Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 243

ตอนที่ 243

ตอนที่ 243 เริ่มการทดสอบและรับสมัครลูกศิษย์!
ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการคัดเลือกจากสำนักวังเปลวไฟ เพื่อเข้ารับ
ตำแหน่งในระดับผู้อาวุโสของสำนัก ต่างทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึง
พวกเขาจ้องมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณที่เข้าร่วมกับ
สำนักวังเปลวไฟหลายคนรวมถึงหมอเทวะในการจัดอันดับรายชื่อ
ของหมอเทวะศักด์ิสิทธ์ิแห่งโลกยุทธภพอีกสองคน
“หนึ่งในนั้นก็คือหมอเทวะระดับแนวหน้าของการจัดอันดับหมอ
เทวะศักด์ิสิทธ์ิ นั่นก็คือหมอเทวะเซิ่งหัว จากทวีปยุโรป และระดับ
ความแข็งแกร่งของเขานั้นก็อยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณด้วย!”
ผู้คนโดยรอบต่างจ้องมองไปยังกลุ่มสาวกของสำนักวังเปลวไฟด้วย
ความเคารพยำเกรง
สิ่งเหล่านี้กระตุ้นให้สาวกของสำนักวังเปลวไฟทุกคนต่างรู้สึก
ภาคภูมิใจในสำนักของพวกเขาเป็นอย่างมาก
“สำนักวังเปลวไฟของเรา จะรับสมัครสาวกที่มีความสามารถเพิ่มขึ้น
อีก หากทุกท่านมีต้องการที่จะเข้าร่วมกับสำนักวังเปลวไฟ ทุกท่าน
สามารถเข้าร่วมการทดสอบและการประเมินได้!”
“สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมทำการทดสอบและประเมินเพื่อเป็นศิษย์
ของสำนักวังเปลวไฟ ท่านจะต้องมีความสามารถที่โดดเด่นและมี
อายุต่ำกว่า 20 ปี ในลำดับขั้นการฝึกฝนและบ่มเพาะต้องไม่ต่ำกว่า
นักรบระดับขั้นที่ 5 เป็นอย่างน้อย และสำหรับผู้ที่อายุไม่เกิน 30 ปี
ระดับขั้นต่ำของท่านต้องเป็นนักรบระดับขั้นที่ 6 สำหรับผู้ที่มีอายุ
ระหว่าง 30 ถึง 40 ปีท่านต้องเป็นนักรบระดับขั้นที่ 7 และสำหรับ
ท่านที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปีระดับขั้นการฝึกฝนของท่านนั้นต้องอยู่ใน
ระดับนักรบขั้นที่ 8 เป็นอย่างน้อย แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถ
สัญญากับทุกท่านได้ว่าพวกท่านนั้นจะได้รับการคัดเลือกเข้าสำนัก
ถึงแม้ว่าระดับการฝึกฝนและการบ่มเพาะของท่านนั้นจะตรงตาม
ข้อกำหนด แต่ทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการผ่านการทดสอบ
และการประเมินอีกด้วย!”
“การประเมินของสำนักเรานั้นไม่ยุ่งยากอะไรเลย เราจะให้ลูกศิษย์
ของสำนักเราทำการทดสอบฝีมือกับพวกท่าน!” ชายชรายิ้มและพูด
ต่ออีกว่า “เราจะเริ่มจากผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี เมื่อพวกท่านผ่านการ
ทดสอบแล้วพวกท่านจะกลายเป็นศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟของเรา
ซึ่งเป็นสำนักระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิ!”
“ผู้อาวุโสข้าต้องการเข้าร่วมสำนักวังเปลวไฟ และต้องการเป็นลูก
ศิษย์ของสำนักระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิ!”
ทันทีที่ชายชราพูดจบประโยคชายหนุ่มก็ก้าวไปข้างหน้าอย่าง
กระตือรือร้นในขณะที่เขาพูดออกมาด้วยเสียงอันดังอย่างมั่นใจ
“ไม่ต้องรีบ!” ชายชรามีรอยยิ้มบนใบหน้าเมื่อเห็นชายหนุ่มกระตือรือร้น
เขาเหลือบมองไปยังเหล่าลูกศิษย์ที่อยู่ข้าง ๆ เขาและตะโกนออกมา
เบา ๆ ว่า “ศิษย์ ที่อยู่ต่ำกว่า 30 ปี ก้าวออกมา!”
“ศิษย์อยู่ที่นี่แล้ว!”
สาวกประมาณ 70 คนยืนเรียงแถวกันและตอบออกมาอย่างพร้อม
เพียงกัน
ที่ตรงด้านหน้าของกลุ่มมีชายหนุ่มและหญิงสาวที่มีดวงตาเป็น
ประกายอย่างร้อนแรงยืนอยู่พวกเขามีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดา
“นี่คือลูกศิษย์ของสำนักเราที่มีพรสวรรค์ในระดับสูง พวกเขาจะทำ
การทดสอบและประเมินผู้ที่ต้องการเข้าร่วมสำนักวังเปลวไฟของเรา!”
ชายชราพูดช้า ๆ ผู้อาวุโสที่เหลือต่างขยับตัวกันอย่างรวดเร็วและนั่ง
ลงข้างหม้อกลั่นขนาดใหญ่
เปลวไฟจากหม้อกลั่นขนาดใหญ่ยังคงลุกโชติช่วงอย่างรุนแรง
“หลัวฟางหัว ศิษย์แห่งสำนักวังเปลวไฟ!”
“โม่ชางไห่ ศิษย์แห่งสำนักวังเปลวไฟ!”
ลูกศิษย์สองคนแห่งสำนักวังเปลวไฟก้าวไปข้างหน้าสองก้าวขณะที่
พวกเขามองไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่มั่นใจ
“ศิษย์ทั้งสองคนนี้ของสำนักวังเปลวไฟนั้นเป็นผู้มีพรสวรรค์ในระดับ
สูง อนาคตของพวกเขานั้นอาจได้เป็นถึงทายาทแห่งสำนักวังเปลวไฟ
หรืออาจได้เป็นถึงโอรสสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟเลยก็ได้”
ความสำคัญของลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์ระดับสูงของสำนักนั้น อาจจะ
มีความสำคัญพอ ๆ กับผู้อาวุโสของสำนักเลยก็ว่าได้
“ถ้าหากพวกท่านต้องการเข้าร่วมเป็นสาวกของสำนักวังเปลวไฟของ
เรา ท่านต้องแสดงถึงความสามารถที่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป
เพราะสำนักวังเปลวไฟของเรานั้น จะไม่รับบุคคลที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
อย่างแน่นอน!”
หลัวฟางหัว มีสีหน้าที่สงบเยือกเย็นพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ชาวยุทธ
หนุ่มสาวผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกับสำนักวังเปลวไฟจงก้าวออกมา
ข้างหน้าเดี๋ยวนี้!”
เมื่อหลัวฟางหัวพูดจบคนหนุ่มสาวหลายร้อยคนก็เดินออกมาพร้อม ๆ
กัน ใบหน้าของพวกเขาจ้องมองไปที่ด้านหน้าด้วยความประหม่า
ความหวังของเยาวชนผู้ฝึกวิชายุทธรุ่นใหม่ที่อยู่ในโลกยุทธภพนั้น
พวกเขาต้องการเข้าร่วมกับกองกำลังที่อยู่ในระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิอย่าง
แน่นอน เพราะนั่นคือความใฝ่ฝันของผู้ฝึกฝนวิชายุทธทุกคน
การเข้าร่วมกับสำนักศักด์ิสิทธ์ินั้นดีพอ ๆ กับการประสบความสำเร็จ
ในชีวิต มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
แม้แต่สาวกจากกองกำลังระดับชั้น 1 ก็ต้องการเข้าร่วมกับสำนัก
ศักด์ิสิทธ์ิเป็นอย่างมาก
ตระกูลและสำนักที่มาร่วมงานพิธีแสวงบุญในครั้งนี้ต่างสนับสนุน
บุตรหลานของพวกเขาในการเข้าร่วมกับสำนักระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิ
อย่างน้อยทรัพยากรของกองกำลังระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิในโลกยุทธภพ
นั้นก็มีมากกว่ากองกำลังระดับชั้น 1 อย่างมากมาย
“ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในระดับนักรบขั้นที่ 5, 6, 7 และ 8 โปรดเรียงแถวกัน
ตามระดับขั้นของพวกท่าน!” หลัวฟางหัว กวาดสายตามองออกไป
แล้วพูดกับเหล่าชาวยุทธ ที่ต้องการเข้าร่วมกับสำนักวังเปลวไฟ
หนุ่มสาวนับร้อยยืนเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ
มีเยาวชนระดับนักรบขั้นที่ 5 เพียงเจ็ดถึงแปดคนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
การที่สามารถฝึกฝนจนถึงระดับนักรบขั้นที่ 5 ในช่วงอายุดังกล่าวได้
นั้นถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถสูงเลยทีเดียว
นักรบระดับขั้นที่ 6 มีจำนวนมากที่สุดคือมีประมาณ 80 คน
นักรบระดับขั้นที่ 7 มีเพียง 3 คนและไม่มีระดับนักรบขั้นที่ 8 ที่อายุ
ต่ำกว่า 30 ปีเลยแม้แต่คนเดียว!
“ซ่งเซิง ลูกศิษย์แห่งสำนักวังเปลวไฟอายุ 19 ปี ข้าจะเป็นผู้ที่ทำการ
ทดสอบผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในระดับนักรบขั้นที่ 5 พร้อมกันสองคน!”
“จ้าวหวู่ ลูกศิษย์แห่งสำนักวังเปลวไฟอายุ 27 ปี ข้าจะเป็นผู้ที่ทำการ
ทดสอบ ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในระดับนักรบขั้นที่ 6 พร้อมกันสองคน!”
ในตอนนั้นเหล่าสาวกจากสำนักวังเปลวไฟ ก็ก้าวออกมาและพูดคุย
กับกลุ่มชาวยุทธวัยรุ่นที่มาที่นี่เพื่อเข้ารับการทดสอบและประเมิน
“ลูกศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟ พวกเขาดูมั่นใจมากเลยทีเดียว ถึงได้
กล้าทดสอบผู้เข้าสมัครพร้อมกันทีเดียวถึงสองคน!”
“การที่พวกเขากล้าทดสอบฝีมือกับผู้ที่มีความสามารถในระดับเดียว
กันพร้อมกันถึงสองคนนั้น แสดงให้เห็นได้ถึงความแตกต่างในระดับ
การฝึกฝนวิชายุทธของพวกเขาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว หากความ
สามารถของลูกศิษย์วังเปลวไฟนั้นเทียบเท่าคนธรรมดาทั่วไป มันก็
คงจะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเข้าสำนักวังเปลวไฟ สู้ฝึกฝนด้วย
ตัวเองอยู่ภายนอกจะไม่ดีกว่าหรือ? นี่จึงนับได้ว่าสมควรแล้วที่พวก
เขานั้นเป็นลูกศิษย์ของสำนักใหญ่อย่างสำนักวังเปลวไฟ!”
“สำนักวังเปลวไฟกำลังแสดงถึงความแข็งแกร่งของบรรดาลูกศิษย์
ของพวกเขา!”
เมื่อเหล่าบรรดาชาวยุทธโดยรอบ สังเกตเห็นลูกศิษย์ของสำนักวัง
เปลวไฟ ที่กำลังจะทำการทดสอบผู้เข้าสมัครพร้อมกันทีเดียวถึงสอง
คน พวกเขาต่างก็พูดคุยกันถึงระดับความแข็งแกร่งของสำนักวัง
เปลวไฟกันด้วยความตื่นเต้น
ผู้อาวุโสทั้งสี่ของสำนักวังเปลวไฟ บนเวทีมีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า
ของพวกเขา
พวกเขาต้องการแสดงพลังของ สำนักวังเปลวไฟ ด้วยวิธีนี้
“เชิญพวกเจ้าลงมือเถอะ!” ลูกศิษย์หนุ่มของสำนักวังเปลวไฟที่ชื่อ
จ้าวหวู่เชื้อเชิญให้ผู้เข้าร่วมทดสอบการประเมินเข้ามาต่อสู้กับเขา
พร้อม ๆ กัน
“นี่!..” ชายหนุ่มวัยรุ่นทั้งสองคนที่กำลังจะเข้ารับการทดสอบเพื่อเข้า
ร่วมกับสำนักวังเปลวไฟ มีท่าทีลังเลใจและไม่กล้าลงมือ
“เข้ามาเถอะ! หรือผู้ว่าพวกเจ้านั้นไม่ต้องการเข้าร่วมกับสำนักวัง
เปลวไฟแล้ว!” ชายหนุ่มแห่งวังเปลวไฟ พูดพร้อมกับพยักหน้าอย่าง
มั่นใจเพื่อให้ผู้เข้าร่วมทดสอบทั้งสองคนเข้ามาโจมตีเขาพร้อมกัน
เด็กหนุ่มทั้งสองคนสบตากันก่อนที่พวกเขาจะเริ่มโจมตีสาวกของ
สำนักวังเปลวไฟ
แต่อย่างไรก็ตามผลที่ออกมาทำให้ทุกคนนั้นต้องตกตะลึง
สาวกคนนั้นปลดปล่อยออร่าสีแดงจาง ๆ ออกมาเข้าจู่โจมชายหนุ่ม
วัยรุ่นทั้งสองคนในทันที ทำให้ชายหนุ่มทั้งคู่กระเด็นถอยหลัง
กลับไปหลายก้าวเลยทีเดียว
“ระดับความแข็งแกร่งของลูกศิษย์สำนักวังเปลวไฟนั้นช่างทรงพลัง
อย่างแท้จริง!”
“ช่างน่ากลัวมากนี่คือระดับพลังของสาวกสำนักระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิ
อย่างนั้นเหรอ?”
ทุกคนตกตะลึง ในขณะที่ชายหนุ่มทั้งสองคนที่เข้าร่วมทดสอบ มี
เหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมาจากหน้าผากของพวกเขาทั้งคู่
ตู้มมม!
หลังจากนั้นไม่นานลูกศิษย์หนุ่มของสำนักวังเปลวไฟ ก็ชกหมัดออก
ไปหนึ่งหมัดทำให้ ชายหนุ่มวัยรุ่นคนนึงที่เข้าร่วมทดสอบกระเด็น
ออกไปจนตกเวทีการทดสอบ ส่วนชายหนุ่มอีกคนนึงในตอนนี้นั้นก็
คุกเข่าอยู่ที่พื้นพร้อมกับมีหยดเลือดออกมาที่มุมปาก
“พอแล้ว!” ลูกศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟ พูดขึ้นมาพร้อมกับส่ายหัว
ในขณะที่เขามองไปยังชายหนุ่มทั้งสองคนที่เข้ารับการประเมิน
“ข้าคิดว่าพวกเจ้าทั้งสองคนนั้นไม่ผ่านการทดสอบ! ความสามารถ
ของพวกเจ้านั้นแย่มาก!” ลูกศิษย์หนุ่มคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่
ค่อนข้างจะเรียบเฉย
“ไม่ผ่านการทดสอบอย่างนั้นเหรอ? ชายหนุ่มทั้งสองคนนั้นเป็นนักรบ
ระดับขั้นที่ 6 ที่อยู่ในวัยไม่เกิน 30 ปี ถือว่ามีความสามารถสูงมาก
เลยทีเดียว และในตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ไม่สามารถผ่านการทดสอบ
เพื่อเข้าเป็นลูกศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟได้อย่างนั้นหรือ?”
“การทดสอบในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ ! แต่นี่ก็ถือว่าเหมาะสม
มากแล้ว เพราะนี่คือการสมัครเข้าร่วมเป็นลูกศิษย์ของสำนักระดับ
ชั้นศักด์ิสิทธ์ิ!”
“ลูกศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟนั้นมีความสามารถที่น่ากลัวมากจริง ๆ !”
เหล่าบรรดาชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างตื่นตกใจกันกับความ
สามารถของลูกศิษย์สำนักวังเปลวไฟ
“เทคนิคและวิชายุทธในการบ่มเพาะของสำนักวังเปลวไฟนั้น ดีกว่า
สำนักทั่วไปมาก ระดับศาสตร์วิชายุทธของพวกเขานั้นสามารถฝึกฝน
จนไปถึงระดับก่อกำเนิดลมปราณได้อย่างแน่นอน และบางทีพวก
เขาอาจจะมีเทคนิคการบ่มเพาะที่เหนือกว่าระดับก่อกำเนิดลมปราณ
อยู่ในมือก็ได้!”
โม่ชิงหลงหรี่ตาแคบลงในขณะที่เขามองไปยังกลุ่มคนของสำนักวัง
เปลวไฟ
“เทคนิควิชายุทธที่เหนือกว่าระดับก่อกำเนิดลมปราณอย่างนั้นหรือ?
หวังเสียน หันไปถามอย่างสงสัยเมื่อเขาได้ยินโม่ชิงหลงพูดขึ้นมา
“นายท่านขอรับ! วิชายุทธในโลกแห่งยุทธภพนั้นแบ่งออกเป็นหลาย
ระดับด้วยกัน เทคนิควิชายุทธที่อยู่ในระดับต่ำนั้นจะไม่สามารถฝึกฝน
จนไปถึงระดับก่อกำเนิดลมปราณได้ แต่ในอีกด้านหนึ่งผู้ที่มีเทคนิค
วิชายุทธในระดับสูงพวกเขาจะสามารถฝึกฝนและบ่มเพาะระดับขั้น
ของพวกเขาจนไปถึงระดับขั้นก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงสุดหรือ
อาจจะไปถึงระดับที่เหนือกว่าระดับขั้นก่อกำเนิดลมปราณเลยก็ได้
แล้ววิชายุทธเหล่านี้ส่วนมากที่เหลืออยู่ในโลกยุทธภพนั้นจะมีเพียง
แค่ส่วนน้อยเพียงเท่านั้น กระผมสงสัยว่าสำนักวังเปลวไฟน่าจะมี
เทคนิคการบ่มเพาะหรือมีวิชายุทธในระดับขั้นสูงอยู่ในมือของพวก
เขา!”

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท