Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 236

ตอนที่ 236

ตอนที่ 236 สาวกของสำนัก?
….
[ขอแก้ไขชื่อเป็ นสำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ินะครับ]
….
หวังเสียนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องศูนย์การแพทย์มังกรศักด์ิสิทธ์ิ
“เร็วเข้าเถอะ! รีบไปกันที่ร้านข้าวตุ๋นหม้อไฟกันเร็ว ไม่อย่างนั้นคง
ต้องต่อคิวยาวแน่นอนเลย และบางทีของก็อาจจะหมดก่อนเหลือไม่
ถึงเราก็ได้!”
บนถนนเดินเท้าของมหาวิทยาลัย เสี่ยวหยู กำลังวิ่งไปพร้อมกับ หวัง
เสียน, หลานชิงเยว่ และ กวนชูชิง
“เอาล่ะ! นี่มันก็นานมากแล้วที่เราไม่ได้มากินข้าวในโรงอาหารของ
มหาวิทยาลัยพวกเราก็รีบไปกันเถอะ!”
หวังเสียน พยักหน้าแล้วยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะมองไปที่ หลานชิง
เยว่ และ กวนชูชิง “ตอนบ่ายพวกคุณยังมีชั่วโมงเรียนอยู่อีกไหม?”
“ฉันมีเรียนอีกสองคลาสเรียนในตอนบ่าย!”
“ฉันเองก็มีสองคลาสเรียนเช่นเดียวกัน!”
เด็กสาวทั้งสองยิ้มและหันไปมองพร้อมกับถามหวังเสียนด้วยความ
สงสัย
“มีอะไรอย่างนั้นเหรอ?”
“เปล่า ๆ ! ไม่มีอะไร!”
หวังเสียน ยิ้มออกมาอย่างอาย ๆ หลังจากที่เขาปิดด่านฝึกตนอยู่นาน
กว่า 1 เดือน เขาก็ค่อนข้างที่จะเก็บกดและหื่นกระหายพอสมควร และ
ในเวลานี้เขานั้นต้องการที่จะปลดปล่อยความอัดอั้นนั้นออกมาบ้าง
“วันนี้ฉันจะนอนที่หอพัก เพราะคลาสเรียนแรกในวันพรุ่งนี้ของฉัน
มีเทสเก็บคะแนนย่อย!”
“ส่วนวันนี้ฉันต้องกลับไปที่บ้านเพราะตอนเช้าฉันต้องเข้าไปทำธุระ
ที่บริษัท!”
ทั้งสองสาวหันไปมองเขาพร้อมกับตอบขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
“อ่อ ๆ ! ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้พวกคุณมาที่วิลล่าของผมตอนเย็นหลังเลิก
เรียนจะดีไหม? พวกเราจะได้ทำอาหารทานด้วยกัน อาจจะเป็นบาร์บี
คิวริมชายหาดหรือชาบูหม้อไฟในสวนศาลาที่ติดกับริมทะเลก็ได้!”
หวังเสียน พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ใสซื่อบริสุทธ์ิ
“อืมม!” ทั้งสองสาวให้ความสนใจกันมากขึ้นในทันที หลังจากที่
พวกเธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งพวกเธอก็พยักหน้าและตอบตกลง
หวังเสียน รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น ในตอนนี้จินตนาการของเขานั้นเตลิด
ไปถึงบนเตียงนอนในห้องของเขาแล้ว เขามองไปที่ กวนชูชิง และ
หลานชิงเยว่ จากบนลงล่างหรือให้พูดอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือเขากำลัง
ลวนลามพวกเธอด้วยสายตาอย่างชั่วร้าย
ทั้งคู่สูงประมาณ 1.7 เมตรและมีหุ่นที่สมบูรณ์แบบมาก หากจัดพวก
เธอพร้อมกันทีเดียวทั้งสองคนมันก็คง….
ดาบใหญ่คู่กายของหวังเสียนรู้สึกคึกคักขึ้นมาทันที หลังจากที่เขา
กำลังจินตนาการถึงฉากการต่อสู้ของเขากับแม่เสือสาวทั้งสองคน
บนเตียง เขากำลังคิดอยู่ว่าเขาควรจะจัดหาเสื้อผ้าคอสเพลย์ดีหรือไม่
เครื่องแต่งกายเด็กนักศึกษา ม.ปลาย? ถุงน่องตาข่ายสีดำ? ชุดอาจารย์
สาว? ชุดตำรวจหญิง?
“โอ้โห! ดูสิมีคนเยอะมากเลย!!”
เมื่อพวกเขามาถึงที่โรงอาหารเสียวหยู ก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่
ไม่ค่อยพอใจอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเธอเห็นคนเข้าแถวรอคิวกันยาว
เหยียดที่หน้าร้านขายข้าวตุ๋นหม้อไฟ
“ไปเถอะ! เราก็แค่ไปต่อคิวกับพวกเขา มันเสียเวลาเพียงเล็กน้อยเท่า
นั่นเอง!”
หวังเสียน ยิ้มและพูดกับเสี่ยวหยู
“ค่ะพี่!”
หวังเสียน เคยมาซื้อข้าวตุ๋นหม้อไฟที่นี่กินกับ หลานชิงเยว่ อยู่ครั้ง
หนึ่งมันอร่อยมากทีเดียว และเป็นร้านค้าที่มีคนต่อคิวมากที่สุดใน
โรงอาหารของมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงเลยก็ว่าได้
หวังเสียน, เสี่ยวหยู และสองเทพธิดาเดินไปเข้าคิวที่ท้ายแถว
“อ้าว! หวังเสียน นายก็มากินข้าวในโรงอาหารด้วยเหมือนกันอย่าง
นั้นเหรอ?”
“สวัสดีหวังเสียน!”
“สวัสดีรุ่นพี่หวังเสียน!”
เมื่อหวังเสียนและกลุ่มของพวกเขาเดินเข้ามาต่อคิวที่ท้ายแถวนักศึกษา
หลายคนก็จำเขาได้ พวกเขาจึงทักทายหวังเสียนด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีทุกคน! ปกติฉันก็มากินอาหารที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย
บ่อย ๆ อยู่แล้ว เพราะที่นี่อาหารรสชาติดีมากเลยทีเดียว!”
หวังเสียน ยิ้มบาง ๆ หลังจากที่มีการประกาศข่าวเรื่องการบริจาคเงิน
50 ล้านหยวนของหวังเสียน ให้กับโครงการทุนนักศึกษาที่ยากไร้แล้ว
ชื่อเสียงของเขาก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย จนในตอนนี้
ชื่อเสียงของเขานั้นถือได้ว่าดังมากกว่า หลานชิงเยว่ และ กวนชูชิง
เสียอีก
“หวังเสียน! มาเถอะนายมาเข้าคิวตรงที่ด้านของฉันได้เลย!”
“ใช่ ๆ หวังเสียน นายสามารถไปที่แถวหน้าได้เลยไม่ต้องต่อคิวก็
ได้!”
“พวกนาย! คนที่อยู่แถวหน้าสุดน่ะ จะว่าอะไรไหมถ้าพวกเรานั้น
ขอให้กลุ่มของหวังเสียน แซงหน้าพวกนายสักหน่อย!”
“โอ้! ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด พวกเรานั้นยินดีมากเลย! หวังเสียน
นายอยากได้ข้าวตุ๋นหม้อไฟแบบไหนล่ะ ฉันจะสั่งให้นายเอง!”
นักศึกษาที่อยู่หน้าแถวยิ้มพร้อมกับหันมาถามหวังเสียน
หวังเสียน เห็นกลุ่มนักศึกษาที่กระตือรือร้นจะให้บริการเขาและ
ปล่อยให้เขานั้นแซงคิวไปที่คิวหน้าสุด เขาจึงยิ้มและโบกมือตอบไป
ว่า ” ไม่เป็นไรหรอก! ขอบใจพวกนายมาก แต่ฉันไม่ได้เร่งรีบอยู่
แล้วเข้าแถวและรอตามคิวเถอะ!’
“จะทำอย่างนั้นได้ยังไง! นายนั้นเป็นคนที่พวกเราเคารพบูชามากจริง ๆ
เลยนะ นายทำเพื่อมหาวิทยาลัยเราอย่างมากเลยทีเดียว และนี่เป็นแค่
เพียงการแสดงความขอบคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเรา ทุกคนนั้น
ต่างยินดีและเต็มใจกันอยู่แล้ว! ได้อย่าเกรงใจเลย!’
“ถูกต้องแล้ว ฉันก็เป็นคนนึงที่ได้รับทุนการศึกษาจากโครงการที่
นายได้บริจาคเงิน เรื่องเพียงเท่านี้ถือว่าเป็นการแสดงความมีน้ำใจ
ของพวกเราที่มีต่อนายอย่างจริงใจ นายอย่าปฏิเสธเลย!” นักศึกษา
หนุ่มคนนึงพูดออกมาด้วยความชื่นชมในตัวหวังเสียน
“ใช่! พวกเรานั้นจะรู้สึกภาคภูมิใจเสียด้วยซ้ำ ที่อย่างน้อยพวกเรานั้น
ยังสามารถช่วยเหลือนายได้บ้างถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงเรื่องที่เล็กน้อย
มากก็ตาม!” นักศึกษาที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างพูดในลักษณะที่
คล้ายคลึงกัน
“นายต้องการข้าวตุ๋นหม้อไฟกี่ที่ ฉันจะทำให้นายฟรีโดยไม่คิดเงิน
เลย และไม่ว่าต่อไปในอนาคตนายต้องการจะกินข้าวตุ๋นหม้อไฟของ
ฉันมากสักเท่าไหร่ ฉันก็จะเลี้ยงนายเอง!’
เจ้าของร้านข้าวตุ๋นหม้อไฟในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย เขาเคยได้
ยินชื่อของหวังเสียน จากการประกาศในตอนเช้าเมื่อวานนี้ เขาจึงยื่น
หน้าออกมาจากหลังเคาน์เตอร์พร้อมส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับหวังเสียน
และพูดออกมาเสียงดัง
“พี่ชายเจ้าของร้านยอดเยี่ยมมากจริง ๆ !” เหล่านักศึกษาที่อยู่บริเวณ
โดยรอบต่างหัวเราะและพูดคุยแสดงความคิดเห็นกันอย่างสนุกสนาน
“ฮ่าฮ่า! มันเป็นเพียงแค่ข้าวตุ๋นหม้อไฟอาหารพื้น ๆ เท่านั้นหวังเสียน
นายต้องการกี่ที่ฉันจะได้เตรียมทำให้เดี๋ยวนี้เลย!” เจ้าของร้านหัวเราะ
ออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณพี่ชายเจ้าของร้านมาก! ผมต้องการข้าวตุ๋น
หม้อไฟ 4 ที่ครับ!”
หวังเสียน ยิ้มแล้วตอบกลับไปอย่างสุภาพ
“โอเค! ถ้าอย่างนั้นก็รอสักครู่นะ!”
“เสี่ยวเสียน คุณนั้นมีชื่อเสียงดีมากเลยจริง ๆ ได้กินข้าวฟรีโดยไม่
ต้องใช้เงินจ่ายเลยแม้แต่หยวนเดียว!”
“ใช่! ฉันคิดว่าคุณนั้นได้รับความนิยมมากกว่าพวกเราเสียอีก!” กวน
ชูชิง และ หลานชิงเยว่ ยิ้มและพูดกับ หวังเสียน
“บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าผมหน้าตาดีเกินไป ฮิฮิ!” หวังเสียน พูดติด
ตลกออกมาอย่างขำ ๆ “พวกคุณไปหาที่นั่งกันเถอะ เดี๋ยวผมจะยก
อาหารไปให้พวกคุณเอง!”
“ขอบคุณนะเสี่ยวเสียน!”
เสี่ยวหยู, กวนชูชิง และ หลานชิงเยว่ เดินไปที่ม้านั่งซึ่งอยู่ห่างออกไป
ไม่ไกลและนั่งลง
“พี่ชาย! ขอข้าวตุ๋นหม้อไฟเพิ่มอีกที่นึงเดี๋ยวอาจารย์ของฉันเธอจะมา
นั่งทานพร้อมกับพวกเราด้วย ฉันจะออกไปรับเธอก่อนนะแล้วฉัน
จะรีบกลับมา!”
หลังจากผ่านไปไม่ถึง 2 นาทีเสี่ยวหยูก็ตะโกนบอกกับ หวังเสียน ว่า
ผู้อาวุโสฟางนั้นจะมาทานอาหารกับพวกเขาด้วย เธอจึงขอตัวออกไป
รับอาจารย์ของเธอที่ด้านนอกโรงอาหาร
“ได้เลย!”
หลังจากผ่านไปไม่นานเจ้าของร้านอาหารก็นำข้าวตุ๋นหม้อไฟ 5
ที่มาส่งให้ถึงที่โต๊ะด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณครับ!”
หวังเสียน ยิ้มพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณเจ้าของร้านอาหาร ก่อนที่เขา
จะยกถาดแจกจ่ายข้าวตุ๋นหม้อไฟให้กับสาว ๆ ที่นั่งร่วมโต๊ะ
“เจ้านั้นเป็นเพียงนักรบระดับขั้นที่ 8 จากสำนักกระบี่พฤกษาขจี กล้า
พูดหยาบคายกับข้าแบบนี้เชียวรึ? เจ้าต้องการที่จะเป็นศัตรูกับสำนัก
พวกเราอย่างนั้นหรือ?”
หลังจากที่หวังเสียเพิ่งแจกจ่ายข้าวตุ๋นหม้อไฟได้ไม่นาน เขาก็ได้ยิน
เสียงคนทะเลาะกัน เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับหันไปมอง
เสียงมันดังมาจากหญิงสาวที่หน้าตาดีคนนึง ความสวยของเธอนั้น
ไม่ได้ด้อยไปกว่ากวนชูชิงและหลานชิงเยว่เลย รอบ ๆ ตัวเธอยังมี
เด็กวัยรุ่นอีกสามถึงสี่คน
ไม่ไกลจากเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นผู้อาวุโสฟางและเสี่ยวหยู ก็ยืนอยู่ตรง
นั้นด้วย
ใบหน้าของเสี่ยวหยู ในตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นสีแดงเนื่องจากความ
โกรธ เธอจ้องมองไปยังหญิงสาวคนนั้นอย่างเกรี้ยวกราด พร้อมกับ
พูดขึ้นมาว่า “เชอะ! สำนักวังเปลวไฟของพวกเธอ เป็นอันธพาลหรือ
อย่างไรถึงได้เที่ยวหาเรื่องคนอื่นเขาไปทั่ว และตัวเธอนั้นเป็นหัวหน้า
ของสำนักวังเปลวไฟอย่างนั้นเหรอ ถึงได้กล้ายกเอาสำนักวังเปลว
ไฟเข้ามาข่มขู่คนอื่นแบบนี้?”
“สาวน้อยระวังคำพูดของเจ้าด้วย สำนักวังเปลวไฟไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะ
เอามาพูดล้อเล่นได้อย่างง่าย ๆ สำนักกระบี่พฤกษาขจี ของพวกเจ้า
นั้นเป็นเพียงสำนักเล็ก ๆ ไม่ได้อยู่ในสายตาของสำนักวังเปลวไฟ
ของพวกเรา เพียงแค่ลูกศิษย์ภายในของสำนักวังเปลวไฟของพวกเรา
เพียงไม่กี่คนก็เพียงพอแล้วที่จะกวาดล้างสังหารสำนักกระบี่พฤกษา
ขจีของพวกเจ้า!”
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หญิงสาวมองไปที่เสี่ยวหยู ด้วยสายตาที่ดูถูก
และเยาะเย้ย พร้อมกับพูดเตือนเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
สำหรับเด็กสาวคนนั้นเธอชำเลืองมองเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางด้วย
ความรังเกียจ และมีท่าทางที่หยิ่งผยองเป็นอย่างมาก
‘สำนักวังเปลวไฟ อีกแล้วงั้นเหรอ!’
เมื่อ หวังเสียน ได้ยินชื่อนี้เขาก็มองไปยังกลุ่มเด็กวัยรุ่นพวกนั้นด้วย
แววตาที่เย็นชา
“ฉันว่าพวกนายนั้นควรจะระวังคำพูดของพวกนายให้มากกว่านี้ คน
ที่พูดหยาบคายกับน้องสาวของฉันในเมืองเจียงเฉิงส่วนมากไม่ตายก็
ต้องบาดเจ็บสาหัส!”
หวังเสียนถือถาดอาหารนำไปวางไว้ที่โต๊ะข้าง ๆ ก่อนที่เขาจะเดินไป
พูดกับเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“หือ?”
เด็กหนุ่มวัยรุ่นคนนั้นตกตะลึงและรีบหันไปมองหน้าหวังเสียน
เขาขมวดคิ้วพร้อมกับมีใบหน้าที่บิดเบี้ยว เนื่องจากเขาสามารถสัมผัส
ได้ถึงออร่าและแรงกดดันอันหนักหน่วงที่ออกมาจากร่างกายของ
หวังเสียน พุ่งเป้ามาที่ตัวเขาโดยตรง
หวังเสียน มองไปที่เด็กหนุ่มคนนั้นด้วยสายตาที่สงบนิ่งแต่แรงกดดัน
ของเขานั้นไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย “ขอโทษน้องสาวฉันเดี๋ยวนี้!”
“ฉัน!…”
เด็กหนุ่มคนนั้นตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวผู้หยิ่งผยองคน
นั้นก็ตื่นตะลึงเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน เธอข่มกลั้นความกลัวพร้อม
กับพูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า “คุณคือหมอเทวะหวังอย่างนั้นเหรอ?”
หวังเสียนไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย สายตาเขายังคงจ้องมองไป
ยังชายหนุ่มคนนั้นอย่างไม่วางตา
“ฉะ..ฉัน..ฉันเป็นลูกศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟนะ..!” ชายหนุ่มคน
นั้นกัดฟันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
ตัวเขานั้นไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าคนที่เขาเพิ่งพูดจาตำหนิและ
ข่มขู่ออกไปนั้นจะเป็นน้องสาวของหวังเสียน
พวกเขานั้นได้รับรู้เรื่องราวเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ ฮัวเจ๋อหมิง
และฮันจุนหมิงในตอนเช้า หลังจากตรวจสอบเพิ่มเติมแล้วพวกเขา
พบว่า หวังเสียน แท้จริงแล้วคือ หมอเทวะหวัง แห่ง เมืองเจียงเฉิง
ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับหมอเทวะหวัง หมอเทวะอันดับ 8 ใน
รายชื่อการจัดอันดับหมอเทวะศักด์ิสิทธ์ิของโลกยุทธภพ เขาเป็นคน
ที่สามารถเชิญผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณกลุ่มใหญ่ทำร้าย
และกวาดล้างกองกำลังระดับชั้น 1 มาถึงสองกำลังแล้ว นั่นก็คือ
ตระกูลหลิวและตระกูลหยาน
ดังนั้นสิ่งที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้นั่นก็คืออ้างชื่อสำนักวังเปลว
ไฟออกไปเพื่อข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม!

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท