ตอนที่ 340 กบก้นบ่อ!
.
เสียงหัวเราะที่เหมือนกับเยาะเย้ยดังขึ้นมาจากทางด้านหนึ่ง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดังมากนัก แต่ทุกคนที่อยู่ภายในเต็นท์ก็ได้ยินกันอย่างชัดเจน
ทุกๆคนต่างเงียบเสียงลงกันในทันที!
พวกเขาหันไปมองที่ต้นเสียงพร้อมๆกัน และอยากจะรู้ว่าใครนั้น ช่างมีความกล้าที่จะกระทำเช่นนี้ได้
“หืม?” เมื่อเปี่ยนเหยาฉวน ได้ยินเสียงหัวเราะเขาก็หันกลับไปมองในทันที เมื่อเขาเห็นว่าเป็นหวังเสียน สายตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที
ฝูงชนที่อยู่รอบๆก็มองไปที่หวังเสียนด้วยความแปลกใจ
“ฮึ! เหตุใดเจ้าถึงช่างไร้มารยาทเช่นนี้ล่ะหมอเทวะหวัง! หรือว่าเจ้านั้นถือได้ว่าเป็นหมอเทวะที่มีอายุน้อยมากที่สุดในการจัดอันดับหมอเทวะศักดิ์สิทธิ์ ก็เลยคิดว่าจะสามารถหัวเราะเยาะใครก็ได้อย่างนั้นรึ? ไม่มีความรู้เกี่ยวกับทักษะการปรุงยาแม้แต่น้อย แต่กับกล้าหัวเราะออกมาเช่นนี้ ช่างโง่เขลาเบาปัญญาดีแท้!”
แต่ก่อนที่เปี่ยนเหยาฉวนจะทันได้พูดอะไรออกมา ชายวัยกลางคนระดับก่อกำเนิดลมปราณคนหนึ่งก็จ้องมองไปที่หวังเสียน และพูดออกมาด้วยคำพูดที่ค่อนข้างจะรุนแรง
“ถูกต้อง! ทักษะการหลอมกลั่นและปรุงยาอันเยี่ยมยอดและลึกซึ้งที่ คุณชายเปี่ยนได้แสดงออกมานั้น ถือได้ว่าเป็นความสามารถระดับปรมาจารย์แล้ว เจ้านั้นมีคุณสมบัติอะไรถึงได้หัวเราะเยาะออกมาเช่นนี้!” ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณอีกคนหนึ่งพูดกับหวังเสียนด้วยความดูถูก
“ฮึ! หวังเสียน เจ้าอย่าปากดีให้มันมากนัก ไม่เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถอ้าปากพูดได้อีกตลอดไปเลยทีเดียว!”
มุมปากของเปี่ยนเหยาฉวนยิ้มออกมาอย่างดูถูก ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังหวังเสียน
“ฮึๆๆ! ที่ข้าหัวเราะนั้นมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนักหรอก! ข้าเพียงเห็นว่ามีเม็ดยาระเบิดออกมาและมันน่าตลกดีเพียงเท่านั้นเอง ฮึๆๆ!” หวังเสียน ตอบออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ
“ฮึ่ยย! เจ้าสาวเลวเจ้ารู้หรือไม่ว่าเม็ดยาจิตวิญญาณที่ถูกปรับแต่งออกมาโดยนักปรุงยานั้นมันคืออะไร? แล้วเจ้ารู้จักสมุนไพรที่เป็นต้นยาจิตวิญญาณครบเกิน 100 ชนิดแล้วหรือยัง? เจ้ารู้จักเปลวไฟที่ใช้ในการหลอมกลั่นและปรุงยาหรือเปล่า? เจ้ารู้หรือไม่การสร้างน้ำยาจิตวิญญาณนั้นต้องใช้ความสามารถมากขนาดไหน? และข้าจะถามตรงๆว่าในชีวิตนี้ของเจ้านั้น เคยได้สัมผัสเม็ดยาจิตวิญญาณมาก่อนบ้างหรือไม่?”
เปี่ยนเหยาฉวน แสดงสีหน้าที่จริงจังเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะและคำพูดของหวังเสียน เขาจึงตะโกนถามหวังเสียน กลับมาอย่างรุนแรง “นี่เป็นคำถามง่ายๆเพียงเท่านั้น! แต่สำหรับเจ้าก็คงจะตอบคำถามข้าไม่ได้แม้แต่คำถามเดียว? หากว่าเจ้าไม่รู้อะไรเลยก็แค่รู้จักหุบปากเหม็นๆของเจ้าเอาไว้ก็พอแล้ว!”
“สำหรับนักปรุงยาแล้วการสร้างน้ำยาจิตวิญญาณจนมีความบริสุทธิ์มากเกินกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ถือได้ว่าโดดเด่นและมีพรสวรรค์เป็นอย่างสูงอยู่แล้ว การระเบิดระหว่างการปรับแต่งและปรุงยานั้นเป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยจนเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติของนักปรุงยา!” ชายชราคนหนึ่งที่เป็นหมอเทวะมองไปที่หวังเสียนพร้อมกับส่ายหัวในขณะที่เขาอธิบาย
“ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง หรอกหรือ? ฮึๆๆ!” หวังเสียนมองไปที่เปี่ยนเหยาฉวน อย่างเย้ยหยัน ก่อนที่จะหันไปพูดกับทุกคนที่อยู่ในเต็นท์แห่งนี้ว่า “อันที่จริงข้านั้นก็มีความสามารถในการปรับแต่งและปรุงยาได้เหมือนกัน และข้าก็ยังสามารถปรุงยาล้างเลือดชนิดนี้ออกมาได้อีกด้วย!”
ในขณะที่เขาพูดเขาเดินไปยังโต๊ะที่วางต้นยาจิตวิญญาณ เขาชำเลืองมองไปยังเม็ดยาล้างเลือดสองเม็ดที่วางอยู่ ก่อนที่จะส่ายหัวและพูดออกมาอีกครั้งว่า “ฮึ!สร้างเม็ดยาเกรดต่ำพวกนี้ออกมา ช่างเป็นการสูญเสียต้นยาจิตวิญญาณอย่างแท้จริง ทักษะการปรับแต่งเม็ดยาของเจ้ามันอ่อนหัดเกินไปหน่อยนะ!”
ห๊ะ?
คำพูดที่เย่อหยิ่งของหวังเสียนทำให้ฝูงชนรอบข้างตกใจ พวกเขาจ้องมองไปที่หวังเสียนอย่างจริงจังด้วยความอยากรู้อยากเห็นกับคำพูดของหวังเสียนที่ว่าเขานั้นสามารถปรับแต่งเม็ดยาล้างเลือดได้
“หุบปาก! คนอย่างเจ้ามันจะไปรู้อะไรเกี่ยวกับทักษะการปรุงยากัน!”
เปี่ยนเหยาฉวน จ้องเขม็งไปที่หวังเสียน “เป็นแค่หมอเทวะพเนจรที่ไม่มีกองกำลังใดๆหนุนหลัง ไม่มีทางที่เจ้าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับทักษะการหลอมกลั่นและปรุงยาได้อย่างเด็ดขาด แต่กระนั้นเจ้ากลับกล้าวิพากษ์วิจารณ์เม็ดยาที่ข้าปรับแต่งออกมาอย่างนั้นหรือ!”
“ข้าได้บอกไปแล้ว ว่าข้านั้นสามารถปรับแต่งและปรุงยาล้างเลือดชนิดนี้ได้ และคุณภาพคงดีกว่าเม็ดยาของเจ้าอย่างแน่นอน!” หวังเสียนยิ้มออกมา หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ต้นยาจิตวิญญาณที่วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับพลิกฝ่ามือของเขาขึ้นมา
พรึบบบ!
เปลวไฟสีแดงเลือดหมูปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของหวังเสียนในทันที
เขาขยับมืออีกครั้งกลุ่มต้นยาจิตวิญญาณก็บินเข้ามาสู่มือของเขา
เมื่อเห็นว่าหวังเสียนกำลังเริ่มจะหลอมกลั่นต้นยาจิตวิญญาณให้เป็นน้ำยาจิตวิญญาณ เปี่ยนเหยาฉวนมองไปที่เปลวไฟบนมือของหวังเสียน พร้อมกับยิ้มเยาะออกมาอย่างเย้ยหยัน
“นี่มันเป็นเพียงแค่เปลวไฟธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ถึงแม้ว่าเจ้าจะสามารถปรับแต่งและปรุงยาออกมาได้ แต่ขั้นตอนการหลอมกลั่นต้นยาจิตวิญญาณให้เป็นน้ำยาจิตวิญญาณคุณภาพของมันคงจะน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ อัตราการปรับแต่งเพื่อสร้างเม็ดยาของเจ้า คงจะได้ไม่เกิน 1 เม็ด หรืออาจจะไม่ประสบความสำเร็จเลยก็ได้ นี่นับว่าเป็นการใช้ต้นยาจิตวิญญาณโดยเปล่าประโยชน์จริงๆ!”
“ช่างน่าหนวกหูเสียจริง! หุบปากแล้วจงมองดูให้ดีๆ!” หวังเสียนตะคอกออกมาเสียงดังด้วยความรำคาญ
หลังจากได้ยินคำพูดของหวังเสียน เปี่ยนเหยาฉวนกําหมัดแน่นเขารู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก “ข้าก็อยากจะเห็นยิ่งนักว่าเจ้านั้นจะมีความสามารถอย่างปากพูดหรือไม่!”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญก่อกำเนิดลมปราณและหมอเทวะที่อยู่โดยรอบ ต่างจ้องมองไปที่ฝ่ามือของหวังเสียนด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“หมอเทวะที่ไร้สังกัดจะสามารถมีทักษะปรุงยาได้อย่างไร? เขาก็แค่พยายามดึงดูดความสนใจก็เท่านั้น!” ชายชราจากสำนักเซิ่งเหมินถู แสดงความรังเกียจออกมา
ในขณะที่ชายชราจากสำนักเซิ่งเหมินถูพูดจบ หวังเสียนก็ขยับมือเบาๆ เปลวไฟต้นกำเนิดในมือของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นถ้วยเปลวไฟ 9 ถ้วยอย่างรวดเร็ว
เมื่อถ้วยเปลวไฟทั้ง 9 ถ้วยปรากฏขึ้นมาบนมือของหวังเสียน กลุ่มคนที่กำลังจับตามองการกระทำของหวังเสียนอยู่ ก็ตกตะลึงกันในทันที
“ทักษะการควบคุมเปลวไฟของเขานั้นยอดเยี่ยมมากทีเดียว! เขาสามารถจำลองถ้วยกลั่นยาจากเปลวไฟได้อย่างชำนาญ หมอเทวะหวังคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!”
‘มันสามารถสร้างถ้วยการกลั่นยาด้วยเปลวไฟได้จริงๆ!’ เปี่ยนเหยาฉวนรู้สึกตกใจกับความสามารถของหวังเสียน
ฉ่าาา!
ในเวลาเดียวกันต้นยาจิตวิญญาณทั้ง 9 ชนิดก็ถูกโยนลงในถ้วยเปลวไฟทั้ง 9 ใบบนมือของหวังเสียนในทันที
ต้นยาจิตวิญญาณถูกหลอมกลั่นและละลายลงอย่างรวดเร็ว เหมือนเนยบนกระทะร้อน
“มะ!…มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ความเร็วในการหลอมกลั่นสร้างน้ำยาจิตวิญญาณมันจะรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”
เปี่ยนเหยาฉวน อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความตกใจ หลังจากที่เขาเห็นความเร็วในการหลอมกลั่นสร้างของเหลวน้ำยาจิตวิญญาณ ของหวังเสียน
เมื่อหวังเซียนได้ยินเสียงตะโกนของเปี่ยนเหยาฉวน เขาก็พูดอย่างไร้อารมณ์ออกมาว่า
“หุบปากซะที! เจ้ากบก้นบ่อ!”
“จะ…เจ้า! เจ้า…”
เปี่ยนเหยาฉวน เบิกตากว้างจ้องมองไปที่หวังเสียน ด้วยความโกรธแค้น แต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
หวังเสียนไม่ได้ให้ความสนใจกับเปี่ยนเหยาฉวนอีกต่อไป เขาจดจ่ออยู่กับอัตราส่วนของน้ำยาจิตวิญญาณที่กำลังค่อยๆหลอมรวมกัน
หนึ่ง สอง สาม !
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 10 วินาทีของเหลวสามจุดก็เริ่มรวมตัวกัน
“หลอมรวมและสร้างเม็ดยา!” หวังเสียน พูดออกมาเบาๆ เปลวไฟสีแดงเลือดหมูค่อยๆหายไป หลังจากนั้นก็ปรากฏเม็ดยาสีเขียวที่เป็นประกายสะท้อนแสงระยิบระยับ 3 เม็ดออกมาบนมือเขา
เม็ดยาจิตวิญญาณทั้ง 3 เม็ดในมือของหวังเสียนเป็นสีเขียวหยกใสเปล่งประกายระยิบระยับ กลิ่นหอมของยาสมุนไพรฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ จนฝูงชนที่อยู่โดยรอบสูดลมหายใจลึกๆกันอยู่หลายครั้งอย่างลืมตัว
“ข้าสามารถปรุงยาล้างเลือดได้ 3 เม็ดต่อการปรับแต่งหนึ่งครั้ง สำหรับต้นยาจิตวิญญาณ 100 ชุด ข้าสามารถสร้างเม็ดยาล้างเลือดออกมาได้อย่างน้อย 300 เม็ด!”
หวังเสียนยิ้มออกมา ก่อนที่เขาจะส่งยาล้างเลือดให้กับนายทหารวัยกลางคน
นายทหารวัยกลางคนรู้สึกตกใจทีเมื่อเขาได้เห็นยาล้างเลือดที่หวังเสียนส่งมาให้กับเขา เขาจึงหยิบยาล้างเลือดที่ปรับแต่งโดยเปี่ยนเหยาฉวนเพื่อทำการเปรียบเทียบโดยตรง
เขาตกตะลึงในทันทีเพราะเม็ดยาทั้ง 2 ชุดนี้นั้นเทียบกันไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสีสันความสดใสของเม็ดยา กลิ่นอายสมุนไพรที่ออกมาจากเม็ดยา รวมเวลาและจำนวนของเม็ดยาก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
เม็ดยาที่ปรับแต่งโดยเปี่ยนเหยาฉวนเทียบกับเม็ดยาของหวังเสียนไม่ได้เลยจริงๆ
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญและบรรดาหมอเทวะที่อยู่โดยรอบต่างก็รู้สึกตกใจเช่นเดียวกัน กระบวนการหลอมกลั่นและปรุงยาของหวังเสียนดูเหมือนจะง่ายดายเป็นอย่างมากต่างกับขั้นตอนของ เปี่ยนเหยาฉวน ที่ใช้เวลามากกว่า 10 นาทีในการปรับแต่งเม็ดยาเพียง 2 เม็ดออกมา
และยิ่งไปกว่านั้นขั้นตอนการหลอมกลั่นของเขานั้นดูระะมัดระวังและน่าตึงเครียดเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่พวกเขาที่เป็นคนดูก็รู้สึกเครียดตามไปด้วย ถึงกลับไม่กล้าหายใจแรงกันเลยทีเดียว
แต่ในทางกลับกันหมอเทวะหวังคนนี้นั้นกลับหลอมกลั่นและปรุงยา 3 เม็ดออกมาได้ภายในไม่ถึง 1 นาที และขั้นตอนการปรับแต่งเม็ดยาของเขานั้นดูสบายๆ และผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
จากสิ่งนี้สามารถบอกความแตกต่างด้านความสามารถและความชำนาญของพวกเขาทั้งคู่ได้อย่างชัดเจน
ระดับของพวกเขานั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“เม็ดยาระดับ 3 สามารถปรับแต่งออกมาได้ 300 เม็ด!! นี่…มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
กลุ่มคนที่อยู่ในที่นี้หลายคนรู้สึกว่าเรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อมากเกินไป พวกเขาจ้องมองไปที่ยาล้างเลือดในมือของนายทหารวัยกลางคนอย่างตั้งใจ
“ถ้าต้นยาจิตวิญญาณทั้ง 900 ต้น หรือก็คือการปรับแต่งยา 100 ครั้งสามารถได้รับเม็ดยา 300 เม็ด นี่ก็เท่ากับว่าหมอเทวะหวังนั้นสามารถหลอมกลั่นและปรุงยาระดับ 3 ออกมามีอัตราความสำเร็จที่ร้อยเปอร์เซ็นต์! มันจะน่าเหลือเชื่อมากเกินไปแล้ว!”
“ใช้ต้นยาจิตวิญญาณระดับ 3 เพียงแค่ 9 ชนิดแต่สามารถสร้างเม็ดยาจิตวิญญาณ ระดับ 3 ออกมาได้ถึง 3 เม็ด ซึ่งนั่นเทียบเท่ากับต้นยาจิตวิญญาณระดับ 4 ถึง 3 ต้นเลยทีเดียว! บ้าไปแล้ว นี่มันบ้าไปแล้วจริงๆ!”
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน มันจะสามารถหลอมกลั่นสร้างน้ำยาจิตวิญญาณและควบแน่นสร้างเม็ดยาได้เร็วขนาดนี้ได้อย่างไร!” ดวงตาของเปี่ยนเหยาฉวนเบิกกว้าง และพูดพึมพำออกมาเหมือนคนเสียสติ
“แม้แต่นักปรุงยาระดับ 5 หรือระดับ 6 ก็ยังไม่สามารถบรรลุอัตราความสำเร็จที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ได้เลย สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!” เปี่ยนเหยาฉวนตะโกนออกมาเสียงดัง
“ฮึๆๆ! ทำไมมันถึงจะเป็นไปไม่ได้กันล่ะ?” หวังเสียนยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน เมื่อได้ยินคำพูดและปฏิกิริยาของเปี่ยนเหยาฉวน “สิ่งที่เจ้าพูดในก่อนหน้านี้ที่ว่า หากเจ้าเป็นอันดับสองในด้านการปรุงยา คงจะไม่มีใครกล้าพูดว่าเป็นอันดับหนึ่งต่อหน้าเจ้า? ช่างเป็นเรื่องที่น่าตลกยิ่งนัก ฮึๆๆ!”
หวังเสียนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะหันไปมองนายทหารวัยกลางคน “ฝากเรื่องการปรับแต่งยาล้างเลือดไว้ให้กับข้าเอง ข้าสามารถมอบเม็ดยาจิตวิญญาณให้ท่านได้ 300 เม็ดอย่างไม่มีปัญหา!”
“จริงๆแล้วทางเราสามารถรับยาจิตวิญญาณ 200 เม็ดหรือไม่ก็ 100 เม็ดก็เพียงพอแล้วครับหมอเทวะหวัง! ตราบใดที่หมอเทวะหวังสามารถทำตามที่สัญญาได้ หมอเทวะหวังสามารถเข้าไปเลือกสมบัติจิตวิญญาณในคลังสมบัติแห่งชาติได้ 1 ชิ้นเช่นเดียวกันครับ!” นายทหารวัยกลางคนพูดออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างสุภาพ
“ตกลง!” หวังเสียนพยักหน้าพร้อมกับพูดอีกว่า “ท่านสามารถหาห้องเงียบๆให้ข้าได้หรือไม่?”
“ได้แน่นอนเลยครับหมอเทวะหวัง! ผมจะให้คนจัดการให้คุณเดี๋ยวนี้เลยครับ!”
ชายวัยกลางคนในชุดทหารตอบตกลงโดยไม่ลังเลใดๆทั้งสิ้น สำหรับเปี่ยนเหยาฉวน ที่ยืนกัดเล็บเหมือนเด็กมีปัญหาอยู่ข้างๆ เขาได้ลืมไปนานแล้ว
จำนวนต้นยาจิตวิญญาณในปริมาณที่เท่ากัน คนหนึ่งสามารถปรับแต่งยาออกมาได้ 40-50 เม็ด แต่ในขณะที่อีกคนหนึ่งสามารถให้เขาได้ถึง 300 เม็ด
ระดับความสามารถของคนทั้งคู่นั้นไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย ตามธรรมชาติเขาสามารถรู้ได้ว่าควรจะเลือกอย่างไร
ไม่ใช่ว่านายทหารวัยกลางคนจะใจร้ายและโหดเหี้ยม แต่เขาเป็นคนของหน่วยทางทหาร ซึ่งเขาก็จำเป็นต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศอยู่แล้ว และผลประโยชน์ที่ได้รับระหว่างคนทั้งคู่นั้น มันแตกต่างกันมากจนเกินไป!
…………
จบบท