ตอนที่ 371 เทพธิดาแห่งคุนเผิง!
.
“มรดกของเทพเจ้าโบราณคุนเผิงคืออะไร?”
หลานชิงเยว่ถามหวังเสียนออกมาด้วยความสงสัย
“เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง!”
หวังเสียนยิ้มออกมา “ชูชิงมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนคุณสมบัติแห่งธาตุไฟที่สูงมาก เนื่องจากเธอนั้นมีสายเลือดของฟีนิกซ์ซุซากุที่ถือได้ว่าอยู่ในระดับชั้นต้นๆของจักรวาล และผลึกหยดเลือดที่เป็นมรดกของเทพเจ้าโบราณบรรพบุรุษแห่งคุนเผิงชิ้นนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสายเลือดของฟีนิกซ์ซุซากุเลยแม้แต่น้อย!”
“ฟีนิกซ์ซุซากุ? เทพเจ้าโบราณบรรพบุรุษแห่งคุนเผิง?”
หลานชิงเยว่รู้สึกสับสนและตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินเกี่ยวกับเทพเจ้าโบราณ แต่สำหรับฟีนิกซ์ซุซากุที่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในตำนานนั้นเธอยังเคยได้ยินได้ฟังผ่านหูมาบ้าง
“สายเลือดฟีนิกซ์ซุซากุ?”
กวนชูชิงที่นอนหนุนแขนเขาหวังเสียน อยู่อีกข้างหนึ่งก็รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน หวังเสียนไม่ได้บอกเธอเกี่ยวกับสายเลือดของฟีนิกซ์ซุซากุ เมื่อตอนที่เธอได้รับมัน
ก่อนหน้านี้ในบางคืนเธอก็ฝันถึงนกฟีนิกซ์ที่มีเปลวไฟอันทรงพลังบินมาอยู่รอบๆตัวเธอ บางครั้งมันก็จ้องมองดูเธอเหมือนกับว่ารู้จักกันมานาน และพยายามจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับเธอ แต่ในความฝันนั้น เธอรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากเธอจึงพยายามหลับตาและไม่อยากที่จะเข้าใกล้มัน
ในที่สุดความสงสัยที่อยู่ในใจของเธอมานานก็คลี่คลายลงเมื่อได้รู้ว่าในตัวเธอนั้นมีสายเลือดของฟีนิกซ์ซุซากุ
“ปรากฏว่าในร่างกายของฉันนั้นมีสายเลือดของฟีนิกซ์ซุซากุ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา … ฉันสามารถควบคุมเปลวไฟได้ตามใจนึก บางครั้งมือโดนน้ำร้อนที่กำลังเดือดก็ยังไม่รู้สึกร้อนเลยแม้แต่น้อย และความเร็วในการบ่มเพาะของฉันนั้นก็รวดเร็วเป็นอย่างมาก แม้แต่ท่านอาจารย์ก็ยังบอกว่าฉันนั้นเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในรอบหลายพันปี!” กวนชูชิงพูดขึ้นมาในขณะที่เธอนึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์หลังจากที่เธอนอนกับหวังเสียนเป็นครั้งแรก และได้รับสายเลือดของฟีนิกซ์ซูซากุมา
“นั่นคือหนึ่งในความสามารถของสายเลือดระดับสูงอย่างเช่นสายเลือดของฟินิกซ์ซูซากุ และต่อไปในอนาคตคุณยังมีโอกาสสูงมากที่จะได้รับมรดกและความรอบรู้ทั้งหมดของฟีนิกซ์ซูซากุอีกด้วย!”
หวังเสียนยิ้มพร้อมและหันไปพูดกับกวนชูชิง เขารู้มานานแล้วว่ากวนชูชิงนั้นได้รับสายเลือดของฟีนิกซ์ซูซากุ แต่เขาก็ไม่มั่นใจมากนักว่ากวนชูชิงจะสามารถได้รับมรดกทั้งหมดของฟีนิกซ์ซูซากุหรือไม่
แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่หลานชิงเยว่ดูดกลืนผลึกหยดเลือดของเทพเจ้าโบราณบรรพบุรุษแห่งคุนเผิง เธอจะได้รับมรดกและความรู้ทั้งหมดโดยตรง เพราะผลึกเลือดหยดนี้นั้นเป็นมรดกแห่งสายเลือดสุดท้ายของเทพเจ้าโบราณบรรพบุรุษแห่งคุนเผิง
“ตกลงฉันเชื่อคุณค่ะ เสี่ยวเสียน!” หลานชิงเยว่ หยิบผลึกหยดเลือดของเทพเจ้าโบราณบรรพบุรุษแห่งคุนเผิงจากหวังเสียนและกลืนมันเข้าไปโดยตรงอย่างไม่ลังเลใจ
สายเลือดอันทรงพลังเข้าสู่ร่างกายของหลานชิงเยว่อย่างรวดเร็ว ในทันใดนั้นออร่าและแรงกดดันรุนแรงก็แผ่ออกมาจากตัวเธอในทันที
ออร่าสีม่วงจางๆแปลกตาพร้อมกับแรงบีบบังคับอันน่ากลัวค่อยๆกระจายออกมาจากตัวเธอ หลานชิงเยว่ที่อยู่บนเตียงรีบนั่งขัดสมาธิอย่างรวดเร็ว
“ความแข็งแกร่งและระดับการบ่มเพาะของชิงเยว่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความแข็งแกร่งของเธอในตอนนี้นั้นอยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณแล้ว! นี่มันเพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง! หากว่าชิงเยว่สามารถได้รับมรดกทั้งหมด ความแข็งแกร่งของเธอคงอยู่ในระดับที่ 11 เป็นอย่างน้อย! และหลังจากนั้นเมื่อเธอฝึกฝนต่อไปความแข็งแรงของเธอนั้นก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว”
หวังเสียนมองไปที่หลานชิวเยว่ เขาสามารถเห็นระดับความแข็งแกร่งและออร่าอันทรงพลังในร่างกายของเธอที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพียงแค่หยดเลือดที่กำลังจะสูญสลายก็สามารถบรรจุพลังงานที่น่ากลัวเช่นนี้เอาไว้ได้ ความแข็งแกร่งของเทพเจ้าโบราณบรรพบุรุษแห่งคุนเผิงนั้นสมควรกับชื่อเสียงที่อยู่ในระดับต้นๆของจักรวาลอย่างแท้จริง!
“ชูชิง! พวกเราออกไปข้างนอกกันก่อนเถอะ ในตอนนี้อย่าเพิ่งไปรบกวนชิงเยว่เลย!”
หวังเสียนค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงและกระซิบที่ข้างหูของกวนชูชิง
“ค่ะ!”
ทั้งสองเดินออกจากห้องนอนของราชามังกร ซุนหลิงซิ่วมองไปที่หวังเซียนและกวนซู่ชิงด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“เสี่ยวเสียน ร่างกายของคุณยังคงเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่?”
“หือ?” หวังเสียน สะดุ้งตกใจเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาให้กับเธอ
เขาสามารถเข้าใจความหมายในคำพูดของซุนหลิงซิ่วได้เป็นอย่างดี
“ใช่! อาการบาดเจ็บของผมนั้นค่อนข้างดีมากขึ้นแล้ว ต่อให้เคลื่อนไหวมากกว่านี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร!” หวังเสียนยิ้มพร้อมกับหรี่ตาจ้องมองซุนหลิงซิ่วด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
“กราบทูลฝ่าพระบาท ในตอนนี้เผ่าพันธุ์ปลาดาบและเผ่าพันธุ์อโนมาโลคาริสทั้งหมดได้เข้าร่วมเป็นสาวกแห่งวังมังกรของเราแล้วพะยะค่ะ!”
ในขณะนั้นเองนาคาพิษตัวหนึ่งรีบเข้ามาถวายรายงานกับหวังเสียนด้วยความเคารพ
“สัตว์อสูรทั้งสองเผ่าพันธุ์เข้าร่วมเป็นสาวกของวังมังกรแล้วอย่างนั้นหรือ?” หวังเสียนถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“พวกมันสามารถกระโดดข้ามประตูมังกรเข้ามาได้ทั้งหมดแล้วพะยะค่ะ!” นาคาพิษตอบ
“ข้ามผ่านประตูมังกรเข้ามาได้ทั้งหมดเลยอย่างนั้นหรือ? นี่ก็แสดงว่าประสิทธิภาพทางร่างกายและสติปัญญาของพวกมันนั้นสูงมากเลยทีเดียว!”
หวังเสียนยิ้มออกมา ในก่อนหน้านี้เขาเคยใช้พิวส์ซิ่งอายสังเกตสมรรถภาพทางร่างกายของพวกมันมาก่อนบ้างแล้ว เขาสามารถรับรู้ได้เป็นอย่างดีว่าสติปัญญาของพวกมันนั้นมากพอๆกับมนุษย์อายุ 10 ขวบเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถรับรู้ได้ถึงพลังของสายฟ้าที่รุนแรงในร่างกายของเผ่าพันธุ์อโนมาโลคาริสได้
ส่วนกลุ่มของปลาดาบนั้นก็มีความสามารถทางด้านธาตุโลหะที่สูงเป็นอย่างยิ่ง
ความสามารถการโจมตีทางธาตุของพวกมันนั้นถือว่าสูงมากเลยทีเดียว
และในบรรดาเผ่าพันธุ์ที่เข้ามาปิดล้อมวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาเมื่อวานนี้มีเพียงแค่เผ่าพันธุ์ปลาดาบและเผ่าพันธุ์อโนมาโลคาริสเท่านั้นที่ไม่ได้เข้ามาโจมตีวังมังกร
“เรียกพวกมันเข้ามาที่นี่!”
“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ!”
นาคาพิษตัวนั้นรีบออกไปทำตามคำสั่งของหวังเสียอย่างรวดเร็ว
หวังเสียนยิ้มออกมาเล็กน้อยขณะที่เขานั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร
กวนชูชิงและซุนหลิงซิ่ว มองไปที่หวังเสียนด้วยสายตาที่ชื่นชมและหลงใหล
“ถวายพระพรองค์ราชามังกร!”
ในไม่ช้าจ่าฝูงของอโนมาโลคาริส ระดับที่ 11 ได้นำสมาชิกในเผ่าพันธุ์ของมันที่มีประมาณ 200 ตัวเข้ามาคุกเข่าและทำความเคารพหวังเสียนด้วยความนอบน้อมอย่างที่สุด
และในเวลาเดียวกันเผ่าพันธุ์ของปลาดาบประมาณกว่าร้อยตัวก็เข้ามาคุกเข่าอยู่ข้างๆเผ่าพันธุ์อโนมาโลคาริส และทำความเคารพหวังเสียนด้วยความนอบน้อมเช่นเดียวกัน
“พวกเจ้าลุกขึ้นทำตัวตามสบายเถอะ!” หวังเสียนจ้องมองไปที่พวกมันด้วยสีหน้าที่พึงพอใจ
“การที่พวกเจ้าทั้งหมดสามารถข้ามประตูมังกรและเป็นส่วนหนึ่งของสาวกแห่งมังกรได้ถือว่าะวกเจ้ามีความสามารถที่สูงมากเลยทีเดียว! และหลังจากนี้เมื่อสาวกดั้งเดิมของวังมังกรได้ฟื้นคืนชีพมาทั้งหมด ข้าจะให้มหาเสนาบดีเต่ายักษ์ไท่ฝู่จัดตำแหน่งให้แก่พวกเจ้า!”
หวังเสียนยืนขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไป ส่งลำแสงสีฟ้าเข้มไปยังเผ่าพันธุ์อโนมาโลคาริส เพื่อมอบทักษะมังกรศักดิ์สิทธิ์สายฟ้าให้แก่พวกมัน
หลังจากนั้นเขาก็ส่งลำแสงสีทองเข้าไปยังเผ่าพันธุ์ปลาดาบเพื่อมอบทักษะมังกรศักดิ์สิทธิ์ธาตุโลหะให้แก่พวกมัน
“นำพวกมันทั้งหมดไปที่สระน้ำมังกร เพื่อรับเลือดมังกรศักดิ์สิทธิ์เพิ่มเติม!”
“พวกเจ้านาคาพิษทั้ง 9 ตัวก็ลงไปในสระน้ำมังกรด้วย หลังจากเหล่าแม่ทัพและสาวกตัวอื่นๆทั้งหมดฟื้นคืนชีพก็ให้ลงไปยังสระน้ำมังกรกันได้ทุกตัว!”
“เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงพะยะค่ะองค์ราชามังกร!”
เผ่าพันธุ์ปลาดาบและเผ่าพันธุ์อโนมาโลคาริส แสดงความตื่นเต้นออกมาในทันที พวกมันทั้งหมดคุกเข่าพร้อมกับก้มหัวทำความเคารพและตะโกนกล่าวขอบคุณหวังเสียนออกมาเสียงดัง
“ไปเถอะ!” หวังเสียนโบกมือ
“ว้าววว! เสี่ยวเสียน ท่าทางของคุณในตอนนี้สง่างามเหมือนกับมหาจักรพรรดิเลยทีเดียว!”
ดวงตาของกวนชูชิงเป็นประกายระยิบระยับ เธอตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นท่าทางที่สง่างามของหวังเสียน
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก!” หวังเสียนยิ้มออกมาบางๆ “มาเถอะ! พวกเราไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ พวกคุณคงจะหิวกันแล้วใช่หรือไม่?”
….
หลังจากนั้นก็ผ่านไปได้อีก 2 วัน หวังเสียนยังคงอยู่รักษาอาการบาดเจ็บภายในวังมังกรของเขา
ในคืนที่ 3 หลังจากที่หวังเสียน ต่อสู้กับกวนชูชิงบนเตียงอย่างดุเดือดทั้งคู่ก็นอนกอดกันและหลับไป
หลานชิงเยว่ที่ได้รับมรดกของเทพเจ้าโบราณแห่งบรรพบุรุษคุนเผิงก็ฟื้นคืนสติกลับมา
ภายในความฝันก่อนหน้านี้ของหลานชิงเยว่ เธอได้เห็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่ตัวหนึ่งปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเธอ
มันได้ส่งพลังอันแข็งแกร่งและทรงพลังเข้ามาเติมเต็มทุกส่วนในร่างกายของเธอ
เลือดเนื้อ เส้นลมปราณรวมทั้งไขกระดูกของเธอนั้นได้ถูกชำระล้างจนเหมือนกับเกิดใหม่เลยทีเดียว
ร่างกายทั้งหมดของเธอนั้นรู้สึกเบาขึ้นเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ยังไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งและความสามารถทั้งหมดของเธอเองเธอจึงค่อยๆตื่นลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
หลังจากนั้นเธอก็หันไปมองหวังเสียนและกวนชูชิงที่นอนเปลือยกายกอดกันอยู่ข้างๆเธอ เธอก็ยิ้มออกมาพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ
หลานชิงเยว่ลุกยืนขึ้นพร้อมกับเดินออกจากห้องนอนของราชามังกรด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นเธอก็หันไปมองเผ่าพันธุ์ปลาดาบและเผ่าพันธุ์อโนมาโลคาริส ที่แช่ตัวอยู่ในสระน้ำมังกรด้วยความสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้ให้ความสนใจพวกมันมากนักเพราะเธอรู้ว่าสัตว์อสูรเหล่านี้นั้นน่าจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของหวังเสียน
หลังจากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นไปมองยังนอกวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ เธอเห็นปลาวาฬสีน้ำเงินขนาดใหญ่ยังคงว่ายวนอยู่รอบๆวังมังกร ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาในทันที พร้อมกับมีรอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของเธอ!
………..
จบบท