Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 252

ตอนที่ 252

ตอนที่ 252 เจ้าควรจะทำพินัยกรรมไว้ล่วงหน้า!
เงียบสนิท!!
เหล่าบรรดาชาวยุทธต่างสะดุ้งตกใจแต่ก็ไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมา
เลยแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นหมอโลหิตนั้นโหดเหี้ยมและไร้เหตุผลมากขนาดไหน เหล่า
ชาวยุทธโดยรอบต่างพยายามหลีกเลี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายของเขา
และในตอนนี้สำนักวังเปลวไฟนั้นก็ได้รับความอับอายกันอย่างแท้จริง
ในตอนแรกลูกศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟที่ชื่อ มู่หวั่นหวัน ได้พ่ายแพ้
ให้กับธิดาสวรรค์แห่งสำนักกระบี่พฤกษาขจี
ต่อมาโอรสสวรรค์และธิดาสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟก็ถูกอสูร
กระดูกขาวอู๋ฉีทุบตีจนบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่
หลังจากที่อู๋ฉีชนะโอรสสวรรค์และธิดาสวรรค์แห่งสำนักวังเปลวไฟ
แล้ว เขาก็ยังเยาะเย้ยและดูถูกลูกศิษย์สำนักวังเปลวไฟ แต่ผู้อาวุโสของ
สำนักวังเปลวไฟก็ไม่สามารถจะทำอะไรเขาได้ แต่อย่างไรก็ตามชาย
ชราเจ้าสำนักแห่งสำนักหลิงเยว่ ก็เข้ามากดดันอสูรกระดูกขาวอู๋ฉี และ
ต้องการสั่งสอนเขาเพื่อประจบเอาใจสำนักวังเปลวไฟ แต่เจ้าสำนัก
แห่งสำนักหลิงเยว่ก็ถูกยับยั้งโดยดาบคลั่งโลหิตจี และโม่หยวน จน
ได้แต่ยืนตัวแข็งอยู่บนเวทีอย่างน่าขัน
และต่อมาหมอเทวะเซิ่งหัวซึ่งเจ้าสำนักวังเปลวไฟเป็นผู้เชิญมาเป็นผู้
อาวุโสสูงสุดทางด้านการแพทย์ของสำนัก ก็ได้พ่ายแพ้ให้กับแวมไพร์
หรือหมอโลหิตแห่งยุโรป
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์นั้นสร้างความอัปยศและความอับ
อายให้แก่สำนักวังเปลวไฟอย่างต่อเนื่อง…
ในตอนต้นของการเริ่มพิธีแสวงบุญ สำนักวังเปลวไฟต้องการใช้
ประโยชน์จากโอกาสนี้คัดเลือกสาวกที่มีพรสวรรค์ระดับสูงเข้าสู่
สำนัก แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามมา
ต่อจากนั้น สร้างความสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ให้แก่สำนักวังเปลวไฟจน
พวกเขานั้นรู้สึกอับอายอย่างที่สุดและไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์
อันน่าอึดอัดใจนี้ได้
สิ่งนี้นั้นทำให้ผู้อาวุโสทั้งสี่คนของสำนักวังเปลวไฟรู้สึกคับแค้นใจ
เป็นอย่างยิ่ง
“สาเหตุทั้งหมดเป็นเพราะผู้ชายคนนั้น!”
ผู้อาวุโสของสำนักวังเปลวไฟทั้งสี่คนจ้องมองไปยังหวังเสียน ที่
กำลังนั่งอย่างสงบนิ่งอยู่ที่ด้านล่างเวที เจตนาฆ่าอันรุนแรงสะท้อน
ออกมาจากแววตาของพวกเขาในทันที
ถ้าไม่ใช่เพราะหมอเทวะหวังคนนี้สำนักวังเปลวไฟของพวกเรานั้น
จะต้องอับอายเช่นนี้ได้อย่างไร?
หมอเทวะเซิ่งและลูกศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟของพวกเขาจะพ่ายแพ้
อย่างรวดเร็วแบบนี้ได้อย่างไร?
“หมอเทวะหวังคนนี้ต้องตาย หาไม่แล้วท่านเจ้าสำนักคงจะต้องลงโทษ
พวกเราอย่างหนักแน่นอน!” ผู้อาวุโสหลิวหันไปกระซิบเบา ๆ กับผู้
อาวุโสอีกสามคนที่เหลือ
“ผู้ที่ทำลายศักด์ิศรีของสำนักวังเปลวไฟของพวกเรามีเพียงผลลัพธ์
เดียวเท่านั้นก็คือความตาย!”
“ฆ่าเขา! เขาเป็นเพียงแค่หมอเทวะตัวเล็ก ๆ ไร้สังกัด ไม่ว่าเขาจะมี
ความสัมพันธ์อันดีกับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณมากขนาด
ไหน แต่ก็คงจะไม่มีใครยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน!”
“พวกเราต้องจัดการเขาเพื่อเป็นตัวอย่าง ทุก ๆ คนจะได้รู้ว่าสำนักวัง
เปลวไฟของเรานั้นไม่สามารถมาล่วงเกินกันได้อย่างง่าย ๆ !”
ผู้อาวุโสอีกสามคนพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกับจ้องมองไปที่หวัง
เสียน อย่างดุร้าย
หมอเทวะหวังได้สร้างความอัปยศให้กับสำนักวังเปลวไฟในวันนี้
ในสายตาของพวกเขาแล้วหมอเทวะหวังคนนี้สมควรตายอย่างน้อย
สักร้อยครั้ง
“แจ้งผู้อาวุโสทั้งหมดของสำนัก วันพรุ่งนี้เราส่งคำสั่งสังหารหมอ
เทวะหวังออกไป!”
ผู้อาวุโสหลิวเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าสายตาของเขากวาดมองไปยังดาบ
คลั่งโลหิตจี, โม่หยวนและอู๋ฉี
หากไม่ใช่เพราะเกรงจะเสื่อมเสียชื่อเสียงของสำนักวังเปลวไฟมาก
ไปกว่านี้ พวกเขาจะเรียกผู้อาวุโสทั้งหมดของสำนักมาและลงมือปิด
ล้อมสังหารคนกลุ่มนี้ในทันที
“สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกับสำนักวังเปลวไฟของพวกเรา นักรบ
ระดับขั้นที่ 8 ขึ้นไปสามารถเข้าร่วมกับสำนักของพวกเราได้โดยตรง!”
ผู้อาวุโสหลิวมองไปยังฝูงชนโดยรอบและกล่าวอย่างเคร่งขรึมด้วย
ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก “วันนี้การคัดเลือกสาวกของสำนักวังเปลวไฟ
จะสิ้นสุดเพียงเท่านี้!”
“เฮ้!..อะไรกันจบแล้วงั้นรึ? ทำไมถึงได้จบอย่างรวดเร็วแบบนี้ล่ะ?”
“มันเป็นเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเองไม่ใช่รึ? ตั้งแต่เริ่มต้นพิธีการมา
แต่ตอนนี้กำลังจะจบแบบนี้?…!”
ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ ต่างตกตะลึงเพราะพวกเขาไม่คาดคิดว่าเหล่าผู้
อาวุโสของสำนักวังเปลวไฟจะประกาศสิ้นสุดพิธีการคัดเลือกสาวก
อย่างรวดเร็วเช่นนี้
“นี่อาจจะเป็นเพราะ!….”
ชาวยุทธหลายคนหันไปมองที่หวังเสียน ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
สำนักวังเปลวไฟต้องการแสดงพลังและอำนาจของพวกเขา หลังจาก
ที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นสำนักระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิ แต่ในท้ายที่สุดพวก
เขานั้นกลับถูกตบหน้าอย่างรุนแรง จากหมอบ้าแห่งเมืองเจียงเฉิง
และกลุ่มคนของเขา
ลูกศิษย์หลักและโอรสสวรรค์พร้อมด้วยธิดาสวรรค์แห่งสำนักวัง
เปลวไฟ ได้พ่ายแพ้ให้กับคนของหมอเทวะหวัง แม้แต่หมอเทวะเซิ่ง
หัว ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับคนรับใช้ของเทพธิดาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หมอเทวะ
หวัง
แต่อย่างไรก็ตามบรรดาคนใกล้ชิดของหมอเทวะหวังที่แสดงความ
แข็งแกร่งออกมาก็ทำให้เหล่าบรรดาผู้ฝึกยุทธที่มาร่วมชุมนุมพิธี
แสวงบุญในครั้งนี้ตกใจกันมากเลยทีเดียว
ในความเป็นจริงแม้แต่สำนักวังเปลวไฟก็ยังไม่กล้าที่จะกำราบหมอ
เทวะหวังและกลุ่มคนของเขาในตอนนี้
แต่ทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจว่าสำนักวังเปลวไฟจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่าน
ไปอย่างแน่นอน การที่พวกเขาเสื่อมเสียศักด์ิศรีและเสียหน้าในงาน
พิธีแสวงบุญของสำนักตัวเองในครั้งนี้ พวกเขานั้นจะต้องจัดการกับ
หมอเทวะหวังอย่างเต็มกำลังแน่นอน
“ฮึ! หมอเทวะหวัง สำนักวังเปลวไฟของพวกเราจะจดจำเหตุการณ์
ในวันนี้เอาไว้อย่างดีเลยทีเดียว!” ดังที่หลายคนได้คาดการณ์เอาไว้
เสียงผู้อาวุโสของสำนักวังเปลวไฟก็ดังขึ้นมาในทันที
ผู้อาวุโสหลิวจ้องมองหวังเสียนอย่างเย็นชาด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
เขากัดฟันและพูดด้วยสีหน้าที่น่ากลัว “หมอเทวะหวัง! ในช่วงเวลา
2-3 วันนี้ข้าก็ขอให้เจ้าใช้ชีวิตที่เหลือให้สนุกอย่างเต็มที่ก็แล้วกันนะ
ข้าคิดว่าชีวิตของคนเรานั้นมันไม่แน่นอน อาจจะเกิดอุบัติเหตุถึงขั้น
เสียชีวิตกับเจ้าขึ้นมาก็ได้ ฉะนั้นเจ้าก็ควรจะทำพินัยกรรมไว้ล่วงหน้า
เสียตั้งแต่ตอนนี้นะ ฮึฮึ!”
เมื่อเขาพูดจบประโยคสายตาของเขาก็กวาดมองไปยัง ดาบคลั่งโลหิต
จี, โม่หยวน, หมอโลหิต, ซุนหลิงซิ่ว และกลุ่มคนจากสำนักกระบี่
พฤกษาขจี
เมื่อฝูงชนเห็นท่าทางและสายตาที่เย็นชาของผู้อาวุโสหลิวพวกเขาก็
เข้าใจได้ทันทีเลยว่าความบาดหมางระหว่างหมอเทวะหวังกับสำนัก
วังเปลวไฟในครั้งนี้ พวกเขาทั้งสองฝ่ายนั้นได้เป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน
ไปแล้วอย่างแน่นอน
พวกเขาต่างพากันส่ายหน้าอย่างช้า ๆ และคิดต่อไปอีกว่าหมอเทวะ
หวังนั้นคราวนี้จะต้องประสบกับปัญหาใหญ่และอาจจะถึงขั้น
เสียชีวิตลงก็ได้
“อ้อ! อย่างนั้นรึ?”
หวังเสียนมีรอยยิ้มที่มุมปากพร้อมกับพูดตอบผู้อาวุโสจากสำนักวัง
เปลวไฟว่า “ปกติข้าก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทุกวันอยู่แล้ว ท่านไม่
ต้องห่วงไปหรอกผู้อาวุโส ขอบใจท่านมากนะที่ช่วยเตือนข้า!”
“ฮ่า ๆ ๆ ! หมอเทวะหวัง ช่างน่าประทับใจเสียจริง ๆ น่าจะเป็นอย่าง
ที่คนเขาพูดเอาไว้ ว่าคนหนุ่มเลือดร้อนมักจะไม่กลัวเกรงสิ่งใด!” ผู้
อาวุโสหลิวหัวเราะออกมาเสียงดังและจ้องมองไปที่หวังเสียน พร้อม
กับแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว
ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ยังมองไปที่ หวังเสียน อย่างเย็นชาก่อนที่จะมุ่ง
หน้ากลับตรงเข้าไปยังส่วนลึกของภูเขาหวู่ต้วน
เหล่าบรรดาสาวกของสำนักวังเปลวไฟก็มองไปยังกลุ่มคนของหวัง
เสียน ด้วยสายตาที่ดุเดือดเช่นเดียวกัน
“อสูรกระดูกขาวอู๋ฉี! ในครั้งหน้าข้ากับเจ้าจะมาประลองเป็นตาย
กัน!”
โอรสสวรรค์โม่ชางไห่แห่งสำนักวังเปลวไฟจ้องมองไปที่อู๋ฉีด้วย
ความอาฆาตแค้น และหันหลังเดินจากไป
มู่หวั่นหวัน มองไปที่เสี่ยวหยูพร้อมกับกัดฟันแน่น ก่อนที่จะเดิน
กลับเข้าไปรวมกับกลุ่มของสาวกในสำนัก
หลังจากนั้นไม่นานเหล่าสาวกทั้งหมดของสำนักวังเปลวไฟก็เดิน
กลับเข้าไปในหุบเขาหวู่ต้วนตามผู้อาวุโสทั้งสี่คนของสำนักไป
เหล่าชาวยุทธที่มาร่วมงาน ต่างพากันมองไปที่หวังเสียน โดยตั้งใจ
และไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกระซิบกระซาบกันเบา ๆ
ในกลุ่มคนของสำนักหลิงเยว่ ชายชราเจ้าสำนัก มีสีหน้าที่หมองคล้ำ
และมีท่าทางที่อึดอัดใจเป็นอย่างมาก
พวกเขาไม่เพียง แต่ล้มเหลวในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสำนัก
วังเปลวไฟ แต่พวกเขานั้นยังสร้างศัตรูที่แข็งแกร่งมากขึ้นมาอีกกลุ่ม
หนึ่งด้วย
“โชคดีที่สำนักวังเปลวไฟนั้นตั้งใจจะกำจัดหมอเทวะหวังและกลุ่ม
คนของเขา ไม่เช่นนั้นสำนักเราคงจะต้องเดือดร้อนมากแน่ ๆ !”
เจ้าสำนักแห่งสำนักหลิงเยว่ หันไปมองกลุ่มของหวังเสียน ก่อนที่จะ
พาคนของพวกเขาเดินออกไป
หลังจากนั้นไม่นานเหล่าชาวยุทธต่างค่อย ๆ จากไปทีละคน
ผลของงานแสวงบุญในวันนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน!
พวกเขาต่างตกตะลึงที่ได้เห็นใครบางคนทำให้สำนักระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิ
ต้องอับอายในระหว่างงานพิธีแสวงบุญ!
“คอยติดตามข่าวของหมอเทวะหวังอย่างใกล้ชิด ข้าเชื่อว่าอีกไม่กี่วัน
ข้างหน้าสำนักวังเปลวไฟจะต้องเริ่มโจมตีกลุ่มของหมอเทวะหวัง
อย่างแน่นอน!”
“หมอเทวะหวังนั้นน่าจะต้องตายภายในไม่ช้านี้ ถึงเขานั้นจะมี
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณสามถึงสี่คนคอยให้การสนับสนุน
แต่มันก็ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสำนักวังเปลวไฟ
ศักด์ิสิทธ์ิ ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณของสำนักวังเปลวไฟ
ศักด์ิสิทธ์ิ ในตอนนี้นั้น มีมากกว่าสิบคน!”
“เฮ้อ! ช่างน่าเสียดายความสามารถทางการแพทย์ของเขามากจริง ๆ
ข้าได้ยินมาว่าอาการป่วยของลูกชาย ดาบคลั่งโลหิตจี ก็ได้หมอเทวะ
หวังช่วยรักษาให้ พวกเขาทั้งคู่จึงค่อนข้างที่จะสนิทกัน!”
กองกำลังต่าง ๆ กระซิบพูดคุยกันเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ก่อนที่พวกเขาจะจากไป
“พี่ชาย!” เสี่ยวหยู เดินเข้าไปหา หวังเสียน ด้วยใบที่ยังคงตื่นเต้น
“เสี่ยวหยู การต่อสู้ในวันนี้ น้องทำได้ดีมากทีเดียว!” หวังเสียน ลูบ
หัวของเสี่ยวหยู และให้คำชม
“นายท่าน!” อสูรที่ 50 เดินเข้าไปทักทายหวังเสียน ด้วยความเคารพ
เขาไม่กล้าคุกเข่าลงและเรียกหวังเสียน ว่าองค์ราชา เนื่องจากในตอนนี้
นั้นมีคนอื่น ๆ อยู่ค่อนข้างมาก หวังเสียน เคยกำชับพวกเขาเอาไว้
แล้วว่าถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นไม่อนุญาตให้เรียกเขาว่าราชามังกร
“อืม!” หวังเสียน ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้กับอสูรที่ 50 “ตอนนี้ที่สำนัก
ยังไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เจ้าออกไปหาประสบการณ์ในโลกยุทธภพ
ต่อเถอะ!”
“ขอรับนายท่าน!” อสูรที่ 50 หรืออู๋ฉี กุมมือคารวะพร้อมกับโค้งตัว
ลงด้วยความเคารพ หลังจากนั้นเขาก็หันไปคารวะโม่ชิงหลงและโม่
หยวน ก่อนที่จะจากไป
“หมอเทวะหวัง!” ดาบคลั่งโลหิตจีและเจ้าสำนักถังแห่งสำนักกระบี่
พฤกษาขจี เดินเข้ามาทักทายหวังเสียนด้วยท่าทางที่ค่อนข้างเคร่งเครียด
“หมอเทวะหวังข้าเป็นห่วงว่าสำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ินั้นคงจะไม่
ยอมปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปอย่างง่าย ๆ เป็นแน่..!” เจ้าสำนักถังแห่ง
สำนักกระบี่พฤกษาขจี พูดเตือนหวังเสียน ด้วยความเป็นห่วง
“ข้าเข้าใจความหมายของท่าน!” หวังเสียนพยักหน้าและมีแสงเย็น ๆ
ส่องผ่านดวงตาของเขา “ท่านเจ้าสำนักถัง ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องนี้!”
เขานั้นไม่สนใจแม้แต่น้อยเลยว่าสำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิต้องการ
จะทำอะไรต่อไป
เพราะว่าหวังเสียน นั้นมีความคิดของตัวเองอยู่แล้วว่าจะจัดการกับ
สำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิอย่างไร!
ฮึ!
‘สำนักวังเปลวไฟศักด์ิสิทธ์ิอย่างนั้นหรือ? ข้าก็อยากจะรู้เช่นกันว่า
พวกเจ้านั้นจะมีความสามารถมากแค่ไหน!’

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท