ตอนที่ 299 จ่ายคืนสองเท่า
.
“ว้าว! ชูชิง ดูนี่สิสวยมากเลยล่ะ!”
“นี่ๆ! ท่านอาจารย์และพี่สะใภ้ทั้งสองคน พวกท่านมาดูนี่กันสิ ของพวกนี้แปลกมากเลยล่ะ น่าทึ่งมากจริงๆ!”
เมืองเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองหลวงที่มีคนร่ำรวยมากที่สุดและมีรากฐานที่แข็งแกร่งมากที่สุดในประเทศ มีสถานบันเทิงและตลาดการค้ายามค่ำคืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย
หวังเสียนถูกทอดทิ้งอย่างไม่ใยดี เขาได้แต่เฝ้าดูเด็กสาวทั้งสี่คนเลือกซื้อขนมและสิ่งของแปลกตาจากร้านแผงลอยต่างๆ บนถนนย่านการค้าในยามค่ำคืนของถนนซ่างจิงด้วยท่าทางที่มีความสุข
ตัวเขาก็ทำได้เพียงแค่เดินตามพวกเธอไปอย่างว่าง่ายเหมือนกับน้องชายตัวน้อย
แต่คณะของหวังเสียน นั้นก็ดึงดูดความสนใจจากผู้คนนับไม่ถ้วนตลอดเส้นทางที่พวกเขาเดินผ่าน
ความงดงามของเด็กสาวทั้งสี่คน อยู่ในระดับยอดเยี่ยมกันทุกคน
เสี่ยวหยู, กวนชูชิง, หลานชิงเยว่และผู้อาวุโสฟาง พวกเธอทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้ฝึกฝนวิชายุทธ ความงามและรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของพวกเธอนั้นดึงดูดสายตาของฝูงชนได้เป็นอย่างดี
เอกลักษณ์และท่าทางของเด็กสาวทั้งสี่คนค่อนข้างสูงส่งและและมีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนกับเทพธิดาเลยทีเดียว พวกเธอทั้งสี่คนสวยงามไปคนละแบบ แต่เมื่อพวกเธออยู่รวมกันแล้วมันจึงกลายเป็นความงดงามที่น่าตื่นตะลึงมากเลยทีเดียว
“เข้าไปเลือกซื้อของกันเถอะ!”
เมื่อทั้งสี่สาวเดินมาถึงศูนย์การค้าชื่อดังในถนนซ่างจิงพวกเธอก็รีบเดินเข้าไปพร้อมกันด้วยความตื่นเต้น
การซื้อของและดูแลรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นธรรมชาติแต่โดยกำเนิดของผู้หญิง แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณที่เป็นหญิงสาวก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อกฎอันเป็นธรรมชาติของหญิงสาวเหล่านี้ได้
และในตอนนี้เด็กสาวทั้งสี่คนก็กำลังปลดปล่อยความสามารถของกฎธรรมชาตินี้เช่นเดียวกัน โดยการจับจ่ายและซื้อของกันอย่างบ้าคลั่ง
เสื้อผ้าเครื่องประดับกระเป๋ารองเท้าแม้แต่ของกระจุกกระจิกเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นพวกกิ๊บหนีบผมและเข็มกลัดก็ยังถูกพวกเธอซื้อเหมือนกับเจ้าของร้านยกให้ฟรี
ในไม่ช้าบนแขนและไหล่ของหวังเสียนและโม่ชิงหลง ก็เต็มไปด้วยถุงสิ่งของที่หญิงสาวทั้งสี่คนนั้นซื้อมา
สภาพของพวกเขาทั้งคู่ไม่ต่างจากรถเข็นบรรทุกสิ่งของที่มีชีวิต
หวังเสียน ยิ้มออกมาอย่างแห้งๆ เขาหันไปชำเลืองมองโม่ชิงหลงที่เดินอยู่ข้างๆด้วยท่าทางที่เห็นใจเขาเป็นอย่างยิ่ง
ในตอนนี้โม่ชิงหลงนั้นทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาได้แต่กระพริบตาปริบๆ อย่างน่าสงสาร
โม่ชิงหลงนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงสุด และเขานั้นเป็นถึงผู้นำของสำนักมังกรและเป็นผู้ที่เหล่ามนุษย์มังกรทุกคนต่างเคารพอย่างสูงสุดรองจากหวังเสียน เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
เขานั้นเป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยมมาก เคยสังหารผู้คนมาอย่างมากมายนับไม่ถ้วนโดยไม่กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ หากเหล่าศัตรูต้องมาเจอกับเขา คนพวกนั้นจะต้องหนาวสั่นและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
แต่ในตอนนี้เขานั้นต้องกลายมาเป็นเหมือนกับเด็กรับใช้ตัวน้อยคอยเดินตามหิ้วของพร้อมกับหวังเสียน โดยไม่สามารถต่อต้านและขัดขืนคำสั่งได้เลยแม้แต่น้อย
ชีวิตของคนเรานั้นบางครั้งก็ช่างน่าหดหู่เสียเหลือเกิน!
แต่โม่ชิงหลงก็ยังคงรู้สึกผ่อนคลายเป็นลงไปบ้างเล็กน้อย เมื่อเขาแอบชำเลืองมองไปที่หวังเสียน เพราะอย่างน้อยๆในตอนนี้องค์ราชามังกรผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขา ก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับตัวเขา!
ทั้งสี่สาวเดินเที่ยวเล่นและซื้อของจนถึงเวลา 23.00 น. และมันค่อนข้างที่จะดึกมากแล้วพวกเธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหยุดการซื้อของของพวกเธอลงก่อนชั่วคราว แต่หวังเสียนก็ยังแอบได้ยินพวกเธอพูดคุยกันอีกว่าพวกเธอนั้นจะไปเลือกซื้อของกันอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าอื่นๆ
หวังเสียน ที่เดินตามอยู่ข้างหลังของพวกเธอแทบจะสะดุดล้มลงกับพื้นไปในทันทีหลังจากที่ได้ยินในสิ่งที่สาวๆพูดคุยกัน
ไม่ใช่ว่าเขาเหนื่อยหรือไม่มีเงินจ่ายให้กับพวกเธอ แต่เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากเกินไป
เขาไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกและความสุขของเด็กสาวพวกนี้ได้ว่าการซื้อของมาอย่างมากมายเกินกว่าที่จะสามารถใช้ได้นั้นมีความสุขที่ตรงไหน?
“นี่เสี่ยวเสียนลองสวมนาฬิกาเรือนนี้ดูสิ! คุณควรจะมีเครื่องประดับติดตัวเอาไว้บ้างอย่างน้อยนาฬิกาเรือนนี้ก็ทำให้คุณดูดีขึ้นมากทีเดียวเลยล่ะ!”
กวนชูชิงและหลานชิงเยว่ หันไปพูดกับหวังเสียน ด้วยรอยยิ้มที่สดใส พวกเธอนั้นช่วยกันเลือกซื้อนาฬิกาเรือนนี้ให้กับเขา
“ขอบคุณมากนะ!”
หวังเสียนรับนาฬิกามาด้วยรอยยิ้ม นาฬิกาหรูเรือนนี้ราคาคงไม่ต่ำกว่าสองล้าน แต่ราคาของมันนั้นไม่สำคัญกับหวังเสียนเลย ที่สำคัญที่สุดมันถูกเลือกโดยคนที่เขารัก
จริงๆแล้วหวังเสียนไม่ชอบใส่เครื่องประดับเลยแม้แต่น้อย แค่เฉพาะเสื้อผ้ามันก็ยุ่งยากมากสำหรับเขาอยู่แล้ว เวลาที่เขากลายร่างเป็นมังกร ตอนนี้ยังมีนาฬิกาเพิ่มมาอีกเรือน มันจึงทำให้เขารู้สึกลำบากใจมากขึ้น
ถ้าเขาลืมถอดนาฬิกาตอนที่เขากลายร่างเป็นมังกร นาฬิกาเรือนนี้ก็คงจะพังไปในทันที
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถปฏิเสธแม่เสือสาวทั้งสองคนได้
“พี่! ฉันจะเป็นคนเลือกโรงแรมเอง! ให้ฉันค้นหาทางออนไลน์สักครู่นะ!”
เสี่ยวหยู หยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาและรีบค้นหาโรงแรมหรูที่มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว
แต่โรงแรมหรูที่มีชื่อเสียงในเมืองเซี่ยงไฮ้ค่อนข้างที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยิ่งเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวอย่างเช่นในเวลานี้ด้วยแล้ว โรงแรมบางแห่งจึงถูกจองจนเต็มไปหมดแล้ว
คณะของหวังเสียนจึงทำได้แต่เพียงต้อง ตะเวนหาที่พักด้วยตนเอง พวกเขาเดินเข้าออกโรงแรม 2-3 แห่งก่อนที่พวกเขาจะสามารถหาที่พักกันได้
“ว้าว!นี่คือถนนไร้ราตรีของเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างนั้นเหรอ?” เสียวหยูตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น
ถนนไร้ราตรีเป็นถนนที่มีชื่อเสียงและคึกคักมากที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้ ด้วยการที่มีสถานบันเทิงอยู่อย่างมากมายบนถนนแห่งนี้
ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยวและกลุ่มวัยรุ่นที่ร่ำรวย บางครั้งก็จะมีเหล่าบรรดานักร้องนักแสดงชื่อดังมาเที่ยวสนุกที่นี่อีกด้วย
หญิงสาวที่สวยงามและชายหนุ่มที่หล่อเหลาต่างรวมตัวกันอยู่ตามสถานบันเทิงและท้องถนนแห่งนี้
รถหรูหราราคาแพงมากมายจอดอยู่ตามริมถนน มันไม่ใช่เรื่องแปลกตาสำหรับที่นี่ ความร่ำรวยของคนในเมืองเซี่ยงไฮ้นั้นเหนือกว่าคนที่อยู่ในเมืองเจียงเฉิงเป็นอย่างมาก
“พวกเรารีบเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมกันก่อนเถอะ!”
หวังเสียนหันไปพูดกับเสี่ยวหยูในขณะที่เธอกำลังกวาดสายตามองไปยังสถานที่ท่องเที่ยวด้วยความตื่นเต้น
โรงแรมที่พวกเขาตั้งใจเข้าไปพักนั้นเป็นโรงแรมหรูระดับห้าดาวซึ่งค่อนข้างเป็นที่รู้จัก
หวังเสียนและกลุ่มสาวๆเดินตรงเข้าไปที่ล็อบบี้ของโรงแรม เมื่อเสี่ยวหยูเดินไปถึงที่ทางเข้า เธอก็หยุดชะงักและหันไปมองที่รถสปอร์ตสีแดงด้วยท่าทางที่ตื่นเต้น
“หืม? มีอะไรอย่างงั้นเหรอเสี่ยวหยู?” หวังเสียน หันไปถามเสี่ยวหยูเมื่อเขาสังเกตเห็นท่าทางที่แปลกๆของน้องสาวเขา
“นั่น!…นั่นหลิงยี่นี่!”
หวังเสียน รู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อได้รับคำตอบของเสี่ยวหยู เขาหันมองไปตามทิศทางที่เสี่ยวหยูชี้มือ เขาเห็นสาวสวยคนหนึ่งที่ถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มเด็กวัยรุ่นไม่ว่าจะเป็นชายหนุ่มและหญิงสาว พวกเขาต่างพากันเดินมุ่งหน้าตรงมาทางล็อบบี้ของโรงแรมเช่นเดียวกันกับกลุ่มของหวังเสียน
“เพลงของ หลิงยี่ นั้นเพราะมากเลยล่ะ ฉันชอบเพลงของเธอมาก เพลงของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันหลายๆเรื่องเลยทีเดียว!”
เสี่ยวหยูและกลุ่มสาวๆต่างพูดถึงบทเพลงของนักร้องสาวที่ชื่อหลิงยี่ ด้วยท่าทางที่ตื่นเต้น
“ไม่น่าแปลกใจมากนักที่พวกเราสามารถได้เห็นนักร้องนักแสดงที่มีชื่อเสียง เพราะว่าที่นี่นั้นมีสถาบันสอนศิลปะการแสดงและสถาบันการดนตรีที่มีชื่อเสียงอยู่อย่างมากมาย!”
” แต่ฉันชอบเพลง ‘บินไปสู่ความหวัง’ ของหลิงยี่มากที่สุดเลยล่ะ!” เสี่ยวหยู ยิ้มแล้วพูดออกมาในขณะที่เธอมองไปยังหลิงยี่
หวังเสียน หัวเราะออกมาเบาๆ “ตอนนี้ดึกแล้ว น้องอย่าพึ่งไปรบกวนเธอเลย ถ้ามีโอกาสดีๆ ค่อยเข้าไปทำความรู้จักกับเธอก็แล้วกัน ตอนนี้เราเข้าไปเช็คอินและพักผ่อนกันก่อนเถอะ!”
“โอเคค่ะพี่!” เสี่ยวหยูพยักหน้า แต่เธอก็ยังไม่สามารถละสายตาที่มองไปยังนักร้องสาวสวยคนนั้นได้
นักร้องสาวสวยหลิงยี่ก็ได้ยินบทสนทนาของเสี่ยวหยูเช่นกัน เธอแสดงรอยยิ้มออกมาจางๆ ในขณะที่เธอเดินพิงชายหนุ่มคนหนึ่งมาด้วยความรักใคร่
“ห้องชุดประธานาธิบดี 2 ห้องและห้องพิเศษ 1 ห้อง!”
โม่ชิงหลง อยู่ที่แผนกต้อนรับและกำลังพูดคุยกับเจ้าที่ของโรงแรม
“ขอโทษครับท่าน! ในตอนนี้เราเหลือห้องประธานาธิบดีเพียงห้องเดียวเท่านั้น!”
“พวกเราสาวๆทั้งหมดจะพักรวมอยู่ด้วยกันในห้องประธานาธิบดี ส่วนพี่ชายกับพ่อบ้านโม่ก็อยู่ห้องพิเศษก็แล้วกันนะ!”
เสี่ยวหยู หัวเราะเบาๆขณะที่เธอพูดกับหวังเสียน
“อืม! จริงๆแล้วพี่ก็สามารถนอนในห้องเดียวกับชูชิงและชิงเยว่ได้นะ เพราะห้องชุดประธานาธิบดีนั้นมีห้องนอนอยู่หลายห้อง!” หวังเสียน พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจริงจัง
“!..คนเลว!..”
กวนชูชิงและหลานชิงเยว่ใบหน้าแดงก่ำและตะโกนบ่นหวังเสียนออกมาพร้อมๆกัน
“ถ้าอย่างนั้นก็ห้องประธานาธิบดี 1 ห้องและห้องพิเศษ 2 ห้อง!” โม่ชิงหลงบอกกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรม
“ครับท่าน! รวมทั้งหมดเป็นเงิน 130,000 หยวนครับ!” เจ้าหน้าที่ของโรงแรมพูดด้วยรอยยิ้ม โม่ชิงหลงส่งบัตรธนาคารให้กับเขาในทันที
“ห้องชุดประธานาธิบดี 1 ห้อง!”
ในทันใดนั้นเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา
“ขอโทษครับท่าน! ห้องชุดประธานาธิบดีถูกจองไว้จนเต็มหมดแล้วครับ!” เจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมหันไปพูดกับชายหนุ่มคนนั้นด้วยรอยยิ้ม
“เต็มหมดแล้ว?” ชายหนุ่มคนนั้นเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะดึงบัตรของเขาวางไว้ที่เคาน์เตอร์ “นี่คือบัตรสมาชิกระดับเพชรของทางโรงแรมคุณ สมาชิกระดับเพชรต้องมีความสำคัญเหนือกว่าคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นคุณต้องให้ห้องชุดประธานาธิบดีกับผม!”
ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างไม่แยแสขณะที่เขายิ้มให้กับหญิงสาวที่อยู่ข้างๆเขา
หวังเสียนและคณะของเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปมองทางชายหนุ่ม
ชายหนุ่มคนนี้อายุประมาณ 30 ปี คนที่อยู่ข้างๆเขาคือนักร้องสาวสวยหลิงยี่ คนที่เสี่ยวหยูเจอที่หน้าโรงแรม พวกเขาเดินเข้ามาที่โรงแรมตามหลังกลุ่มของหวังเสียนมา
“เอ่อ!…นี่!” เจ้าหน้าที่ของโรงแรมทำสีหน้าลำบากใจ เขาพูดกับชายหนุ่มคนนั้นอย่างนอบน้อมว่า “ขอโทษทีนะครับคุณชาย! เราได้รูดบัตรและเก็บเงินของลูกค้าเจ้าของห้องไปแล้วครับ! ต้องขอโทษคุณชายด้วยจริงๆ!”
“ห๊ะ?” ชายหนุ่มคนนั้นแสดงสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาในทันที
“สาวน้อย! เธอช่วยยกห้องชุดประธานาธิบดีให้กับฉันได้หรือเปล่า? ฉันสามารถถ่ายรูปคู่กับเธอและแจกลายเซ็นให้เธอได้นะ!” หลิงยี่หันไปยิ้มและพูดกับเสี่ยวหยู
เสี่ยวหยูขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอหันไปมองที่สาวๆในกลุ่มของเธอและส่ายหัวช้าๆ “ขอโทษทีนะคะคุณหลิงยี่! พวกเราก็จำเป็นต้องใช้ห้องนี้จริงๆ!”
หลิงยี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบของเสี่ยวหยู
“ผมจะจ่ายเงินค่าห้องคืนให้กับพวกคุณสองเท่า เพียงแค่พวกคุณยกห้องนี้ให้กับเรา!”
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆกับหลิงยี่ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่คล้ายกับคำสั่ง
“ขอโทษทีพวกเราไม่สนใจ!” กวนชูชิงและสาวๆที่เหลือ พูดปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาในทันที
……..
จบบท