Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 224

ตอนที่ 224

ตอนที่ 224 หนึ่งเดือน
หนึ่งวัน.สองวัน.สามวัน …
หวังเสียนไม่รู้ว่าตัวเขานั้นใช้เวลาบ่มเพาะมานานแค่ไหน ด้วยการ
ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เขาแทบจะไม่สามารถติดตามการดูดซับพลังงาน
ของต้นไม้จุดกำเนิดได้ทันเลย
กวนชูชิง, เสี่ยวหยู และ หลานชิงเยว่ พวกเธอต่างอาศัยอยู่ภายในวิล
ล่าแห่งนี้และจะเข้ามาเฝ้าดู หวังเสียน กันวันละหลายครั้ง
ถ้าไม่ใช่เพราะ หวังเสียน ยังคงมีประกายพลังงานแห่งชีวิตที่หนาแน่น
อยู่และมีคำเตือนจากโม่ชิงหลงที่คอยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ พวกเธออาจจะส่ง
หวังเสียน ไปโรงพยาบาลแล้วก็ได้
หลังจากผ่านมาประมาณ 25 วันหมอซันก็ตื่นมา
เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็ปรากฏภาพเงาทับซ้อนของมังกรศักด์ิสิทธ์ิแห่ง
แสง ขึ้นบนท้องฟ้า มันชูคอแหงนหน้าคำรามจนบรรยากาศ
สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปหมด พร้อมกับมีแรงกดดันน่ากลัวออกมา
จากร่างกายของเธอ แต่ภาพปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเวลาไม่นาน
นักและไม่มีใครทันสังเกตเห็นมันได้
ด้วยความที่รู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจนัก กวนชูชิงและหลานชิงเยว่ ได้
ขอให้หมอซันกลับไปที่บ้านของเธอก่อน แต่หมอซันปฏิเสธในทันที
เธออาศัยอยู่ในวิลล่าและคอยเฝ้าหวังเสียน อยู่ในห้องตลอดทั้งวัน
พร้อมกับนั่งจ้องมองดูเขาอยู่อย่างเงียบ ๆ
ในบางครั้งเธอจะใช้ผ้าขนหนูเพื่อเช็ดทำความสะอาดที่ใบหน้าของ
เขา และในขณะเธอที่ทำเช่นนั้นเธอมักจะมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มและ
แสดงออกมาอย่างมีความสุข
ร่างกายของเธอมีประกายแสงบาง ๆ ออกมาตลอดเวลา ความศักด์ิสิทธ์ิ
และความสูงส่งที่ทำให้ใคร ๆ ต่างก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ควรอยู่ใน
ดินแดนมรรตัยร่วมกับคนธรรมดา เธอสมควรจะอยู่เหนือโลกีย์วิสัย
ซึ่งเป็นแดนสวรรค์ชั้นฟ้าเสียมากกว่า
ด้วยความอดทนและความอ่อนโยนของหมอซัน ทำให้ กวนชูชิง และ
หลานชิงเยว่ นั้นรู้สึกถึงอันตรายเป็นอย่างมากมันเป็นสัญชาตญาณ
ของผู้หญิงที่มีต่อคนที่พวกเธอรัก แต่ด้วยความอ่อนโยนและความ
เรียบร้อยของหมอซัน ทำให้หญิงสาวทั้งสองคนทำอะไรไม่ถูก
เช่นเดียวกัน
ในห้องของ หวังเสียน หนึ่งเดือนต่อมา
หมอซันจ้องมองไปที่หวังเสียน ด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
ในขณะที่โม่ชิงหลงยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างนิ่งเงียบ
แต่ปฏิกิริยาที่เขามองไปทางหมอซันเต็มไปด้วยความเคารพและยำ
เกรง
“เฮ้อ!…ในที่สุดมันก็หยุดการดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณเสียที!”
ในขณะนี้หวังเสียนได้ลืมตาขึ้นและถอนหายใจออกมาด้วยความ
โล่งอก
“หมอเทวะหวังคุณตื่นขึ้นมาแล้ว!”
เสียงที่ไพเราะดังขึ้นที่ข้างหูของเขา หวังเสียน ต+
-กใจเล็กน้อยเขาจึงรีบหันไปมองในทันที
ใบหน้าที่สวยงามและสมบูรณ์แบบปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาที่
สดใสของเธอจ้องมองมาที่ หวังเสียน อย่างร้อนแรง
หวังเสียน รู้สึกแปลกใจเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงออร่าบนร่างกายของเธอ
ที่เปลี่ยนแปลงไป และเขาก็รู้สึกว่าหมอซัน นั้นดูสวยขึ้นเป็นอย่าง
มากเลยทีเดียว “หมอซันคุณฟื้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่!”
“ฉันต้องขอบคุณหมอเทวะหวังเป็นอย่างมากที่ได้ให้การช่วยเหลือ
ชีวิตฉันไว้ ต่อไปนี้หมอเทวะหวังสามารถเรียกฉันว่า หลิงซิ่ว ก็ได้
ค่ะ!”
ด้วยรอยยิ้มราวกับเทพธิดาบนใบหน้าของซุนหลิงซิ่ว เมื่อเธอเห็นว่า
หวังเสียน กำลังจะลุกขึ้นเธอก็รีบเอื้อมมือออกไปพยุงร่างของเขาไว้
“ไม่เป็นไรฉันทำเองได้!” หวังเสียน หันไปตอบเธอทันที อย่างไรก็
ตามซุนหลิงซิ่ว ยังคงยิ้มอย่างอบอุ่นและมองเขาด้วยสายตาที่ห่วงใย
และพร้อมที่จะช่วยเหลือเขาตลอดเวลา
กลิ่นกายอันหอมหวานที่มีเสน่ห์ลอยเข้ามาปะทะจมูกของเขาทำให้
หวังเสียน รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเล็กน้อย
“หมอเทวะหวังรองเท้าค่ะ!”
ซุนหลิงซิ่วหยิบรองเท้าจากบนพื้นและกำลังนำมาสวมใส่ให้กับเขา!
‘แบบนี้คืออะไร?!..’
หวังเสียน มองไปที่ ซุนหลิงซิ่ว ด้วยสายตาที่ว่างเปล่าและตะลึงงัน
เธอนั้นสง่างามและศักด์ิสิทธ์ิเหมือนเทพธิดาผู้สูงส่ง อีกทั้งรูปร่างที่
สมบูรณ์แบบของเธอค่อนข้างดีกว่า กวนชูชิง และ หลานชิงเยว่ มาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกและความบริสุทธ์ิทางร่างกายของเธอ
หวังเสียน ก็ยังรู้สึกด้อยกว่าเธอมากในด้านนี้
เทพธิดาผู้สูงส่งกำลังจะก้มใส่รองเท้าให้กับเขาอย่างนั้นเหรอ?
“ไม่เป็นไรให้ฉันทำเองเถอะ! ฉันทำเองได้!” หวังเสียนขัดจังหวะ
ทันที
“ไม่เป็นไรค่ะหมอเทวะหวัง คุณคือผู้ช่วยชีวิตฉันเอาไว้นี่คือสิ่งที่ฉัน
ควรทำ!”
ซุนหลิงซิ่วส่ายหัวแล้วย่อตัวลง
หวังเสียนไม่สามารถรับมันได้ เขารีบคว้ารองเท้าของเขาอย่าง
รวดเร็วและสวมมัน
“หมอเทวะหวังให้ฉันทำอาหารให้คุณนะคะ คุณไม่ได้ทานอะไรมา
ทั้งเดือนแล้ว!” ซุนหลิงซิ่ว พูดด้วยรอยยิ้มก่อนที่เธอจะเดินออกจาก
ห้องไป
ขากรรไกรของหวังเสียนอ้ากว้าง เขาหันมองไปยังโม่ชิงหลงที่ยืนอยู่
ข้าง ๆ เขา เขารู้สึกสับสนและถามว่า “เฒ่าโม่เกิดอะไรขึ้น!”
โม่ชิงหลงส่ายหัวและตอบว่า “กระผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันขอรับ
ตั้งแต่คุณหมอซันตื่นขึ้นมาเธอก็คอยอยู่ข้าง ๆ องค์ราชามาโดยตลอด
เลยขอรับ!”
“ยิ่งไปกว่านั้น!…” โม่ชิงหลงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ในตอนนี้
คุณหมอซันนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ความแข็งแกร่งของเธอนั้น
น่าจะมากกว่าผมมากเลยทีเดียว และกระผมยังสามารถสัมผัสได้ถึง
ความรู้สึกคล้าย ๆ กันกับขององค์ราชา น่าจะเกี่ยวพันกับสายเลือด
ของตัวเธออย่างแน่นอนเลยขอรับ!”
“สายเลือด?”
หวังเสียน ค่อนข้างที่จะสับสนเล็กน้อย
เลือดภายในร่างกายของซุนหลิงซิ่ว ในตอนนี้นั้นมีต้นกำเนิดมาจาก
แก่นโลหิตของหวังเสียน
ถึงแม้ว่าสายเลือดที่สร้างขึ้นมาใหม่นั้นจะเกิดจากกายาสวรรค์ศักด์ิสิทธ์ิ
แต่ต้นกำเนิดของสายเลือดส่วนนึงก็ยังมีความผูกพันเกี่ยวเนื่องกับ
หวังเสียน อย่างลึกซึ้ง
ซุนหลิงซิ่ว กลายเป็นผู้สืบทอดสายเลือดโดยตรงของมังกรศักด์ิสิทธ์ิ
แห่งแสง เรียกว่าเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันกับหวังเสียน เลยก็ว่าได้แล้วยัง
มีความผูกพันกันทางสายเลือดอย่างลึกซึ้งเข้ามาอีกด้วย ฉะนั้นทั้ง
ความรักความเคารพของซุนหลิงซิ่ว ที่มีต่อหวังเสียน ก็เปรียบดังจ้าว
ชีวิตของเธอเลยทีเดียว
แต่เดิมความรู้สึกที่ซุนหลิงซิ่ว มีต่อหวังเสียนนั้นเธอรู้สึกแอบชอบ
เขาอยู่ลึก ๆ ในใจและเกือบจะพัฒนาเป็นความรักได้อยู่ตลอดเวลา
แต่หลังจากที่เธอได้รับแก่นโลหิตของหวังเสียน ความรักที่เธอมีให้กับ
เขานั้นก็ทวีคูณมากขึ้นจนกลายเป็นความซื่อสัตย์และจงรักภักดีไป
เลยทีเดียว
“ดูเหมือนว่าสิ่งต่าง ๆ จะเกินความคาดหมายของฉันไปมาก!”
ในตอนแรกหวังเสียน คิดที่จะรักษาเธอและเลี้ยงดูเธอให้เป็นหมอเทวะ
ที่ยิ่งใหญ่ ในกรณีนี้เขานั้นจะมีคนช่วยเขาหาเงินให้เขาได้ตลอดเวลา
และเขาก็จะได้ไม่ต้องยุ่งมากนักในอนาคต
‘ช่างมันเถอะ! ไม่ว่าอย่างไรผลที่ได้รับมันก็ออกมาคล้าย ๆ กัน เพราะ
ในที่สุด ซุนหลิงซิ่วก็ยังคงอยู่กับฉันต่ออยู่ดี!’ หวังเสียนคิดกับตัวเอง
หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ โม่ชิงหลง และถามขึ้นว่า “ข้าปิดด่าน
ฝึกฝนนานมากแค่ไหน!”
“หนึ่งเดือนขอรับ องค์ราชา และในระหว่างนั้นก็มีเรื่องบางอย่าง
เกิดขึ้นเช่นเดียวกันขอรับ!” โม่ชิงหลง ตอบ
“นานขนาดนั้นเลยเหรอ? แล้วมีอะไรเกิดขึ้นบ้างเล่ามาให้ข้าฟังซิ!”
หวังเสียน ถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“ประการแรก อันดับรายชื่อหมอเทวะศักด์ิสิทธ์ิขององค์ราชา เพิ่ม
ขึ้นมาเป็นอันดับ 8 แล้วขอรับ และได้มีผู้มีชื่อเสียงหลายคนได้ส่งคำ
เชิญขอให้องค์ราชาเข้าไปตรวจดูอาการและรักษาพวกเขา ประการที่
สองมีนักฆ่าจากองค์กรลอบสังหารกรงเล็บดำ ถูกส่งมาเพื่อลอบ
สังหารองค์ราชา แต่ในตอนนี้องค์กรลอบสังหารนั้น ได้ถูกมนุษย์
มังกรทั้ง 7 คน ของสำนักมังกรเรากวาดล้างออกไปจนหมดสิ้นแล้ว
และพวกเขายังได้ก่อตั้งองค์กรนักฆ่าชื่อว่า ‘อเวจี’ พวกเขาได้สืบค้น
จนพบว่าผู้ที่จ้างวานให้มาสังหารองค์ราชานั่นก็คือคนจากเมืองแห่ง
การพนัน และในตอนนี้องค์กรนักฆ่าอเวจี ได้ทำการลอบสังหาร
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของเมือง
แห่งการพนันไปหลายรายแล้ว ทำให้องค์กรนักฆ่าอเวจีในตอนนี้นั้น
เป็นที่รู้จักกันไปทั่วแล้วขอรับ!” โม่ชิงหลง อธิบาย
“อืม! นั่นถือว่ายอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว สามารถจัดตั้งองค์กรนักฆ่า
และทำให้มีชื่อเสียงได้ภายในเวลาไม่ถึงเดือน! แต่อย่างไรก็ตามข้า
อยากให้เจ้านั้นได้เตือนพวกเขาเอาไว้สักหน่อย ว่าอย่าให้พวกเขารับ
งานที่ต้องสังหารผู้บริสุทธ์ิ ให้พวกเขาสืบข่าวดูสักเล็กน้อยก่อนที่จะ
รับงาน ถึงแม้ว่าพวกเราจะเป็นองค์กรนักฆ่า แต่ก็ไม่จำเป็นว่าพวก
เรานั้นจะต้องทำในสิ่งที่ชั่วร้ายมากจนเกินไป!” หวังเสียน ยิ้มแล้ว
พูดออกมา
จากการฝึกฝนของเหล่ามนุษย์มังกรในตอนนี้ พวกเขาน่าจะไปถึง
ระดับนักรบระดับที่ 9 และผู้ที่มีความสามารถน่าจะอยู่ในระดับครึ่ง
ขั้นก่อกำเนิดลมปราณ
ความสามารถและพรสวรรค์ของมนุษย์มังกรทั้ง 50 คน หลังจากที่
หวังเสียน ปรับแต่งร่างกายให้กับพวกเขาแล้ว พวกเขานั้นสามารถ
เข้าถึงระดับก่อกำเนิดลมปราณได้อย่างไม่ยากเย็นนัก หากพวกเขามี
เวลาฝึกฝนและบ่มเพาะประมาณ 100 วัน แต่เนื่องจากในตอนนี้พวก
เขานั้นออกไปทำภารกิจที่ข้างนอกระยะเวลาที่จะสามารถเข้าสู่ระดับ
ก่อกำเนิดลมปราณ อาจจะขยายออกไปอีกสักเล็กน้อย
และเมื่อถึงเวลานั้นเหล่ามนุษย์มังกรทั้ง 50 คน คงจะก่อให้เกิดพายุ
ลูกใหญ่ขึ้นในโลกยุทธภพอย่างแน่นอน
“แล้วอีกอย่างนึงภายใน 1 เดือนมานี้เหล่ามนุษย์มังกรสามารถรวบรวม
หินจิตวิญญาณได้มากถึง 500 ก้อน เลยทีเดียวขอรับ!” โม่ชิงหลง
รายงาน
“ดูเหมือนว่าการตัดสินใจของฉันในครั้งก่อนหน้านั้นจะถูกต้อง!”
หวังเสียนยิ้มและเหยียดร่ายกายของเขาเพื่อบิดขี้เกียจเล็กน้อย “ฉัน
ไม่ได้ออกไปที่ข้างนอกเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ถึงเวลาต้องพักผ่อน
บ้างสักหน่อยแล้วล่ะ!”
เขาปิดด่านฝึกตนอยู่นานนับเดือน เมื่อนึกถึงขั้นตอนการดูดซับ
พลังงานทางจิตวิญญาณเพื่อนำไปหล่อเลี้ยงต้นอ่อนของต้นไม้จุด
กำเนิด หวังเสียน ก็แทบจะกระอักออกมาเป็นเลือดด้วยความเบื่อ
หน่าย
ต้นอ่อนต้นนี้ระบบเรียกมันว่าต้นไม้จุดกำเนิด ถึงแม้ชื่อของมันจะ
ฟังดูยิ่งใหญ่มากก็ตาม แต่ความเป็นจริงแล้วหลังจากประสานเข้าสู่
ร่างกายของเขาเข้าไปแล้ว เขารู้สึกว่ามันไม่ส่งผลอะไรกับเขาเลย
แม้แต่น้อย ไม่มีพลังงานพิเศษและไม่รู้สึกถึงความสามารถใด ๆ
เพิ่มเติมขึ้นมาเลย
ข้อมูลอย่างเดียวที่เขาได้จากระบบนั่นก็คือ [มันคือต้นไม้ต้นแรกแห่ง
จุดกำเนิดและเป็นบรรพบุรุษของสรรพสิ่ง] และไม่มีคำอธิบายอื่นใด
เพิ่มเติมมาอีกเลย
และสิ่งนี้ทำให้เขาอึ้ง จนพูดไม่ออก ไปนานเลยนั่นก็คือ หนึ่งเดือน
ของการปิดด่านฝึกฝนบ่มเพาะเพื่อดูดซับพลังงานจากโลกอย่างบ้า
คลั่งนั้น เขาได้มาเพียงต้นอ่อนของต้นไม้เล็ก ๆ ต้นนึงที่ไม่รู้ว่าจะใช้
ประโยชน์อะไรได้ มันจึงทำให้เขารู้สึกเศร้าและหดหู่เล็กน้อย
“หมอเทวะหวังลงมาทานอาหารได้แล้วค่ะ!”
ในขณะนั้นเองเสียงอันอ่อนหวานของ ซุนหลิงซิ่ว ก็ดังขึ้นมาจาก
นอกห้อง หากชายหนุ่มคนอื่นมาได้ยินเสียงนี้มันคงจะทำให้พวกเขา
นั้นหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะกันเลยทีเดียว
“โอ้ว! ได้เวลาทานอาหารแล้วรึ? ขอบคุณมาก!”
หวังเสียนเดินออกไปนอกห้อง เมื่อเขาเดินลงไปที่โต๊ะอาหารเขาเห็น
อาหารท่าทางน่ากินอยู่บนโต๊ะอย่างมากมาย
“คุณไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกค่ะ เพราะชีวิตนี้ทั้งชีวิตของฉันนั้น
เป็นของคุณไม่ว่าคุณจะต้องการสิ่งใด ฉันจะยินดีปฏิบัติตามคำพูด
ของคุณเสมอ!” ซุนหลิงซิ่ว หันไปพูดกับหวังเสียน ด้วยรอยยิ้มอัน
อ่อนหวาน

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท