พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1591 คู่อาฆาตที่ไม่ทราบที่มาที่ไป

บทที่ 1591 คู่อาฆาตที่ไม่ทราบที่มาที่ไป

รพีพงษ์มองย้อนกลับไปโดยไม่รู้ตัว พร้อมขมวดคิ้วแน่น เขาคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว ทำไมยังมีคนสะกดรอยตามตัวเองอีก

คนที่สะกดรอยตามเขาเป็นใครกัน เขาพูดกล่าว : “ฉันประมาทแล้ว ดูเหมือนว่าต้องระวังตัวตลอดเวลาแล้ว”

“ไม่ใช่ ที่คุณมาก็เพราะเรื่องของลูกสาวคุณใช่ไหม?”

“ผลการฝึกตนของฉันยกระดับขึ้นแล้วหนึ่งขั้น เพียงแค่ฉันไม่รู้ว่าจะบีบบังคับเอาวิญญาณออกมาได้อย่างไร อาจารย์ธิป ฉันไม่รู้จะไปหาใครแล้ว”

รพีพงษ์เพื่อหนูลิน เขารู้สึกว่าไม่ว่าอะไรตัวเองก็สามารถทุ่มเทให้ได้ทั้งนั้น นี่คือหัวใจของคนเป็นพ่อ

นราธิปยิ้ม : “ฉันรู้ว่าคุณเป็นกังวล แต่ใช่ว่าจะแก้ไขไม่ได้ ตอนนี้ไม่ควรที่จะคิดอะไรมากขนาดนั้น ฉันเคยบอกแล้วว่าจะช่วยคุณ คุณไม่เชื่อฉันเหรอ?”

นราธิปรูปว่าในใจของรพีพงษ์คิดยังไง ไม่มีอะไรมากก็แค่ไม่อยากติดหนี้บุญคุณคนอื่นเยอะ

แต่ว่าไม่อยากติดหนี้บุญคุณก็ติดหนี้บุญคุณแล้ว จะน้อยจะมากมันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ทุกเรื่องราวไม่สามารถทำสำเร็จได้เพียงคนเดียว ขอเพียงแค่ทุกคนพร้อมใจทำงานร่วมกัน

ก็เหมือนกับที่ต้องบีบวิญญาณของนรเทพออกมา ทำให้วิญญาณของนรเทพและวิญญาณของหนูลินแยกออกจากกัน การแยกออกจากกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สิ่งที่ต้องการไม่เพียงแค่ผลการฝึกตนเท่านั้น

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจคุณ อาจารย์ธิป ความกังวลของคนเป็นพ่อ ฉันเชื่อว่าคุณน่าจะเข้าใจดี”

“ได้ คุณไปหาของสิ่งหนึ่ง หากหาเจอฉันจะไปนำวิยญาณของหนูลินออกมาแทนคุณเอง” ไม่ช้าก็เร็วนราธิปก็จะต้องช่วย สู้พูดถึงเรื่องนี้ในกำหนดการเลยดีกว่า

รพีพงษ์เอ่ยถาม : “ของอะไรเหรอ?”

คิดได้เรียบร้อยแล้ว สิ่งของที่นราธิปให้ตัวเองไปหา จะต้องหายากแน่นอน

“ต้นคงจิต ของเพียงแค่หาของสิ่งนี้เจอ เมื่อบีบวิญญาณของนรเทพออกมาก็จะไม่ทำให้บาดเจ็บถึงวิญญาณของลูกสาวของคุณ” นราธิปพูดอธิบาย

รพีพงษ์ไม่ค่อยคุ้นชินกับสวรรค์ แต่ว่าก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย ก่อนหน้านี้ปัณฑาเคยอยู่บนสวรรค์มาไม่น้อย แล้วก็เป็นภูติในหุบเขา น่าจะรู้ว่าของสิ่งนี้อยู่ที่ไหน

รพีพงษ์เพิ่งจะตอบรับปาก นราธิปพูดกล่าว : “ต้นคงจิตหนึ่งปีถึงจะงอกออกมาหนึ่งก้าน จะหาเจอนั้นกลับว่าไม่ได้ง่ายดายเลย ขึ้นอยู่กับความโชคดีของคุณ”

รพีพงษ์พยักหน้า เพื่อหนูลิน ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟหรือลำบากมากแค่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงแค่ให้ลูกปลอดภัยดีเท่านั้น

นอกจากนี้แล้ว ไปที่ในถ้ำที่นราธิปจัดไว้ให้กับปริตร ปริตรก็แปลกประหลาดใจ อยู่ในวิหารดีๆไม่ยอมอยู่ ชอบมาอยู่ในถ้ำ

ปริตรก็ยังคงเป็นดั่งเช่นเมื่อก่อนเอาหุ่นเชิดที่ควบคุมด้วยกลไกเหล่านั้นเล่นอยู่ในมือ เห็นรพีพงษ์เดินเข้ามา ยิ้มพร้อมพูดว่า : “ฉันคิดว่าคุณจะไม่มาที่ภูเขาสองกระบี่แล้วซะอีก ถึงอย่างไรท่านรพีพงษ์ก็จะต้องไปแล้ว”

“ที่ฉันมานอกจากมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ธิป แล้วก็ยังมาหาคุณด้วยนะ”

รพีพงษ์นั่งอยู่บนหินก้อนใหญ่อย่างไม่มีความเกรงใจแม้แต่น้อย ในถ้ำแห่งนี้มีทั้งลำธารและน้ำพุปริตรใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

“ต้องการให้ฉันช่วย?” ปริตรขมวดคิ้ว พูดกล่าว “พรสวรรค์ในการฝึกตนของคุณอยู่ระดับสูง ฉันก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ไม่มีผลฝึกตนอะไร จะช่วยอะไรคุณได้?”

รพีพงษ์ไอออกมาสองครั้งอย่างเก้ๆกังๆ คำพูดนี้ทำให้ตัวเองอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี

รพีพงษ์เอ่ยปากชื่นชมปริตรต่อ : “คนที่มีผลการฝึกตนแบบพวกเราเมื่ออยู่ในกำมือของนรเทพสามารถถูกเขาเหยียบให้ตายคาตีนได้ตลอดเวลา แต่นรเทพพ่ายแพ้ในมือของคุณ นี่มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผลการฝึกตนมากเท่าไหร่”

ปริตรยิ้มอย่างเบาๆ คนที่ฉลาดเฉกเช่นเขา จะไม่รู้ความคิดในใจของรพีพงษ์ได้อย่างไรล่ะ?

แต่ว่า กลยุทธ์นี้จะให้คนอื่นเรียนรู้ไม่ได้ และก็ใช่ว่าใครจะมีความสามารถที่จะเรียนรู้ได้ ส่วนกลยุทธ์ในตัว เขาก็ไม่ได้คิดที่จะให้ใคร

เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง หากเขาจะต้องเอากลยุทธ์ออกมาก็ต้องพิจารณาถึงบุคลิกลักษณะของคนๆนั้นด้วย จะสะเพร่าไม่ได้

เขาวางสิ่งของที่อยู่ในมือ พูดเข้าประเด็น : “ฉันรู้ว่าคุณมาทำอะไร แต่ว่าฉันไม่มีทางที่จะสอนกลยุทธ์ให้คุณหรอกนะ”

รพีพงษ์พยักหน้าแล้ว และก็ไม่ได้ถามถึงเหตุผล คนเขาไม่ถ่ายทอดให้คนนอกจะต้องมีเหตุผลที่ไม่ถ่ายทอดให้คนนอกอย่างแน่นอน ไม่ว่ายังไง ทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนกัน

เขายิ้มเบาๆ พูดกล่าว : “พวกเราเป็นเพื่อนกัน ฉันเข้าใจคุณได้”

ปริตรถามถึงสถานการณ์ของนรเทพอย่างง่ายๆครู่หนึ่ง เขาอยากไปที่เมืองแฟรี่เพื่อดูว่าตระกูลเยอซอเป็นอย่างไรบ้าง ตอนที่รู้ว่าผลการฝึกตนของนฤเบศร์ถูกรพีพงษ์ทำลายแล้ว ในใจมีความสุข

เขาทำความชั่วไว้มากมาย ควรจะมีจุดจบแบบนี้ตั้งนานแล้ว

ปริตรเป็นคนที่ใช้ชีวิตบนสวรรค์เป็นเวลานาน รพีพงษ์พูดถึงเรื่องต้นคงจิตขึ้นมา คิดว่าปริตรจะต้องรู้เรื่องบ้างแหละ

“วันนี้ฉันต้องการต้นคงจิตเพื่อช่วยลูกสาวของฉัน คุณอ่านหนังสือมามากมาย รู้หรือไม่?”

ต้นคงจิตสามคำนี้เหมือนว่าปริตรจะเคยอ่านเจอมาก่อนนะ เขาหลับตาเพื่อระลึกความทรงจำครู่หนึ่ง พูดกล่าวกับรพีพงษ์ว่า : “สิ่งของชิ้นนี้หนึ่งปีจะงอกออกมาหนึ่งก้าน อยู่ที่จุดสูงสุดของภูเขาหิมะซีหลิงบนสวรรค์ มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี มีปีศาจหิมะออกมาหลอกหลอน ถึงคุณไปก็ใช่ว่าจะได้มันมา”

ปริตรไม่กลัวที่จะโจมตีคน บอกว่าสัตว์ประหลาดหิมะที่นั่นสุดยอดมาก คอยคุ้มครองอยู่บนเขาหิมะ

อีกอย่างระยะเวลาการเจริญเติบโตของต้นคงจิตมีเพียงสองร้อยปี จะเจอหรือไม่นั้นล้วนแต่ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้ว

นั่นเป็นความหวังเดียวของรพีพงษ์ รพีพงษ์จะยอมแพ้ไม่ได้ นราธิปก็พูดแล้ว มีเพียงแค่วิธีการเดียวเท่านั้น

คิดมาถึงตรงนี้ บอกลานราธิปและปริตร ออกจากภูเขาสองกระบี่

คนที่ติดตามอยู่เบื้องหลังของเขาไม่เคยลงมือจัดการเลย เขารู้สึกงง ตอนที่ใกล้จะถึงเมืองแฟรี่ คนกว่าเจ็ดแปดคนห้อมล้อมเขาไว้แล้ว

พี่ใหญ่ที่นำมาคนแรกพูดกล่าว : “แกคือรพีพงษ์ใช่ไหม?”

“ฉันไม่รู้จักพวกแก ไม่ได้เป็นศัตรูคู่แค้นกัน นี่พวกแกจะทำอะไร?”

“แกทำร้ายคนของพวกเรา จะพูดว่าไม่ได้เป็นคู่แค้นกันได้ยังไง?” พี่ใหญ่ที่เป็นผู้นำนั้นขมวดคิ้ว “แกจะฆ่าตัวตายเอง หรือว่า……”

รพีพงษ์อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา นี่ยังไม่เริ่มลงมือ ไอ้หมอนี่ก็พูดจาโอหังแล้ว

รพีพงษ์ไม่พูดอะไร กวาดสายตาไปมองคนเหล่านั้น สายตาหยุดไปที่ตัวของพี่ใหญ่ที่นำทีมมา พูดกล่าว : “แล้วถ้าฉันไม่ยินยอมฆ่าตัวตายล่ะ?”

“ถ้าหากเราลงมือ ก็ไม่รับประกันว่าศพของแกจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์นะ”

“พี่ใหญ่ ไม่ต้องพูดจาไร้สาระ จัดการไอ้สารเลวนี้เลยเถอะ ก็จะกลับไปรายงานการปฏิบัติภารกิจ”

ชายอ้วนที่อยู่ข้างกายของพี่ใหญ่พูดกล่าว พี่ใหญ่ยักๆไหล่ เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง : “ส่งเขาไปลงนรกแบบง่ายๆอย่างนี้น่าเบื่อจะตายไป บนโลกมนุษย์มีการถลอกหนังคนด้วย 5ม้าแยกศพ เมื่อพูดอย่างนี้ ไม่ยอมที่จะฆ่าตัวเองตาย สามารถใช้วิธีการทรมานที่วิจัยออกมาบนโลกมนุษย์ ได้ ท่านสาม คุณว่าบทลงโทษในโลกนี้มีอะไรที่น่าสนใจยิ่งกว่าไหม?”

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ทำไมถึงได้เข้าใจเรื่องในโลกมนุษย์ชัดเจนขนาดนั้นล่ะ สรุปว่าพวกเขามาจากที่ไหนกันแน่?

ในใจของรพีพงษ์สาดส่องเงาร่างของหนูลินและอารียา นัยน์ตารวบรวมกลิ่นอายสังหารณ์ พูดถามอย่างเยือกเย็น : “พวกแกมาจากที่ไหน มีจุดประสงค์อะไร เพียงแค่ฆ่าฉันแค่นั้นเหรอ?เจ้านายเป็นใคร แม้ว่าจะให้ฉันฆ่าตัวตาย ก็ต้องให้ฉันตายอย่างเข้าใจทุกอย่าง พวกแกว่าใช่ไหมล่ะ? ”

พี่ใหญ่ที่นำทีมมาเห็นสีหน้าแววตาของรพีพงษ์ มีความรู้สึกประสบความสำเร็จอย่างมาก หัวเราะเยาะรพีพงษ์ : “ที่โลกภายนอกร่ำลือกันว่าสุดยอด ฉันดูแล้วก็แค่นี้เอง แกไม่ต้องเป็นกังวลที่ไม่รู้ตัวตนของพวกเราหรอกนะ มาถึงขุมนรกแล้ว แกก็ถามยมบาลเอาแล้วกัน”

ผู้นำทีมมองไปยังกลุ่มคน พูดออกคำสั่ง : “ลงมือ!”

ทั้งสามสี่คนก็ก่อสร้างค่ายกลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ห้อมล้อมรพีพงษ์ไว้……

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท