ตอนที่ 309 บททดสอบ?
.
พรึบบ!
“ถึงเจ้าจะเป็นแขกที่มาร่วมในงานพิธีครั้งนี้ แต่คำพูดของเจ้าที่ดูหมิ่นตระกูลซุยของพวกเรา มันก็มากเกินไป หากว่าเจ้าไม่มีคำอธิบายที่ดีพอเจ้าก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่เจ้าได้พูดออกมา!”
ในทันทีที่หวังเสียนพูดจบสาวกหลายร้อยคนทุกวัยทุกรุ่นก็ลุกขึ้นยืนและแสดงท่าทีคุกคามออกมาในทันที
“เจ้าหนุ่มคำพูดของเจ้านั้นมันไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง! เพราะฉะนั้นเจ้าต้องขอโทษพวกเราเสียเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้น….!”
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ วัยกลางคนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน เขาจ้องมองไปที่หวังเสียน ด้วยสายตาที่เย็นชา
สาวกของตระกูลซุยหลายร้อยคนระเบิดพลังของพวกเขาออกมาทันที พลังงานความร้อนหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของพวกเขา จนเหมือนกับว่าทั่วบริเวณนี้อยู่ภายในเตาหลอมขนาดใหญ่เลยทีเดียว
“ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเพียงแค่สองคนเท่านั้นเองรึ?”
หวังเสียน ส่ายหัวช้าๆ ในกลุ่มคนที่ลุกขึ้นยืนต่อต้านเขานั้นมีระดับก่อกำเนิดลมปราณเพียงแค่สองคนเท่านั้น
เขาจิบชาด้วยท่าทางที่สงบก่อนที่จะค่อยๆวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ
ฮูมมม!
เสียงร้องของมังกรดังออกมาเบาๆจากปากของหวังเสียน หลังจากนั้นผลึกแก้วมังกรเพลิงโลกันตร์ ก็ถูกเขาพ่นลอยออกมาอยู่ตรงหน้าเขา
โฮกกกก!
เมื่อผลึกแก้วมังกรเพลิงโลกันต์ ลอยออกมาอยู่เบื้องหน้าของหวังเสียน ในทันใดนั้นมันก็กลายเป็นมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ยาวกว่า 7 เมตร พุ่งตรงเข้าไปหาสาวกของตระกูลซุยรุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 5 อย่างรวดเร็ว
แรงกดดันอันทรงพลังของมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ได้ครอบงำและโอบล้อมเหล่าสาวกของตระกูลซุย จนพวกเขารู้สึกหวาดกลัวและสั่นสะท้านขึ้นมาในทันที
“นี่มัน! มังกร? มังกรจริงๆอย่างนั้นรึ?”
ชายชรารุ่นที่สองที่เป็นบุตรชายคนโตของผู้เฒ่าซุยหวาง รู้สึกได้ถึงอันตรายที่ออกมาจากมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและกำลังจะเข้าไปเผชิญหน้ากับมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์เพื่อปกป้องลูกหลานในตระกูลซุยของเขา
“หืมม?” หวังเสียนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขาจ้องมองไปยังชายชราคนนั้น
“นั่งลง!” หวังเสียน พูดออกมาเบาๆแต่น้ำเสียงของเขานั้นทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง ร่างกายของชายชราสั่นสะท้านขึ้นมาทันทีพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง
เขาหันไปจ้องมองที่หวังเสียน ด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและแสดงความตื่นตระหนกออกมา
ลูกชายที่เหลือของซุยหวางที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน
เสียงร้องคำรามของมังกรดังสนั่นไปทั่วทั้งหุบเขา
ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงสุดก็ยังรู้สึกหนาวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
ความแข็งแกร่งระดับนี้หรือว่าเขานั้นจะเป็น?…
พวกเขามองไปที่หวังเสียนด้วยความหวาดกลัวจากนั้นก็หันกลับไปมองที่พ่อของพวกเขาอีกครั้ง
ตอนนี้ซุยหวางขมวดคิ้วจนยุ่ง เขามองไปที่หวังเสียน และไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเจ้าปีศาจร้ายตัวนี้กำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่?
แต่ในตอนนี้ซุยหวางก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือท่าทีใด ๆออกมา เพราะเขารู้ว่าหวังเสียนนั้นไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อคนในตระกูลของเขาอย่างแน่นอน และตัวเขานั้นก็มีต้องการจะดัดนิสัยลูกหลานของตระกูลซุยที่มีแต่ความอวดดีและหยิ่งผยองโดยการยืมมือของเจ้าปีศาจร้ายตัวนี้ ฉะนั้นเขาจึงนั่งมองดูเหตุการณ์อยู่อย่างเงียบๆ
โฮกกกก!
ในตอนนี้มังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ก็บินตรงเข้าไปอยู่เหนือหัวคนของตระกูลซุยรุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 5 พลังของมังกรไฟอันร้อนแรงล้อมรอบพวกเขาเอาไว้ด้วยเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วง ใบหน้าของคนเหล่านั้นซีดเซียวลงไปอย่างเห็นได้ชัด
“มัง…มังกรไฟ!…”
เด็กๆในรุ่นที่ 5 ของตระกูลซุยต่างตกใจ และรีบวิ่งหนีกันออกไปอย่างรวดเร็วในทันที
“มังกรศักดิ์สิทธิ์! นี่คือมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ในตำนานอย่างนั้นเหรอ?!”
สาวกของตระกูลซุยจำนวนมาก รู้สึกหวาดกลัวกันเป็นอย่างมาก ขาของพวกเขาสั่นอย่างรุนแรงก่อนที่จะล้มลงกับพื้นด้วยท่าทางที่น่าสมเพช
โฮกกกกก!
มังกรไฟศักดิ์สิทธิ์คำรามออกมาอีกครั้งหนึ่ง สาวกของตระกูลซุยรุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 5 ตารางกรีดร้องกันออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะในขณะนี้เปลวเพลิงอันร้อนแรงของมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ได้เริ่มโหมกระหน่ำกระจายความร้อนไปทั่วบริเวณ
สาวกของตระกูลซุยในที่นี้ส่วนใหญ่นั้นต่างได้รับบาดเจ็บกันในทันที เนื่องจากพวกเขานั้นหวาดกลัวกันมากเกินไป จนลืมใช้พลังของพวกเขานั้นปกป้องตัวเอง
ในความเป็นจริงเปลวเพลิงที่หวังเสียน จงใจให้มังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ปลดปล่อยออกมานั้นไม่ได้มีความรุนแรงอะไรมากมายนัก เพียงแค่สร้างรอยไหม้เล็กๆน้อยๆตามร่างกายของพวกเขาเท่านั้นเอง
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดนั่นก็คือลูกหลานในตระกูลซุยส่วนใหญ่นั้นกลับร้องไห้คร่ำครวญทรุดตัวลงไปเกลือกกลิ้งกับพื้นและแสดงความเจ็บปวดออกมา เหมือนกับว่าพวกเขานั้นได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัสจนเกินจะทนได้
มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถยืนหยัดต่อสู้และใช้พลังลมปราณของพวกเขานั้นต้านทานความร้อนจากมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์อยู่ในขณะนี้
ถึงแม้ว่าใบหน้าของพวกเขาจะซีดราวกับกระดาษขาวและตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว แต่พวกเขาก็กัดฟันต่อสู้และต้านทานโดยไม่คิดหนีหรือร้องไห้คร่ำครวญเลยแม้แต่น้อย
“ท่านพ่อท่านแม่ช่วยข้าด้วย!”
“ฮือๆๆ~ ข้าเจ็บบบ ฮืออๆ!”
“ข้ายังไม่อยากตาย! ได้โปรดเถอะ ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย!”
“ท่านผู้อาวุโสได้โปรดอย่าลงโทษพวกเราอีกเลยพวกเรากลัวแล้ว!”
เด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวหลายร้อยคนของตระกูลซุย ต่างร้องไห้กันออกมาเสียงดังพร้อมกับขอร้องให้หวังเสียน ยกโทษให้กับพวกเขา
ทั้งๆที่ในตอนนี้ร่างกายของพวกเขานั้นบาดเจ็บเพียงแค่เล็กน้อย มันไม่มีอะไรที่น่าจะต้องเป็นห่วงเลยแม้แต่น้อย แต่พวกเขากลับแสดงความหวาดกลัวกันออกมาอย่างน่าสมเพชเวทนาเป็นที่สุด
ในตอนนี้ไม่ใช่แค่ซุยหวางเพียงเท่านั้นแม้แต่ผู้อาวุโสรุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 ของตระกูลซุย ก็ยังมีสีหน้าที่มืดมนและเต็มไปด้วยความอับอาย เมื่อเห็นสถานการณ์ของลูกหลานในตระกูลซุยที่แสดงออกมาในตอนนี้
พวกเขา ถอนหายใจกันออกมาด้วยความหดหู่ใจเมื่อนึกถึงคำพูดของหวังเสียนก่อนหน้านี้ ในตอนนี้พวกเขานั้นไม่ได้โกรธหวังเสียน ที่พูดจาดูหมิ่นคนในตระกูลซุยของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว เพราะพวกเขาเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่หวังเสียน พูดออกมานั้นเป็นเรื่องจริง ความสามารถของเด็กในตระกูลซุยรุ่นนี้นั้นต่ำกว่าที่ควรจะเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
พวกเขารู้สึกผิดหวังกับเด็กรุ่นหลังของตระกูลซุยกันเป็นอย่างยิ่ง
“ช่างขี้ขลาดตาขาวยิ่งนัก!”
“น่าอับอายมากจริงๆ! นี่คือลูกหลานของตระกูลซุยที่อยู่ในระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นเหรอ?”
“ฮึ่มม! เจ้าเด็กพวกนี้ช่างทำตัวได้น่าอับอายและน่าสมเพชยิ่งนัก!”
เหล่าผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลซุย กัดฟันพูดออกมาด้วยความขุ่นเคืองและอับอาย
ผู้นำตระกูลซุยก็รู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน เขาส่ายหน้าด้วยท่าทางที่ผิดหวัง
“เฮ้อ!” ทันใดนั้นหวังเสียน ก็ถอนหายใจออกมาและส่ายหัวเบาๆ ก่อนที่เขาจะดึงลูกแก้วเรืองแสงเล็กๆหกลูกออกมาจากฝ่ามือของเขา
ลูกแก้วทั้งหกลูกส่องแสงสีแดงสว่างออกมา มันดูลึกลับจนน่าประหลาดใจ
ซุยหวางมองดูลูกแก้วสีแดงเพลิงในมือของหวังเสียน ด้วยความสงสัย
“ตาเฒ่าซุย! นี่คือลูกแก้วจิตวิญญาณกายาสวรรค์ คุณสมบัติของมันสามารถทะลวงจุดชีพจรและปลดล็อคเส้นลมปราณได้ กว่าข้าจะได้พวกมันมาแทบจะต้องแลกมาด้วยชีวิตน้อยๆของข้า ในครั้งนี้ข้าต้องตัดใจนำสิ่งของดีๆเช่นนี้ออกมามอบให้แก่ชนรุ่นหลังในตระกูลของท่าน เพราะความสัมพันธ์ที่ดีของพวกเราหรอกนะ! ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่นำมันออกมาอย่างแน่นอน!”
หวังเสียนแสร้งทำเป็นลำบากใจและเสียดายลูกแก้วสมบัติจิตวิญญาณทั้งหกลูกนี้เป็นอย่างมาก
แท้จริงแล้วลูกแก้วทั้งหกลูกนี้เกิดจากการกลั่นและควบแน่นของพลังงานมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาเอง โดยใช้เทคนิคการบ่มเพาะของมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์และมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์สร้างเป็นองค์ประกอบขึ้นมาเพื่อลวงตากลายมาเป็นสมบัติจิตวิญญาณ
ด้วยการขยับตัวเพียงเล็กน้อยของหวังเสียน เขาได้ไปปรากฏตัวอยู่บนกลางลานพิธีอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้มีเพียงกลุ่มชนรุ่นเยาว์ของตระกูลซุยเพียงแค่หกคนเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ในกลางลานพิธีได้
โดยมีชายวัยกลางคนสองคน ชายหนุ่มสองคน เด็กหนุ่มและเด็กสาววัยรุ่นอย่างละหนึ่งคน
โฮกกกกก!
มังกรไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศส่งเสียงคำรามออกมาและส่งพลังห่อหุ้มพวกเขาทั้งหกคนเอาไว้พร้อมกับส่งเปลวเพลิงสีแดงเข้ม 6 ดวงลอยไปอยู่บนร่างกายของพวกเขา
ในตอนนี้พวกเขาทั้งหกคนกำลังถูกเปลวเพลิงหลอมกลั่นร่างกายของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวแสดงออกถึงความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ในขณะที่ถูกเปลวเพลิงของมังกรไฟศักดิ์สิทธิ์แทรกซึมเข้าไปในร่างกายและอวัยวะภายในของพวกเขา
ลูกแก้วเปลวเพลิงทั้ง 6 ลูกที่อยู่บนฝ่ามือของหวังเสียน ถูกส่งตรงเข้าไปในปากของพวกเขาในทันที
บรูมมมม!
เปลวไฟอันร้อนแรงพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของคนทั้งหก เหมือนกับลูกระเบิดเพลิง
หวังเสียน เดินตรงเข้าไปหาชายวัยกลางคนหนึ่งในสองคน ก่อนที่เขาจะโบกมือพร้อมกับชักนำพลังงานมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาเพื่อทะลวงเส้นลมปราณสองเส้นที่เหลือของเขาที่ยังไม่ได้ถูกปลดล็อคให้เปิดออกได้อย่างราบรื่น!
ตูมมม!
ระดับพลังขั้นก่อกำเนิดลมปราณ แผ่ขยายกระจายตัวออกมาจากร่างกายของชายวัยกลางคนในทันที
ต่อจากนั้นหวังเสียนก็โบกมือเข้าหาชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งและทำซ้ำเหมือนเดิมอีกครั้ง!
ตูมมม!
ตระกูลซุยก็ได้รับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน
ในตอนนี้สาวกที่เหลือของตระกูลซุยที่ล้มลงและกรีดร้องอยู่บนพื้นเพราะบาดแผลเพียงเล็กน้อยบนร่างกาย ต่างจ้องมองไปยังคนทั้งหกด้วยสายตาที่มึนงง พวกเขารู้สึกไม่สบายใจและวิตกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นอย่างมาก
“นี่มัน?…”
ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ สามารถก้าวเข้าสู่ระดับก่อกำเนิดลมปราณได้ในทันที?
ในเวลานี้ หวังเสียน ยังคงทำงานของเขาอย่างต่อเนื่อง เขาเดินเข้าไปหาชายหนุ่มทั้งสองคนและเด็กหนุ่มกับเด็กสาวที่เหลือ และทำซ้ำในสิ่งที่เขาได้เพิ่งทำก่อนหน้านี้
“ข้า! … เส้นลมปราณของข้า!..ถูกเปิดออกหมดแล้ว!! … “
เสียงตะโกนอันตื่นเต้นดังมาจากเด็กสาวที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่ในสนาม
เธอดูเหมือนจะอายุไม่เกินสิบเก้าปี เธอตัวสั่นด้วยความสุขเมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเธอ
“ของข้าด้วย! ในตอนนี้ข้าก้าวเข้าสู่ระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณแล้ว!”
ชายหนุ่มอีกคนก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
“เส้นลมปราณพิเศษทั้ง 8 เส้นถูกชำระล้างและเปิดจนหมด และก้าวเข้าสู่ระดับขั้นต่อไปได้โดยตรงเลยอย่างนั้นเหรอ?”
สมาชิกทั้งหมดของตระกูลซุยต่างตกตะลึง พวกเขามองไปยังกลุ่มคนทั้งหกด้วยดวงตาเบิกกว้าง
จากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆหันมองไปยังหวังเสียน ที่ยืนยิ้มอย่างสดใส ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาและท่วงท่าที่สง่างาม ในตอนนี้เขาดูราวกับเทพบุตรเลยทีเดียว
หวังเสียนยังคงยิ้มในขณะที่โบกมือขึ้นอีกครั้ง ออร่าสีเขียวซึ่งเป็นพลังชีวิตแห่งธาตุไม้กระจายตัวออกไป ไหลซึมเข้าสู่ร่างกายของเหล่าสาวกแห่งตระกูลซุยที่ได้รับบาดเจ็บ ในทันใดนั้นบาดแผลตามร่างกายของพวกเขาก็ได้รับการรักษาและฟื้นคืนอย่างสมบูรณ์ในทันที
หลังจากนั้นร่างกายของหวังเสียนก็เลือนหายไปจากกลางลานพิธี เขากลับไปนั่งอยู่ข้างๆผู้เฒ่าซุยหวางและจิบชาอย่างสบายอารมณ์
“หายแล้ว!…พวกเราหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว! แม้แต่รอยแผลเป็นก็ไม่เหลืออยู่เลย!”
“ความสามารถทางการแพทย์ระดับนี้! ช่างน่าอัศจรรย์มากจริงๆ!”
สาวกแห่งตระกูลซุยรุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 5 ที่ได้รับบาดเจ็บ ต่างลุกขึ้นยืนและสำรวจร่างกายของพวกเขาด้วยความอัศจรรย์ใจ
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะพลาดโอกาสดีๆไปเสียแล้วล่ะ!” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดพึมพำออกมาด้วยความเสียใจ
ในตอนนี้กลุ่มสาวกที่อยู่กลางลานพิธีต่างนึกกันขึ้นมาได้ พวกเขาหันไปมองยังคนทั้งหกด้วยความอิจฉา
มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่อดทนจนถึงที่สุด และในตอนนี้เส้นลมปราณของพวกเขาได้ถูกเปิดออกทั้งหมดแล้ว
คอขวดในการฝึกฝนและบ่มเพาะของพวกเขาจะไม่มีอีกต่อไปจนกว่าจะก้าวไปถึงระดับขอบเขตครึ่งขั้นเม็ดยาเซียน
นี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสสำหรับความเมตตา!”
กลุ่มผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลซุยรุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 ต่างรีบลุกขึ้นจากโต๊ะและโค้งตัวคำนับหวังเสียนด้วยความเคารพ
ในตอนนี้ความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อหวังเสียน ไม่หลงเหลือร่องรอยของความโกรธเคืองอยู่อีกต่อไป การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปเป็นเคารพและนอบน้อมอย่างสูง
ในความคิดของพวกเขานั้นชายหนุ่มคนนี้อาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่อยู่ในระดับเดียวกันกับบรรพบุรุษของพวกเขา และการกระทำในก่อนหน้านี้ของเขานั้นเป็นการทดสอบความสามารถและความอดทนของเด็กๆในตระกูลซุย เพื่อที่จะได้คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมและมอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้กับพวกเขานั่นเอง!
………
จบบท