Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 238

ตอนที่ 238

ตอนที่ 238 บัตรเชิญงานพิธีแสวงบุญ!
มีบุคคลที่น่าสนใจมาอยู่หน้าวิลล่าของหวังเสียน
เขาเป็นที่รู้จักในชื่อหมอโลหิตแห่งยุโรปในอดีต และตอนนี้ เสี่ยวหง
คือชื่อของเขาในปัจจุบัน
เมื่อหวังเสียนเห็นหมอโลหิตอยู่ที่หน้าประตูวิลล่าของเขา เขาก็รู้ได้
ในทันทีว่าทำไมชายคนนี้ถึงอยู่ภายใต้การควบคุมของ ซุนหลิงซิ่ว
เหตุผลก็เพราะเลือดของเธอ
หมอโลหิต เคยดูดและกินเลือดของ ซุนหลิงซิ่ว มาก่อน ในขั้นต้น
ซุนหลิงซิ่วควรจะตายหลังจากที่เลือดหมดตัวลง แต่เพราะหวังเสียน
สามารถช่วยเธอเอาไว้ได้และมอบศาสตร์เทคนิคการบ่มเพาะของ
มังกรศักด์ิสิทธ์ิแห่งแสงให้กับเธอ
เมื่อรวมกับถุงดอกไม้จิตปีศาจระดับ 12 และกายาสวรรค์ศักด์ิสิทธ์ิ
ความแข็งแกร่งทางกายภาพและการบ่มเพาะของเธอก็ทะลุไปถึงระดับ
ขั้นที่ 6 ของมังกรศักด์ิสิทธ์ิแห่งแสงซึ่งด้อยกว่าหวังเสียน ที่อยู่ใน
ระดับขั้นที่ 7 ของราชันย์มังกรศักด์ิสิทธ์ิ 5 ธาตุเพียง 1 ขั้น และระดับ
ของเธอนั้นมีความแข็งแกร่งพอ ๆ กับระดับผู้เชี่ยวชาญก่อกำเนิด
ลมปราณขั้นกลางเลยทีเดียว
สำหรับหมอโลหิต ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
หลังจากที่เขาได้ดื่มเลือดของซุนหลิงซิ่ว ตอนนี้ระดับขั้นของเขานั้น
ก็อยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นต้นแต่ระดับความแข็งแกร่งของ
เขานั้นย่อมแข็งแกร่งกว่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณทั่วไป
มาก
แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาที่ซ่อนอยู่หลังจากที่เขาดื่มเลือดของซุน
หลิงซิ่ว
เธอมีความรู้และความสามารถของมังกรศักด์ิสิทธ์ิแห่งแสง ซึ่งมัน
เป็นวิธีการเดียวกับที่หวังเสียน ใช้ควบคุมเหล่ามนุษย์มังกรและ
สาวกแห่งวังมังกร ซุนหลิงซิ่ว จึงสามารถควบคุมหมอโลหิตได้
โดยตรง
และเป็นเช่นเดียวกันกับเผ่าพันธุ์มนุษย์มังกร หมอโลหิตจะยอมรับ
ซุนหลิงซิ่ว เป็นเจ้านายเหนือชีวิตในทันทีที่ซุนหลิงซิ่ว เริ่มกระตุ้น
สายเลือดของเธอและใช้พลังแห่งสายเลือดเพื่อผูกพันธะสัญญานาย
บ่าวทางจิตวิญญาณกับหมอโลหิตที่ได้รับสายเลือดของเธอไป
และซุนหลิงซิ่วยังสามารถใช้พลังทางจิตวิญญาณเพื่อลงโทษหมอ
โลหิตได้อีกด้วย และนั่นจะเป็นความทุกข์ทรมานอย่างที่สุดมากยิ่ง
กว่าความตายหากเธอต้องการลงโทษเขา
“นายท่าน! เสี่ยวหงนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ ความสามารถในการรับรู้
ของกระผมนั้นสามารถรู้ได้ทันทีว่าชายผู้นี้อ่อนแอกว่าตัวกระผม
เพียงเล็กน้อยเท่านั้น!” โม่ชิงหลง พูดกับหวังเสียน ด้วยความยินดี
ขณะที่เขามองไปยังหมอโลหิตหรือเสี่ยวหง ที่กำลังยืนอยู่อย่าง
เรียบร้อยทางด้านหลังของซุนหลิงซิ่ว เหมือนคนรับใช้ชาวยุโรปที่
ซื่อสัตย์
“นั่นถือว่าเป็นข้อดีมากเลยทีเดียว ในตอนแรกชายคนนี้คงไม่เคยคิด
ฝันว่าบทสรุปในตอนท้ายตัวของเขาจะตกกลายเป็นทาสทางจิต
วิญญาณแบบนี้!” หวังเสียน พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ทุกท่านครับ! ตอนนี้นายท่านได้ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ
ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมรับประทานอาหารพร้อมกันได้เลยครับ!”
เสี่ยวหง ยกอาหารเช้าที่ซุนหลิงซิ่ว ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วออกมาจัด
เตรียมวางไว้ที่โต๊ะอาหารพร้อมกับเดินมาประกาศเชิญชวนทุกคน
ให้ไปรับประทานอาหารของเจ้านายของเขาด้วยท่าทางที่ภาคภูมิใจ
หมอโลหิต มาจากตระกูลขุนนางระดับสูงในยุโรป ฉะนั้นมารยาท
ทางสังคมของเขานั้นจึงสูงเป็นอย่างมาก ลักษณะท่าทางของเขานั้น
เหมือนกับคนรับใช้ในราชวงศ์อังกฤษที่มีความสง่างามและค่อนข้าง
ที่จะเจ้าระเบียบ
พนักงานร้านอาหารในระดับโรงแรมหรูเกรดห้าดาวยังไม่สามารถ
เปรียบเทียบกับความเรียบร้อยและสง่างามของเขาได้
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวเกี่ยวกับตัวเขานั่นก็คือภาษาจีนกลางที่ฟังแล้ว
เลอะเทอะเป็นอย่างยิ่ง
“ได้เวลาทานอาหารเช้ากันแล้ว!” ซุนหลิงซิ่วนั่งอยู่ทางด้านข้างของ
หวังเสียน พูดกับเขาด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข “เสี่ยวเสียน คุณลอง
ชิมดูสิว่าชอบไหม?”
“โอเค!” หวังเสียนพยักหน้าและพูดออกมา “โอ้วว! อร่อยมากเลย
ทีเดียว!”
“ดีจัง! โอ้ว ใช่แล้วล่ะ เสี่ยวเสียน วันนี้ฉันอาจจะยังไม่ได้เปิดศูนย์
การแพทย์เพื่อรับรักษาผู้ป่ วยหรอกนะ! เสี่ยวหง นำหนังสือเกี่ยวกับ
การแพทย์ติดมาด้วยเยอะแยะเลย ฉันอยากจะหยุดเพื่อศึกษาดู
หนังสือพวกนั้นสักวันหนึ่ง!” ซุนหลิงซิ่ว พูดกับหวังเสียน
“ถ้างั้นก็ตามใจคุณเลย ผมไม่ได้รีบร้อนอะไรอยู่แล้ว!” หวังเสียน
หันไปพูดแล้วยิ้มให้กับเธอ
“แล้วอีกอย่างนึงการที่มีเสี่ยวหงเข้ามาช่วยงานในศูนย์การแพทย์ มัน
น่าจะง่ายขึ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว!” หวังเสียน ดีใจมากที่ซุนหลิง
ซิ่ว มีผู้ช่วยที่มีความแข็งแกร่งและยังมีความสามารถทางด้านการแพทย์
สูงอีกด้วย เธอจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมากเกินไป และเสี่ยวหงก็ยังเป็น
ทาสที่ซื่อสัตย์กับเธออย่างที่สุดอีกด้วย
“ใช่แล้วล่ะ! งานที่ศูนย์การแพทย์จะคล่องตัวขึ้นอีกมากเลยในอนาคต
เมื่อมีเสี่ยวหง เข้ามาช่วย!” ซุนหลิงซิ่ว ยิ้มและพยักหน้า
หมอโลหิต สามารถรับรู้ผ่านทางจิตวิญญาณของเขาได้ว่า เจ้านาย
ของเขานั้นเคารพรักชายหนุ่มคนนี้เป็นอย่างมาก และสัมผัสทางจิต
วิญญาณของเขายังแจ้งเตือนผ่านทางสัญชาตญาณของเขาอีกว่าชาย
หนุ่มคนนี้นั้น น่ากลัวอย่างที่สุด ออร่าบาง ๆ ที่แผ่ออกมาจากเขานั้น
แข็งแกร่งและน่ากลัวเสียยิ่งกว่านายหญิงของเขาเสียอีก เขาจึงสามารถ
รับรู้ได้โดยอัตโนมัติเลยว่าชายหนุ่มคนนี้นั้นจะต้องเป็นนายท่านผู้ชาย
ของเขาอย่างแน่นอน
…..
หลังจากที่เรียนหนักมาทั้งวันหวังเสียน ก็พาหลานชิงเยว่และกวนชูชิง
กลับมาที่วิลล่าพร้อมกับเขาด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อเขากลับมาถึงวิลล่าเขาก็เห็นคนที่คุ้นเคยกำลังนั่งอยู่
บนโซฟาในห้องรับแขก
“อ้าว! ท่านเจ้าสำนักถังทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ!”
หวังเสียน ส่งสัญญาณมือไปยังหลานชิงเยว่ และกวนชูชิง ทั้งสอง
สาวก็เข้าใจกันในทันทีก่อนที่เธอทั้งคู่จะออกไปเดินเล่นรับลมที่ริม
ทะเลทางด้านหลังของวิลล่า
“สวัสดีครับ หมอเทวะหวัง!” เจ้าสำนักถังลุกขึ้นยืนทักทายเขาด้วยสี
หน้าที่ค่อนข้างจะเคร่งเครียด
“ผมต้องขอโทษหมอเทวะหวังมากจริง ๆ เลยครับที่ต้องมารบกวน
คุณถึงที่นี่ แต่ผมมีเรื่องที่สำคัญบางอย่างที่ต้องการบอกกับหมอเทวะ
หวังและเสียวหยู!”
“นั่งลงก่อนเถอะครับ ท่านเจ้าสำนักถัง คุณกับผมก็เป็นคนกันเอง
คุณสามารถพูดออกมาได้ตามตรงอย่างสบายใจได้เลยครับ!” หวัง
เสียน ยิ้มและเดินไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับเขา
“มันเกี่ยวข้องกับงานแสวงบุญของสำนักวังเปลวไฟที่กำลังจะจัด
ขึ้น!” เจ้าสำนักถังพูดออกมาด้วยสีหน้าที่หนักใจ
“งานแสวงบุญของสำนักวังเปลวไฟอย่างนั้นเหรอ?” หวังเสียน
ค่อนข้างที่จะแปลกใจที่เจ้าสำนักถังเข้ามาพูดเรื่องนี้กับตนเอง
“นี่คือบัตรเชิญจากพวกเขาครับ!”
เจ้าสำนักถังวางบัตรเชิญ 2 ใบไว้ตรงหน้าหวังเสียก่อนที่เขาจะเปิ ด
มันออกมา
เนื้อหาเหมือนกับบัตรเชิญที่เขาได้รับจากชายชรา [งานพิธีแสวงบุญ
: สำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิ]
และยังมีข้อความด้านล่างอยู่อีกหนึ่งข้อความ
[ขอแสดงความนับถือเพื่อเรียนเชิญผู้นำสำนักกระบี่พฤกษาขจี เพื่อ
เป็นเกียรติและมาเข้าร่วมในงานพิธีในครั้งนี้ด้วย]
และบนบัตรเชิญอีกใบก็มีข้อความที่คล้าย ๆ กันแต่ชื่อที่ถูกเชิญนั้น
แตกต่างกัน [ขอแสดงความนับถือเพื่อเรียนเชิญธิดาสวรรค์แห่ง
สำนักกระบี่พฤกษาขจี เพื่อเป็นเกียรติและมาเข้าร่วมในงานพิธีใน
ครั้งนี้ด้วย]
“ธิดาสวรรค์แห่งสำนักกระบี่พฤกษาขจีอย่างนั้นรึ?” หวังเสียน หรี่
ตาลงเล็กน้อยเมื่ออ่านข้อความในบัตรเชิญอีกใบ
“น่าจะมีคนในสำนักกระบี่พฤกษาขจี ทำข้อมูลภายในสำนักรั่วไหล
อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นสำนักวังเปลวไฟคงจะไม่รู้เรื่องการดำรง
อยู่ของธิดาสวรรค์ ได้อย่างแน่นอน!” เจ้าสำนักถังพูดออกมาด้วย
น้ำเสียงที่ค่อนข้างจะเคร่งเครียด
ภายในโลกยุทธภพต่างรู้กันดีว่าเมื่อสำนักจัดตั้งตำแหน่งธิดาสวรรค์
หรือโอรสสวรรค์ขึ้นมานั่นก็หมายความว่าพวกเขานั้นตั้งความหวัง
และให้ความเคารพอย่างสูงต่อลูกศิษย์ผู้ได้ดำรงตำแหน่งนี้
ลูกศิษย์ผู้นั้นอาจจะเป็นผู้ที่มีความสามารถและพรสวรรค์ในระดับที่
สูงมากและจะสามารถฝึกฝนไปจนถึงระดับก่อกำเนิดลมปราณได้
อย่างแน่นอน
และในระดับสำนักที่ใหญ่ ๆ ในโลกยุทธภพนั้นตำแหน่งธิดาสวรรค์
หรือโอรสสวรรค์นั้นก็ถือได้ว่าเป็นทายาทแห่งสำนักหรือว่าที่เจ้า
สำนักคนต่อไปนั่นเอง
ดูเหมือนว่าสำนักวังเปลวไฟนั้นค่อนข้างที่จะสนใจในความสามารถ
ของเสี่ยวหยู เป็นอย่างมาก และพวกเขาอาจจะทำการสืบข่าวหาข้อมูล
เพิ่มเติมของเสี่ยวหยู จนสามารถรู้รายละเอียดบางอย่างแล้วก็ได้
สำหรับการเชิญให้เสี่ยวหยูเข้าไปร่วมงานพิธีในครั้งนี้ด้วย เจ้าสำนัก
ถังนั้นไม่รู้จุดมุ่งหมายของสำนักวังเปลวไฟเลยจริง ๆ
หวังเสียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สำนักวังเปลวไฟ ได้ส่งการ์ดเชิญสองใบ
แยกกัน ในกรณีนี้นั้นเสี่ยวหยู ในฐานะที่เป็นธิดาสวรรค์และได้รับ
เชิญโดยตรง เธอก็จำเป็นต้องไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มิฉะนั้นมันจะ
ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติสำนักระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิ ทำให้สำนักวัง
เปลวไฟมีข้ออ้าง กระทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้
ซึ่งอาจจะสร้างปัญหาไม่รู้จบให้กับเสี่ยวหยู ในอนาคต
และในเรื่องนี้เจ้าสำนักถังไม่กล้าตัดสินใจใด ๆ เขาจึงต้องมาขอ
คำปรึกษากับหวังเสียนก่อน
“ฮึ! งานพิธีแสวงบุญ” หวังเสียน หายใจออกทางจมูกอย่างดูถูก
เล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นผมจะไปกับเสี่ยวหยู ด้วยก็แล้วกัน!”
เจ้าสำนักถังตกใจเล็กน้อย เขารีบลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวคำขอโทษ
ด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ผมขอโทษหมอเทวะหวังมากจริง ๆ ที่ต้องทำ
ให้คุณนั้นเดือดร้อนไปด้วย!”
“ไม่เป็นไร! ท่านเจ้าสำนักถังคุณไม่ต้องกังวลกับปัญหาเรื่องพวกนี้
มากนักหรอก!” หวังเสียน ส่ายหัวและยิ้มบาง ๆ ให้กับเขา
“ถ้าอย่างนั้นในตอนนี้ผมคงต้องขอตัวกลับไปก่อนและไม่รบกวน
หมอเทวะหวังอีกต่อไป ผมยังคงต้องติดต่อผู้อาวุโสอีกหลายท่าน
ของสำนักเพื่อเตรียมการบางอย่าง!” เจ้าสำนักถังพูดพร้อมกับโค้งตัว
คำนับและอำลาหวังเสียน
“โอเคครับ!”
หวังเสียนพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นยืนเดินไปส่งเจ้าสำนักถังที่หน้า
ประตู เมื่อเขากลับมานั่งที่โซฟาเขาเหลือบมองไปที่บัตรเชิญของ
สำนักวังเปลวไฟ “พิธีแสวงบุญอย่างนั้นหรือ? น่าสนใจดี!”
หลังจากนั้นไม่นานเสียวหยูและผู้อาวุโสฟางก็กลับเข้ามาที่วิลล่า
เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่นั้นได้รู้เรื่องเกี่ยวกับบัตรเชิญแล้ว
เมื่อเธอกลับมาถึงเธอก็รีบชักชวนผู้อาวุโสฟางไปฝึกฝนต่อในทันที
เธอมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะเข้าไปถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ
ก่อกำเนิดลมปราณให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้
หลังจากที่พวกเขาทำบาร์บีคิวกินกันที่ริมชายหาดแทนอาหารค่ำกัน
แล้ว ค่ำคืนอันน่าตื่นเต้นของหวังเสียน ก็มาถึง แต่แล้วจินตนาการ
ทั้งหมดของเขาก็พังทลายลงไปในทันที เมื่อเขาได้พบว่า กวนชูชิง
และ หลานชิงเยว่ ทั้งคู่ได้แยกห้องนอนกันเป็นการส่วนตัวพร้อมกับ
ล็อคประตูกันไว้อย่างแน่นหนา
หวังเสียน ยืนสลดหดหู่อยู่ที่หน้าประตูห้องของตัวเองเป็นเวลานาน
….
“องค์ราชาขอรับ! กระผมมีข่าวดีที่จะมาแจ้งให้องค์ราชาได้ทราบ
ขอรับ!”
ในตอนเช้าเมื่อหวังเสียน เดินไปที่ห้องนั่งเล่น โม่ชิงหลงก็เดินเข้ามา
กระซิบรายงานข่าวบางอย่างให้กับเขา
“มีข่าวดีอะไรอย่างนั้นรึ?”หวังเสียน หันมามองเล็กน้อยและถาม
“โม่หยวนขอรับองค์ราชา! โม่หยวนได้ก้าวเข้าสู่ระดับก่อกำเนิด
ลมปราณแล้วขอรับ!” โม่ชิงหลงรีบตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ตื่นเต้น
“โอ้ว! เร็วมาก!”
หวังเสียน พยักหน้าอย่างพึงพอใจ โม่หยวน นั้นเป็นลูกศิษย์สายตรง
ของโม่ชิงหลง ก่อนที่พวกเขานั้นจะกลายเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์มังกร
สาวกของหวังเสียน ตัวเขานั้นมีพรสวรรค์และพื้นฐานที่ดีมากคนนึง
เลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจมากเท่าไหร่นักพี่การฝึกฝนของเขานั้น
จะสามารถพัฒนาเข้าสู่ระดับก่อกำเนิดลมปราณได้อย่างรวดเร็ว!”
“โอ้ว ใช่!” หวังเสียน ลังเลเล็กน้อยพร้อมกับพูดต่อว่า “เรียกโม่
หยวน ให้ไปงานพิธีแสวงบุญของสำนักวังเปลวไฟพร้อมกับพวกเรา
ด้วยนะ!”
“ในครั้งนี้น่าจะมีกองกำลังระดับชั้นนำที่อยู่บริเวณโดยรอบสี่ถึงห้า
จังหวัดในเขตมณฑลทางตอนใต้นี้ต้องเข้าร่วมอย่างเป็นแน่!”
“วัตถุประสงค์หลักของสำนักวังเปลวไฟ คือการสรรหาผู้เชี่ยวชาญ
และรับศิษย์ที่โดดเด่น!”
“อาจจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นก็ได้ ฉะนั้นพวกเจ้าก็ควรจะเตรียมตัว
กันเอาไว้บ้าง!” หวังเสียน คิดใคร่ครวญ ขณะที่เขาพูดขึ้นมา เขานั้น
ไม่ต้องการที่จะประมาท ต่อให้เขาไม่เกรงกลัวสำนักวังเปลวไฟ แต่
ตัวเขาก็ไม่ต้องการที่จะให้เกิดเหตุการณ์ผิดพลาดใด ๆ ขึ้นมาทั้งสิ้น
เพราะว่างานนี้เสี่ยวหยู นั้นไปกับเขาด้วย
“ขอรับองค์ราชา! กระผมจะไปเตรียมตัวในทันทีเลยขอรับ!” โม่ชิง
หลงตอบกลับด้วยความเคารพ
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบดำเนินการในทันที พวกเราจะไปกันหลังจากที่ทาน
อาหารเช้าแล้ว!” หวังเสียน พูดสั่งงานก่อนที่โมชิงหลงจะออกไป
หลังจากนั้นหมอโลหิตก็เดินเข้ามาเชิญหวังเสียไปทานอาหารเช้า
ด้วยความเคารพ
“หลิงซิ่วทำไมคุณไม่ไปที่ภูเขาหวู่ต้วน พร้อมกันกับพวกเราด้วย
ล่ะ!” หวัง เสียนหันไปพูดกับซุนหลิงซิ่ว
“ตกลงค่ะ! ฉันจะฟังในสิ่งที่คุณพูดค่ะ เสี่ยวเสียน!” ซุนหลิงซิ่ว พยัก
หน้าพร้อมกับตอบด้วยรอยยิ้มอย่างเชื่อฟัง
หลานชิงเยว่ และ กวนชูชิง ที่กำลังก้าวเดินลงมาจากบันได ก็ได้ยิน
เสียงพูดคุยของหวังเสียนกับซุนหลิงซิ่ว พอดี

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท