Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 265

ตอนที่ 265

ตอนที่ 265 ตระกูลศักด์ิสิทธ์ิ
ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันที่หน้าโรงแรม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึง
ดึงดูดความสนใจของผู้คนให้หันมามองกันทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้เมื่อข่าวของสำนักวังเปลวไฟ ได้รับความ
พินาศแพร่กระจายออกไปทั่ว ตระกูลและสำนักที่มีอำนาจมากมาย
ในบริเวณโดยรอบต่างรีบมารวมกันอย่างเนืองแน่น
ผู้ที่มาถึงก่อนเวลาต่างประหลาดใจกับสิ่งที่เห็นตรงทางเข้าของโรงแรม
“นั่นหมอเทวะหวังและกลุ่มคนของเขาไม่ใช่เหรอ?”
“อืม! ใช่จริง ๆ ด้วยข้าจำกลุ่มคนของหมอเทวะหวังได้ พวกเขาลุก
ขึ้นต่อต้านคำสั่งของสำนักวังเปลวไฟ ในงานพิธีแสวงบุญ!”
“ความสัมพันธ์ของหมอเทวะหวังกับกลุ่มของผู้เชี่ยวชาญก่อกำเนิด
ลมปราณเหล่านั้น ดูเหมือนจะดีมากเลยทีเดียว!”
“นั่นสำนักชิงมู่ไม่ใช่รึ? เหตุใดพวกเขาจึงไปยั่วยุหมอเทวะหวังและ
คนของเขาล่ะ? ช่างรนหาที่ตายจริง ๆ พวกเขาไม่รู้รึว่าขนาดสำนักวัง
เปลวไฟหมอเทวะหวังยังไม่กลัวเลย!”
“ดูเหมือนว่าสาวกของสำนักชิงมู่ บางคนทำให้หมอบ้าแห่งเมืองเจียง
เฉิงและกลุ่มคนของเขาขุ่นเคืองมากเลยนะนั่น! คนพวกนี้ช่างโง่เง่า
เสียจริง ด้วยความแข็งแกร่งของหมอบ้าแห่งเมืองเจียงเฉิงและผู้ที่อยู่
รอบตัวเขา พวกเขาเปรียบได้กับกองกำลังระดับชั้นหนึ่งเลยทีเดียว!”
“หมอเทวะหวังมีสายสัมพันธ์กับกองกำลังที่แข็งแกร่งมาก สำนัก
ชิงมู่มีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเพียงสองคนเท่านั้น แต่
กลับกล้ายั่วยุหมอเทวะหวังจริง ๆ อย่างนั้นรึ?”
กลุ่มกองกำลังส่วนใหญ่ที่เข้ามาพักในโรงแรมต่างเป็นกลุ่มกองกำลัง
ที่ได้เข้าร่วมในงานพิธีแสวงบุญของสำนักวังเปลวไฟ ทุกคนเคยเห็น
พฤติกรรมที่อหังการ ของกลุ่มหวังเสียนที่กล้าขัดแย้งกับสำนักวัง
เปลวไฟโดยไม่กลัวเกรง
เมื่อสาวกของสำนักชิงมู่ ได้ฟังบทสนทนาของกลุ่มกองกำลังโดยรอบ
พวกเขาก็ตกอยู่ในอาการตื่นตะลึงกันในทันที
หมอเทวะหวังหรือหมอบ้าแห่งเมืองเจียงเฉิง!
ในก่อนหน้านี้พวกเขาอาจจะไม่เคยให้ความสนใจกับชื่อนี้มาก่อน แต่
หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในงานพิธีแสวงบุญเมื่อวานนี้ ชื่อของหมอเทวะ
หวังหรือหมอบ้าแห่งเมืองเจียงเฉิงได้แพร่กระจายไปทั่วทุกจังหวัด
ในมณฑลตอนใต้แล้ว
เขาเป็นหมอเทวะเพียงคนเดียวที่กล้าลุกขึ้นสู้ไม่ยอมสยบให้กับสำนัก
วังเปลวไฟ ถึงขนาดทำให้พวกเขาต้องอับอายและต้องจบงานพิธี
แสวงบุญก่อนกำหนดเวลา
ตอนนี้สำนักชิงมู่ถึงกับกล้าก่อปัญหาสร้างความไม่พอใจให้กับหมอ
บ้าแห่งเมืองเจียงเฉิงอย่างนั้นจริง ๆ หรือ?
พวกเขากล้าสู้กับสำนักระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิได้โดยตรง แล้วนับประสา
อะไรกับสำนักเล็ก ๆ อย่างสำนักชิงมู่ล่ะ
“พวกท่านพอใจแล้วหรือไม่?”
เจ้าสำนักและรองเจ้าสำนักชิงมู่ พูดออกมาด้วยความประหม่าพร้อม
กับก้มหัวลงแสดงความเคารพ
“เอาเถอะ! ให้มันจบลงเพียงเท่านี้ก็แล้วกัน!”
หวังเสียน หันไปมองพวกเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนที่จะเดินนำ
ออกไป “ไปกันเถอะ!”
เฮ้อออ!
ฟู่วววว!
สาวกของสำนักชิงมู่ต่างถอนหายใจออกมากันด้วยความโล่งอกเมื่อ
เห็นว่ากลุ่มของหวังเสียน เดินจากไปและไม่ได้ติดใจเอาเรื่องพวก
เขาอีกต่อไป
“ต่อนี้ไปเจ้าจะเป็นศิษย์ในนามของข้า!” [1]
หวังเสียนหันไปพูดกับเสี่ยวหรันเบา ๆ
“ขอบคุณครับท่านอาจารย์ ข้าชื่อว่าเสี่ยวหรัน นี่คือน้องสาวของข้า
ชื่อว่า หลิ่วเหมิ่งซิ่น!”
“หืมม! น้องสาวของเจ้าอย่างนั้นรึ?”
“ครับท่านอาจารย์ ข้าใช้สกุลตามท่านพ่อ ส่วนน้องสาวของข้าใช้
สกุลตามท่านแม่!”
“พี่สาวเทพธิดาคะ แสงสีขาวที่พี่สาวใช้ออกมาเมื่อวานนี้น่ามหัศจรรย์
มากเลยค่ะ พี่สาวช่วยสอนให้หนูหน่อยได้ไหมคะ หนูอยากเป็นลูก
ศิษย์ของพี่สาว!”
เสี่ยวหรันและหลิ่วเหมิ่งซิ่น มีความสุขมาก ในขณะที่คุยกับหวังเสียน
และซุนหลิงซิ่ว
กลุ่มของหวังเสียนค่อย ๆ เดินหายไปจนลับตา
สาวกของสำนักชิงมู่ รู้สึกโล่งอกและผ่อนคลายกันเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ
เห็นกลุ่มของหวังเสียน เดินออกไปไกลจนพ้นสายตาแล้ว
เจ้าสำนักและรองเจ้าสำนักชิงมู่ต่างเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของ
พวกเขาด้วยความโล่งใจ
“เฮ้อออ! สาวกพวกนี้ไปกระตุ้นกลุ่มคนระดับนี้ได้อย่างไรกัน?”
พวกเขามองไปยังชายวัยกลางคนที่เป็นสาวกของสำนักชิงมู่ ที่กำลัง
นอนบาดเจ็บอยู่บนพื้นด้วยสายตาเย็นชา
คนที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างพูดคุยและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรื่องที่เกิดขึ้นกันอย่างออกรส
….
รถ RV คันใหญ่ขับออกจากเมืองเปลวไฟไปยังเมืองเจียงเฉิงด้วย
ความเร็วสูง
หวังเสียนกำลังอ่านหนังสือทักษะวิชายุทธอยู่ในรถอย่างเงียบ ๆ
ทักษะวิชายุทธเหล่านี้นำมาจากคนของสำนักเทพอัคคีและสำนักวัง
เปลวไฟ
ทักษะวิชายุทธเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นทักษะวิชาที่ยอดเยี่ยมมาก
แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์สำหรับหวังเสียน เขามองไปที่เสี่ยวหรัน
ที่นั่งอยู่ในรถไม่ไกลจากเขา
“อาจารย์คิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติแห่งธาตุไฟและน่าจะเคยฝึกวิชาเกี่ยวกับ
ธาตุไฟมาก่อน วิชาเหล่าเป็นทักษะวิชายุทธเกี่ยวกับธาตุไฟเจ้าควร
นำพวกมันไปอ่านดู ถ้าเจ้าถูกใจอันไหนเจ้าสามารถนำไปฝึกฝนได้
อย่างเต็มที่ทักษะวิชาพวกนี้ถือได้ว่าเป็นทักษะวิชาเกี่ยวกับธาตุไฟที่
ดีมากเลยทีเดียว!” หวังเสียนหันไปพูดกับเสี่ยวหรัน
“ครับท่านอาจารย์!” เสี่ยวหรันตอบรับพร้อมกับก้มหัวลงด้วยความ
เคารพ “แกนแห่งธาตุไฟและทักษะวิชายุทธที่ข้าเคยฝึกฝนมานั้นมา
จากตระกูลของพ่อข้า!”
“ตระกูล?” หวังเสียนพยักหน้ารับ “บ้านของเจ้าอยู่ที่ไหน!”
“ซางจิง ครับ ตระกูลของข้าคือตระกูลเสี่ยวแห่งเมืองซางจิง ตระกูล
ของท่านพ่อข้านั้นเป็นตระกูลใหญ่ในระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิ!” เสี่ยวหรัน
ตอบอาจารย์ของเขาตามตรงโดยไม่ปกปิดเลยแม้แต่น้อย
“ตระกูลศักด์ิสิทธ์ิแห่งซางจิง!”
หวังเสียน ครุ่นคิดอยู่ในใจเล็กน้อย
ซางจิงเป็นเมืองหลวงของประเทศเคยเป็นเมืองโบราณที่เหล่ายอด
ยุทธและผู้มีอำนาจในระดับสูงอาศัยอยู่ ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งใน
เมืองที่มีรากฐานทางวิชายุทธที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ
ซางจิง เป็นหนึ่งในสถานที่ที่รู้จักกันดีว่าเป็นแหล่งของเสือซุ่มมังกร
ซ่อน มีเหล่ายอดยุทธและกองกำลังมากมายที่มีฝีมือระดับสูงซุ่มซ่อน
อยู่
ในประเทศนี้ไม่ได้มีแค่เพียงสำนักระดับชั้นศักด์ิสิทธ์ิที่เก่าแก่โบราณ
เพียงเท่านั้นที่มีความแข็งแกร่งและทักษะวิชายุทธระดับสูง
แต่ยังมีเหล่าตระกูลโบราณที่เป็นระดับชั้นตระกูลศักด์ิสิทธ์ิสืบทอด
กันมาอย่างยาวนานบางตระกูลที่มีความแข็งแกร่งมากพอ ๆ กันอยู่
อีกด้วย
นอกจากนี้ทุกตระกูลศักด์ิสิทธ์ิยังเป็นตระกูลที่มีอำนาจและมีมรดก
ตกทอดมาหลายร้อยปี สาวกในตระกูลบางตระกูลอาจมีมากถึงหลาย
พันคนเลยทีเดียว!
ตระกูลศักด์ิสิทธ์ิไม่ได้อ่อนแอไปกว่าระดับสำนักศักด์ิสิทธ์ิ ด้วย
ความสามัคคีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในตระกูลของพวก
เขา อาจจะแข็งแกร่งกว่าสำนักศักด์ิสิทธ์ิบางสำนักก็เป็นได้
“เจ้าจงนำทักษะวิชายุทธเหล่านี้ไปศึกษาเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับ
ธาตุแห่งไฟให้เพิ่มมากขึ้น!”
ในขณะที่หวังเสียน พูดเขาก็จับแขนของเสี่ยวหรัน เพื่อตรวจดูความ
สามารถ
ร่างกายของเขานั้นถือว่ายอดเยี่ยมและเหมาะกับการฝึกยุทธมาก
ทีเดียว แต่ก็ยังคงห่างไกลกับระดับกายาศักด์ิสิทธ์ิ
แต่หวังเสียน ก็ไม่คิดจะใช้พลังมังกรของเขาปลดล็อคเส้นลมปราณ
ให้กับเสี่ยวหรัน เขามีแผนของเขาเอง
และอีกอย่างหนึ่งเสี่ยวหรันเป็นเพียงลูกศิษย์ในนามของเขาเท่านั้น
เขาจะไม่เปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตของลูกศิษย์คนนี้โดยการเปลี่ยน
ให้เขาเป็นมนุษย์มังกร เสี่ยวหรันจะเป็นลูกศิษย์ที่เป็นมนุษย์ของเขา
“ครับท่านอาจารย์!”
เสี่ยวหรันแสดงความตื่นเต้นยินดีออกมา เขาพยักหน้าตอบรับด้วย
ความเคารพไปทางหวังเสียน ในขณะที่เขาเริ่มหยิบหนังสือทักษะ
วิชาเกี่ยวกับธาตุไฟมาอ่านด้วยความตั้งใจ
หวังเสียน พยักหน้าและยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ เขาขยับนิ้วมือ
ของเขาเล็กน้อย เปลวไฟสีน้ำเงินก็ลอยขึ้นมาอยู่บนมือของเขา
ในทันที
‘แม้ว่าเด็กคนนี้จะเป็นเพียงแค่ศิษย์ในนามของข้า แต่ข้าก็จะทำให้เขา
แข็งแกร่งและอยู่เหนือกว่ามนุษย์ทุกผู้ทุกตนในโลกใบนี้ ในฐานะ
อาจารย์ เปลวไฟน้ำเงินแห่งสวรรค์ระดับ 9 ชิ้นนี้ข้าจะมอบให้กับเขา
เป็นของขวัญในฐานะลูกศิษย์ที่เป็นมนุษย์คนแรกและคนสุดท้าย
ของข้า!’
หวังเสียนครุ่นคิดกับตัวเองอยู่ในใจเงียบ ๆ
หลิ่วเหมิ่งซิ่น นั่งมอง ซุนหลิงซิ่ว อยู่ข้าง ๆ เธอด้วยสายตาที่
กระตือรือร้น
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเรียนรู้พลัง
วิเศษเพื่อที่เธอจะได้เอาไว้คอยช่วยรักษาอาการบาดเจ็บพี่ชายของ
เธอในอนาคต
ซุนหลิงซิ่ว ตรวจสอบร่างกายของเด็กหญิวตัวน้อยก่อนที่เธอจะตอบ
ตกลงในที่สุด
รถของพวกเขาวิ่งกลับเข้ามาในเมืองเจียงเฉิงอย่างรวดเร็ว ดาบคลั่ง
โลหิตจี บอกลากับ หวังเสียน ด้วยความเคารพ
หลังจากได้เห็นความสามารถและความแข็งแกร่งของ หวังเสียน ตัว
เขารู้สึกเคารพและยำเกรง หวังเสียน เพิ่มขึ้นมาอีกมาก
ในก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าหวังเสียน จะสามารถ
เปลี่ยนลูกไฟที่พ่นออกมาจากปากของเขาให้กลายเป็นมังกรไฟ
ศักด์ิสิทธ์ิ และยังสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ
ขั้นสูงสุดได้ถึงแปดคน ความรู้สึกของเขาที่มีต่อหวังเสียนในตอนนี้
มีทั้งหวาดกลัวและเทิดทูนบูชาอย่างสุดหัวใจ
“เฒ่าโม่ มีวิลล่าอีกหลังซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ไปซื้อเก็บเอาไว้เพื่อให้
เสี่ยวหรัน, น้องสาวของเขาและพวกเจ้าจะได้อาศัยอยู่ที่นั่นด้วยกัน!”
หวังเสียน พูดกับ โม่ชิงหลง
“ขอรับนายท่าน!”
วิลล่าของเขาในตอนนี้เริ่มจะแออัดมากขึ้น หวังเสียน ไม่ต้องการให้
มีคนมากเกินไปเพราะมันจะรบกวนสงครามบนเตียงของเขา และ
เขาจะไม่ยับยั้งความต้องการของเขาเพราะบุคคลอื่น ๆ เป็นแน่
“สาวน้อยข้าอยู่มาเกือบร้อยปีและท่องเที่ยวไปจนทั่วโลก ใครก็ตาม
ที่ได้พบเจอข้าพวกต่างเรียกข้าว่า จักรพรรดิซุย ด้วยความเคารพ ใน
อนาคตถ้าเจ้าแต่งงานกับตระกูลซุยของข้าซึ่งเป็นตระกูลศักด์ิสิทธ์ิ
จะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีกต่อไป ชายหนุ่มในตระกูลซุยของข้าทุก
คนเป็นเหล่าชายหนุ่มที่มีความยอดเยี่ยมกันทุกคน เจ้าสามารถเลือก
ชายหนุ่มคนใดก็ได้ที่เจ้านั้นพอใจ!”
“ต่อไปในอนาคตเมื่อเจ้าแต่งงานเข้าไปอยู่ในตระกูลซุยของข้าแล้ว
ทุกคนจะต้องปฏิบัติต่อเจ้าด้วยความเคารพ!”
“นอกจากนี้หากเจ้ารู้ถึงความแข็งแกร่งและอำนาจของข้าแล้ว เจ้า
อย่าตกใจก็แล้วกันล่ะ ฮ่า ๆ ๆ !”
เมื่อหวังเสียนและกลุ่มคนของเขาเข้ามาที่สนามหน้าวิลล่า พวกเขาก็
ได้ยินเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของชายชราดังออกมาจากในวิลล่า
แรงกดดันอันแข็งแกร่งและทรงพลังแพร่กระจายออกมาจากในวิลล่า
จนสามารถรู้สึกได้ว่าคนที่อยู่ข้างในนั้นมีพลังที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก
เลยทีเดียว!
……….
จบบท
EndNote: [1] การรับลูกศิษย์แบ่งออกได้เป็นสามสถานะก็คือ
1. ลูกศิษย์หลักหรือศิษย์สายตรง ลูกศิษย์ในสถานะนี้จะได้รับการ
ถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างจากอาจารย์โดยตรง
2. ลูกศิษย์ทั่วไป ลูกศิษย์ในสถานะนี้จะได้รับการถ่ายทอดวิชาตาม
ความรู้และความสามารถเท่านั้น
3. ลูกศิษย์ในนามหรือลูกศิษย์ในรายชื่อ ลูกศิษย์ในสถานะนี้ เป็นลูก
ศิษย์ที่อยู่ในสถานะที่ต่ำที่สุด เทียบเท่ากับศิษย์รับใช้ ลูกศิษย์
สถานะนี้จะได้รับการถ่ายทอดวิชาตามโอกาสและช่วงเวลาที่
เหมาะสมเพียงเท่านั้น
**แต่ว่า…เสี่ยวหรันเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวของหวังเสียน…**

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท