ตอนที่ 316 กองทัพวานรปีศาจ!
.
บนเกาะลอยน้ำผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ จากตระกูลเล่ย สำนักเฟิงเฉินและสำนักพายุเทพ ก้าวไปยืนอยู่ตรงหน้าของโมชิงหลง,โม่หยวนและอสูรที่ 15 พร้อมกับจ้องมองพวกเขาด้วยความดูถูก
พวกเขาเดินช้าๆพร้อมกับอาวุธในมือที่สะท้อนกับแสงจันทร์จนเปล่งแสงอันหนาวเย็นออกมา
“ถ้าพวกเจ้าอยากจะตายนักก็เข้ามา!”
ดวงตาของโม่ชิงหลงเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณที่กำลังเดินเข้ามา ออร่าปีศาจสีดำทมิฬเริ่มไหลเวียนอยู่รอบร่างกายของเขา
โม่หยวนขยับกลางฝ่ามือของเขาเล็กน้อย ก่อนที่มันจะเปลี่ยนกลายเป็นกรงเล็บอันแหลมคมพร้อมกับเกล็ดสีดำ เขาจ้องมองไปยังกลุ่มคนที่กำลังเดินใกล้เข้ามาด้วยสายตาที่ดุร้าย
“ฮ่าๆๆ! ผู้บ่มเพราะสายปีศาจอย่างนั้นรึ? ดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกเราคงจะต้องช่วยโลกโดยการกำจัดปีศาจร้ายพวกนี้เสียแล้วล่ะ ฮึๆๆ!”
ชายชราคนหนึ่งหันมาพูดด้วยสายตาที่เหยียดหยาม หลังจากที่เขานั้นสังเกตเห็นออร่าปีศาจที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของกลุ่มโม่ชิงหลง
“ฆ่าพวกมันทั้งสามคนทิ้งซะ!” ชายชราตะโกนออกมาพร้อมกับพุ่งเข้าไปหา โม่ชิงหลง, โม่หยวนและอสูรที่ 15 อย่างรวดเร็ว
แรงกดดันและเจตนาฆ่าที่รุนแรงของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงสุดทั้งสามคน ตรงเข้ามาโอบล้อมกลุ่มของโม่ชินหลงอย่างหนาแน่น จนเหมือนกับว่าตั้งใจที่จะสังหารพวกเขาทั้งหมดให้ตายภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
….
ขณะนี้หวังเสียน และกลุ่มสาวกแห่งวังมังกรที่อยู่ก้นทะเล ไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับการต่อสู้ที่เกิดขึ้นบนเกาะ
หวังเสียน มีรอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังกลุ่มของยักษ์มัจฉา
ในตอนนี้เหล่ายักษ์มัจฉาทั้งร้อยกว่าตัวนั้นถูกจับตรึงอยู่บนพื้นทะเลพร้อมกับอาการที่บาดเจ็บอย่างสาหัส จากการถูกกลุ่มกองกำลังของวังมังกรโจมตี
“ยอมสยบให้แก่ข้าจอมราชันย์ หรือว่าเลือกที่จะตาย!”
หวังเสียนที่ยืนอยู่บนด้านหลังของเต่ายักษ์ไท่ฝู่ จ้องมองไปยังยักษ์มัจฉาด้วยดวงตาที่แดงฉาน แรงกดดันอันน่าหวาดกลัวของราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์กดทับไปยังกลุ่มของยักษ์มัจฉาโดยตรง
“พวกข้าขอยอมแพ้!และยินยอมอยู่ภายใต้คำสั่งของท่าน!” ผู้นำของยักษ์มัจฉามองไปที่หวังเสียน ด้วยความหวาดกลัว
“ดีมาก! พวกเจ้าเลือกได้ฉลาดดีมาก!”
“ในอนาคตวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของข้าจะถูกแยกออกเป็น 9 เหล่าทัพ และในตอนนี้ข้าจะมอบตำแหน่งผู้พิทักษ์วังมังกรให้กับเจ้า และหน้าที่ของพวกเจ้านั้นก็คือการลาดตระเวนและตรวจตราดูความปลอดภัยบริเวณโดยรอบของวังมังกร ข้าจะมอบชื่อใหม่ให้กับเจ้านั่นก็คือ อ๋าวเยี่ยฉ๋า!”
หลังจากนั้นหวังเสียน ก็สะบัดมือเบาๆ แก่นหยดเลือดร้อยกว่าหยด ก็พุ่งตรงไปเข้าไปที่หัวของเหล่ายักษ์มัจฉาจนครบทุกตัว
ในตอนนี้วังมังกรของเขานั้นมีอยู่ 2 กองทัพแล้ว กองทัพแรกนั้นเป็นกองทัพของวานรปีศาจ รับผิดชอบในการต่อสู้กับศัตรูโดยตรง ส่วนกองทัพของเหล่ายักษ์มัจฉานั้นมีหน้าที่คอยพิทักษ์วังมังกรและอาณาเขตโดยรอบ
ถึงแม้ว่ายักษ์มัจฉาเหล่านี้จะมีเพียงแค่ร้อยกว่าตัว แต่ความแข็งแกร่งและความกล้าหาญในการต่อสู้ของพวกมันนั้นถือได้ว่ายอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อพวกมันร่วมมือกันต่อสู้ ความแข็งแกร่งของพวกมันนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
และยิ่งไปกว่านั้นเมื่ออยู่ในน้ำพวกมันจะมีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก แม้แต่หวังเสียน ก็ยังรู้สึกประหลาดใจกับความรวดเร็วของพวกมัน
แม้แต่นาคาพิษทั้ง 9 ที่มีพลังแห่งธาตุลม ซึ่งถือได้ว่าพวกมันนั้นเป็นจ้าวแห่งความเร็วอยู่แล้ว ก็ยังไม่สามารถตามความเร็วของยักษ์มัจฉาเหล่านี้ได้ทันเมื่ออยู่ในน้ำ
แต่อย่างไรก็ตามหากนาคาพิษทั้ง 9 ตัวอยู่บนพื้นหรือบนอากาศ ความเร็วของพวกมันก็จะเร็วมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
“ถวายพระพรองค์ราชามังกร!” หลังจากที่กลุ่มยักษ์มัจฉาทั้งหมดนั้นได้หลอมรวมเลือดมังกรศักดิ์สิทธิ์ของหวังเสียนเข้าสู่ร่างกายเสร็จแล้ว พวกมันต่างคุกเข่าลงพร้อมกับโขกศีรษะคำนับหวังเสียนด้วยความเคารพรัก
ในตอนนี้พวกมันนั้นถือได้ว่าเป็นคนของเขาอย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ความคิดและจิตใจของพวกมันในตอนนี้นั้นก็เหมือนกับเหล่าสาวกแห่งวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ตัวอื่นๆ
พวกมันจะไม่มีวันทรยศหักหลังเขาอย่างเด็ดขาด เพราะแต่นี้ต่อไป ชีวิตของพวกมันนั้นมีไว้เพื่อองค์ราชันย์มังกรของพวกมันเพียงเท่านั้น
“นี่คือเทคนิคการบ่มเพาะของมังกรวารีศักดิ์สิทธิ์ พวกเจ้าทั้งหมดจงขยันและตั้งใจฝึกฝน เพราะแต่นี้ต่อไปความแข็งแกร่งของพวกเจ้านั้นจะเป็นพลังให้แก่วังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา!”
เทคนิควิชาการบ่มเพาะแห่งมังกรวารีศักดิ์สิทธิ์ ได้ถูกส่งเข้าไปในจิตวิญญาณของพวกมันโดยตรง
หลังจากนั้นหวังเสียน ก็จ้องมองไปยังเกาะลอยน้ำด้วยดวงตาเป็นประกาย
“เจ้านำทางข้าไปดูที่ด้านล่างของเกาะลอยน้ำ ข้าต้องการจะรู้ว่าเกาะแห่งนี้นั้นมันสามารถลอยอยู่บนผิวน้ำได้อย่างไร!” หวังเสียนหันไปพูดกับ อ๋าวเยี่ยฉ๋า
“พะยะค่ะองค์ราชามังกร!”
หลังจากที่ดูดซับแกนเลือดมังกรศักดิ์สิทธิ์ของหวังเสียน เข้าสู่ร่างกายของมันแล้ว ความแข็งแกร่งและความสามารถพลังแห่งธาตุน้ำของ อ๋าวเยี่ยฉ๋า ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้แต่การว่ายน้ำของมันก็รวดเร็วมากกว่าเดิมเกือบ 2 เท่า
“ที่ใต้เกาะลอยน้ำแห่งนี้คือสถานที่พักของพวกเรา พะยะค่ะองค์ราชา!”
หลังจากที่พวกเขาได้มาถึงด้านล่างของเกาะลอยน้ำ อ๋าวเยี่ยฉ๋า ก็ชี้ไปยังบริเวณส่วนหนึ่งของพื้นที่ใต้เกาะ
หวังเสียน จ้องมองตามไปอย่างอยากรู้อยากเห็น ฐานที่ตั้งของเกาะลอยน้ำแห่งนี้นั้นไม่ได้เชื่อมต่ออยู่กับพื้นทะเล และที่ด้านใต้ของเกาะลอยน้ำแห่งนี้มีพืชชนิดหนึ่งที่เติบโตอยู่มากมายจนกลายเป็นฐานของเกาะลอยน้ำแห่งนี้
พืชชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับเถาวัลย์ขนาดใหญ่มันมีสีดำคล้ายกับสีผิวของเหล่ายักษ์มัจฉา พืชน้ำชนิดนี้อยู่อย่างหนาแน่นใต้เกาะลอยน้ำ
และยิ่งไปกว่านั้นพืชน้ำชนิดนี้ไม่ได้มีอยู่เพียงแค่ชั้นเดียวแต่กลับมีพื้นที่ทับซ้อนกันอยู่เป็นชั้นๆ และระหว่างชั้นก็มีพื้นที่ว่างคล้ายกับช่องว่างของตึกใหญ่ๆของโลกมนุษย์
หวังเสียน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นว่ามียักษ์มัจฉาตัวเล็กๆที่มีความสูงประมาณ 1 เมตร อาศัยอยู่ในช่องว่างเหล่านั้นหลายสิบตัวเลยทีเดียว
“สถานที่นี้คือที่พักของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?” หวังเสียน ถามออกมาทันทีด้วยความสงสัย
“พะยะค่ะองค์ราชา! สถานที่แห่งนี้นั้นเป็นที่พักของพวกเรา และบางส่วนของพืชน้ำชนิดนี้ยังเป็นอาหารของพวกเราอีกด้วย!”
อ๋าวเยี่ยฉ๋า ว่ายน้ำไปที่พืชน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุดมันใช้แขนที่คล้ายกับอาวุธของมันตัดเถาวัลย์พืชน้ำออกมา 1 ท่อนและส่งให้หวังเสียนด้วยความเคารพ
หวังเสียน รับเครือเถาวัลย์ท่อนนั้นมาพิจารณาดู และเขาตระหนักได้ในทันทีเลยว่าเครือเถาวัลย์ของพืชน้ำชนิดนี้มีแรงผลักให้ลอยตัวที่สูงมาก
‘ดังนั้นพืชชนิดนี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกาะลอยน้ำแห่งนี้นั้นสามารถลอยและเคลื่อนที่ได้!’
หวังเสียน รู้สึกว่าโลกใต้ทะเลนั้นช่างมหัศจรรย์และลึกลับมากจริงๆ มันมีสิ่งแปลกๆมากมายให้ค้นหา
‘ถ้าฉันสามารถเปลี่ยนเกาะลอยน้ำแห่งนี้เป็นที่พักส่วนตัวของฉันได้มันคงจะยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว!’
ดวงตาของหวังเสียนเป็นประกายขึ้นมาในทันที เขาต้องการเปลี่ยนเกาะลอยน้ำแห่งนี้ให้เป็นฐานที่ตั้งของสำนักมังกร และเขาสามารถนำเกาะลอยน้ำแห่งนี้กลับไปที่ทะเลปั๋วไห่ ในเมืองเจียงเฉิงได้
และหากเขาต้องการไปท่องเที่ยวที่อื่นเขาก็สามารถนำเกาะลอยน้ำแห่งนี้ไปได้ด้วยเช่นเดียวกัน เกาะแห่งนี้จึงเหมือนบ้านพักตากอากาศส่วนตัวของเขาที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ในมหาสมุทรเลยทีเดียว
นี่คือฐานที่ตั้งที่ยอดเยี่ยมมากที่สุด และเมื่ออยู่ในทะเลเขาก็ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องหวาดกลัว เพราะท้องทะเลและมหาสมุทรนั้นเป็นถิ่นของเขา!
หวังเสียน แสดงความกระตือรือร้นออกมาในทันทีเมื่อเขาได้ตัดสินใจแล้ว “พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะขึ้นไปตรวจดูที่ด้านบนของเกาะก่อน!”
หลังจากที่เขาพูดจบหวังเสียน ก็พุ่งตัวขึ้นไปยังบนพื้นเกาะอย่างรวดเร็ว
ในฐานะที่นี่นั้นเคยเป็นสำนักโบราณ มันควรจะต้องมีสมบัติจิตวิญญาณอยู่อย่างมากมาย ฉะนั้นเขาจึงสั่งให้กลุ่มของโม่ชิงหลง ทำการค้นหาแหล่งสมบัติแห่งจิตวิญญาณรวมถึงสวนยาจิตวิญญาณในขณะที่เขาอยู่ใต้น้ำ
หวังเสียน เชื่อว่าในขณะนี้คนของเขานั้นต้องได้รับสมบัติทางจิตวิญญาณมาอย่างมากมายแล้วแน่นอน
“การเก็บเกี่ยวในครั้งนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากเลยจริงๆ!” หวังเสียน แสดงรอยยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่เขากำลังเดินเล่นอยู่บนเกาะ
บรูมมม!
“ไอ้พวกบัดซบ! แกกล้าทำร้ายคนของตระกูลเล่ยอย่างนั้นเหรอ! พวกแกทุกคนจะต้องตายอยู่ที่นี่!”
ขณะที่หวังเสียน กำลังเดินเล่นและคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ที่รุนแรง พร้อมกับเสียงตะโกนที่โกรธแค้นดังขึ้นมา
ใบหน้าของหวังเสียน เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาในทันที เมื่อเขาใช้พลังแห่งจิตวิญญาณของเขาครอบคลุมไปทั่วทั้งเกาะเพื่อตรวจดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“อ๊อก!..แค่กๆๆ ! รอ…รอก่อนเถอะอีกไม่นาน…พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตาย อย่างแน่นอน!” โม่ชิงหลงพูดออกมาอย่างอ่อนแรงเพราะในขณะนี้เขานั้นบาดเจ็บค่อนข้างสาหัสเลยทีเดียว
“ฮ่าๆๆ! ข้าก็อยากจะรู้ยิ่งนักว่าพวกเจ้าจะทำให้พวกเราตายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เพราะอีกไม่นานพวกเจ้าทั้งหมดก็จะต้องตายอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ!” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยอันเย่อหยิ่งดังขึ้นมา
“ไอ้พวกลูกเต่า มีกันอยู่เพียงแค่สามคน ยังคิดหวังอยากจะได้สมบัติจิตวิญญาณอยู่อีกอย่างนั้นรึ ช่างไม่เจียมตัวเลยจริงๆ!” ชายชราที่เหลือของทั้งสามกองกำลัง ต่างยิ้มเยาะกลุ่มของโม่ชิงหลงอย่างดูถูก
“ฮึ! ดูเหมือนว่าในวันนี้สวนยาจิตวิญญาณ จะมีปุ๋ยชั้นดีเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยศพเลยทีเดียว!” กลิ่นอายสังหารฟุ้งกระจายออกมาจากตัวของหวังเสียน อย่างรุนแรง
จากกฎเดิมที่อสูรที่ 15 ได้บอกกับเขาไว้ว่าเหล่าชาวยุทธทั้งหมดนี้ต่างตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพยากรบนเกาะลอยน้ำแห่งนี้ตามความสามารถและความแข็งแกร่ง
และในความคิดของหวังเสียน ไม่มีใครในสามกองกำลังที่จะสามารถเทียบได้กับโม่ชิงหลงและโม่หยวน เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาแบ่งปันทรัพยากรกลุ่มของโม่ชิงหลงน่าจะได้รับทรัพยากรส่วนใหญ่อย่างแน่นอน
แต่หลังจากที่หวังเสียน ใช้พลังจิตวิญญาณเพื่อตรวจดูสถานการณ์บนเกาะแล้วนั้น เขาพบว่าในขณะนี้โม่ชิงหลงและคนอื่นๆได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัสเลยทีเดียว
ในกรณีนี้มีความเป็นไปได้อย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือทั้งสามกองกำลัง ได้ใช้วิธีสกปรกร่วมมือกันรุมทำร้ายพวกเขา
หวังเสียน หลับตาลงเล็กน้อย ออร่าและพลังจิตวิญญาณของเขาถ่ายทอดคำสั่งลงไปยังที่ใต้ท้องทะเลในทันที
คลืนนน!
ในขณะนั้นเองบนผิวน้ำ อ๋าวฉีเทียน ก็ลอยตัวขึ้นมาจากน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว
ที่ด้านหลังมีวานรปีศาจ 800 ตัวตาม อ๋าวฉีเทียนมาอย่างใกล้ชิด เมื่อพวกมันทุกตัวโผล่พ้นออกมาจากผิวน้ำทะเล พวกมันก็เหมือนกับสัตว์อสูรร้ายกระหายเลือด เปลวไฟนรกลุกโชนออกมาอยู่รอบๆตัวของพวกมันดูแล้วน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
โอว๊กกกก!
อ๋าวฉีเทียนเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆหวังเสียน พร้อมกับเงยหน้าส่งเสียงคำรามจนดังสนั่นไปทั่วทั้งเกาะ
ด้วยรูปร่างที่มีความสูงมากกว่า 6 เมตร พร้อมกับกล้ามเนื้อบนร่างกายที่ใหญ่โตของมัน และในมือยังถือกระบองโลหะสีทอง รูปลักษณ์ของมันจึงดูทรงพลังและดูดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง
ทางด้านหลังมีวานรปีศาจอีกกว่า 800 ตัว ได้ปลดปล่อยพลังของพวกมันออกมา แรงกดดันอันทรงพลังของพวกมันทำให้บรรยากาศรอบๆเกาะถึงกับบิดเบี้ยวและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเลยทีเดียว
“ไปกันเถอะ!”
หวังเสียน พูดออกมาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมก่อนที่จะนำกองทัพวานรปีศาจพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
กว๊ากกก!
กองทัพวานรปีศาจส่งเสียงร้องคำรามออกมาพร้อมๆกันทั้งกองทัพ จนเกาะลอยน้ำทั้งเกาะสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น!
……….
จบบท