Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 250

ตอนที่ 250

ตอนที่ 250 ความแข็งแกร่งมีแค่เพียงระดับนี้?
เมื่อเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นปากของเฟิงหยางลี่ ก็กระตุกเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าการกระทำของเขาในก่อนหน้านี้จะดูน่าอับอายไปบ้างเล็กน้อย
แต่เขาก็รู้สึกว่าการตัดสินใจของเขาเมื่อครู่นี้ถูกต้องอย่างที่สุด
คนพวกนี้อยู่กลุ่มเดียวกันอย่างแน่นอน!
“เจ้าชาวต่างชาติคนนี้นั้นเป็นใครกันแน่? ทำไมคำพูดของเขาถึงช่าง
อวดดีมากขนาดนี้!”
“เขานั้นปากร้ายมากจริง ๆ ! แต่ข้าก็รู้สึกว่ามันช่างน่าขำอย่างมาก
เช่นเดียวกัน!”
“ฝรั่งในชุดทักซิโด้สีแดงคนนี้บ้าคลั่งมาก! เขาถึงกับกล้าท้าทายหมอ
เทวะเซิ่งหัวให้มาสู้กับเขาอย่างนั้นเลยเหรอ!”
“แกเป็นใครไอ้ฝรั่งบัดซบ! แกอยู่ในสำนักวังเปลวไฟของพวกเรา
แล้วยังกล้าพูดจาท้าทายหมอเทวะเซิ่งหัวแห่งสำนักวังเปลวไฟของ
พวกเราอีกอย่างนั้นเหรอ แกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วอย่างนั้นใช่ไหม?”
กลุ่มสาวกของสำนักวังเปลวไฟ ตะโกนพูดออกมาด้วยความโกรธแค้น
ฮิฮิ!
หมอโลหิตไม่ได้ให้ความสนใจกับเหล่าสาวกของสำนักวังเปลวไฟ
แต่เขาจ้องมองไปยังหมอเทวะเซิ่งหัว “เจ้าหมาแก่ งานในยุโรปไม่มี
จะให้ทำแล้วอย่างนั้นใช่ไหม? ถึงได้วิ่งโร่มาเป็นหมาเฝ้าบ้านให้คน
อื่นเขาถึงที่นี่ได้!”
“โอ้ว! ข้าก็คิดว่าเสียงสัตว์เดรัจฉานที่ไหนมาร้องโหยหวนอยู่แถวนี้
ที่แท้ก็เสียงของเจ้าค้างคาวดูดเลือดตัวน้อยนี่เอง!”
เมื่อได้ยินหมอโลหิตเรียกเขาว่าหมาแก่ขี้เรื้อน หมอเทวะเซิ่งหัวก็
รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เขาจ้องมองไปที่หมอโลหิตด้วยสายตาที่
โกรธแค้นพร้อมกับพูดตอบโต้กลับไปอย่างดูถูกเช่นเดียวกัน
“เคี๊ยก ๆ ๆ ! ไอ้หมาแก่เจ้านั้นควรจะระมัดระวังการพูดจากับข้าเอาไว้
บ้าง ตอนนี้ข้านั้นได้ไปถึงระดับขอบเขตของเจ้าชายแล้ว ปากของ
เจ้าอาจจะไม่ได้เห่าหอนอีกต่อไปก็ได้ เคี๊ยก ๆ ๆ !”
หมอโลหิตจ้องมองไปที่หมอเทวะเซิ่งหัวอย่างดูถูกและเย้ยหยันก่อนที่
จะพูดออกมาอีกว่า “มาเถอะเจ้าหมาแก่! เรามาลองประมือกันสัก
หน่อยว่าตอนนี้เจ้านั้นมีความสามารถเพิ่มขึ้นมาบ้างหรือยัง!”
ระดับขอบเขตเจ้าชาย!
เซิ่งหัว หรี่ตาลงเล็กน้อย หลังจากที่เขาได้ยินหมอโลหิตพูดถึงระดับ
ขอบเขตการฝึกฝนของตัวเองให้เขาฟัง เขามีความประหลาดใจอยู่
บ้างแต่ก็ยังพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ฮึฮึ! เจ้าต้องการให้ข้าชำระล้าง
บาปด้วยแสงศักด์ิสิทธ์ิให้เจ้าหรือไม่? เจ้าจะได้พ้นทุกข์เสียที ฮึฮึ!”
“เคี๊ยก ๆ ๆ ! ไอ้หมาแก่ขี้เรื้อน เจ้าคิดว่าข้าหมอโลหิตนั้นยังคงเหมือน
เดิมอยู่อีกอย่างงั้นหรือ!”
หมอโลหิตยิ้มออกมาอย่างกระหายเลือด แรงกดดันอันทรงพลังของ
เขาเริ่มถูกปลดปล่อยออกมา ออร่าสีแดงโลหิตข้นหนืดหมุนวนออกมา
จากรอบ ๆ ตัวของเขา
กลิ่นเลือดและกลิ่นอายแห่งความตายฟุ้งกระจายออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ผู้ฝึกฝนบ่มเพาะวิชาโลหิตแห่งความชั่วร้ายและวิชาแสงศักด์ิสิทธ์ิ
อย่างเช่นพวกเรา ความแข็งแกร่งของการฝึกฝนจะแสดงให้เห็นถึง
ทักษะทางการแพทย์ด้วย ตอนนี้ข้ารู้สึกตื่นเต้นจนเลือดเดือดพล่าน
ไปหมดแล้ว ฮิฮิ!”
หมอโลหิตเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ เขี้ยวยาวสีขาวกับดวงตาสีแดงเลือด
ของเขานั้นช่างน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก มีปีกสีแดงเลือดคู่หนึ่ง
ปรากฏขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา
นี่เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งในระดับเจ้าชาย ซึ่งเป็นความ
แข็งแกร่งในระดับสูงสุดของทางฝั่งยุโรป
“มาเถอะไอ้หมาแก่ ! ตั้งแต่ข้าก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งเจ้าชายข้านั้นยัง
ไม่เคยได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวข้าเองเลย ฮิฮิฮิ!” หมอโลหิต
หัวเราะออกมาด้วยความคึกคัก
ปีกปีศาจสีเลือดของเขายื่นออกไปทางด้านหลังของเขาในขณะที่
กลิ่นอายเลือดและความตายปกคลุมอยู่รอบ ๆ ตัวเขา
รอบ ๆ ร่างกายของหมอโลหิต เปลี่ยนไปเป็นสีแดงอย่างสมบูรณ์
ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้าด้วยสีแดงเลือด ดูแล้วน่าขนลุกเป็นอย่างยิ่ง
“กลิ่นอายแห่งความตายช่างน่าหวาดกลัวอะไรขนาดนี้!”
“นี่คือแวมไพร์จากยุโรป! เขาเป็นแวมไพร์ระดับเจ้าชาย! โอ้พระเจ้า!
ออร่าน่ากลัวอะไรอย่างนี้!”
“ขาของข้านั้นอ่อนแรงไปหมดแล้ว! นี่!…นี่คือออร่าของแวมไพร์
อย่างนั้นรึ?”
เหล่าชาวยุทธ์ที่อยู่บริเวณโดยรอบล้วนตกตะลึงกันจนตัวแข็ง ชาว
ยุทธที่อยู่ต่ำกว่าระดับนักรบขั้นที่ 6 แทบจะทรุดตัวลงไปกองกับพื้น
พวกเขาแหงนหน้ามองขึ้นไปยังหมอโลหิตที่กำลังกระพือปีกโลหิต
บินขึ้นไปบนท้องฟ้า
‘แข็งแกร่งเกินไป เขาแข็งแกร่งมากเกินไปจริง ๆ ! ข้านั้นคิดถูกแล้ว
ที่ไม่ได้ท้าทายเขาเมื่อตอนก่อนหน้านี้!’
เฟิงหยางลี่ มองไปยังหมอโลหิตที่กำลังบินอยู่กลางอากาศ หัวใจของ
เขาเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับบ่นพึมพำออกมาอย่าง
เงียบ ๆ
เขาแน่ใจเป็นอย่างยิ่งเลยว่าเขานั้นไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับหมอโลหิต
คนนี้ได้อย่างแน่นอน
“นี่คือแวมไพร์อย่างนั้นรึ?….”
ผู้อาวุโสทั้งสี่แห่งวังเปลวไฟซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งตรงกลางต่างตก
ตะลึง
ผู้เชี่ยวชาญก่อกำเนิดลมปราณ สามารถแบ่งเป็นระดับขั้นได้ 4 ระดับ
คือ ก่อกำเนิดลมปราณขั้นต้น, ก่อกำเนิดลมปราณขั้นกลาง, ก่อกำเนิด
ลมปราณขั้นสูง และก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงสุด
พวกเขาทั้งสี่คนที่เป็นผู้อาวุโสของสำนักวังเปลวไฟเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ก่อกำเนิดลมปราณขั้นกลางเพียงเท่านั้น แต่หากพวกเขาร่วมมือกัน ก็
ยังจะสามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงได้
แต่ในตอนนี้แรงกดดันอันทรงพลังที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของ
หมอโลหิตนั้น ถึงกับทำให้ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านด้วยความ
หวาดกลัวตามสัญชาตญาณ
ซึ่งในกรณีนี้อาจจะเป็นเพราะว่าแวมไพร์นั้นถือได้ว่าเป็นนักล่าขั้น
สูง และมนุษย์นั้นถือได้ว่าเป็นเหยื่ออันโอชะของเหล่าแวมไพร์
ทั้งสี่คนสบตากันและสามารถมองเห็นความหวาดกลัวในแววตาของ
กันและกันได้
“ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าค้างคาวดูดเลือดตัวน้อยอย่างเจ้าจะ
สามารถพัฒนาตัวเองได้รวดเร็วถึงเพียงนี้!”
หมอเทวะเซิ่งหัว มองไปที่หมอโลหิตด้วยความประหลาดใจ
“ในอดีตนั้นข้าสามารถกำราบเจ้าจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนได้และ
ในตอนนี้ข้าก็ยังสามารถทำได้เช่นเดียวกัน!”
แววตาของหมอเทวะเซิ่งหัวสาดประกายออกมาอย่างน่ากลัว เขายก
ฝามือขึ้นอย่างช้า ๆ ไม้เท้ารูปร่างแปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นในมือ
ของเขา
เขาถือไม้เท้าด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมกับมีออร่าของแสงที่หนาแน่น
ส่องสว่างเจิดจ้ามาจากร่างกายของเขา
วาบบบบ!
ปีกพลังงานแสงปรากฏออกมาจากทางด้านหลังของเขา แสงสว่าง
เจิดจ้าที่อยู่รอบตัวของเขานั้นเมื่อมองดูแล้วเหมือนกับเทพในตำนาน
เลยทีเดียว
“แสงสว่างนั้นย่อมเป็นคู่ปรับกับความมืดมิดมันสามารถทำลายสิ่งมี
ชีวิตอันวิปริตและชั่วร้ายเช่นเจ้าได้อย่างแน่นอน!”
หมอเทวะเซิ่งหัว ถือไม้เท้าและค่อย ๆ ลอยตัวขึ้นไปหาหมอโลหิต
อย่างช้า ๆ
“เคี๊ยก ๆ ๆ ! แสงสว่างทำลายความมืดอย่างนั้นหรือ? บางทีความมืดมิด
ก็สามารถกลืนกินแสงสว่างได้เช่นเดียวกัน ฮิฮิ!”
หมอโลหิตพุ่งตรงเข้าไปหาหมอเทวะเซิ่งหัวในทันที “ไปตายซะ!”
“ดาบแสงศักด์ิสิทธ์ิ!”
หมอเทวะเซิ่งหัว ลอยตัวอยู่บนอากาศอย่างสง่างาม เขาโบกไม้เท้า
ในมือของเขาและมีแสงสว่างออกมาเป็นรูปไม้กางเขนพุ่งตรงไปยัง
หมอโลหิตทันที
“เลือดอสูรคลุ้มคลั่ง!”
หมอโลหิตเหยียดแขนของเขาออกไปพร้อมกับมีเลือดข้นหนืดสีดำ
พุ่งออกตรงไปพันรอบแสงดาบของไม้กางเขน
บรูมมมม!
แต่อย่างไรก็ตามในขณะที่เลือดสีดำเข้าไปรัดพันรอบไม้กางเขน แต่
ลำแสงสีทองที่คล้ายกับคมดาบก็ยังพุ่งตรงไปยังหมอโลหิตอย่าง
รวดเร็ว
ฉั๊วะ!
แต่ในทันทีที่แสงแห่งดาบพุ่งเข้าสู่ตัวของหมอโลหิต กระแสเลือด
ในตัวของเขานั้นรู้สึกเดือดพล่านและตื่นตัวมากขึ้นเป็นพิเศษ
“!..นี่คือ?”
หมอโลหิตรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะโดยปกติแล้วลำแสง
ศักด์ิสิทธ์ิ จะทำลายร่างกายแห่งความมืดของเขาโดยตรง แต่อย่างไร
ก็ตามในตอนนี้ร่างกายของเขานั้นไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เลย
นอกจากนี้ตัวเขานั้นยังรู้สึกอบอุ่นและมีพลังงานเพิ่มขึ้นมาอีกมาก
เลยทีเดียว
“เคี๊ยก ๆ ๆ ! ฮิฮิฮิ!”
หมอโลหิตหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความ
ตื่นเต้น “นายของข้า! นายหญิงเจ้าชีวิตแห่งข้า! ท่านสมควรเป็นเจ้า
ชีวิตเหนือหัวของทาสผู้ต่ำต้อยผู้นี้จริง ๆ !”
เขาตะโกนออกมาอย่างคุ้มคลั่ง ในขณะที่เขาหันไปมองหมอเทวะ
เซิ่งหัว พร้อมกับแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว
“ข้าไม่มีอะไรต้องหวาดกลัวเจ้าอีกต่อไปแล้วไอ้หมาแก่ขี้เรื้อน! จง
ลองรับพลังแห่งความมืดของข้าเสียหน่อยเถอะ!”
เขาขยับร่างกายพุ่งตรงเข้าไปหาหมอเทวะเซิ่งหัว ด้วยความเร็วที่น่า
อัศจรรย์
หมอกเลือดสีแดงเข้มตรงเข้าไปปกคลุมร่างกายหมอเทวะเซิ่งหัวทันที
หมอเทวะเซิ่งหัว ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใดเขาถือไม้เท้าด้วยสอง
มือพร้อมกับ พึมพำเหมือนท่องมนต์คาถาออกมา
“แสงศักด์ิสิทธ์ิขจัดความชั่วร้าย!”
ลำแสงสีทองปรากฏขึ้นตรงหน้าของหมอเทวะเซิ่งหัว คล้ายกับดวง
อาทิตย์ มันตรงเข้าไปต่อต้านหมอกเลือดสีแดงเข้มของหมอโลหิต
โดยตรง
“สายเลือดแห่งจอมซาตานลูซิเฟอร์ผู้ยิ่งใหญ่ขอได้โปรดประทานพร
แก่ข้า ความมืดมิดจงมาและกลืนกินแสงสว่างเสียให้สิ้น!”
หมอโลหิตเปิดปีกโลหิตของเขาพร้อมกับพุ่งตรงเข้าไปยังลำแสง
ศักด์ิสิทธ์ิที่หมอเทวะเซิ่งหัว ยิงออกมา
“ไอ้ค้างคาวผีบ้าเลือด! ช่างรนหาที่ตายเสียจริง ๆ !” เมื่อหมอเทวะ
เซิ่งหัว เห็นหมอโลหิตพุ่งตรงเข้ามายังลำแสงศักด์ิสิทธ์ิของเขา เขาก็
พูดออกมาด้วยความดูถูก
“เคี๊ยก ๆ ๆ ! ไอ้หมาแก่โง่เง่าระดับความแข็งแกร่งของเจ้ามีเพียงเท่านี้
ยังคิดจะกล้ามาหยิ่งผยอง ต่อหน้าข้าอีกอย่างนั้นหรือ ไอ้หมาแก่ขี้
เรื้อน!”
หมอโลหิตตะโกนด่าออกมาด้วยความดูถูกและหยาบคาย ทุกคนที่
กำลังดูการต่อสู้อยู่อย่างลุ้นระทึกต่างตกใจกับคำพูดที่บ้าคลั่งของ
เขา!

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท