ตอนที่ 311 เกาะกลางทะเลอันลึกลับ?
.
‘ซากอารยธรรมของสำนักโบราณบนเกาะลึกลับกลางทะเลอย่างนั้นหรือ?’ หวังเสียน กำลังคิดใคร่ครวญอยู่ในใจด้วยความตื่นเต้น
นี่นับว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่ประจวบเหมาะอย่างพอดีเลยทีเดียว
นับตั้งแต่ที่เขาได้ก้าวเข้ามาในตระกูลซุยเมื่อวานนี้ เขาได้เห็นต้นยาจิตวิญญาณและสมบัติจิตวิญญาณนับไม่ถ้วนในอาณาเขตของตระกูลซุย เขาก็รู้สึกหดหู่กับความยากจนของตัวเองเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าตัวเขานั้นจะมีเงินสดอยู่ 2,000 ล้านหยวนก็ตามที แต่เงินส่วนนี้นั้นเป็นเงินทุนที่เขาได้ส่งมอบให้กับ หลานชิงเยว่ เพื่อขอให้คนในตระกูลหลาน จัดหาแร่เงินและแร่ทองคำให้กับเขา
การจัดเตรียมวัตถุดิบและแร่ธาตุสำหรับสร้างวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาในตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์แล้ว จากการคาดคะเนของเขาวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาน่าจะสามารถสร้างได้หลังจากนี้อีกประมาณ 2 เดือน
นอกจากเงินสด 2,000 ล้านหยวนที่ให้กับหลานชิงเยว่ไปแล้วเขาก็ไม่มีสมบัติอย่างอื่นอีกแล้ว นอกจากเงินติดตัวที่อยู่ในบัตรของเขาเพียงแค่ไม่กี่ล้านหยวนเท่านั้น
ถ้าเปรียบเทียบความมั่งคั่งของเขากับตระกูลซุย และรวมไปถึงระดับกองกำลังและกำลังพล ในปัจจุบันตระกูลซุยมีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณมากกว่า 20 คน ในขณะเดียวกันนักรบมังกรในสำนักมังกรของเขานั้นมีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเพียงแค่สองคนเท่านั้น นั่นก็คือโม่ชิงหลงกับโม่หยวน
แต่ทางด้านกำลังพลของเขานั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมายนัก! เพราะว่าหลังจากนี้อีกประมาณ 1 เดือนนักรบมังกรทั้งหมดก็น่าจะก้าวเข้าสู่ระดับก่อกำเนิดลมปราณได้กันหมดทุกคน
เมื่อถึงเวลานั้นความสามารถของกองกำลังในโลกยุทธภพของเขาจะแข็งแกร่งอย่างมากเลยทีเดียวโดยที่มีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณห้าสิบคนเป็นลูกสมุน!
‘หลังจากที่สามารถสร้างวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ได้ ฉันก็จะต้องหาทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่ออัพเกรดระดับของวังมังกรศักดิ์สิทธิ์เพิ่มอีกด้วย ซึ่งหมายความว่าก็ต้องใช้ทรัพยากรมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นในตอนนี้ฉันก็ควรจะเตรียมตัวเอาไว้ก่อนจะดีกว่า มันจะดีที่สุดถ้าฉันสามารถมีวิธีที่จะได้รับหินจิตวิญญาณได้อย่างต่อเนื่อง!’ หวังเสียน คิดกับตัวเองอย่างเงียบๆ
ในตอนนี้เขานั้นมีทรัพยากรในมือน้อยเกินไป เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะต้องไปยึดครองเกาะลึกลับที่มีซากอารยธรรมของสำนักโบราณตั้งอยู่แห่งนี้ให้ได้
เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับสำนักระดับชั้น 1 ในโลกยุทธภพแล้ว ทรัพยากรของเขานั้นช่างต่ำต้อยเสียจนน่าหดหู่ใจ
“เกาะลึกลับแห่งนั้นอยู่ที่ไหนอย่างนั้นรึ? พวกเราควรจะรีบไปให้เร็วที่สุด!” หวังเสียน หันไปถามโม่ชิงหลงในทันที เมื่อเขาตัดสินใจที่จะไปยึดครองเกาะนี้แล้ว เขาก็ไม่มีความลังเลใจเลยแม้แต่น้อย
“เกาะแห่งนี้นั้นอยู่ห่างจากเมืองเจียงเฉิงประมาณ 500 กิโลเมตร อยู่ในพื้นที่ทะเลเปิดขอรับ!” โม่ชิงหลงตอบอย่างรวดเร็วพร้อมกับถามขึ้นมาอีกว่า “นายท่านขอรับ! พวกเราควรรวบรวมคนจากสำนักมังกรของเราไปด้วยหรือไม่ขอรับ?”
“เหล่านักรบมังกรจากสำนักของเราอย่างนั้นเหรอ? คงไม่จำเป็นต้องพาพวกเขาไปด้วยหรอก!” หวังเสียน ส่ายหัวและตอบปฏิเสธไป
เนื่องจากเขามีสาวกแห่งวังมังกรอยู่แล้ว และผู้ใต้บังคับบัญชากลุ่มนี้นั้นถนัดเรื่องการต่อสู้และฆ่าฟันในทะเลอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องพาเหล่านักรบมังกรเหล่านั้นติดตามไปด้วย
และยิ่งไปกว่านั้นความสามารถในการต่อสู้ของเหล่านักรบมังกรนั้นค่อนข้างที่จะต่ำกว่า สาวกแห่งวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาเป็นอย่างมาก
“เจ้าเรียกโม่หยวนไปกับพวกเราด้วยก็พอ พวกเราทั้งสามคนจะไปด้วยกัน แต่ในตอนนี้พวกเราจะต้องรีบกลับไปที่เมืองเจียงเฉิงก่อน!” หวังเสียน หันไปพูดกับโม่ชิงหลง
“ขอรับนายท่าน!” โม่ชิงหลงตอบรับอย่างรวดเร็ว
หวังเสียนรีบกลับมาที่บ้านพักเพื่อพูดคุยกับ กวนชูชิง, หลานชิงเยว่, เสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟาง เขารีบบอกว่าเขานั้นมีธุระสำคัญที่จะต้องรีบกลับเมืองเจียงเฉิง แต่ก็ไม่ได้บอกกล่าวรายละเอียดอะไรกับพวกเธอมากนัก
“พี่ชาย! ทำไมต้องรีบกลับเร็วขนาดนั้นด้วยล่ะ? ฉันวางแผนว่าจะเที่ยวเล่นสนุกต่ออีกสัก 2-3 วัน!” เสี่ยวหยูทำหน้ามุ่ยและพูดออกมาอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก
“อีกไม่นานก็จะถึงช่วงปิดเทอมฤดูหนาวแล้วพี่สัญญากับเธอว่า เมื่อถึงเวลานั้นพี่จะพาเธอไปเที่ยวในทุกที่ที่เธออยากจะไปเลยทีเดียว!” หวังเสียน ยิ้มให้กับน้องสาวของเขาอย่างอ่อนโยนพร้อมกับลูบหัวของเธอเบาๆ หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบเดินทางไปที่สนามบินเพื่อซื้อตั๋วกลับไปที่เมืองเจียงเฉิงพร้อมกัน
ในช่วงบ่ายหวังเสียนและคณะของเขาเดินทางกลับมาถึงวิลล่า หวังเสียนรีบขึ้นเรือยอร์ชออกไปอย่างเร่งรีบ ภายใต้สายตาที่ไม่ค่อยพอใจของ กวนชูชิงและหลานชิงเยว่
“องค์ราชาของขอรับ! พวกเราควรจะรีบเดินทางให้เร็วที่สุด เมื่อสักครู่อสูรที่ 15 ได้รายงานมาว่า เขาได้เห็นกองกำลังระดับสูงสามกองกำลัง ได้เดินทางมารวมตัวกันอยู่รอบๆเกาะลึกลับแห่งนั้นแล้ว!” โม่หยวน รีบเตือนหวังเสียน ในทันทีที่พวกเขานั่งอยู่บนเรือยอร์ช
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รีบเร่งเดินทางกันในทันทีเลยเถอะ!” หวังเสียน พยักหน้าในขณะที่เขายืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือยอร์ช โม่หยวนก็รีบเข้าไปขับเรือออกไปอย่างรวดเร็ว
ซู่มมม! ซุ่มมมม! ซุ่มมมม!
เสียงของเรือยอร์ชที่ขับออกไปอย่างรวดเร็วกระแทกกับคลื่นในท้องทะเลจนเสียงดังสนั่น
ซ่าาา! ซ่าาาา!
บนผิวน้ำทะเลไม่ไกลจากทางด้านหลังของเรือยอร์ชที่พุ่งออกไป มีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาทีละตัว สัตว์อสูรทะเลที่อยู่ด้านหน้าสุดนั่นก็คือเต่ายักษ์ขนาดมหึมา
“รีบตามองค์ราชามังกรไป!” เต่ายักษ์สั่งสมาชิกวังมังกรทั้งหมด ในขณะที่มันกำลังสลัดโคลนออกจากตัวของมัน
“ขอรับไท่ฝู่!” [1] สมาชิกของวังมังกรรับคำสั่งของเต่ายักษ์ในทันที
กองกำลังทั้งหมดของวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้ประกอบไปด้วย อ๋าวฉีเทียน, อ๋าวหนี๋, อ๋าวเซี่ย [2] และนาคาพิษทั้ง 9 ตัวซึ่งมาพร้อมกับกองกำลังวานรปีศาจอีก 800 ตัว
[งูทะเลพิษได้วิวัฒนาการจนกลายเป็นนาคาพิษแล้ว จากตอนที่ 154-157 ]
เหล่าสัตว์อสูรทะเลติดตามหวังเสียน ไปอย่างใกล้ชิดใต้เรือยอร์ช
หลังจากช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนสมาชิกทั้งหมดของวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ลักษณะท่าทางของอ๋าวหนี๋ในตอนนี้นั้นคล้ายกับมนุษย์ผู้หญิงเป็นอย่างมาก ใบหน้าคิ้วและจมูกของเธอนั้นเหมือนกับเทพธิดาแห่งท้องทะเลเลยทีเดียว ชุดที่เธอสวมใสในตอนนี้สร้างมาจากน้ำทะเลและมีความเหมือนจริงเป็นอย่างมาก
สำหรับอ๋าวเซี่ยนั้นขนาดทางกายภาพของมันโตขึ้นมากถึงสามเมตร ชุดเกราะที่สวมใส่อยู่บนร่างกายก็ส่องประกายสีทองระยิบระยับเหมือนกับชุดโกลด์เซนต์ราศีพฤษกในอนิเมะเรื่องเซนต์เซย่า และอาวุธเคียวคู่หน้าของมันก็ทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
ในฐานะที่เป็นสาวก 2 ตัวแรกใต้ปีกของหวังเสียน ความสามารถและระดับความแข็งแกร่งของทั้งคู่นั้นได้ไปถึงระดับที่ 10 แล้ว
ส่วนอ๋าวฉีเทียนนั้นยังอยู่ที่ระดับ 11 เช่นเดิมแต่มันก็เกือบจะก้าวเข้าสู่ระดับที่ 12 แล้วเช่นเดียวกัน
แต่กลุ่มที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดนั่นก็คือกลุ่มกองทัพวานรปีศาจทั้ง 800 ตัว ร่างกายของพวกมันนั้นขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก และระดับขั้นความแข็งแกร่งของพวกมันก็สูงมากเช่นเดียวกัน หัวหน้ากลุ่มกองกำลังวานรปีศาจ 3 ตัวอยู่ในระดับขั้นที่ 10 ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ในระดับที่ 9 และระดับที่ 8 คือระดับขั้นต่ำที่สุดของพวกมัน
หากอัตราการเติบโตของพวกมันนั้นยังสูงอยู่เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เมื่อพวกมันทั้งกองทัพสามารถก้าวเข้าสู่ระดับขั้นที่ 10 ได้ เพียงแค่กลุ่มวานรปีศาจของพวกมันก็คงจะสามารถพิชิตทั่วทั้งมหาสมุทรนี้ได้อย่างแน่นอน!
….
เรือยอทช์พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนน้ำทะเลนั้นแหวกออกเป็นทาง
เกือบเจ็ดชั่วโมงต่อมา หวังเสียน และกลุ่มของเขาก็เดินทางมาถึงในบริเวณที่ อสูรที่ 15 รออยู่
“ที่นี่อย่างนั้นหรอ!” หวังเสียน กวาดสายตาสำรวจไปทั่วบริเวณ
ในเวลานี้ดวงอาทิตย์ก็ตกอยู่สุดขอบของทะเลแล้ว แสงของดวงอาทิตย์ส่องสะท้อนกับผืนน้ำทะเลทำให้กลายเป็นสีแดงระยิบระยับดูงดงามแปลกตาเป็นอย่างมาก
แต่หลังจากนั้นไม่นานหวังเสียน ก็ได้พบกับความผิดปกติบางอย่าง เพราะในขณะนี้มีหมอกสีขาวหนาทึบเริ่มก่อตัวล้อมรอบบริเวณพื้นที่ที่อยู่ตรงหน้าเขา
มหาสมุทรอันกว้างใหญ่นั้นเป็นสถานที่ที่มหัศจรรย์และลึกลับเป็นอย่างมาก มันเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดและสถานที่ต้องห้ามอันทรงพลัง สถานที่บางแห่งนั้นมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถที่จะเหยียบย่างเข้าไปได้
หวังเสียนยังจำได้ดีเกี่ยวกับสถานที่อันแปลกประหลาดที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง นั่นก็คือสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า มันมีสนามแม่เหล็กอันแปลกประหลาด และยังมีความเข้มข้นของน้ำทะเลที่สูงมาก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วๆไปไม่สามารถนำเข้าไปในขอบเขตบริเวณนี้ได้
และนอกจากนี้ยังมีตำนานของมหาสมุทรเกี่ยวกับทวีปแอตแลนติสที่ลึกลับและแปลกประหลาดนั่นอีกด้วย
อาจกล่าวได้ว่ามหาสมุทรนั้นเป็นสถานที่ที่ลึกลับมากที่สุดในโลก…
” องค์ราชาขอรับ! อสูรที่ 15 น่าจะอยู่บนเรือยอร์ชข้างหน้านั่นอย่างแน่นอนเลยขอรับ!” โม่ชิงหลง ชี้นิ้วของเขาไปที่ตำแหน่งทางด้านซ้ายมือที่มีเรือยอร์ชกว่า 20 ลำจอดอยู่
หวังเสียน หันไปมองตามคำบอกของโม่ชิงหลง เรือยอร์ชกว่า 20 ลำพร้อมกับเรือประมงขนาดใหญ่อีก 2 ลำ จอดอยู่ในบริเวณที่ไม่ห่างกันมากนัก
บนดาดฟ้าของเรือแต่ละลำนั้นมีเหล่าชาวยุทธที่มีความแข็งแกร่งระดับสูงหลายคน ยืนจ้องมองหมอกที่โอบล้อมอยู่ทางเบื้องหน้าของพวกเขาด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง
บริเวณใจกลางของหมอกแปลกประหลาดมีเกาะขนาดใหญ่แห่งหนึ่งปรากฏอยู่อย่างเงียบๆ
แต่ไม่มีเรือลำใดที่กล้าเดินทางผ่านหมอกประหลาดนี้เข้าไปยังเกาะลึกลับแห่งนั้นได้ เหมือนกับว่าพวกเขานั้นกลัวอะไรบางอย่าง
เมื่อเรือยอร์ชของหวังเสียน ใกล้เข้ามาในบริเวณที่เรือกลุ่มใหญ่จอดกันอยู่ มันก็ดึงดูดความสนใจของฝูงชนที่อยู่บนเรือในทันที
“หืมม?” ชายหนุ่มคนหนึ่งบนเรือยอร์ชขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่มองไปทางเรือของหวังเสียน
“บนเรือยอร์ชลำนั้นเป็นผู้อาวุโสของข้าเอง!” อสูรที่ 15 หันไปพูดกับกลุ่มคนบนเรือยอร์ชของเขาที่มีเหล่าชาวยุทธมากกว่าหนึ่งโหลอยู่บนเรือ
“คนกลุ่มนั้นเป็นคนที่เจ้าชักชวนมาอย่างนั้นเหรอ? แต่เราได้ตกลงกันเอาไว้แล้วว่าพวกเราทั้งหมดจะเข้าไปพร้อมกัน หากเจ้าไม่ได้เข้าไปพร้อมกับพวกเรา เจ้าก็อาจจะไม่สามารถเข้าสู่เกาะลึกลับแห่งนั้นได้ ก็ได้นะ!” ชายหนุ่มคนหนึ่งหันมาพูดกับอสูรที่ 15
“ฮึ! ถ้าอย่างนั้นมันก็แล้วแต่พวกเจ้าเถอะ!” อสูรที่ 15 ยิ้มเยาะออกมา ในขณะที่เขากระโดดพุ่งทะยานออกไปยังเรือของหวังเสียนในทันที
“เฮอะ! มีกลุ่มคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ยังคิดจะกล้าฝ่าหมอกทมิฬเข้าไปอีกอย่างนั้นรึ? ช่างไม่เจียมตัวเลยจริงๆ อีกไม่นานพวกเราคงจะได้เห็นพวกเขาจบชีวิตลงในทะเลอย่างแน่นอน!” ชายหนุ่มคนหนึ่ง พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ในขณะที่เขามองไปยังอสูร 15
คนกลุ่มนั้นสังเกตมองกลุ่มของหวังเสียน อยู่เพียงครู่เดียวก่อนที่จะส่ายหัวพร้อมกับพูดออกมาด้วยความดูถูก จากนั้นพวกเขาก็หันไปสังเกตมองเรือยอร์ชที่มีธงรูปสายฟ้า
“ฉีหวู่ [อสูรที่ 15] เป็นคนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ฉะนั้นผู้อาวุโสของเขาก็น่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูง แต่ถึงอย่างนั้นเกาะแห่งจิตวิญญาณเกาะนี้ก็จะต้องเป็นของตระกูลเหล่ย ของพวกเรา หากใครกล้าเข้ามาขวางทางก็กำจัดพวกมันเสียให้สิ้นซาก!” ชายวัยกลางคนอีกคนนึงหันมาพูดกับกลุ่มคนของเขา
“ฮ่าๆๆ! มั่นใจเถอะศิษย์พี่ เกาะจิตวิญญาณแห่งนี้จะต้องเป็นของพวกเราอย่างแน่นอน!” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งพูดและหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความมั่นใจ
ในขณะที่ อสูรที่ 15 กระโดดขึ้นไปบนเรือยอทช์เขาก็คุกเข่าลงเพื่อแสดงความเคารพต่อ หวังเสียน ในทันที “องค์ราชามังกร!”
“อืมม! ยืนขึ้นเถอะ ในตอนนี้สถานการณ์นั้นเป็นอย่างไรบ้าง?” หวังเสียน ยิ้มให้กับเขาก่อนที่จะถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยรอบ
แต่ในทันใดนั้นเองสัตว์อสูรอันน่าแปลกประหลาดก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นบนผิวน้ำทะเลอย่างฉับพลัน
หางที่คล้ายกับปลาของมันนั้นยาวเป็นอย่างมาก ส่วนหัวก็ยืดยาวเหมือนกับจระเข้ กรงเล็บที่ด้านหน้าของมันนั้นคล้ายกับสามง่าม มีความยาวประมาณ 3 เมตร
สัตว์อสูรทะเลตัวนี้น่ากลัวเป็นอย่างมาก และรูปลักษณ์ของมันนั้นก็ช่างน่าแปลกประหลาดมากเลยทีเดียว!
…………
จบบท
EndNote: [1] ขอเปลี่ยนชื่อเรียกของเต่ายักษ์จากพ่อบ้านเต่า เป็น “ไท่ฝู่ (太傅) หรือราชครู” ซึ่งเป็นตำแหน่งเสนาบดีที่ปรึกษาขั้นสูงสุดและยังควบตำแหน่งผู้ดูแลพระราชวังแทนองค์ราชาในกรณีที่เกิดเหตุการณ์สำคัญๆ
[2] สาวกวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ได้เปลี่ยนชื่อแล้ว จากท้ายบทของตอนที่ 204