ตอนที่ 247 เข้ามาให้ท่านปู่สั่งสอน?
ทุกคนจ้องมองไปยังอสูรที่ 50 ที่อวดดีและหยิ่งผยอง
ในสายตาของพวกเขา อู๋ฉี คนนี้อาจเป็นคนที่บ้าคลั่งและโง่เง่ามาก
เขากล้าล้อเลียนธิดาสวรรค์และโอรสสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟ
เห็นได้ชัดเลยว่าชายคนนี้นั้นกำลังขุดหลุมฝังตัวเองอยู่
สำนักวังเปลวไฟ จะไม่มีวันปล่อยเขาไป!
“ข้าจะฆ่ามัน!” โม่ชางไห่โอรสสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟ พูด
ออกมาอย่างโกรธแค้น หลังจากที่เขานิ่งเงียบฟังอสูรที่ 50 พูดจายั่วยุ
มานาน
“โม่ชางไห่ เจ้าปล่อยมันให้กับข้าเถอะ ก็แค่เทียนเจียวอันดับที่ 19 ข้า
สามารถสังหารมันได้อย่างแน่นอน!”
หลัวฟางหัว หันไปพูดกับ โม่ชางไห่ พร้อมกับโบกสะบัดกระบี่ใน
มือไปมาด้วยความมั่นใจ
เธอจับจ้องไปยัง อสูรที่ 50 และพูดอย่างเย็นชาว่า “ราคาที่เจ้าต้อง
จ่ายสำหรับคำพูดพล่อย ๆ ของเจ้านั่นก็คือชีวิตบัดซบของเจ้า!”
ทันทีที่เธอพูดจบเธอก็พุ่งตัวออกไปราวกับลูกกระสุนปืนร่างกาย
ของเธอเปล่งประกายด้วยออร่าสีแดงในขณะที่กำลังพุ่งตรงเข้าไปหา
อสูรที่ 50
“ทักษะการเคลื่อนไหว ช่างรวดเร็วมากเลยจริง ๆ !”
“ธิดาสวรรค์หลัวฟางหัว เธอเป็นนักรบระดับขั้นที่ 8 แต่ข้ารู้มาว่า
เทคนิคและวิชายุทธของเธอนั้นมีพลังโจมตีที่รุนแรงมากแม้แต่นักรบ
ระดับขั้นที่ 9 ก็ยังต้องหวาดกลัวเมื่อเธอนั้นโจมตีอย่างเต็มกำลัง!”
“ช่างน่ากลัวยิ่งนัก แค่เพียงเฉพาะศิษย์ทั่วไปของสำนักวังเปลวไฟก็มี
ความสามารถที่มากกว่ากองกำลังอื่น ๆ เกือบเท่าตัวแล้ว และระดับขั้น
ของธิดาสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟนั้นจะน่ากลัวมากขนาดไหน!”
ฝูงชนที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างตื่นตะลึงเมื่อเห็นความรวดเร็วและ
พลังในการจู่โจมของหลัวฟางหัว ที่แสดงออกมา
“ฮึ! ก็แค่แมลงเม่าบินเข้ากองไฟเท่านั้นเอง!”
อสูรที่ 50 มีสีหน้าที่สงบนิ่งแต่ไร้อารมณ์เมื่อเขาเห็น หลัวฟางหัว พุ่ง
ตรงเข้ามาโจมตีเขา เขาเหยียดแขนออกไปพร้อมกับมีออร่าสีดำที่
กระจายตัวออกมาจากร่างกายของเขา
“มาเถอะ! แสดงให้ข้าเห็นหน่อยสิว่าธิดาสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟ
นั้นมีความสามารถมากแค่ไหน!”
ออร่าสีดำทมิฬของเขาฟุ้งกระจายตัวออกไปในอากาศในขณะเดียวกัน
กับที่กระบี่ของ หลัวฟางหัว พุ่งตรงเข้ามาหาเกือบจะถึงตัวเขา
“ไปตายซะ!”
ดวงตาของ หลัวฟางหัว เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอันรุนแรง ออร่าสีแดง
ของเธอนั้นสาดประกายสีเข้มพุ่งตรงไปที่กระบี่ ในทันใดนั้นกระบี่
ในมือของเธอก็ลุกเป็นไฟพวยพุ่งออกมา กระบี่ของเธอพุ่งตรงเข้าไป
ที่แขนของอสูรที่ 50 ที่กำลังยกค้างขึ้นมาพร้อมกับออร่าสีดำ
บรูมมมมม!
เสียงกระทบกันดังสนั่นหวั่นไหวเมื่อกระบี่ของเธอนั้นฟาดฟันลงไป
ที่แขนของอสูรที่ 50
แต่ทว่ากระบี่เปลวเพลิงสีแดงนั้นไม่สามารถสร้างรอยบาดแผลให้กับ
แขนของอสูรที่ 50 ได้เลยแม้แต่น้อย!
“มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
สีหน้าของธิดาสวรรค์หลัวฟางหัวเปลี่ยนไปทันที กระบวนท่าเมื่อครู่
นี้เธอนั้นใช้พลังทั้งหมดของเธอฟันออกไปอย่างเต็มที่แล้ว
โดยส่วนมากการต่อสู้ระหว่างอาวุธกับร่างกายโดยตรงนั้นมีข้อ
ได้เปรียบกันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่หลังจากที่กระบี่ของเธอและ
แขนของอสูรที่ 50 ได้ปะทะกันแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกถึงความได้เปรียบ
ในการที่เธอใช้อาวุธต่อสู้กับเขาเลยแม้แต่น้อย
“ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก! อู๋ฉีคนนี้นั้นฝึกวิชาปีศาจประเภทไหนมากันแน่
แม้แต่เพลงกระบี่ที่แข็งแกร่งและรวดเร็วของธิดาสวรรค์หลัวฟางหัว
ยังไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ กับเขาได้เลยแม้แต่น้อย!”
“ธิดาสวรรค์หลัวฟางหัวคนนี้เป็นเทียนเจียวอันดับที่ 17 ไม่ใช่หรือ?
เธอนั้นอยู่อันดับที่สูงกว่า อู๋ฉี สองอันดับ แต่ข้าทำไมรู้สึกว่า อู๋ฉี นั้น
แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าธิดาสวรรค์หลัวฟางหัวเสียอีกล่ะ!”
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนี้ทุกคนต่างตกตะลึง หลังจากที่พวกเขาได้
เห็นผลของการปะทะกันของทั้งสองคน
ในตอนนี้ธิดาสวรรค์หลัวฟางหัว รีบใช้กระบี่ของเธอเล็งไปที่จุดตาย
ทั้งหมดบนร่างกายของอสูรที่ 50 อย่างต่อเนื่องในทันที
ใบหน้าของอสูรที่ 50 เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมา ดวงตาของเขาจ้องมอง
ไปที่หลัวฟางหัว อย่างเย็นยะเยือก เขาส่งพลังลมปราณเพื่อกระตุ้น
สายเลือดมังกรของเขาไปที่แขนในทันที
ในตอนนี้เกล็ดมังกรสีดำก็โผล่ขึ้นมาบนแขนทั้งสองข้างของอสูรที่
50
เคร้งงงง!
ฝ่ามือของอสูรที่ 50 คว้ากระบี่ของ หลัวฟางหัว ได้อย่างง่ายดาย
ดวงตาของเธอในตอนนี้เบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ
พลั่กกก!
อสูรที่ 50 ตวัดฝ่ามือฟาดไปบนหน้าอกของหลัวฟางหัว อย่างรุนแรง
“ฮึ! ฝีมือช่างอ่อนแอมากนัก นี่คือธิดาสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟ
อย่างนั้นหรือ? ช่างน่าผิดหวังเสียจริง ๆ !”
อสูรที่ 50 พูดออกมาอย่างเยาะเย้ย ในขณะที่เขามองไปยัง หลัวฟางหัว
ที่กำลังกระอักเลือดออกมาพร้อมกับใบหน้าที่ซีดขาวราวกับกระดาษ
เขาส่ายหัวออกมาเบา ๆ พร้อมกับหันไปจ้องมองยังโอรสสวรรค์ของ
สำนักวังเปลวไฟพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “เจ้าจะเข้ามาสู้กับข้าต่อเลย
หรือไม่? หรือว่าในตอนนี้เจ้ากลัวจนไม่สามารถจะขยับได้แล้ว ฮ่า ๆ!”
เขาหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกับส่งสายตาที่ยั่วยุ ไปทางโม่ชางไห่
ตูมมม!
ร่างกายของ โม่ชางไห่ ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ เปลวเพลิง
ลุกโชนออกมาจากร่างกายของเขาเข้าไปโอบล้อมอสูรที่ 50 ในทันที
“ไอ้บัดซบไปตายซะ!”
“โอ้ว ๆ ๆ ! อย่าทำหน้าตาน่ากลัวอย่างนั้นสิ! ข้าตกใจกลัวจนตัวสั่น
ไปหมดแล้วเนี่ย เจ้าไม่เห็นหรือไร!”
อสูรที่ 50 ทำท่าทางหวาดกลัวเพื่อล้อเลียนและยั่วยุ โม่ชางไห่ อย่าง
จงใจ
“ศิษย์พี่ระวังตัวด้วยอย่าประมาทมันเด็ดขาด ไอ้บัดซบคนนี้มัน
แข็งแกร่งมากเลยทีเดียว!”
หลัวฟางหัว พูดเตือน โม่ชางไห่ ในทันทีหลังจากที่เธอเห็นว่าเขานั้น
กำลังโมโหจนขาดสติ
เธอยกมือเช็ดเลือดที่มุมปากพร้อมกับมองไปยังอสูรที่ 50 ด้วยสายตา
ที่เกลียดชังและโกรธแค้น
“อะไรกัน? ธิดาสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟพ่ายแพ้แล้วอย่างนั้นรึ?”
“พลังป้องกันและพลังโจมตีของ อสูรกระดูกขาวอู๋ฉี นั้นเหนือกว่า
ธิดาสวรรค์หลัวฟางหัวมากนัก อีกไม่นานอันดับเทียนเจียวในโลก
ยุทธภพคงต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน!”
“ธิดาสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟพ่ายแพ้แล้ว!”
ฝูงชนโดยรอบต่างพากันตกตะลึง ผู้อาวุโสทั้งสี่ของสำนักวังเปลวไฟ
ที่นั่งอยู่ตรงกลางมีประกายแห่งความชั่วร้ายปรากฏขึ้นมาในดวงตา
ของพวกเขาในทันที
ผู้ฝึกฝนวิชายุทธแนวทางแห่งปีศาจสามารถเอาชนะธิดาสวรรค์แห่ง
สำนักวังเปลวไฟได้อย่างง่ายดาย นี่มันไม่เท่ากับเป็นการตบหน้าวิชา
ยุทธของสำนักวังเปลวไฟโดยตรงหรอกหรือ หากเรื่องนี้แพร่กระจาย
ออกไปทั่วทั้งโลกยุทธภพ สำนักของพวกเขาต้องอับอายขายหน้า
มากขนาดไหน!
“ฮ่าฮ่า! ข้าบอกพวกเจ้าไปตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกเจ้าทั้งคู่สมควรที่จะ
ร่วมมือกัน ถึงจะสามารถมีคุณสมบัติพอที่จะทำให้ข้านั้นรู้สึกตื่นเต้น
ในการต่อสู้ขึ้นมาได้บ้าง ฮ่า ๆ ๆ !” อสูรที่ 50 หัวเราะออกมาอย่าง
เย้ยหยัน
“ไอ้บัดซบบบบ!”
โม่ชางไห่ ตะโกนออกมาด้วยความโกรธเขาพุ่งตัวโจมตีออกไป
ในทันที
“ฮ่าฮ่า! รีบเข้ามาให้ท่านปู่คนนี้สั่งสอนเจ้าเสียโดยเร็วเถอะเจ้าเด็ก
น้อย!”
อสูรที่ 50 แสยะยิ้มออกมาอย่างดูถูก ในขณะที่ร่างกายของเขาปก
คลุมไปด้วยกลิ่นอายของปีศาจและหมอกสีดำทมิฬ
“ช่างเป็นเด็กดีอะไรอย่างนี้! พอท่านปู่เรียกหา เจ้าก็รีบเข้ามาตามคำสั่ง
ในทันทีเลย ช่างเชื่อฟังคำสั่งดีจริง ๆ เลยนะเด็กน้อย ฮ่า ๆ ๆ !”
การยั่วยุและความหยิ่งผยองของอสูรที่ 50 นั้นช่างไร้ขอบเขตเสียจริง!
เหล่าสาวกของสำนักวังเปลวไฟ ที่อยู่รอบ ๆ จ้องมองไปยังอสูรที่ 50
อย่างดุร้ายเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อของเขาให้หมดทั้งตัว
หากไม่ใช่ว่าในตอนนี้มีเหล่าชาวยุทธอยู่กันอย่างมากมายแล้วล่ะก็
พวกเขาทุกคนคงจะปิดล้อมจับอสูรที่ 50 เอาไปแล่เนื้อเถือหนังเพื่อ
จับไปทรมานทั้งเป็นอย่างแน่นอน
และแน่นอนพวกเขาได้แต่คิดและอาฆาตแค้นอยู่ในใจเพียงเท่านั้น
หากพวกเขานั้นทำการปิดล้อมรุมโจมตีอสูรที่ 50 จริง ๆ สำนักวัง
เปลวไฟของพวกเขานั้นคงจะต้องเสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียงเป็น
อย่างมาก และโลกยุทธภพคงจะไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมนี้ของ
สำนักวังเปลวไฟได้ สำนักของพวกเขาก็จะกลายเป็นสำนักที่ชั่วร้าย
และกลายเป็นศัตรูกับเหล่าจอมยุทธแห่งโลกยุทธภพอย่างแน่นอน
ผู้อาวุโสของสำนักวังเปลวไฟ ทั้งสี่ที่นั่งอยู่ตรงกึ่งกลางของแท่นพิธี
มีสีหน้าที่มืดมนลงในขณะที่พวกเขากำลังจ้องมองการต่อสู้บนเวที
ประลอง ระหว่างโม่ชางไห่กับอสูรที่ 50
โม่ชางไห่ เป็นเทียนเจียวอันดับที่ 14 แห่งการจัดอันดับในโลกยุทธ
ภพ และเขายังเป็นโอรสสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟที่มีพรสวรรค์
สูงที่สุดในหมู่ลูกศิษย์ทั้งหมดของสำนักอีกด้วย
เขาเป็นนักรบระดับขั้นที่ 9 และมีอายุแค่ 32 ปีเพียงเท่านั้น ในโลก
ยุทธภพความสามารถของ โม่ช่างไห่ นั้นถือว่ายอดเยี่ยมมากเลย
ทีเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้การต่อสู้ของโม่ชางไห่และอสูรที่ 50 ก็
ค่อนข้างจะเห็นผลลัพธ์ออกมาอย่างแน่นอนแล้ว
โม่ชางไห่ไม่สามารถที่จะเป็นคู่ต่อสู้กับอสูรที่ 50 ได้เลย การประลอง
บนเวทีในตอนนี้ไม่เหมือนกับการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย มันเหมือนกับ
เด็กน้อยที่กำลังถูกผู้ใหญ่ที่เกเรคนหนึ่งยั่วยุและกลั่นแกล้งเสียมากกว่า
ในตอนนี้ทุกคนต่างตกตะลึงกันจนไม่สามารถจะสรรหาคำพูดใดพูด
ออกมาได้ ในขณะที่พวกเขากำลังจ้องมองอสูรที่ 50 ที่ใช้เพียงร่างกาย
ที่แข็งแกร่งของเขาต่อสู้กับดาบในมือของโม่ชางไห่ ด้วยรอยยิ้มที่
เยาะเย้ย
โอรสสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟ ไม่สามารถจะต่อสู้กับเขาได้จริง ๆ
“ฮ่า ๆ ๆ ! โอรสสวรรค์แห่งสำนักระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิ ช่างอ่อนแอและ
ไร้ประโยชน์เสียจริง ๆ วานรอสูรที่ข้าเจอในหุบเหวลึกเมื่อ 3 วันก่อน
ยังแข็งแกร่งมากกว่าเจ้าเสียอีก ฮ่า ๆ ๆ !”
ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้นอสูรที่ 50 ก็กางกรงเล็บในมือของเขา
ออกมาพร้อมกับมีออร่าสีดำทมิฬห่อหุ้มพันอยู่รอบแขนและมือของ
เขาอย่างแน่นหนาจนค่อย ๆ กลายไปเป็นกรงเล็บมังกร!
“ข้าเบื่อแล้วล่ะ! เจ้ารีบ ๆ แพ้ไปเสียเถอะนะ!”
เขายิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายพร้อมกับตวัดกรงเล็บมังกรออกไปทันที
โม่ชางไห่ ตกใจมากเขารีบยกแขนของเขาขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวอย่าง
รวดเร็ว
ตัวเขาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวขึ้นมาในทันที เมื่อเขารู้สึกได้
ถึงพลังที่รุนแรงของกรงเล็บมังกร
คว๊ากกก!
อสูรที่ 50 จับและฉีกกระชากเนื้อบนท่อนแขนของ โม่ชางไห่ ด้วย
กรงเล็บมังกรของเขาอย่างไร้ความปราณี
ชิ้นเนื้อบนท่อนแขนข้างขวาของ โม่ชางไห่ หายไปจนเกือบทั้งหมด
เหลือแต่กระดูกสีขาวโพลนพร้อมกับหยดเลือด ที่มองดูแล้วช่างน่า
สยดสยองเป็นอย่างมาก
อ๊าคคคคค!
เสียงกรีดร้องที่เจ็บปวดและใบหน้าที่สิ้นหวังของโม่ชางไห่ แสดง
ความหวาดกลัวออกมาจนเห็นได้ชัด เขากุมแขนข้างขวาที่เหลือแต่
กระดูกพร้อมกับทรุดกายเกลือกกลิ้งลงบนพื้นอย่างสิ้นหวัง
อสูรที่ 50 แสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและเย่อหยิ่ง
“แม้แต่ธิดาสวรรค์และโอรสสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟก็ยังพ่ายแพ้
ให้กับ อู๋ฉี อย่างง่ายดาย! ลูกศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟทั้งหมดคงจะ
ไม่มีใครสามารถเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้อย่างแน่นอน!”
“ดูแขนข้างขวาของโอรสสวรรค์โม่ชางไห่ที่โดนกรงเล็บกระชากเนื้อ
จนเหลือแต่กระดูกนั่นสิ! ช่างน่าสยดสยองเสียจริง ๆ นี่คือที่มาของ
ฉายา อสูรกระดูกขาวอู๋ฉี อย่างนั้นสินะ!”
เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างเบิกตากว้างอ้าปากค้างด้วย
ความสยดสยอง หลังจากที่เห็นบาดแผลที่แขนของโม่ชางไห่
อสูรที่ 50 กวาดสายตามองไปยังสาวกของสำนักวังเปลวไฟ ด้วย
ความเย้ยหยัน ในที่สุดเขาก็มองไปที่ผู้อาวุโสทั้งสี่ที่ยืนอยู่ใกล้กับ
หม้อกลั่นขนาดใหญ่
“เหล่าผู้อาวุโสที่น่าเคารพจากสำนักวังเปลวไฟ ฝีมือลูกศิษย์ของสำนัก
วังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิของพวกท่านนั้น ช่างอ่อนแอเสียจริง ๆ ข้าคิดว่า
แม้แต่เป็นเด็กถือรองเท้าให้กับธิดาสวรรค์แห่งสำนักกระบี่พฤกษาขจี
ก็ยังไม่คู่ควรเลยแม้แต่น้อย ฮึฮึ!”
“โอ้วว!”
“วาจาของอู๋ฉีคนนี้ช่างร้ายกาจนัก ถึงกับกล้าพูดจากับผู้อาวุโสของ
สำนักวังเปลวไฟแบบนี้! เขาไม่กลัวตายเลยหรืออย่างไร?”
เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างขมวดคิ้วกับความบ้าคลั่งของ
อสูรที่ 50
“ฮ่า ๆ ๆ ! กลัวตายรึ ข้าพูดเรื่องจริงเหตุไฉนข้าถึงต้องหวาดกลัวมัน
ด้วยเล่า ก็ลูกศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟนั้นอ่อนแอเสียยิ่งกว่าขยะซะ
อีก ฮ่า ๆ ๆ !”
“ฮึฮึ!” หวังเสียนมองไปยังอสูรที่ 50 ด้วยความพึงพอใจ
เขามองไปที่โอรสสวรรค์และธิดาสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟ ที่
ได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะพูดออกมาว่า “เนื่องจากลูกศิษย์ของสำนัก
พวกท่านนั้นอ่อนแอเกินไป แม้แต่โอรสสวรรค์และธิดาสวรรค์ของ
สำนักพวกท่าน ยังพ่ายแพ้ให้กับจอมยุทธที่ไร้สำนักเช่นนี้ ข้าคิดว่า
การจัดงานแต่งงานที่ท่านพูดมานั้น สมควรจะลืมมันไปเสียดีกว่า!”
“ขนาดลูกศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกท่าน ยังอ่อนแอและไร้ความ
สามารถมากถึงเพียงนี้ แล้วหลานชายของผู้อาวุโสคนนั้น ข้าว่าก็คง
ไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นเล็ก ๆ อย่างแน่นอน!” หวังเสียน ยิ้มออกมา
อย่างเยาะเย้ย
สำนักวังเปลวไฟต้องการแสดงอิทธิพลและอำนาจของพวกเขาใน
งานพิธีแสวงบุญในครั้งนี้ หลังจากที่โอรสสวรรค์และธิดาสวรรค์
แห่งสำนักวังเปลวไฟของพวกเขาพ่ายแพ้ให้กับ อสูรที่ 50 ในตอนนี้
เหล่าผู้อาวุโสและศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟ จึงไม่สามารถที่จะพูด
โต้แย้งอะไรออกไปได้แม้แต่คำเดียว!
Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 247
ตอนที่ 247
Posted by ? Views, Released on กันยายน 10, 2022
, Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ
Status: Ongoing
แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์