Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 251

ตอนที่ 251

ตอนที่ 251 ไม่เคยเห็นเทพธิดากันหรืออย่างไร?
ตู้มมมม!
เมื่อเสียงของหมอโลหิตดังขึ้น พลังแสงศักด์ิสิทธ์ิของหมอเทวะเซิ่ง
หัว ก็ถูกดูดกลืนและถูกชำระล้างด้วยออร่าปีศาจของหมอโลหิต
“เคี๊ยก ๆ ๆ !”
หมอโลหิตส่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสะใจพร้อมกับพุ่งเข้าใส่
หมอเทวะเซิ่งหัว ด้วยความดุร้าย
“มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
หมอเทวะเซิ่งหัว ตกใจมากเมื่อเขาเห็นหมอโลหิตกำลังพุ่งเข้ามา
โจมตีเขาอย่างรวดเร็ว
“ไอ้หมาแก่น่ารำคาญ จงหายไปซะ!”
หลังจากที่หมอโลหิตพุ่งเข้ามาประชิดตัวหมอเทวะเซิ่งหัว หมอก
เลือดสีแดงเข้มที่อยู่รอบ ๆ ตัวหมอโลหิต ก็เปลี่ยนกลายมาเป็นกรง
เล็บที่ยาวและแหลมคมบนนิ้วมือทั้งสองข้างของหมอโลหิต
“นี่!..มันเป็นไปไม่ได้!..ทำไมเจ้าถึงไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ เลยแม้แต่
น้อย หลังจากที่ถูกลำแสงศักด์ิสิทธ์ิของข้า!”
หมอเทวะเซิ่งหัว รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมากเขารีบยกไม้เท้าของ
เขาฟาดใส่หมอโลหิตอย่างเต็มกำลัง
“เพราะว่าแกนั้นอ่อนแอมากเกินไปยังไงเล่า ไอ้หมาแก่ขี้เรื้อนนน!!”
หมอโลหิตตวัดกรงเล็บของเขาฟันเข้าใส่ไม้เท้าในมือของหมอเทวะ
เซิ่งหัวโดยตรง
การที่หมอเทวะเซิ่งหัวไม่สามารถใช้พลังงานแห่งแสงศักด์ิสิทธ์ิเพื่อ
ต่อต้านพลังโลหิตปีศาจของหมอโลหิตได้นั้น มันจึงทำให้ระดับการ
ต่อสู้ของคนทั้งคู่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
และหากพูดให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าหมอเทวะเซิ่งหัวไม่สามารถใช้พลังงาน
แห่งแสงศักด์ิสิทธ์ิได้ แต่พลังงานแสงศักด์ิสิทธ์ิที่เขาใช้ออกไปเพื่อ
ต่อสู้กับหมอโลหิตนั้น มันไม่มีผลใด ๆ กับหมอโลหิตเลยแม้แต่น้อย
“หลังจากที่ได้ยินพวกเขาคุยกันแล้วข้าคิดว่าชายชาวต่างชาติคนนั้น
น่าจะเป็นหมอโลหิตแห่งยุโรปอย่างแน่นอน!”
“ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ ! หมอโลหิตแห่งยุโรปคนนี้สามารถต่อสู้กับ
หมอเทวะเซิ่งหัวได้อย่างสบายเลยทีเดียว!”
“แสงศักด์ิสิทธ์ิของหมอเทวะเซิ่งหัวนั้นทรงพลังมากเลยทีเดียว ข้า
สามารถสัมผัสได้ว่าหากได้รับแสงศักด์ิสิทธ์ิของหมอเทวะเซิ่งหัว
อาการบาดเจ็บที่มีอยู่ในร่างกายของข้าน่าจะถูกขจัดออกไปจนหมด
ได้!”
“แวมไพร์ตัวนี้ดูน่ากลัวมากจริง ๆ โดยปกติแล้วแสงศักด์ิสิทธ์ิจะต้อง
สามารถปราบปรามแวมไพร์หรือสายพันธุ์แห่งความมืดได้ไม่ใช่เหรอ?
แล้วทำไมในตอนนี้ไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ เกิดขึ้นกับเขาเลยล่ะ?”
ทุกคนที่อยู่โดยรอบกำลังดูการต่อสู้นี้ด้วยความตกตะลึง
นี่ถือได้ว่าเป็นการต่อสู้และวัดความสามารถทางด้านทักษะการแพทย์
อีกแบบหนึ่ง
“การต่อสู้แบบนี้น่าสนใจมากเลยจริง ๆ ! การต่อสู้ของพวกเขาทั้ง
สองคนนั้นคล้ายกับกำลังใช้เวทมนตร์ต่อสู้กันอยู่เลย!” หวังเสียน
พูดออกมาด้วยรอยยิ้มในขณะที่เขาสังเกตเห็นว่าหมอโลหิต มีฝีมือที่
เหนือกว่าหมอเทวะเซิ่งหัวเป็นอย่างมาก
“นายท่านขอรับ ทักษะการบ่มเพาะและวิชายุทธในส่วนของทวีป
ยุโรปและอเมริกาของพวกเขานั้นโดยส่วนมากก็จะเกี่ยวข้องกับทาง
เวทมนตร์ค่อนข้างมากเลยทีเดียว เพราะวิชาที่พวกเขาฝึกฝนนั้น
สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 หมวดใหญ่ ๆ นั่นก็คือทักษะการฝึกฝน
ทางร่างกายเช่นเดียวกับอัศวินโบราณ อีกทักษะหนึ่งนั่นก็คือการ
ฝึกฝนไปในแนวทางเวทมนตร์คาถาเช่นเดียวกับพ่อมดและแม่มด
แต่ถึงจะมีความแตกต่างกันบ้างกับทักษะและวิชายุทธของพวกเรา
แต่ในขั้นตอนท้าย ๆ หรือผลของการฝึกฝนก็จะไม่ต่างกันกับของ
พวกเรามากเท่าไรนัก!”
โม่ชิงหลงอธิบายกับหวังเสียน “หมอโลหิตและหมอเทวะเซิ่งหัว น่าจะ
เป็นนักเวทย์ แต่พลังทางกายภาพของหมอโลหิตซึ่งเป็นแวมไพร์นั้น
น่าจะมีมากกว่าหมอเทวะเซิ่งหัว!”
“และนอกจากนี้!..”โม่ชิงหลงหยุดไปชั่วขณะก่อนที่เขาจะพูดต่อไป
อีกว่า “ทางฝั่งยุโรปและอเมริกานั้นน่าจะมีทักษะการบ่มเพาะที่ทรง
พลังมากกว่าทางฝั่งของประเทศเรา เนื่องจากทักษะการบ่มเพาะบาง
อย่างของประเทศเรานั้นสืบทอดกันเฉพาะภายในตระกูลและบาง
ทักษะที่ทรงพลังก็สูญหายไปตามกาลเวลา!”
“ทักษะการฝึกฝนของทางฝั่งยุโรปและอเมริกานั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ
อย่างนั้นหรือ?” หวังเสียน ตกใจเล็กน้อยเขามองไปที่โม่ชิงหลง และ
ถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
โมชิงหลงพยักหน้าเบา ๆ “ใช่แล้วขอรับนายท่าน! โดยส่วนมากทักษะ
การฝึกฝนของพวกเรานั้นจะมีอยู่เพียงแค่วงแคบ ๆ ตระกูลและสำนัก
ต่าง ๆ จะไม่ยอมมอบหรือแบ่งปันทักษะการฝึกฝนอันทรงพลังนี้ให้กับ
คนนอกอย่างเด็ดขาดซึ่งไม่เหมือนกับทางฝั่งของยุโรปและอเมริกา
ทักษะและการฝึกฝนของพวกเขานั้นค่อนข้างที่จะเปิดกว้างกว่าของ
พวกเรามาก!”
“แต่อย่างไรก็ตามทักษะการฝึกฝนของพวกเขานั้นจำเป็นต้องใช้ ความ
สัมพันธ์กับทักษะค่อนข้างสูงอย่างเช่นทักษะแสงศักด์ิสิทธ์ิของหมอ
เทวะเซิ่งหัว หากความสามารถและร่างกายไม่ตรงตามเงื่อนไขคน
ทั่วไปก็จะไม่สามารถฝึกฝนทักษะนี้ได้ ซึ่งไม่เหมือนกับทักษะวิชา
ยุทธของพวกเรา ทักษะวิชายุทธของพวกเรานั้นไม่จำเป็นต้องพึ่งพา
ความสามารถและพรสวรรค์ที่สูงมากมายนักก็สามารถฝึกฝนกันได้!”
โม่ชิงหลง พูดต่อไปอีกว่า “เมื่อ 10 ปีก่อนมีสมบัติที่มีพลังทางจิต
วิญญาณที่สูงมากพบในภูเขาทางฝั่งประเทศจีนของพวกเรา ข่าวนั้น
ได้รั่วไหลไปยังต่างประเทศ จึงทำให้เกิดการต่อสู้แย่งชิงกัน สุดท้าย
พวกเรานั้นก็สูญเสียทรัพยากรส่วนมากให้กับชาวต่างชาติไป ทั้ง ๆ
ที่ทรัพยากรพวกนั้นอยู่ในเขตดินแดนของพวกเรา เหตุก็เพียงเพราะว่า
ความเห็นแก่ตัวของสำนักใหญ่ ๆ ในฝั่งของประเทศเรา พวกเขานั้น
ต่างขัดแย้งและแย่งชิงกันเอง ทำให้เป็นโอกาสของชาวต่างชาติพวก
นั้นเข้ามาแทรกแซงจนได้สมบัติส่วนใหญ่ไปครอบครอง!”
หวังเสียน พยักหน้าอย่างช้า ๆ เขาค่อนข้างจะเข้าใจโลกยุทธภพของ
ทางฝั่งประเทศจีน สำนักใหญ่ ๆ ในโลกยุทธภพของประเทศจีนนั้น
ค่อนข้างจะเห็นแก่ตัว พวกเขาส่วนมากจะขัดแย้งกันเองอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้ชาวยุทธ์ในฝั่งของประเทศจีนจะมีมากและมีความสามารถใน
การต่อสู้ค่อนข้างสูงแต่ความสามัคคีระหว่างสำนักต่าง ๆ นั้นแทบ
จะไม่มีต่อกันเลย
“เคี๊ยก ๆ ๆ ! ช่างอ่อนแอเสียจริง ๆ ไอ้หมาแก่ขี้เรื้อน!”
ในขณะนั้นเองเสียงอันเย่อหยิ่งของหมอโลหิตก็ดังขึ้นมา เมื่อหวัง
เสียน หันไปมองการต่อสู้ เขาเห็นหมอเทวะเซิ่งหัว ได้รับบาดเจ็บ
อย่างหนักบนตัวของเขานั้นเต็มไปด้วยเลือดและรอยกรงเล็บของ
หมอโลหิต
ใบหน้าของหมอเทวะเซิ่งหัว ดูซีดเซียว ในตอนนี้เขากำลังใช้พลัง
แห่งแสงศักด์ิสิทธ์ิรักษาบาดแผลทางร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
“ฮ่า ๆ ๆ ! ไอ้หมาแก่เซิ่งหัว ตอนนี้แกรู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะฮ่า ๆ ๆ !”
หมอโลหิตยืนยิ้มเยาะเย้ยอยู่ตรงด้านหน้าหมอเทวะเซิ่งหัว ที่กำลัง
ทรุดตัวลงนั่งเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
ใบหน้าที่อวดดีและกำลังยิ้มเยาะของหมอโลหิตนั้นดูเหมือนกับตัว
ร้ายมากจริง ๆ
“แข็งแกร่งมาก! แวมไพร์ตัวนี้แข็งแกร่งมากเลยทีเดียว! ข้าคิดว่าต่อ
ให้มีหมอเทวะเซิ่งหัวเพิ่มมาอีกคน ก็น่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแวมไพร์
ตัวนี้อย่างแน่นอน!”
“ทักษะการบ่มเพาะของพวกเขานั้นน่าสนใจมากเลยทีเดียว ในระดับ
ก่อกำเนิดลมปราณของพวกเรานั้นสามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้
เพียงระยะสั้น ๆ แต่ทักษะของพวกเขานั้นสามารถสร้างปีกขึ้นมา
และสามารถบินขึ้นไปต่อสู้กันบนท้องฟ้าได้ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ !”
“ทักษะที่พวกเขาฝึกฝนนั้นน่าจะเป็นทักษะเกี่ยวกับทางเวทมนตร์
พวกเขาสามารถโจมตีระยะไกลได้เป็นอย่างดี ความแข็งแกร่งทาง
จิตวิญญาณของพวกเขาต้องสูงล้ำอย่างมากเลยทีเดียว แต่ทักษะการ
โจมตีของชาวยุทธในประเทศจีนของเรานั้นเน้นหนักไปทางกายภาพ
และการต่อสู้ประชิดตัวอย่างเช่นเพลงหมัด, ฝ่ามือ, กระบี่และดาบ
ทักษะวิชายุทธของแต่ละพื้นที่นั้นย่อมมีจุดเด่นและจุดอ่อนเป็นของ
ตัวเองกันทั้งสิ้น!”
ฝูงชนรวมถึงผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณต่างก็พูดคุยเปรียบ
เทียบทักษะวิชายุทธของประเทศจีนและทางฝั่งของทวีปยุโรป
“แต่ดูเหมือนว่าในก่อนหน้านี้แวมไพร์ตัวนั้นจะบอกว่าหญิงสาวที่นั่ง
อยู่ทางด้านข้างของหมอเทวะหวังจะเป็นเจ้านายของเขาไม่ใช่หรือ?!”
ในกลุ่มชาวยุทธหลายคนยังจำได้ว่าหมอโลหิตนั้นเคยบอกว่าซุนหลิง
ซิ่ว นั้นคือเจ้านายของเขา
แวมไพร์ที่แข็งแกร่งและทรงพลังมากขนาดนี้ยังเป็นเพียงแค่ทาสอัน
ต้อยต่ำของเธอ! แล้วระดับพลังของหญิงสาวคนนั้นจะมากขนาดไหน
กัน?
ทุกคนค่อนข้างที่จะตกใจและสับสน หากเป็นเช่นนั้นจริงหญิงสาวที่
นั่งอยู่ทางด้านข้างกับหมอเทวะหวังนั้นคงจะน่ากลัวมากเลยทีเดียว!
เมื่อมองกลับไปที่ทางตระกูลเฟิงหยาง ในตอนนี้เฟิงหยางลี่ กำลังสูด
ลมหายใจเข้าลึก ๆ อยู่หลายครั้งพร้อมกับเช็ดเหงื่อเย็น ๆ ที่ไหลลง
มาเหมือนกับน้ำจากหน้าผากของเขาด้วยกระดาษทิชชู
“ข้าขอยอมรับความพ่ายแพ้!” หมอเทวะเซิ่งหัว ก้มหน้านิ่งและกำ
หมัดแน่นพร้อมกับพูดออกมาด้วยเสียงต่ำ
“เคี๊ยก ๆ ๆ ! ดีมากไอ้หมาแก่ตัวน้อย หัดทำตัวให้มันต่ำ ๆ เข้าไว้ คน
อ่อนแอเช่นเจ้าจะได้มีชีวิตอยู่ได้นาน ๆ ฮิ ๆ ๆ !”
หมอโลหิตมองหมอเทวะเซิ่งหัวอย่างดูถูกพร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ย
ออกมาด้วยความสะใจ
หลังจากนั้นหมอโลหิตก็เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วกลับไปยืนอยู่ทาง
ด้านหลังของ ซุนหลิงซิ่ว อย่างสงบเรียบร้อย
“นายท่านผู้หญิงขอรับ! กระผมเก่งไหมขอรับ!”
หมอโลหิต ยิ้มออกมาอย่างสดใสพร้อมกับถาม ซุนหลิงซิ่ว เหมือนกับ
เด็กนักเรียนตัวน้อยที่อยากให้คุณครูชมเชย
“อืม! เก่งมาก!” ซุนหลิงซิวยิ้มออกมาบาง ๆ และชมเชยเขา แต่ก็ไม่ได้
แสดงอารมณ์อะไรออกมามากนัก
อึก!
เหล่าผู้คนที่อยู่บริเวณโดยรอบรวมทั้งสาวกของสำนักวังเปลวไฟ ต่าง
มองไปที่ซุนหลิงซิ่ว ด้วยความตื่นตะลึง บางคนถึงกับกลืนน้ำลายลง
คออึกใหญ่
“เด็กสาวที่สวยงามปานเทพธิดาคนนั้นเป็นเจ้านายของแวมไพร์ชั่ว
ร้ายตัวนั้นจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
“เอ่อ!…นี่!”
“เธอสวยงามและบริสุทธ์ิเหมือนกับเทพธิดาผู้ศักด์ิสิทธ์ิเลยทีเดียว!”
“ความสงบและเยือกเย็นของเธอนั้นช่างน่าหลงใหลเสียจริง ๆ เธอ
เป็นนางฟ้าลงมาจุติหรืออย่างไรกันเนี่ย แค่มองดูเธอหัวใจของข้านั้น
ก็เต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว!”
“เฮ้ยเพื่อน! เธอเป็นเจ้านายของเจ้าแวมไพร์ตัวนั้นนะ และข้าว่าเบื้อง
หลังของเธอน่าจะทรงพลังมากทีเดียว ข้าว่าเจ้าอย่ารนหาที่ตายเลยจะ
ดีกว่า!”
“ขนาดเจ้าแวมไพร์จอมหยิ่งยโสและอวดดีตัวนั้น ยังทำตัวเหมือน
เด็กน้อยที่เรียบร้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ เจ้าลองคิดให้ดีก็แล้วกัน ว่า
เบื้องหลังของเธอนั้นจะยิ่งใหญ่มากขนาดไหน?…”
ทุกคนนั้นต่างตกใจกับกับการที่หมอโลหิตนั้นปฏิบัติตัวอย่างเรียบ
ร้อยต่อหน้าซุนหลิงซิ่ว แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสี่ของสำนักวังเปลวไฟ ก็
ยังมองไปที่ซุนหลิงซิ่วด้วยความตกตะลึง
“พวกแกมองอะไรกันอยู่วะ! ไม่เคยเห็นเทพธิดากันหรืออย่างไร? ไอ้
พวกตาเม็ดถั่ว!”
หมอโลหิตตะโกนออกไปอย่างเกรี้ยวกราดหลังจากที่เห็นเหล่าบรรดา
ชาวยุทธหลายคนแอบชำเลืองมองมาที่ซุนหลิงซิ่ว!

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท