พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1599 ขากลับ

บทที่ 1599 ขากลับ

เสียงของสัตว์ประหลาดหิมะดังสนั่นมาก พูดตำหนิว่า : “วันนี้แกกอบโกยผลประโยชน์เข้าตนเอง แม้แต่เจ้านายของตัวเองเป็นใครก็ลืมไปหมดแล้ว ฉันไม่มีทางเป็นแบบแกได้ แต่ว่าแกจะต้องเสียใจภายหลังที่ทำกับฉันทั้งหมดในวันนี้ เจ้านายกลับมาแล้วจะต้องฆ่าแกแน่ งั้น ฉันก็จะได้อยู่ภูเขาหิมะนี้อย่างมีอิสรเสรี”

ตอนที่สัตว์ประหลาดหิมะพูดอยู่นั้นก็พบว่ามีสาวน้อยคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลัง หันหน้ากลับมามองเธอพร้อมเอ่ยถามว่า : “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

“ฉันเป็นคนของรพีพงษ์ ที่มาก็เพื่ออยากจะมาบอกความจริงกับแก เจ้านายของแกถูกรพีพงษ์ควบคุมไว้อยู่จริงๆ และแกก็ด้อยกว่ารพีพงษ์มาก ถ้าหากมาพูดจาไร้สาระกับฉันที่นี่ รพีพงษ์ก็คงชนะแกแน่”

สัตว์ประหลาดมองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง คำพูดนี้ไม่ผิดเลย แต่ว่าที่เดิมพันกับรพีพงษ์ก็เป็นเพียงการตัดสินใจโดยใช้อารมณ์ อย่างแรกเขาคิดว่าตัวเองไม่มีทางแพ้แน่ อย่างที่สองแม้ว่าตัวเองแพ้แล้ว ก็ไม่ต้องทำตามสัญญาเลย

ทำงานภายใต้การดูแลของนรเทพ เรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว ไม่มีอะไรให้น่าแปลกใจ ขอเพียงแค่สุดท้ายเป็นผู้ชนะ จะมีใครไปสนใจกระบวนการอีกละ?

“แพ้แล้วยังไงกันเชียว?ต้นคงจิตที่เขาถืออยู่ในมือ ฉันก็สามารถเอากลับมาได้ สรุปแล้วเขาก็ไม่สามารถออกไปจากภูเขาหิมะได้”

ปัณฑาเห็นท่าทางที่ภาคภูมิใจมากของสัตว์ประหลาดหิมะ พูดตำหนิว่า : “เป็นอย่างที่คิดไว้เจ้านายเป็นแบบไหน ก็ทาสรับใช้เป็นแบบนั้น แกก็ไม่มีความน่าเชื่อถือเหมือนกับเจ้านายของแก เจ้านายของแกใกล้จะตายแล้ว ถ้าแกไม่เชื่อก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว”

รพีพงษ์ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดกันไปโดยปริยาย แต่ว่าก็ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อรพีพงษ์ได้

เป้าหมายสุดท้ายของเขาก็คือนำต้นคงจิตนั่นมาอยู่ในกำมือของตัวเองให้ได้ ขอเพียงแค่ตัวเองเอาสิ่งของนี้มาได้ ต่อให้คนอื่นจะมีความสามารถมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางแย่งของสิ่งนี้ไปจากมือของตัวเองได้

ส่วนที่ว่าพวกเขาพูดอะไรนั้น สัตว์ประหลาดหิมะจะรักษาคำพูดหรือไม่นั้น ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญเลย

รพีพงษ์กำลังจะถึงยอดเขาของภูเขาหิมะแล้วในอีกไม่ช้า ยื่นมือไปเก็บต้นคงจิตนั่น ถูกแทงอย่างแรงครู่หนึ่ง เขาขมวดคิ้วแน่น นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

เขารู้ว่าปีศาจหิมะกำลังมองมาที่ตัวเองอยู่ เปล่งเสียงพูด ขอความช่วยเหลือปีศาจหิมะ : “สาวน้อย ทำไมของสิ่งนี้ฉันถึงเอามาไม่ได้?”

ยัยหิมะก็กำลังมาทางนี้ ต้นคงจิตใช่ว่าจะเอาไปได้ขนาดนั้น บนภูเขาหิมะแห่งนี้ นอกจากตัวเองที่สามารถเอามาได้แล้ว คนที่เอาได้อีกคนก็คือสัตว์ประหลาดหิมะ

รพีพงษ์เพิ่งจะพูดออกมา ยัยหิมะก็มาถึงอย่างรวดเร็ว พูดกล่าว : “ต้นคงจิตนี้ล้ำค่ามาก ด้านในถูกร่ายมนตร์สะกดไว้ ฉันช่วยคุณเอง!”

ยัยหิมะพูดแล้วก็ลอยไปเลย คนนอกมาถึงที่นี่ ไม่สามารถเอาวรยุทธใดๆออกมาใช้ได้ แต่ผู้เฝ้าภูเขาหิมะสามารถทำได้

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่นรเทพกำหนดขึ้นมาตอนที่ตั้งกฎ สัตว์ประหลาดหิมะได้ยินยัยหิมะพูดว่าอยากจะช่วยเหลือ สีหน้าเคร่งขรึมปล่อยพละกำลังทั้งหมดในตัวออกไปขัดขวางยัยหิมะไว้

วันนี้ขอเพียงแค่ยัยหิมะลงมือจัดการ พวกเขาร่วมมือกันจัดการตัวเอง ตัวเองจะต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาแน่นอน

จะยอมรับความพ่ายแพ้แบบนี้จริงๆเหรอ?

เขาไม่เต็มใจอย่างมาก ทำได้เพียงพูดตำหนิยัยหิมะ : “ตอนนั้นเจ้านายมองแกผิดไปจริงๆ”

ยัยหิมะไม่ได้สนใจเขาเลย ช่วยรพีพงษ์เอาต้นคงจิตนั่นมาแล้ว หลังจากนั้นก็ร่วมมือกับรพีพงษ์โจมตีสัตว์ประหลาดหิมะ

รอวันนี้ เธอไม่รู้ว่าตัวเองรอมากี่ปีแล้ว วันนี้มีโอกาส สัตว์ประหลาดหิมะตกมาอยู่ในกำมือของตัวเองแล้ว ไม่มีทางที่จะยอมปล่อยไอ้หมอนี่ไปง่ายๆแน่นอน

หลายปีมานี้เป็นศัตรูกับเธอมาโดยตลอด ตอนนี้เขาไม่มีความสามารถที่จะเป็นศัตรูกับตัวเองได้แล้ว แต่ยังคงสาบานที่จะจงรักภักดีต่อนรเทพไปจนตาย ที่นี่ล้วนเป็นศัตรูของนรเทพ เขาไม่ตายแล้วใครจะตายล่ะ?

ทุกคนร่วมมือกันจัดการสัตว์ประหลาดหิมะ สามารถจัดการสัตว์ประหลาดหิมะได้อย่างรวดเร็ว รพีพงษ์ไม่สนใจพลังเทพน้อยนิดนั่นของสัตว์ประหลาดหิมะเลย นำสิ่งที่อยากได้มาไว้ในมือ เขาก็เร่งรีบที่จะกลับไป

ตอนที่เจอกับผลิน เขาค่อนข้างประหลาดใจ คิดว่าคนที่มามีเพียงปัณฑาคนเดียวเท่านั้น ผลินเห็นรพีพงษ์ปลอดภัยดี ยิ้มไม่หุบเลย

“ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าคุณจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน พวกเขาล้วนแต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ ตอนนี้ดีแล้ว พวกเรากลับไปกันได้แล้ว”

“ฉันให้พวกคุณอยู่ที่ตำหนักอ๋องกันดีๆ ไม่มีใครเชื่อฟังเลย พวกคุณมาที่นี่กันหมด บวรวิทย์เป็นกังวลมากแค่ไหน?”

รพีพงษ์ไม่ได้คิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดี บวรวิทย์ได้รับความไว้วางใจจากผู้อื่น วันนี้พวกเขาไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ถ้าหากเป็นอะไรขึ้นมา บวรวิทย์ก็คงจะไม่สบายใจไปตลอดชีวิต

คิดมาถึงตรงนี้ รพีพงษ์ก็กลอกตามองบนให้กับปัณฑาแวบหนึ่ง

ปัณฑาไม่เคยแสดงความอ่อนแอต่อหน้ารพีพงษ์มาก่อนเลย พูดกล่าว : “ที่มาที่นี่ก็เพราะว่าเป็นห่วงคุณไง มีเพื่อนอย่างคุณก็ช่างไม่มีสัจจะเกินไปแล้ว พูดกันไว้แล้วว่าไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนจะพาพวกเราไปด้วย คุณกลับว่าทิ้งฉันไว้เพียงคนเดียว ยังเห็นว่าฉันเป็นเพื่อนอยู่ไหม?”

เดิมทีรพีพงษ์จะต้องลงโทษผู้ที่มีความผิด แต่เมื่อได้ยินเจ้าตัวเล็กนี่พูดแบบนี้ รู้สึกว่าค่อนข้างมีเหตุผล ตัวเองไม่มีสัจจะพอจริงๆ ทิ้งเธอเอาไว้

เรื่องนี้ทำลวกๆแบบขอไปทีได้ก็ทำแบบขอไปทีก็พอแล้ว ทุกคนไม่ว่าใครก็ไม่ต้องพูดถึงอีก

ผลินที่อยู่อีกฝั่งร้องไห้ออกมาอย่างได้รับความไม่เป็นธรรม : “สถานที่ที่ไม่มีคุณล้วนแต่ไม่ปลอดภัยทั้งนั้น ขอเพียงแค่เป็นที่ที่มีคุณก็จะมีฉัน คุณก็เคยรับปากแม่ฉันแล้ว ว่าจะดูแลฉันไปทั้งชีวิต”

“พอๆๆๆ พวกคุณพูดถูกทั้งหมด ฉันควรจะพาพวกคุณไปด้วยโอเคไหม?”

รพีพงษ์ถือของไว้ในมือ อารมณ์ดี กำลังอยู่ระหว่างทางกลับไป แต่ยัยหิมะก็ไล่ตามมาจากด้านหลัง

เธอเพิ่งจะดูดซับพลังทิพย์ของสัตว์ประหลาดหิมะเสร็จเรียบร้อย พลังเทพในร่างกายก็อุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

“ฉันไม่มีที่ไป วันนี้ได้เจอพวกคุณ ไม่ว่ายังไงก็จะปล่อยให้พวกคุณจากไปแบบนี้ไม่ได้ เว้นแต่ว่าพวกคุณจะพาฉันไปด้วย”

รพีพงษ์ตกใจ พูดกล่าว : “คุณจะไปพร้อมกับพวกเรา คุณไม่กลัวว่าจะเจอเจ้านายเก่าของคุณเหรอ เขาไม่ใช่คนที่มีความเมตตาอะไรนะ”

“ไม่ใช่พูดว่าเขาถูกควบคุมอยู่ในกำมือของพวกคุณแล้วเหรอ?ถ้าเป็นแบบนั้นต่อให้เขามีทักษะมากแค่ไหนก็ทำอะไรฉันไม่ได้”

ยัยหิมะพูดแล้ว มองไปยังรพีพงษ์อย่างเลื่อมใสมาก ถามรพีพงษ์ตอนที่ต่อสู้กับเธอก่อนหน้านี้ ตั้งจอ่อนข้อให้เธอใช่ไหม?

รพีพงษ์รู้ ตัวเองมีความสามารถมากแค่ไหน แต่กลับว่าไม่เคยพูดโอ้อวดเกินจริง ตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยัยหิมะจริงๆ

ยัยหิมะและพวกเขาเดินทางมาถึงเมืองแฟรี่ ทิวทัศน์ระหว่างทางทำให้ยัยหิมะมีความสุขมาก เธออยู่ที่ภูเขาหิมะมาตลอดปี ข้างนอกเป็นยังไงเกือบจะลืมไปหมดแล้ว

ได้ออกมาอีกครั้ง มีความสุขมาก

รพีพงษ์ให้ความสำคัญกับทุกอย่างของเมืองแฟรี่ ยิ่งไปกว่านั้นก็จะลูบจับที่แหวนเก็บสิ่งของล้ำค่าอยู่บ่อยๆ เขานำต้นคงจิตไปเก็บไว้ในแหวนเก็บสิ่งของ กลัวว่าของจะหล่นหายไป

ถึงตระกูลภูสรีดาวแล้ว บวรวิทย์เป็นคนแรกที่พุ่งเข้ามาด่าว่าปัณฑาและผลินยกใหญ่

ปัณฑามองไปยังบวรวิทย์อย่างไม่ได้รับความธรรม พูดกล่าว“จริงๆก็ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ตอนนี้เราก็กลับมากันแล้วไม่ใช่เหรอ ทุกคนล้วนแต่สบายดี ทำไมต้องจับจ้องแต่เรื่องนี้ไม่ยอมปล่อยล่ะ ทำให้ฉันคิดว่าคุณจะพุ่งเป้ามาที่ฉันยังไงอย่างนั้น ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นคนข้างกายของรพีพงษ์ รพีพงษ์เป็นพี่ชายคุณ ฉันก็ต้องเห็นแก่หน้านะ”

รพีพงษ์อยู่อีกฝั่ง ไม่ว่าพวกเขาพูดอะไรก็แสร้งทำว่าไม่ได้ยิน เทวเทพที่อยู่อีกฝั่งได้ยินว่ารพีพงษ์กลับมาแล้ว นอกจากตกใจแล้วยังชื่นชมมากด้วย

หากรพีพงษ์ไม่กลับมา ตระกูลภูสรีดาวก็ใกล้จะประคองไม่ไหวแล้ว!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท