คุณสามารถใช้ประตูที่พ่อของฉันและคนอื่น ๆ เข้ามา ทางออกนั้นเชื่อมต่อกับห้องหนังสือของพ่อผม ผมจะพาพวกคุณออกไปเอง”

นรเทพไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่มองดูจิรันดน์พาคนออกไป ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างมาก

ทำไมนฤเบศร์ถึงเลี้ยงลูกชายเนรคุณคนนี้?

บวรวิทย์เห็นนรเทพกระวนกระวายใจ กล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณอย่าตุกติก มิฉะนั้นผมไม่แน่ใจว่าคุณจะตายอยู่ในมือของผมหรือไม่”

เมื่อได้ยินการยั่วยุของบวรวิทย์ นรเทพก็จ้องไปที่บวรวิทย์ และกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า “ถ้าคุณมีความสามารถก็ฆ่าผมเลย ขอแค่คุณฆ่าผม ปัญหาทุกอย่างก็จะจบ?”

สำหรับนรเทพ เขายินยอมที่จะตาย แต่ไม่เต็มใจคืนจิตวิญญาณของลูกสาวรพีพงษ์ และคนอย่างรพีพงษ์ไม่ควรมีชีวิตอยู่

อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่ารพีพงษ์นั้นมาจากโลกมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตระดับต่ำเท่านั้น ไม่สามารถเปรียบเทียบกับตนเองได้

ตอนนี้ตกไปอยู่ในมือของพวกรพีพงษ์แล้ว ที่พวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้มันก็ไม่ใช่ความสามารถของรพีพงษ์ ถ้าไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์อย่างปริตร ตนเองก็จะไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

“คิดว่าผมไม่กล้าเหรอ?”

กระบี่ของบวรวิทย์จ่ออยู่ที่คอของนรเทพ และนรเทพยิ้ม “ผมรู้ว่าคุณกล้า แต่ก่อนที่ผมจะตายผมต้องการพบคนคนหนึ่ง คุณสามารถสนองความต้องการของผมได้หรือไม่? ผมจะคืนวิญญาณที่รพีพงษ์ต้องการให้แก่เขา ชีวิตของผมอยู่ในกำมือของพวกคุณแล้ว จะเป็นจะตายก็อยู่ที่การตัดสินใจของพวกคุณ”

คำพูดของนรเทพกระตุ้นให้บวรวิทย์เกิดความสนใจ และประจวบเหมาะที่บวรวิทย์ก็อยากรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

นรเทพยิ้มอย่างมีความหมาย และบอกกับบวรวิทย์ว่าตนเองจะบอกก็ต่อเมื่อออกไปจากที่นี่แล้ว

ทุกคนมาถึงห้องหนังสือของนฤเบศร์พร้อมกัน จิรันดน์เป็นคนพาพวกเขาออกมา และเดินผ่านตาข่ายโดยตรง

ทำยังไงนฤเบศร์ก็คิดไม่ถึงว่า ตาข่ายที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยความอุตสาหะจะถูกทำลาย และถูกทำลายโดยลูกชายของตนเอง

ตอนนี้นฤเบศร์กำลังต่อสู้กับรพีพงษ์ และเขาไม่มีพลังงานมากพอที่จะรักษารูปแบบของตาข่ายไว้ได้ จึงทำให้สามารถมองเห็นตาข่ายได้อย่างง่ายดาย

บวรวิทย์มองจิรันดน์ และยิ้มอย่างจำใจ “ความจริงแล้วพ่อของคุณไม่ได้คิดที่จะปล่อยพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว แต่โชคดีที่มีคุณอยู่”

“ผมขอให้คุณรับปากเงื่อนไขข้อหนึ่ง บวรวิทย์ แล้วผมก็ไม่ต้องการอะไรอีก” จิรันดน์มองบวรวิทย์ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

“เงื่อนไขอะไร?” บวรวิทย์ขมวดคิ้ว เมื่อก่อนจิรันดน์เป็นคนที่มีอะไรก็พูดตามตรง ไม่มีการพูดอ้อมค้อมเลยสักครั้ง

จิรันดน์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และกล่าวตามตรงว่า “พ่อของผมได้ทำเรื่องเลวร้ายไว้มากมาย และผมรู้ว่า พวกคุณนั้นไม่ลงรอยกัน ผมหวังเพียงว่าวันหนึ่งถ้าพ่อของผมอยู่ในกำมือคุณจริงๆ คุณสามารถเห็นแก่หน้าผม แล้วไว้ชีวิตเขา เมื่อก่อนเขาไม่ใช่คนแบบนี้ น่าจะเป็นเพราะวรยุทธที่ฝึกนั้นควบคุมจิตใจของเขา”

บวรวิทย์ยิ้มอย่างจาง ๆ และกล่าวว่า “ไม่ว่าพ่อของคุณจะทำเรื่องอะไร ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ ถ้าหากมีวันนั้นจริง ผมจะจำคำพูดของคุณไว้ พ่อของคุณก็ถือเป็นญาติผู้ใหญ่ของผมด้วย ผมจะไม่ทำอะไรเกินไป”

ความจริงแล้วสิ่งที่บวรวิทย์พูดนั้นเป็นการปลอบใจตนเองมากกว่า เขาแค่ต้องการให้จิรันดน์รู้สึกสบายใจเท่านั้น

บวรวิทย์และรพีพงษ์อยู่ในแนวรบเดียวกันมานานแล้ว พวกเขากับนฤเบศร์นั้นก็เข้าทำนองถ้าคุณตายผมก็รอด มีเพียงการดำรงอยู่ของคนใดคนหนึ่งเท่านั้น

เว้นแต่ว่าวันหนึ่ง ผลการฝึกตนของนฤเบศร์มลายไปแล้ว และไม่เป็นภัยคุกคามต่อรพีพงษ์และบวรวิทย์ นฤเบศร์ถึงจะสามารถมีชีวิตรอดได้

ไม่มีเหตุผลอื่นใด นฤเบศร์ก็ไม่ใช่คนที่สามารถอยู่นิ่งได้ การฆ่าเขาสามารถแก้ปัญหาได้มากมาย

นรเทพทนดูไม่ไหว จึงเยาะเย้ยว่า “ช่างโง่เขลานัก เป็นศัตรูที่ถ้าคุณตายก็คือผมรอด ไอ้เด็กเปรตคิดว่าเมื่อถึงวันนั้น พ่อของคุณจะมีทางรอดหรือ? ตั้งแต่โบราณว่าไว้ ตัดหญ้าต้องถอนโคน คุณในฐานะลูกชายก็ไม่มีจุดจบที่ดีหรอก ทุกอย่างที่คุณมีตอนนี้ก็เพราะพ่อของคุณ คุณเป็นคนธรรมดา คุณคิดว่าจะมีสักกี่คนที่จะเห็นคุณอยู่ในสายตา ตอนนี้คุณทรยศพ่อตนเอง ผมไม่เคยเห็นคนแบบคุณมาก่อนเลยจริง ๆ”

นรเทพพูดความไม่พอใจของตนเองออกมา แล้วปัณฑาก็เตะนรเทพอย่างแรง ทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก

ปัณฑาดุด่าว่า “คุณหุบปากซะ พวกเขาสองคนนับถือเป็นพี่น้องกัน คนนอกอย่างคุณมีสิทธิ์อะไรมาแทรกแซงเรื่องระหว่างพี่น้อง?”

สายตาของนรเทพมองไปที่ปัณฑา แล้วยิ้มอย่างมีความหมายว่า “ภูตน้อย เวลาอะไรมันดีขึ้นแล้ว ก็ลืมว่าตอนนั้นเจ็บปวดแค่ไหน คุณคิดว่า ถึงแม้ผมจะตายไปแล้ว เผ่าภูตของพวกคุณก็จะสามารถกลับมาที่เทวโลกได้หรือ?”

สีหน้าของปัณฑาเปลี่ยนไป นรเทพพูดอะไรไม่พูด แต่ดันพูดถึงเรื่องนี้?

ปัณฑาใช้มือสองข้างเท้าสะเอว รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ความสง่านั้นแพ้ให้กับนรเทพไม่ได้ เพราะตอนนี้นรเทพเป็นแค่หุ่นเชิดเท่านั้น

ปัณฑาตอบว่า “ไม่ว่าจะกลับมาได้หรือไม่ก็ตาม ตอนนี้ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว แล้วคุณจะทำอะไรกับฉันได้ ตอนนี้ตนเองก็ยังไม่สามารถเอาตัวรอดได้ และคุณจะยุ่งเรื่องคนอื่นทำไม?”

ขณะพูด ปัณฑาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงตอนที่ตนเองอยู่ในป่าหมอก นรเทพสามารถฆ่าคนได้อย่างง่ายดาย เรื่องราวเปลี่ยนแปลงรุ่งเรืองตกต่ำไม่แน่นอน ไม่คิดว่าตอนนี้นรเทพจะตกอยู่ในกำมือของพวกเขา

นรเทพมองไปที่ปัณฑา และคิดอยู่ในใจว่า บางทีอาจจะสามารถลงมือจากตัวปัณฑาได้

หากจุดยืนของปัณฑาสั่นไหว และเธอเป็นคนที่พวกรพีพงษ์ไว้วางใจมากที่สุด การลงมือนั้นก็ไม่ยาก

นรเทพจ้องไปที่บวรวิทย์ชั่วขณะหนึ่ง มันไม่สามารถพูดต่อหน้าพวกเขาได้ เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับเผ่าภูต และภูตน้อยก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่หวั่นไหว

ผลินเดินไปด้านข้างปัณฑาและถามอย่างสงสัยว่า “พวกคุณมาจากไหน และทำไมนรเทพถึงพูดอย่างนั้น?”

ปัณฑาโบกมืออย่างรำคาญ แล้วกล่าวว่า “พูดไปแล้วคุณก็ไม่รู้ อย่าถามเลย เมื่อก่อนฉันเคยอยู่ที่เทวโลกมาก่อน และจากไปหลังจากมีบางอย่างเกิดขึ้น ถ้ามีโอกาสฉันจะเล่าให้คุณฟัง”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท