Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 298

ตอนที่ 298

ตอนที่ 298 (ตอนฟรี) ท่านป้า?

.

“เสี่ยวเสียน!”

“พี่ชาย!”

“ท่านอาจารย์!”

หลังจากที่ทุกคนลงมาจากเครื่องบินแล้ว เสี่ยวหยู, กวนชูชิงและหลานชิงเยว่ พวกเธอรีบวิ่งเข้าไปหาหวังเสียนและผู้เฒ่าซุยในทันที

“เสี่ยวเสียน เรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไงกันแน่ เมื่อครู่นี้พวกเรานั้นตกใจกันมากเลย!” สาวๆรีบเดินเข้าไปถามหวังเสียน ถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เครื่องบินเกือบจะตกในก่อนหน้านี้

“อืมม! คือยังงี้ ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณสองคน เกิดต่อสู้กันบนเครื่องบิน ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นค่อนข้างที่จะสูงจึงทำให้ระบบของเครื่องบินทั้งหมดนั้นเสียหายจนไม่สามารถบินต่อไปได้ส่วนนักบินทั้งคู่นั้นก็โชคร้ายมาก พวกเขาได้รับผลกระทบจากการต่อสู้จนเสียชีวิตหลังจากนั้น…” หวังเสียน อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างง่ายๆ ให้กลุ่มเด็กสาวฟัง

“เฮ้อ! ช่างน่ากลัวมากเลยจริงๆ! ในตอนแรกฉันก็คิดว่ามีผู้ก่อการร้ายมาจี้เครื่องบินเสียอีก!” เสี่ยวหยู ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

“ท่านจักรพรรดิสุย!..”

ในขณะนี้ชายวัยกลางคนที่มีความขัดแย้งกับกลุ่มของชายวัยกลางคนร่างผอมที่ได้ต่อสู้กันบนเครื่องบิน รีบตรงเข้าไปทักทายผู้เฒ่าซุยด้วยท่าทางที่สำนึกผิด

“ข้าจะสอบสวนเรื่องนี้อย่างยุติธรรมเจ้ากลับไปรอยังที่บ้านของเจ้าก่อน แล้วข้าจะให้คนติดต่อเจ้าไปอีกที!”

“ขอรับท่านจักรพรรดิซุย!” ชายวัยกลางคนประสานมือและโค้งตัวลงเพื่อทำความเคารพก่อนที่เขาจะจากไป

“ท่านอาจารย์ ดูจากท่าทางของเขาแล้วเขาเคารพและหวาดกลัวท่านอาจารย์มากเลยทีเดียว!” กวนชูชิง รู้สึกสงสัยขึ้นมาในทันที ต่อให้อาจารย์ของเธอนั้นจะมีแข็งแกร่งมากขนาดไหนแต่การแสดงออกของชายคนนั้นแสดงออกถึงความเคารพอาจารย์ของเธออย่างสุดหัวใจและก็หวาดกลัวไปพร้อมๆกันอีกด้วย

“ฮึๆๆ! ศิษย์ข้ามีใครบ้างในเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ที่ไม่รู้จักจักรพรรดิซุยผู้นำที่ทรงพลังของตระกูลซุย ฮ่าๆๆ!” ผู้เฒ่าซุยหัวเราะออกมาอย่างภาคภูมิใจ

“เอาล่ะ! ในตอนนี้เจ้าอยู่ในเขตการปกครองของอาจารย์ เจ้าอยากจะเที่ยวพักผ่อนหรือทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นตามที่เจ้าต้องการ เจ้ามีอะไรที่ต้องการเป็นพิเศษหรือไม่ ข้าสามารถจัดหาให้เจ้าได้ทุกๆอย่าง ฮ่าๆๆ!” ผู้เฒ่าซุยหัวเราะขึ้นมาเสียงดังอีกครั้งก่อนที่จะเดินนำหน้าไปยังทางออกของสนามบิน

“ท่านปู่!”

เมื่อพวกเขาออกจากสนามบินชายชราสองคนก็เดินตรงเข้าไปทักทายผู้เฒ่าซุยอย่างกระตือรือร้น

“อืมม!” ผู้เฒ่าซุยพยักหน้าและยิ้มออกมาบางๆ เขามองไปที่รถหรูสีดำ 2-3 คันข้างหน้าก่อนที่จะหันไปพูดกับหวังเสียน “น้องชายหวังเสียน พวกเจ้าจะนั่งรถไปพร้อมกับข้าเลยหรือไม่?”

หวังเสียน ยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะส่ายหัวและตอบ

“อืม! พวกเราขอไปเดินเล่นที่ถนนการค้าของซ่างจิงก่อนก็แล้วกัน แล้วพรุ่งนี้ตอนบ่ายๆพวกเราจะเข้าไปที่ตระกูลของท่านกันเอง !”

“ตกลง!” ผู้เฒ่าซุยคุยกับหวังเสียน อีกเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับกวนชูชิง “ศิษย์ข้า หากเจ้าพบเจอปัญหาใดๆในเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ เจ้าสามารถโทรหาข้าได้ตลอดเวลา เอาล่ะ!เจ้าไปเที่ยวให้สนุกเถอะนะ!”

“ค่ะท่านอาจารย์! ข้ามีอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากขนาดนี้ ข้าคิดว่าในเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้คงจะไม่มีใครกล้ามารังแกข้าลูกศิษย์ของจักรพรรดิซุยอย่างแน่นอน” กวนชูชิงพยักหน้าและพูดประจบผู้เฒ่าซุยด้วยรอยยิ้ม

“ฮ่าๆๆ! ศิษย์ที่ดี!” ผู้เฒ่าซุยหัวเราะออกมาเสียงดัง หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ชายชราทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆเขา “ทิ้งรถเอาไว้ให้พวกเขาด้วย!”

“ครับท่านปู่!”

ชายชราทั้งสองพยักหน้าทันที หลังจากนั้นพวกเขามองไปที่ กวนชูชิง พร้อมกับโค้งตัวลงทำความเคารพและพูดว่า “สวัสดีครับท่านป้า! หากท่านป้ามีความต้องการสิ่งใดๆ ท่านป้าสามารถแจ้งพวกเราได้ในทันทีเลยนะครับ!”

“ห๊าา?..” เมื่อ กวนชูชิง ได้ยินชายชราทั้งสองคนเรียกเธอว่าอย่างไรเธอก็ร้องเสียงหลงและพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง

ชายชราทั้งสองคนมีอายุอย่างน้อย 70 ปี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีสุขภาพที่ดี แต่ก็ยังสามารถสังเกตเห็นอายุที่แท้จริงของพวกเขาได้ไม่ยากนัก

กวนชูชิงไม่รู้จะทำตัวและสีหน้าอย่างไร ในตอนนี้เธอรู้สึกอายเป็นอย่างมาก หลังจากที่ถูกชายชราอายุกว่า 70 ปีเรียกเธอว่าท่านป้า

“ฮ่าฮ่า! ศิษย์รักของข้าเด็กทั้งสองคนนี้เป็นหลานแท้ๆของข้า ฉะนั้นตามศักดิ์และฐานะแล้วเจ้าที่เป็นศิษย์หลักสายตรงของข้า พวกเขาจึงเรียกเจ้าว่าท่านป้านั้นถูกต้องอย่างที่สุดแล้ว ฮ่าๆๆ!” ผู้เฒ่าซุยหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อสังเกตเห็นท่าทางและปฏิกิริยาของกวนชูชิง

“ค่ะท่านอาจารย์!” กวนชูชิงยิ้มออกมาอย่างขมขื่นและฝืนยิ้มให้กับชายชราทั้งสองคน

“น้องชายหวังเสียน! รถคันนั้นข้าจะยกให้เจ้าเอาไว้ใช้ ตอนนี้ข้าจะกลับไปเตรียมการที่ตระกูลก่อน!” ผู้เฒ่าซุย หันไปพูดกับหวังเสียน

“ขอบคุณมากตาเฒ่าสุ่ย! ไปจัดการธุระของท่านเถอะ!” หวังเสียน กล่าวคำขอบคุณและพยักหน้าให้กับผู้เฒ่าซุยอย่างเป็นกันเอง

หลังจากเกิดเหตุการณ์บนเครื่องบินแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างหวังเสียนและผู้เฒ่าซุยก็แน่นแฟ้นมากขึ้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกันได้เพียงไม่นานและอายุของพวกเขานั้นค่อนข้างที่จะห่างกันเป็นอย่างมาก แต่ความรู้สึกของพวกเขาทั้งคู่นั้นคล้ายกับเพื่อนสนิทที่คบกันมานานหลายสิบปีเลยทีเดียว

“ลาก่อนครับท่านป้า!” ชายชราทั้งสองคนกล่าวคำอำลาและโค้งตัวคำนับ กวนชูชิง อีกครั้ง

“อ่ะ!…อื้มมม!!” กวนชูชิง พยักหน้าและตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก

ในขณะที่ผู้เฒ่าซุยและชายชราทั้งสองคนจากไป หวังเสียนก็ยิ้มออกมาบางๆ และหันไปถามกวนชูชิง “ชูชิง ในตอนนี้ตาเฒ่าซุยอายุเท่าไหร่อย่างงั้นเหรอ? หลานชายของเขาน่าจะอายุไม่ต่ำกว่า 70 ปีเลยนะนั่น!”

กวนชูชิงหันไปมองหวังเสียนและตอบว่า “ฉันเคยถามท่านอาจารย์เหมือนกัน เขาบอกว่าเขามีอายุมากกว่าสองชั่วอายุคนแล้ว!” [ประมาณ 120-160 ปี]

“โอ้พระเจ้า! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงแข็งแกร่งมากนัก เขามีอายุมากกว่าสองชั่วอายุคนนี่เอง!”

หวังเสียนรู้สึกทึ่งเล็กน้อย หนึ่งชั่วอายุคนเทียบเท่ากับประมาณ 60-80 ปี สองชั่วอายุคนหมายความว่าผู้เฒ่าซุยนั้นมีอายุมากกว่า 120 ปี

ไม่แปลกใจเลยที่ชายชราวัยกว่าเจ็ดสิบปีทั้งสองคนเรียกเขาว่าท่านปู่

“หากว่าตาเฒ่าสุยยังมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักหลายสิบปี ผมว่าเขาคงจะต้องถูกนักวิทยาศาสตร์จับตัวไปทดลองและผ่าพิสูจน์ดูอย่างแน่นอนเลยล่ะ ฮึๆๆ!” หวังเสียนพูดติดตลกและหัวเราะออกมาเบาๆ

“เสี่ยวเสียน! ฉันไม่อยากเป็นป้าของคนที่มีอายุมากกว่า 70 ปีเลยอ่ะ~!” กวนชูชิง ทำหน้ามุ่ยบ่นกับหวังเสียน

ถ้าเธอเป็นท่านป้าของชายชราทั้งสองคน เด็กรุ่นหลังของตระกูลซุยที่อายุเท่าๆกันกับเธอคงจะต้องเรียกเธอว่าท่านย่าทวดอย่างแน่นอน!

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้กวนชูชิง รู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาเล็กน้อย มันถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าอายมากเลยทีเดียว สำหรับหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าท่านป้าหรือท่านย่าทวด!

“เฮ้ชูชิง! ฉันคิดว่ามันเจ๋งมากเลยทีเดียวนะ! เธอลองนึกดูสิกลุ่มคนทั้งหมดของตระกูลซุยไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้อาวุโสหรือเด็กรุ่นลูกรุ่นหลานของพวกเขา ต้องทักทายเธอด้วยความเคารพ คิกๆ!” หลานชิงเยว่แสดงความคิดเห็นและหัวเราะออกมาเบาๆ

“ใช่เลยพี่สะใภ้! ฉันได้ยินมาว่าผู้อาวุโสซุยเป็นผู้นำที่มีอำนาจสูงที่สุดของตระกูลซุย และตระกูลซุยนั้นมีความแข็งแกร่งและเบื้องหลังที่ลึกซึ้งเป็นอย่างมากเลยทีเดียวในเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ เมื่อเหล่าผู้อาวุโสและกลุ่มคนรุ่นใหม่ของตระกูลซุยต้องคุกเข่าลงต่อหน้าพี่สะใภ้ แค่คิดฉันก็สนุกแล้วล่ะ ฮิฮิ!” เสี่ยวหยู พูดเสริมออกมาพร้อมทำท่าประกอบ

“ช่างเถอะ! นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ หากว่าพวกเธอชอบพวกเธอก็สามารถแทนตำแหน่งของฉันได้นะ ฉันจะบอกท่านอาจารย์ให้ ว่าพวกเธอนั่นต้องการเป็นท่านป้าและท่านย่าทวดของคนในตระกูลซุย!”

กวนชูชิง กลอกตามองไปยังเด็กสาวทั้งสองคน ที่กำลังอมยิ้มและหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานกันอยู่

“เอาล่ะ! หยุดล้อเล่นกันก่อนเถอะ พวกเราควรไปหาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองเซี่ยงไฮ้กันดีกว่า! อืม~มื้อกลางวันพวกเราไปกินเป็ดย่างกันดีไหม?”

หวังเสียน ยิ้มออกมาให้ทั้งสามสาว ก่อนที่จะชวนพวกเธอออกไปหาอาหารกลางวันทานกัน

“ตกลง! ไปกันเลยยย!”

เสี่ยวหยูตะโกนออกมาอย่างคึกคัก เธอเดินนำทุกคนไปที่รถด้วยท่าทางที่ตื่นเต้น

มันคือรถเบนท์ลีย์สีดำขนาดใหญ่แบบพิเศษมี 6 ที่นั่ง รถรุ่นนี้มันเป็นรถรุ่นที่หรูหรามากเลยทีเดียว

โม่ชิงหลงเป็นคนขับรถและนำคณะของหวังเสียนไปยังสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเซี่ยงไฮ้

เมืองเซี่ยงไฮ้นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของเป็ดย่างเป็นอย่างมาก ดังนั้นทุกคนในคณะของหวังเสียนจึงต้องการที่จะลิ้มลองรสชาติเป็ดย่างแบบดั้งเดิมของเมืองเซี่ยงไฮ้

หลังจากมื้อเที่ยงแล้วพวกเขาก็ขับรถไปเที่ยวชมพระราชวังต้องห้ามหรือพระราชวังกู้กง [ 紫禁城 ]

คณะของเขายังคงเต็มไปด้วยพลังและความคึกคัก ถึงแม้ว่าพวกเขานั้นจะเที่ยวเล่นมากันทั้งวันแล้วก็ตาม

พวกเขาทั้งหมดนั้นเป็นผู้ฝึกฝนและบ่มเพาะวิชายุทธ ฉะนั้นเพียงแค่การเที่ยวเล่นและการเดินทางจึงไม่มีผลต่อกลุ่มของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

“มื้อค่ำพวกคุณอยากจะทานอะไรกัน? อยากจะทานที่โรงแรมหรือออกไปทานกันที่ข้างนอก?”

ในขณะที่รถเบนท์ลีย์ขับไปบนถนนซ่างจิง หวังเสียนยิ้มและถามกลุ่มเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้วยกันในรถ

เขาหรี่ตาลงพร้อมกับจ้องมองสัดส่วนของ กวนชูชิงและหลานชิงเยว่ ด้วยสายตาที่ชั่วร้าย

‘ฮึ่มมม! ฉันยังไม่มีโอกาสได้ยกทัพเข้าไปเผด็จศึก หลานชิงเยว่ เลย วันนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีเลยทีเดียว ฮิฮิ!’

“เรายังไม่คิดที่จะกลับไปที่โรงแรม! พวกเราคุยกันแล้วว่าต้องการไปที่ตลาดกลางคืนบนถนนซ่างจิง หลังจากนั่นแล้วเราก็จะไปเดินซื้อของที่ถนนการค้าหวังฟู่ ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศ พวกเรานั้นอยากจะเดินซื้อของในเมืองเซี่ยงไฮ้จนแทบจะคลั่งตายกันอยู่แล้ว!” เสี่ยวหยู, กวนชูชิง, หลานชิงเยว่และผู้อาวุโสฟาง แสดงสีหน้าที่ตื่นเต้นกันออกมา

[ผู้อาวุโสฟางมาด้วยเหรอ?]

“เอ่อ!…พวกคุณเดินเที่ยวเล่นและ ช้อปปิ้งกันมาทั้งวันแล้วยังไม่เหนื่อยกันอีกอย่างนั้นเหรอ?” ปากของหวังเสียน กระตุกเล็กน้อย เขารู้สึกไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงพวกนี้เลยจริงๆ

“เหนื่อยเหรอ? มันจะเป็นไปได้อย่างไรพวกเราเป็นผู้ฝึกตนนะ และในครั้งนี้พวกเรานั้นมาเที่ยวสนุกกัน ฉะนั้นก็สมควรจะต้องออกไปเที่ยวและซื้อของกันอย่างให้เต็มที่ ถ้าไม่อย่างนั้นจะเรียกว่ามาเที่ยวได้อย่างไร? และคุณก็ต้องไปกับพวกเราด้วย พวกเราต้องการคนช่วยถือของให้กับพวกเรา!” กวนชูชิงและหลานชิงเยว่ มองไปที่หวังเสียน และออกคำสั่งกับเขาโดยตรง

ใบหน้าของหวังเสียน สลดลงไปในทันที! ดูเหมือนว่าคืนนี้ดาบใหญ่ของเขาคงไม่มีโอกาสได้ออกรบอย่างแน่นอน!

……..

จบบท

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท