Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 318

ตอนที่ 318

ตอนที่ 318 ดาบซานลู่และพิณห่าวจง

.

“พะ…พวกมันมาแล้ว!”

“นี่มัน…เป็นสัตว์อสูรระดับสูงอย่างงั้นเหรอ?!”

เมื่ออ๋าวฉีเทียนและกองทัพวานรปีศาจพุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขา ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณทั้ง 9 คน ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันทรงพลังของพวกมันได้ในทันที

โดยเฉพาะอ๋าวฉีเทียน พวกเขารู้สึกว่าพวกเขานั้นไม่สามารถต่อสู้กับมันได้อย่างแน่นอน ต่อให้พวกเขาทั้ง 9 คนร่วมมือกันก็ตามที

ทางด้านเหล่าสาวกของทั้งสามกองกำลังยืนตัวสั่นสะท้าน เมื่อมองไปที่วานรปีศาจที่กำลังพุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขา ความรู้สึกของพวกเขาในตอนนี้เหมือนกับตายไปแล้วครึ่งตัว

“บัดซบ! ความแข็งแกร่งของพวกมันอยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณเป็นอย่างน้อย!”

ในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสระดับก่อกำเนิดลมปราณหรือเหล่าสาวกของทั้งสามกองกำลัง ต่างรู้สึกหวาดกลัวกันอย่างแท้จริง

กองทัพวานรปีศาจเหล่านี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และด้วยจำนวนที่มากมายเกือบพันตัว ความหวังที่จะรอดชีวิตของพวกเขาในครั้งนี้แทบจะไม่มีเหลืออยู่เลย

“สู้มัน! ฝ่าทะลวงออกไปให้ได้!” เหล่าผู้อาวุโสของทั้งสามกองกำลังตะโกนออกมาเสียงดัง พวกเขากัดฟันเหวี่ยงอาวุธคู่มือของพวกเขาเข้าไปปะทะกับ อ๋าวฉีเทียน ที่นำกองทัพวานรปีศาจบุกเข้ามา

ตูมมม!

อ๋าวฉีเทียน ฟาดกระบองโลหะท่อนยาวของเขาเข้าหาผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณคนหนึ่งอย่างรุนแรง

กระบองโลหะสีทองและดาบปะทะกันอย่างรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของอ๋าวฉีเทียน ดาบในมือของชายชราระดับก่อกำเนิดลมปราณคนนั้นก็ถูกทำลายเป็นผุยผงไปในทันที

บรึมมม!

หลังจากนั้นกระบองโลหะของอ๋าวฉีเทียน ก็ฟาดลงไปบนร่างกายของชายชราคนนั้นอีกครั้งหนึ่ง ร่างกายของเขาถูกระเบิดออกเป็นชิ้นๆ และตายลงไปอย่างไม่ทันได้เปล่งเสียงร้องออกมาแม้แต่ครึ่งคำ

“มันจะเป็นไปได้ยังไง?…นี่มันไม่ใช่เรื่องจริง!”

เมื่อเห็นสหายของพวกเขาถูกบดขยี้จนเป็นเศษเนื้อชิ้นเล็กชิ้นน้อย กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่เหลือต่างก็รู้สึกตกตะลึงจนหนังหัวชากันขึ้นมาในทันที

“ข้าไม่อยากสู้อีกต่อไปแล้ว! สัตว์อสูรพวกนี้มันคือปีศาจร้ายจากขุมนรก!”

เหล่าสาวกของทั้งสามกองกำลังหวาดกลัวกันจนตัวสั่น เมื่อพวกเขาได้เห็นในสิ่งที่เกิดขึ้น

สาวกบางคนเริ่มหันหลังวิ่งหนีออกไปอย่างลนลานด้วยความหวาดกลัว

สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเหมือนกับปฏิกิริยาลูกโซ่ เมื่อมีสาวกคนนึงเริ่มวิ่งหนีออกไป เหล่าสาวกที่เหลืออีกหลายๆคนก็เริ่มวิ่งหนีตามออกไปด้วยเช่นเดียวกัน

ขวัญกำลังใจที่คิดจะต่อสู้ของพวกเขาในตอนนี้นั้นไม่มีเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว

กว๊ากกกก!

แต่อย่างไรก็ตามด้วยจำนวนกองทัพวานรปีศาจที่มากกว่าเกือบ 3 เท่าตัว การที่พวกเขาคิดจะวิ่งหนีในตอนนี้มันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

อ๊ากกกกก!

ในไม่ช้าเสียงร้องของคนจำนวนมากก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหล่าสาวกของกองกำลังทั้งสามกองกำลังถูกบดขยี้ลงจนย่อยยับ พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย

ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ บางคนเริ่มถอยหนีด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นว่าอ๋าวฉีเทียนได้สังหารผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณหลายคนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“ไม่!…ได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลย! ข้ายอมเป็นวัวเป็นม้าให้นายท่าน ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย!” ชายชราระดับก่อกำเนิดลมปราณคนหนึ่งตะโกนร้องอ้อนวอนขอชีวิตออกมา

“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นพวกเจ้าที่กำหนดเองไว้แต่แรก ในก่อนหน้านี้พวกเจ้าก็ตั้งใจที่จะสังหารคนของข้าไม่ใช่หรอกหรือ!” หวังเสียน มองไปที่ชายชราคนนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา

นี่คือสิ่งที่พวกเขาได้กระทำต่อกลุ่มของโม่ชิงหลงทั้งสามคนในก่อนหน้านี้ ตามกฎที่พวกเขาได้ตั้งเอาไว้คนนอกหรือกลุ่มคนที่อ่อนแอนั้นไม่มีสิทธิ์จะมาแบ่งปันสมบัติจิตวิญญาณบนเกาะแห่งนี้ และจะต้องตายเพื่อรักษาความลับของเกาะลอยน้ำแห่งนี้เอาไว้

และหวังเสียน ก็ทำเช่นเดียวกันกับที่พวกเขาได้กระทำไว้ก่อนในหน้านี้

โอว๊กกกกก!

อ๋าวฉีเทียน กระโจนพุ่งเข้าใส่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณที่เหลืออยู่ ด้วยความดุร้ายและกระหายเลือด

….

หลังจากนั้นไม่นานเสียงของการสู้รบก็เริ่มเงียบลง หวังเสียน ยืนอยู่ที่เดิมอย่างสงบ

“องค์ราชาขอรับ!”

โม่ชิงหลง, โม่หยวนและอสูรที่ 15 ได้เดินมาคุกเข่าลงตรงหน้าของหวังเสียน หลังจากที่พวกเขาได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์แล้ว

“บริเวณแถบนี้ทั้งหมดนั้นคือสวนยาจิตวิญญาณของสำนักโบราณแห่งนี้ มีทั้งต้นยาจิตวิญญาณสมุนไพรจิตวิญญาณและต้นหญ้าจิตวิญญาณอยู่หลายร้อยชนิด มีต้นยาจิตวิญญาณระดับสูงที่สุดคือระดับที่ 6 และระดับต่ำที่สุดก็คือระดับที่ 3 ขอรับ!”

โม่ชิงหลงอธิบายเกี่ยวกับสวนยาจิตวิญญาณแห่งนี้ให้หวังเสียนได้ทราบ ก่อนที่เขาจะหันไปมองทางอาคารด้านหลังและพูดออกมาอีกว่า “ในก่อนหน้านี้พวกกระผมไม่ได้มีเวลาที่จะค้นหาภายในอาคารเหล่านั้น กระผมจึงเชื่อว่าข้างในนั้นจะต้องมีสมบัติจิตวิญญาณอยู่อย่างแน่นอนเลยขอรับ!”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปดูกันเถอะ!” หวังเสียน ยืนมองสวนยาจิตวิญญาณด้วยความยินดี

ในสวนยายจิตวิญญาณแห่งนี้มียาจิตวิญญาณระดับ 6 มากกว่า 2 ชนิด ที่ตระกูลซุยมีเพียงพืชสมุนไพรจิตวิญญาณเพียงแค่ระดับ 4 และระดับ 5 เท่านั้น

เฉพาะเพียงแค่ยาจิตวิญญาณระดับ 4 และระดับ 5 ในสวนยาแห่งนี้ก็มีมูลค่าเทียบเท่ากับในสวนยาจิตวิญญาณของตระกูลซุยแล้ว!

‘ตอนนี้ฉันน่าจะสามารถปรับแต่งปรุงยาจิตวิญญาณได้แล้ว ทรัพยากรจากสวนยาจิตวิญญาณแห่งนี้น่าจะเพียงพอสำหรับใช้ปรุงยาเม็ดจิตวิญญาณ เพื่อนำไปขายหรือใช้มันแลกเปลี่ยนเป็นทรัพยากรในการสร้างวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของฉันได้อย่างเพียงพอ!”

หวังเสียน คิดกับตัวเอง หลังจากที่เดินไปสำรวจดูรอบ ๆ สวนยาจิตวิญญาณแล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปยังอาคารที่อยู่ทางด้านหลังของสวนยาจิตวิญญาณ

แอ๊ดดดด~~~!

เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องแรกของอาคาร เสียงประตูไม้ผุๆ ก็ส่งเสียงดังอย่างวังเวงออกมา แต่ในครั้งนี้มันไม่ส่งผลอะไรกับกลุ่มของหวังเสียนเลยแม้แต่น้อย

เขาเดินสำรวจดูในห้องอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะดึงลิ้นชักและสิ่งของต่างๆออกมาอย่างกระตือรือร้นราวกับเป็นเด็กน้อยที่กำลังออกตามล่าหาสมบัติอย่างสนุกสนาน

“โอ้ว! นี่มันขวดสำหรับใส่เม็ดยาจิตวิญญาณไม่ใช่หรอกเหรอ?”

หวังเสียนหยิบขวดลายครามขึ้นมาดู หลังจากเปิดมันออกมา เขาพบว่าเม็ดยาที่อยู่ภายในนั้นเสื่อมสภาพกลายเป็นก้อนหินแข็งๆไปหมดแล้ว เขาส่ายหัวเล็กน้อยและทำการค้นหาต่อไป

ภายในห้องมีอาวุธอยู่หลายอย่าง และยังมีเครื่องประดับหลากหลายชนิดที่ทำจากหยกและเครื่องเงิน เขายังพบปิ่นปักผม 2 อันที่ทำมาจากหยกชั้นยอด

ในขณะที่พวกเขาเดินผ่านห้องต่างๆ พวกเขาก็ได้พบกับสมบัติล้ำค่าเป็นจำนวนมาก

“องค์ราชาขอรับ! ทางด้านนี้มีห้องใต้ดินอยู่ขอรับ!” เสียงของโม่ชิงหลง ดังอยู่ทางด้านหลังของหวังเสียน

“ห้องใต้ดินอย่างนั้นรึ?”

ดวงตาของ หวังเสียน สว่างขึ้นจนเป็นประกายออกมา เขามองเห็นบันไดที่ทอดตัวต่ำลงไปใต้ดิน พวกเขาจึงรีบเดินลงไปกันในทันที

“นี่มัน!…มันคือห้องเก็บสมบัติของสำนัก!”

เมื่อหวังเสียนเดินเข้าไปเขาก็เห็นอาวุธที่สวยงามและโบราณวัตถุล้ำค่าวางอยู่มากมาย ดวงตาของเขาก็สว่างสดใสขึ้นมาในทันที

มีภาพวาดและชิ้นงานประดิษฐ์ตัวอักษรแขวนอยู่บนผนังอยู่หลายสิบผืน แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้สภาพของพวกมันนั้นผุพังและสลายตัวไปจนหมดแล้ว สิ่งของเหล่านี้จึงไม่มีค่าใดๆอีกต่อไป

“หือ?…นั่นมัน?”

เมื่อเขามองไปที่ผนังด้านในสุดหวังเสียน มองเห็นดาบยาวแขวนอยู่ติดกับผนังอย่างโดดเด่น ที่ด้านล่างมีพิณที่สวยงามวางอยู่บนโต๊ะและก็มีกล่องหยกขนาดเท่าฝ่ามือส่องแสงแวววาวอยู่ข้างๆอีกด้วย

สิ่งของทั้งสามชิ้นนี้อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากที่สุดในห้องสมบัติแห่งนี้

แต่ความสนใจของหวังเสียน นั้นตกอยู่ที่ตัวดาบยาวล้ำค่า ที่ส่องประกายออกมาอย่างโดดเด่น

วิ้งงงงง~!

หลังจากที่หวังเสียนแตะโดนที่ด้ามดาบยาว ในทันใดนั้นตัวดาบก็เริ่มสั่นสะท้านและตอบรับการสัมผัสของหวังเสียน พร้อมกับส่งเสียงใสกังวานที่แสดงออกถึงความยินดี

สิ่งนี้ทำให้หวังเสียน รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย เขาจึงยกดาบออกมาจากผนัง ดาบเล่มนี้น้ำหนักมากกว่าร้อยกิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับดาบยาวทั่วไปแล้วถือได้ว่าดาบเล่มนี้นั้นหนักเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ดวงตาของหวังเสียน แสดงออกถึงความยินดี เขาจับด้ามดาบแล้วดึงมันออกมาจากฝักดาบอย่างช้าๆ

ชิ้งงงงง~!

เสียงใสที่ฟังคมชัดซึ่งแสดงออกถึงความคมของมัน แสงสีทองสาดประกายระยิบระยับออกมาจากตัวดาบ ดูแล้วสวยงามและทรงพลังเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ฟุบบบ!

เขาทดลองตวัดคมดาบไปที่ผนังหินเบาๆ คมดาบสามารถเฉือนผนังหินจนเป็นรอยลึกได้อย่างง่ายดายและไม่มีแรงต้านเลยแม้แต่น้อย มันเหมือนกับการฟันผ่านเต้าหู้นิ่มๆ

“ดาบยาวเล่มนี้นั้นแข็งแกร่งและทรงพลังอย่างมากเลยทีเดียว!”

หวังเสียนจ้องไปที่ดาบยาว ในทันใดนั้นข้อความก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

….

[ อาวุธวิญญาณ: ดาบยาว ]

[ ดาบซานลู่: ระดับ10 ]

….

“อาวุธวิญญาณ! นี่คือดาบยาวที่เป็นอาวุธวิญญาณระดับ 10!”

“ซานลู่! โอ้พระเจ้า! นี่คือดาบในตำนาน ดาบซานลู่อย่างนั้นรึ?”

หวังเสียนตกใจและรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ดาบยาวซานลู่ นั้นเป็นหนึ่งในสิบดาบที่มีชื่อเสียงในระดับตำนาน มันได้รับการยกย่องว่าเป็นดาบที่อยู่ในอันดับที่ 5 ถือได้ว่าเป็นดาบในตำนานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเล่มหนึ่งเลยทีเดียว

ว่ากันว่ามันถูกหลอมสร้างโดยปรมาจารย์นักเล่นแร่แปรธาตุระดับสูงคนหนึ่ง ปรมาจารย์ท่านนั้นใช้แร่หินดาวตกเป็นแร่ธาตุหลัก เขาใช้เทคนิคหล่อเย็นสลับกับการหลอมสร้างโดยใช้ความร้อนจากใต้พิภพ เขาใช้เวลานานกว่า 3 ปีถึงจะสามารถขึ้นรูปเป็นตัวดาบได้

‘ข้าไม่เคยจะคิดเลยว่านี่จะเป็นดาบในตำนาน ซานลู่ หนึ่งในสุดยอดของดาบทั้งสิบ ถ้าข้าจำไม่ผิดดาบเล่มนี้ถูกหลอมสร้างโดยปรมาจารย์โอหย๋าจื่อ ดาบแต่ละเล่มที่ปรมาจารย์โอหย๋าจื่อ หลอมสร้างออกมานั้นล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงดังสะท้านไปทั่วโลกยุทธภพเลยทีเดียว แต่ที่ถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของเขานั่นก็คือดาบซานลู่เล่มนี้นั่นเอง!’

หวังเสียนขยับแขนของเขาและส่งพลังงานของธาตุโลหะเข้าไปในดาบซานลู่ ในทันใดนั้นประกายแสงอันคมกล้าก็ปกคลุมไปทั่วทั้งดาบ

ออร่าของดาบกระจายตัวออกไปรอบๆบริเวณจนจะแทบฉีกบรรยากาศให้ขาดออกจากกันเป็นชิ้นๆเพราะความคมของรังสีแห่งดาบ

‘ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ดาบซานลู่รู้จักกันในนาม ดาบแห่งความยุติธรรม หรือ ราชาแห่งดาบ ในตอนนี้ข้าน่าจะสามารถใช้ดาบเล่มนี้เป็นดาบประจำตัวของข้าได้!’

หวังเสียนยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี เขาสอดดาบเก็บไว้ในฝักพร้อมกับวางไว้ที่ข้างๆ ก่อนที่เขาจะมองไปยังพิณที่วางอยู่บนโต๊ะ

พิณที่สามารถวางไว้กับดาบซานลู่ได้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ตามปกติพิณทั่วไปนั้นจะทำจากไม้ และเมื่อผ่านกาลเวลาไปเป็นเวลานาน เนื้อไม้นั้นจะต้องผุกร่อนหรือพังทลายลงไปอย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้หวังเสียนสังเกตเห็นว่าเนื้อไม้ของพิณคันนี้ไม่มีร่องรอยของการผุพังและเสียหายเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าสถานที่นี้จะผ่านกาลเวลามาแล้วหลายร้อยปีก็ตาม และยิ่งไปกว่านั้นมันยังดูเหมือนพิณคันใหม่

หวังเสียน ขยับความคิดของเขาเล็กน้อยและข้อมูลเกี่ยวกับพิณก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาในทันที

….

[ อาวุธวิญญาณ: พิณ/กระบี่บาง ]

[ พิณห่าวจง: ระดับ 10 ]

[ กระบี่บางหยุนสุ่ย: ระดับ 9 ]

….

ในตอนแรกเขาไม่สนใจอาวุธวิญญาณชิ้นนี้มากนัก เพราะมันเป็นอาวุธที่เกี่ยวกับเครื่องดนตรีซึ่งมันไม่มีประโยชน์กับตัวเขา

แต่หลังจากที่ระบบได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธวิญญาณที่เป็นพิณระดับ 10 ชิ้นนี้ หวังเสียน รู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันที เพราะมันมีข้อมูลของอาวุธถึง 2 ชิ้นที่ระบบส่งข้อมูลออกมา

หวังเสียน หยิบพิณขึ้นมาพิจารณาดูใกล้ๆ มันเป็นพิณที่มีลวดลายสวยงามเป็นอย่างมาก

‘หืมม? มีกระบี่ซ่อนอยู่ตรงด้านล่างของตัวพิณด้วย! นี่เป็นกระบี่บางที่เป็นอาวุธวิญญาณระดับ 9 ที่ระบบอ่านข้อมูลได้อย่างนั้นเหรอ? กระบี่เล่มนี้น่าจะสร้างมาคู่กับพิณคันนี้ เพื่อเจ้าของพิณจะได้นำไว้ใช้สำหรับป้องกันตัวเองในระยะประชิดได้ทันท่วงที หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมา!’

………

จบบท

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน